ระบบ สังคม ของชาว MC Classic ไทยในปัจจุบัน

[mart_c50]

สมัยนี้หากินกันบนเงินทำบุญ แทนที่จะนำเงินไปบริจาค กับสร้างบาปด้วยการนำเงินมาใส่กระเป๋า

ไม่ต้องประกาศศักดิ์ดาก็ได้ครับ "ว่างานไหนๆ ใครใหญ่แค่ไหน"

ขอถามหน่อยนะ ว่าเงินที่เราจะนำไปบริจาค โรงเรียน ผู้ประสบภัย เขาต้องการเรียกร้องหรือเปล่าที่จะต้องการ

เงินบริจาคเท่านั้น เงินบริจาคเท่านี้ ไม่มีหรอกครับ แล้วไม่ทราบว่าผู้จัดงานจะทำยอดไปถึงไหน 100บาท1000ใบ ก็เท่าไรแล้ว?

อยากจะให้ผู้จัดงาน จัดงานแบบร่วมทำบุญ ไปช่วยกันซ่อมแซมโรงเรียน สิ่งต่างๆมากกว่า ตอนเย็นมีเวทีเล็กๆแสดงความคิดเห็นระหว่างกลุ่ม

แต่คงจะเป็นไปได้ยากแล้วละครับ เพราะแค่จะเข้ามาชมงาน เดี๊ยวนี้ก็มีด่านเก็บเงินหน้างาน แต่ถ้าหนักเข้าไปใหญ่ ไม่มีการคัดเลือกเลย

เอาแต่จำนวนยอดอย่างเดียว ขอแค่ให้คนเข้าไปให้เยอะได้มากที่สุด

มูลค่าของเงิน คนละร้อยอาจมองว่าไม่มาก แต่ลองมองกว้างๆ สักสองถึงสามพันคน ก็หลายแสนอยู่นะครับ

ผมเชื่อว่า ชาวMc ที่ไปร่วมงานใหญ่ๆทั้งหลาย ต่างก็ตั้งใจร่วมทำบุญ กับกลุ่มท่านๆ เราก็อยากให้เงินที่บริจาคไปได้ส่งถึงมือน้องๆ ที่ด้อยโอกาสจริงๆ

ที่ยังคาดแคลนสิ่งของ ที่หน่วยงานของทางราชการยังเข้าไม่ถึง เพราะฉะนั้น

งานไหน ไม่มีจุดประสงค์(หลังหาค่าใช้จ่าย)ที่แน่นอน หรือ ไม่ใช่กลุ่มที่เราสนิท เราก็ควรจะเลือกงานที่จะไปบ้าง...

ขี่รถเที่ยวชมธรรมชาติดีกว่า แบบค่ำไหนนอนนั้น...ไม่ต้องเสี่ยงโดนลูกหลงตอนตีกัน และอาจไม่ต้องไปช่วยกันแชร์ค่าดาว รถใหม่ให้กลุ่มนั้นๆ

[punoyclassic]

สหวัดดีครับพี่น้องชาวสองล้อ ทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ทุกท่าน ที่มาโพสในวันนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะว่ากล่่าวกล ุ่มใดกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด แต่มีจุดประสงค์เพื่ออยากพี่น้องร่วมอุดมการณ์ของเรา มองเห็นจุดประสงค์ ที่มันเปลี่ยนไปของการจัดงาน
ผมก็วิ่งทริปมาไม่นานหรอกครับ ก็ 5ปี ก้าวเข้า 6ปี ก็วิ่งทันในช่วงที่งานยังเป็นระเบียบและน่าประทับใจ ไม่มีตีกัน ไม่มีเบิ้นรถใส่กัน มีแต่คำว่ามิตรภาพ กอดคอกันกินเหล้า แลกเปลี่ยนอุดมการณ์ที่มีต่อวงการ มีคอกให้จอดรถอย่างเป็นระเบียน และอีกหลายๆอย่างที่เป็นสิ่งจูงใจให้พี่น้องร่วมอุดม การณ์จากจังหวัดไกลๆ อยากจะมาร่วมงาน
แต่เดี๋ยวนี้มันเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก งานที่จัดมันเริ่มจะเป็นธุรกิจมากขึ้น และมีกลุ่มที่จัดงานเยอะมาก บางกลุ่มจัดไปแล้ว อีกไม่กี่อาทิตก็จัดเป็นกลุ่มเดิมที่จัดอีก
มีเหตุการหนึ่งที่ผมได้ยินมากับตัวเอง คือ ผมวิ่งงานหนึ่ง(ขอไม่บอกละกันนะครับว่างานของกลุ่มไห น) งานก็เป็นไปแบบปกติ พอถึงเวลางานเลิก กลุ่มต่างๆก็ออกจากงานเพื่อจะกลับบ้าน และก็มีบางกลุ่มที่นอนในงาน ผมก็เดินไปเข้าห้องน้ำ ผมเดินไปแถวเวที ก็เห็นพี่ๆก็มีอายุหน่อยนะยืนคุยกันอยู่ก็ตามปกติผมก ็ยืนเยี่ยวแถวนั้นพอดี ก็ได้ยินเขาพูดกันว่า "รอบนี้งานนี้ขาดทุนหวะ" แล้วอีกคนที่ยืนคุยด้วยกันก็พูดว่า "ใช่เดี๋ยวรอบหน้าเลือกวันจัดที่ไม่ชนกับงานอื่น" ผมก็ได้ยินมาประมาณนี้ ผมได้ยินทีแรกผมแทบอึ้งเลย ผมคิดในใจ ทำไมวงการคลาสสิคของเรามันถึงได้เปลี่ยนไปถึงเช่นนี้ มันกลายเเป็นธุรกิจไปแล้วหรอ
และอีกเหตุการหนึ่ง คือว่า ผมไปมางานล่าสุดนี้เอง คือว่า ผมก็ไปกับพวกน้องๆผมนี้แหละครับ ส่วนหนึ่งผมก็ผิดเองหละครับ ที่บริหารเงินตัวเองผิดพลาด ก็คือ ไปถึงงานแล้ว ผมกับพวกน้องๆผมก็จะเข้างาน ผมก็ให้พวกน้องๆผมจ่ายค่าเข้างานเข้าไปก่อน ก็เหลือผมคนเดียว ก็เลยจะไปขอสตาฟ เข้างาน เพราะว่า ผมก็เหลือเงิน ร้อยเดียว ถ้าจ่ายค่าเข้างานก็จะไม่มีตังเติมน้ำมันกลับบ้าน ผมเลยเดินไปถามสตาฟตามปกติเหมือนกับทุกๆ่งานที่ไม่มี ตัง ผมก็ขอเขาดีๆยกมือไหว้ด้วย ผมก็พูดว่า "พี่ครับผมขอเข้างานได้ไหมครับผมไม่มีตังเข้างานแล้ว เหลือแต่ตังเติมน้ำมันกลับครับ ถ้าจ่ายค่าเข้า่งานก็ไม่มีตังกลับบ้านแล้วพี่ พวกอามพวกของที่ระรึกผมไม่เอาก็ได้ครับ" แต่กลับโดนสตาฟที่ผมไปขอตะคอกใส่ เขาพูดว่า "เข้าไม่ได้ครับ คุณจะเป็นใคร มาจากกลุ่มไหน มาไกลเท่าไหล่ผมไม่สนใจ ถ้าคุณไม่มีเงินเข้างานก็ไม่มีสิทเข้า" ผมก็เลยพูด "พี่ครับผมไม่มีตังจริงๆครับ ผมมางานพี่ด้วยใจนะครับ ไม่ได้วิ่งเพื่ออามครับ พี่น่าจะภูมิใจนะครับ" รู้ไหมครับว่าสตาฟเขาพูดว่าอะไร "ผมก็จัดด้วยใจเหมือนกันครับ" ได้ยินแล้วสลดใจเลย ก็เลยมีสตาฟอีกคน น่าจะเป็นรุ่นใหญ่ในกลุ่มหละครับ เดินเ้ข้ามาถามว่า มีเรื่องอะไรกัน ผมก็เลยขอพี่สตาฟคนนั้น ว่า "ผมขอเข้างานพี่ได้ไหมครับผมไม่มีตังจ่ายค่าเข้างานคร ับถ้าจ่ายก็จะไม่มี่ตังกลับบ้าน ผมขอเข้างานพี่เฉยๆ อามหรือของที่ระลึกผมไม่เอาครับ" พี่คนนั้นก็เลยให้ผมเข้างาน พร้อมกับขอจับมือกับผม ซึ้งผมก็ดีใจมากครับ อย่างน้อยก็ยังมีคนที่เข้าใจและมีอุดมการณ์เดียวกันอ ยู่ และส่วนสตาฟคนนั้น ผมรู้เลยว่าเขาไม่แคร์ใครเลย "นี้หรือคือสิ่งที่พี่น้องร่วมอุดมการณ์มีต่อกัน"
ขอทิ้งท้ายละกันนะครับ อยากให้พี่น้องชาวสองล้อ ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ ช้วยกันรักษาวงการคลาสสิค และอุดมการณ์ของเราให้เหมือนเดิม และ ช้วยกันทำให้วงการของเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมด้วยนะค รับขอบคุณครับ"




"ไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมีแรง"

[nooktheleng]

ใช่ครับ พวก หาผลประโยชน์ ยังคงมีอยู่ และก็ยังคิดว่าเป็นธุระกิจ.....

[paZzerby7]

ลงบอร์ดกลุ่มในF เล๊ยยยย!!! 55

[nuygad]

เคยได้ยินมาว่า เดียวนี้ เค้ามีคนรับจัดงานด้วยไม่ใช่หร่อครับเราแค่เคลียเรื่ องสถานที่เรื่องตำราจ....เรื่องเงิน"คนนั้น"เค้าจัดการเองแล้วเงินที่เราเอาไปทำบุญจะไปอยู่ที่ไห นล่ะครับ ???? บ้างกลุ่มที่จัดงาน

อยากทำบุญ หรือ อยาก"ดัง"

[oishiclub]

สหวัดดีครับพี่น้องชาวสองล้อ ทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ทุกท่าน ที่มาโพสในวันนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะว่ากล่่าวกล ุ่มใดกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด แต่มีจุดประสงค์เพื่ออยากพี่น้องร่วมอุดมการณ์ของเรา มองเห็นจุดประสงค์ ที่มันเปลี่ยนไปของการจัดงาน
ผมก็วิ่งทริปมาไม่นานหรอกครับ ก็ 5ปี ก้าวเข้า 6ปี ก็วิ่งทันในช่วงที่งานยังเป็นระเบียบและน่าประทับใจ ไม่มีตีกัน ไม่มีเบิ้นรถใส่กัน มีแต่คำว่ามิตรภาพ กอดคอกันกินเหล้า แลกเปลี่ยนอุดมการณ์ที่มีต่อวงการ มีคอกให้จอดรถอย่างเป็นระเบียน และอีกหลายๆอย่างที่เป็นสิ่งจูงใจให้พี่น้องร่วมอุดม การณ์จากจังหวัดไกลๆ อยากจะมาร่วมงาน
แต่เดี๋ยวนี้มันเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก งานที่จัดมันเริ่มจะเป็นธุรกิจมากขึ้น และมีกลุ่มที่จัดงานเยอะมาก บางกลุ่มจัดไปแล้ว อีกไม่กี่อาทิตก็จัดเป็นกลุ่มเดิมที่จัดอีก
มีเหตุการหนึ่งที่ผมได้ยินมากับตัวเอง คือ ผมวิ่งงานหนึ่ง(ขอไม่บอกละกันนะครับว่างานของกลุ่มไห น) งานก็เป็นไปแบบปกติ พอถึงเวลางานเลิก กลุ่มต่างๆก็ออกจากงานเพื่อจะกลับบ้าน และก็มีบางกลุ่มที่นอนในงาน ผมก็เดินไปเข้าห้องน้ำ ผมเดินไปแถวเวที ก็เห็นพี่ๆก็มีอายุหน่อยนะยืนคุยกันอยู่ก็ตามปกติผมก ็ยืนเยี่ยวแถวนั้นพอดี ก็ได้ยินเขาพูดกันว่า "รอบนี้งานนี้ขาดทุนหวะ" แล้วอีกคนที่ยืนคุยด้วยกันก็พูดว่า "ใช่เดี๋ยวรอบหน้าเลือกวันจัดที่ไม่ชนกับงานอื่น" ผมก็ได้ยินมาประมาณนี้ ผมได้ยินทีแรกผมแทบอึ้งเลย ผมคิดในใจ ทำไมวงการคลาสสิคของเรามันถึงได้เปลี่ยนไปถึงเช่นนี้ มันกลายเเป็นธุรกิจไปแล้วหรอ
และอีกเหตุการหนึ่ง คือว่า ผมไปมางานล่าสุดนี้เอง คือว่า ผมก็ไปกับพวกน้องๆผมนี้แหละครับ ส่วนหนึ่งผมก็ผิดเองหละครับ ที่บริหารเงินตัวเองผิดพลาด ก็คือ ไปถึงงานแล้ว ผมกับพวกน้องๆผมก็จะเข้างาน ผมก็ให้พวกน้องๆผมจ่ายค่าเข้างานเข้าไปก่อน ก็เหลือผมคนเดียว ก็เลยจะไปขอสตาฟ เข้างาน เพราะว่า ผมก็เหลือเงิน ร้อยเดียว ถ้าจ่ายค่าเข้างานก็จะไม่มีตังเติมน้ำมันกลับบ้าน ผมเลยเดินไปถามสตาฟตามปกติเหมือนกับทุกๆ่งานที่ไม่มี ตัง ผมก็ขอเขาดีๆยกมือไหว้ด้วย ผมก็พูดว่า "พี่ครับผมขอเข้างานได้ไหมครับผมไม่มีตังเข้างานแล้ว เหลือแต่ตังเติมน้ำมันกลับครับ ถ้าจ่ายค่าเข้า่งานก็ไม่มีตังกลับบ้านแล้วพี่ พวกอามพวกของที่ระรึกผมไม่เอาก็ได้ครับ" แต่กลับโดนสตาฟที่ผมไปขอตะคอกใส่ เขาพูดว่า "เข้าไม่ได้ครับ คุณจะเป็นใคร มาจากกลุ่มไหน มาไกลเท่าไหล่ผมไม่สนใจ ถ้าคุณไม่มีเงินเข้างานก็ไม่มีสิทเข้า" ผมก็เลยพูด "พี่ครับผมไม่มีตังจริงๆครับ ผมมางานพี่ด้วยใจนะครับ ไม่ได้วิ่งเพื่ออามครับ พี่น่าจะภูมิใจนะครับ" รู้ไหมครับว่าสตาฟเขาพูดว่าอะไร "ผมก็จัดด้วยใจเหมือนกันครับ" ได้ยินแล้วสลดใจเลย ก็เลยมีสตาฟอีกคน น่าจะเป็นรุ่นใหญ่ในกลุ่มหละครับ เดินเ้ข้ามาถามว่า มีเรื่องอะไรกัน ผมก็เลยขอพี่สตาฟคนนั้น ว่า "ผมขอเข้างานพี่ได้ไหมครับผมไม่มีตังจ่ายค่าเข้างานคร ับถ้าจ่ายก็จะไม่มี่ตังกลับบ้าน ผมขอเข้างานพี่เฉยๆ อามหรือของที่ระลึกผมไม่เอาครับ" พี่คนนั้นก็เลยให้ผมเข้างาน พร้อมกับขอจับมือกับผม ซึ้งผมก็ดีใจมากครับ อย่างน้อยก็ยังมีคนที่เข้าใจและมีอุดมการณ์เดียวกันอ ยู่ และส่วนสตาฟคนนั้น ผมรู้เลยว่าเขาไม่แคร์ใครเลย "นี้หรือคือสิ่งที่พี่น้องร่วมอุดมการณ์มีต่อกัน"
ขอทิ้งท้ายละกันนะครับ อยากให้พี่น้องชาวสองล้อ ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ ช้วยกันรักษาวงการคลาสสิค และอุดมการณ์ของเราให้เหมือนเดิม และ ช้วยกันทำให้วงการของเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมด้วยนะค รับขอบคุณครับ"




"ไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมีแรง"

ขอแสดงความนับถือครับ ! สุดยอดจริงๆ

[suwan khamson]

สหวัดดีครับพี่น้องชาวสองล้อ ทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ทุกท่าน ที่มาโพสในวันนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะว่ากล่่าวกล ุ่มใดกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด แต่มีจุดประสงค์เพื่ออยากพี่น้องร่วมอุดมการณ์ของเรา มองเห็นจุดประสงค์ ที่มันเปลี่ยนไปของการจัดงาน
ผมก็วิ่งทริปมาไม่นานหรอกครับ ก็ 5ปี ก้าวเข้า 6ปี ก็วิ่งทันในช่วงที่งานยังเป็นระเบียบและน่าประทับใจ ไม่มีตีกัน ไม่มีเบิ้นรถใส่กัน มีแต่คำว่ามิตรภาพ กอดคอกันกินเหล้า แลกเปลี่ยนอุดมการณ์ที่มีต่อวงการ มีคอกให้จอดรถอย่างเป็นระเบียน และอีกหลายๆอย่างที่เป็นสิ่งจูงใจให้พี่น้องร่วมอุดม การณ์จากจังหวัดไกลๆ อยากจะมาร่วมงาน
แต่เดี๋ยวนี้มันเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก งานที่จัดมันเริ่มจะเป็นธุรกิจมากขึ้น และมีกลุ่มที่จัดงานเยอะมาก บางกลุ่มจัดไปแล้ว อีกไม่กี่อาทิตก็จัดเป็นกลุ่มเดิมที่จัดอีก
มีเหตุการหนึ่งที่ผมได้ยินมากับตัวเอง คือ ผมวิ่งงานหนึ่ง(ขอไม่บอกละกันนะครับว่างานของกลุ่มไห น) งานก็เป็นไปแบบปกติ พอถึงเวลางานเลิก กลุ่มต่างๆก็ออกจากงานเพื่อจะกลับบ้าน และก็มีบางกลุ่มที่นอนในงาน ผมก็เดินไปเข้าห้องน้ำ ผมเดินไปแถวเวที ก็เห็นพี่ๆก็มีอายุหน่อยนะยืนคุยกันอยู่ก็ตามปกติผมก ็ยืนเยี่ยวแถวนั้นพอดี ก็ได้ยินเขาพูดกันว่า "รอบนี้งานนี้ขาดทุนหวะ" แล้วอีกคนที่ยืนคุยด้วยกันก็พูดว่า "ใช่เดี๋ยวรอบหน้าเลือกวันจัดที่ไม่ชนกับงานอื่น" ผมก็ได้ยินมาประมาณนี้ ผมได้ยินทีแรกผมแทบอึ้งเลย ผมคิดในใจ ทำไมวงการคลาสสิคของเรามันถึงได้เปลี่ยนไปถึงเช่นนี้ มันกลายเเป็นธุรกิจไปแล้วหรอ
และอีกเหตุการหนึ่ง คือว่า ผมไปมางานล่าสุดนี้เอง คือว่า ผมก็ไปกับพวกน้องๆผมนี้แหละครับ ส่วนหนึ่งผมก็ผิดเองหละครับ ที่บริหารเงินตัวเองผิดพลาด ก็คือ ไปถึงงานแล้ว ผมกับพวกน้องๆผมก็จะเข้างาน ผมก็ให้พวกน้องๆผมจ่ายค่าเข้างานเข้าไปก่อน ก็เหลือผมคนเดียว ก็เลยจะไปขอสตาฟ เข้างาน เพราะว่า ผมก็เหลือเงิน ร้อยเดียว ถ้าจ่ายค่าเข้างานก็จะไม่มีตังเติมน้ำมันกลับบ้าน ผมเลยเดินไปถามสตาฟตามปกติเหมือนกับทุกๆ่งานที่ไม่มี ตัง ผมก็ขอเขาดีๆยกมือไหว้ด้วย ผมก็พูดว่า "พี่ครับผมขอเข้างานได้ไหมครับผมไม่มีตังเข้างานแล้ว เหลือแต่ตังเติมน้ำมันกลับครับ ถ้าจ่ายค่าเข้า่งานก็ไม่มีตังกลับบ้านแล้วพี่ พวกอามพวกของที่ระรึกผมไม่เอาก็ได้ครับ" แต่กลับโดนสตาฟที่ผมไปขอตะคอกใส่ เขาพูดว่า "เข้าไม่ได้ครับ คุณจะเป็นใคร มาจากกลุ่มไหน มาไกลเท่าไหล่ผมไม่สนใจ ถ้าคุณไม่มีเงินเข้างานก็ไม่มีสิทเข้า" ผมก็เลยพูด "พี่ครับผมไม่มีตังจริงๆครับ ผมมางานพี่ด้วยใจนะครับ ไม่ได้วิ่งเพื่ออามครับ พี่น่าจะภูมิใจนะครับ" รู้ไหมครับว่าสตาฟเขาพูดว่าอะไร "ผมก็จัดด้วยใจเหมือนกันครับ" ได้ยินแล้วสลดใจเลย ก็เลยมีสตาฟอีกคน น่าจะเป็นรุ่นใหญ่ในกลุ่มหละครับ เดินเ้ข้ามาถามว่า มีเรื่องอะไรกัน ผมก็เลยขอพี่สตาฟคนนั้น ว่า "ผมขอเข้างานพี่ได้ไหมครับผมไม่มีตังจ่ายค่าเข้างานคร ับถ้าจ่ายก็จะไม่มี่ตังกลับบ้าน ผมขอเข้างานพี่เฉยๆ อามหรือของที่ระลึกผมไม่เอาครับ" พี่คนนั้นก็เลยให้ผมเข้างาน พร้อมกับขอจับมือกับผม ซึ้งผมก็ดีใจมากครับ อย่างน้อยก็ยังมีคนที่เข้าใจและมีอุดมการณ์เดียวกันอ ยู่ และส่วนสตาฟคนนั้น ผมรู้เลยว่าเขาไม่แคร์ใครเลย "นี้หรือคือสิ่งที่พี่น้องร่วมอุดมการณ์มีต่อกัน"
ขอทิ้งท้ายละกันนะครับ อยากให้พี่น้องชาวสองล้อ ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ ช้วยกันรักษาวงการคลาสสิค และอุดมการณ์ของเราให้เหมือนเดิม และ ช้วยกันทำให้วงการของเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมด้วยนะค รับขอบคุณครับ"




"ไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมีแรง"

[nutza779]

[กลุ่มบ้านแพงคลาสสิค]

หลังจากที่ผม เฝ้าดู และสังเกตการณ์เรื่องราวของชาวคลาสสิค มาเป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่เข้าวงการนี้ ผมเองก็พอจะรู้ จักคนในวงการอยู่บ้างพอสมควร และรับรู้เรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น รับรู้ อะไรต่างๆมามากมาย ถึงไม่มาก แต่ก็พอสรุปได้ มันคือประสบการณ์ต่างๆ ของระบบ สังคมชาวคลาสสิค ในปัจจุบัน ที่ผม นำมาคิดวิเคราะห์ ทบทวนและไตร่ตรองดูแล้ว ว่า มันเป็นดังนี้
ชาวคลาสสิค หรือ ชาว MC ของเรา ถ้าเรียกรวมๆ กับ บิ๊กไบค์ ก็เรียก MC ถ้าแยก เราจะเรียกตัวเองว่า คลาสสิค ซึ่ง ปัจจุบันนั้นมีความแตกต่าง กันอย่างมาก จากเมื่อ 5 ปีที่แล้วที่ผมเข้า ผมจะย้อนเหตุการณ์ให้ฟังว่า ทำไมถึงเข้าวงการนี้ เดิมที ผมก็เป็นคนธรรมดา แต่สนใจในรถคลาสสิคเฉยๆ ไม่มีกลุ่ม ไม่รู้จักใคร ก็ ได้แต่ดูและศึกษาในเว็บ และเกิดความสนใจ อยากวิ่งทริป บังเอิญ ไปเจอรุ่นพี่ ที่รู้จักกันมาก่อนแต่ไม่ได้เจอกันนาน เค้าพึ่งตั้งกลุ่มได้ 2 ปี ผมจึงสนใจเข้าร่วมกลุ่ม ความประทับใจเมื่อ 5 ปีก่อน เป็นอย่างนี้ ไม่ว่าคุณจะไปงานไหน ในงานไม่เคยตีกัน กลุ่มรถคลาสสิคยังน้อย เวลาไปจอดรถที่ไหน มีแต่ผู้คนชื่นชม มีคนเดินมาถาม เดินมามอง เข้ามาพูดคุย ว่า น้องมาจากไหน "ผมมาจากพัทยา" โห น้องขี่มา รถแบบนี้ไหวหรอ "ไหวครับ" ขี่มาเรื่อยๆ แล้วน้องจะไปไหน ผมจะไปเพชรบูรณ์ ไปงานรถ ไปทำบุญ รายได้เข้าก็จะนำเงินไปให้นักเรียนที่ขลาดแคลน เออน้องดีๆ แจ๋วเลย แบบนั้น เดินทางดีๆนะน้อง นี่เป็นเพียงบทสนทนาสั้นๆ ที่พบเจอบ่อยๆ เมื่อ 5 ปีก่อนของผม อีกทั้ง เวลาขี่รถไป ก็จะมีคน ยื่นหน้ามาถ่ายรูป บ้าง มีคนยกนิ้วโป้งให้บ้าง ซึ่งเค้าเรียกพวกเรา ว่า "สีสันแห่งท้องถนน" ผมรู้สึกภูมิใจมาก หลังจากนั้นมันก็เกิดกำลังใจ อยากวิ่ง ผมก็วิ่งตลอด เพราะรู้ว่าได้ทำในสิ่งที่ดี นั้นคือสิ่งที่ผมเคยภูมิใจ
ระบบสังคมของชาว MC classic ในปัจจุบัน ผมบอกได้เลย แบ่งเป็น 2 พวก ใหญ่
1. พวกอนุรักษ์นิยม
2. พวกทุนนิยม (พวกธุรกิจนิยม)

พวกอนุรักษ์นิยม หมายถึง พวกที่ยังคง ความเป็นกลุ่มรถคลาสสิค เดิมๆ แบบที่เคบปฏิบัติกันมา ไม่ได้หมายความว่า รถเดิม เครื่องเดิม แค่หมายถึง เป็นกลุ่มเดิมๆ ขยายความคือ กลุ่ม ที่จัดงาน แล้วหาเงินให้กับ โรงเรียน คนยากจน โดยแท้จริง เหมือน ที่เราเคยปฏิบัติมา คือ รายได้ ที่จัดงาน จะบริจาค ให้กับ รร หรืออะไรก็ได้ ที่ส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม นี่คือ อนุรักษ์นิยม ในความคิดของผม

พวกทุนนิยม พูดง่ายๆ คือ จัดงานหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ซึ่งปัจจุบันนี้มี คือ จัดงาน จริง ได้เงินมา พอถึงเวลา ไม่บริจาค หรือ บริจาค น้อยกว่าที่ๆควรจะเป็น เช่น ได้กำไร 1 แสน บริจาค 3-5 หมื่น ไม่น่าเกลียด หรือจะบริจาคหมด ยิ่งดี แต่ บางกลุ่มก็อาจจะเหลือเงินไว้จัดงานหรือไว้ใช้จ่ายเกี ่ยวกับการกุศลอะไรก็ว่าไป แต่ ไม่บริจาคเลย หรือ ได้ เงินมา แสน บริจาค 5 พัน แบบนี้ก็ถือว่า มีเจตนา และ แนวโนมจะเป็นทุนนิยม และพวกที่ ไม่บริจาคเลยก็มี ซึ่ง ผมอยากให้ ชาวคลาสสิค มอง และดูให้ดีก่อน ว่า งานที่คุณจะไปเนี่ย เค้าบริจาค จริงไหม หลังจบงานเค้าเอาไปให้ที่ไหน ให้จริงไหม ผมยอมเสียเงิน 100-120 บาท ได้ ถ้าคุณบริจาคจริงๆ ผมเป็นคนๆหนึ่งที่ ไม่ค่อยได้เข้าวัดทำบุญสักเท่าไร แต่สิ่งที่ผม ไปงาน และได้ช่วยบริจาค นั้น ผมก็ถือว่าได้บุญทางหนึ่งเหมือนกัน ผมเลยอยากให้เพื่อนๆศึกษาให้ดีก่อน ความเป้นมาของกลุ่มนี้ จุดประสงค์หลักของกลุ่มนี้ คุณจะขี่รถ อดหลับอดนอน ข้ามวันข้ามคือ เพื่อ เอาเงิน 100-120 ไปให้เจ้าภาพ นำเงินของคุณไปซื้อรถ หรือซื้อบ้าน อย่างนั้นหรอ เด็กบางคน เข้างาน เงิน 100 บาท บางที ดูเหมือนจะน้อย แต่บางคนก็มาด้วยใจ อยากทำบุญจริงๆ ก็มี แต่ก็น่าผิดหวังที่ ยังมีคนที่ เอาเปรียบคนอื่นอีก "งานใหญ่อาจจะไม่ใช่งานดี และงานดี ก็ไม่จำเป็นต้องใหญ่" คุณจัดงานใหญ่โต แต่นำเงินที่ได้ไปซื้อบ้าน ซื้อรถของตัวเองก็ไม่ไหวนะ แต่ชาวคลาสสิคสมัยนี้ ชอบงานใหญ่ เพราะ มันต้องสนุกแน่ๆ สนุกกว่างานเล็ก คืออยากให้ย้อนคิดกันบ้างว่า คุณมาเล่นรถคลาสืคทำไม คุณอยากมาดูคอนเสิร์ต คนอยากมาดื่มเหล้า คุณอยากมา ดูสาว มาหาเพื่อน หรือ คุณอยากมาทำบุญ มาช่วยงาน ผมอยากให้ช่วยกัน ขยัดคนที่เอาผลประโยชน์เข้าตัวเองออกไปจากชาวคลาสสิค ของเราเสียที สังคมเรา เสื่อมโทรมมามากแล้ว เพราะ เราไม่มีกฎ ไม่มีการจัดระเบียบที่ดี สังคมเรา เริ่มจะแย่ลงทุกทีแล้ว คุณไม่ต้องรอให้ใครมาจัดระเบียบ หรอก เริ่มที่ตัวคุณ กลุ่มคุณ ก่อน ก็พอแล้ว

และขอฝากถึง ผู้จัดงานหาผลประโยชน์ ทุกรายว่า เลิกเถอะครับ เวรกรรมจะตามทัน คุณเอาเงินเค้าไปเท่าไร คุณจะเสียคือมาเท่านั้น ไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้า คุณได้คือแน่นอน คุณเอาเงินเค้าไปแบบนี้ ไม่ต่างกับว่าคุณ ขโมยเงิน ในตู้บริจาคตามวัด หรือ ขโมยตาม ผ้าป่า ผ้ากฐิน เลย พี่น้องทั้งหลายครับ อย่าสนับสนุน คนเอาเปรียบ และคนโกงเราอีกเลย เพราะมันจะได้ใจ ก่อนจะไปงานไหน ศึกษางาน ศึกษากลุ่ม จุดประสงค์ และ คอยสังเกตุ หลังจบงาน ว่า เค้าทำจริงอย่างที่ หาเสียง ก่อนจัดงาน ได้หรือเปล่า

ขอกล่าวสรรเสริญ แด่กลุ่ม ผู้ทำความดี ปิดทองหลังพระ ผู้ตั้งมั่นในความมีจิตอาสาทำความดี ขอให้อยุ่คู่สังคม และ สู้ ฝ่าฟันมันต่อไป

และขอแผ่เมตตาให้กับกลุ่ม ที่ เป็นทุนนิยม บุญกุศล ครั้งนี้ ขอให้ แผ่ไปสุ่ผู้คิดชั่วทำชั่ว ขอให้สักวัน ได้กลับตัวมาเป็นคนดีด้วยเถิด สาธุ

"ชาวคลาสสิคไทย ไม่สนับสนุน กลุ่มทุนนิยม จัดงานหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง"

ตื่นเถิดชาวคลาสสิคไทย ช่วยฝากบอกต่อกันให้ทราบทั่วถึงกัน

สุดยอดจริงๆ ครับผมให้พี่หมดใจแล้วครับ ผมประธานกลุ่ม M.C บ้านแพงคลาสสิค

[นพดล000]

........

[ฅ.โบราณ]

ผมให้อีกหนึ่งเสียง เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ

[ฅ.โบราณ]

[bagyang101]

ผมเห็นด้วยครับ นึกว่าจะไม่มีคนออกมาพูดซะแล้วผมคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้ วยกับระบบ"ทุนนิยม"ในวงการนี้ส่วนตัวผมแล้วก็เล่นรถมาแล้ว5-6ปี แต่ก่อนมีแต่สิ่งดีๆจะจัดงานแต่ละทีไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องรอ 1-2เดือน ถึงจะมีงานทีหนึ่งแต่เดี๋ยวนี้มีงานทุกอาทิตย์ ผมอยู่โซนภาคอีสาน คุณก็รู้ว่าโซนภาคอีสานรถเยอะ กลุ่มเยอะซึ่งจุดนี้เองเป้นตัวล่อให้นายทุนอยากมาลงท ุนเพราะเม็ดเงินมันเยอะจัดงานแบบนี้ บางกลุ่มที่จัดงานผมยังไม่เคยได้ยินชื่อเลยไม่รู้มีอ ยู่จริงหรือเปล่า ผมก้ไปให้เขาลงทะเบียนช่วยเหลือเพื่อที่จะหวังว่าเงิ นที่บริจาค100บาทจะช่วยอะไรไม่มากก็น้อย พอเถอะครับ หยุดเถอะ กลับไปเป็นอย่างเดิมมันดีอยู่แล้ว ผมยังอยากมีเพื่อน พี่ น้อง เพิ่มอีกอยู่ คุณอย่ามาทำให้ผมเสียเพื่อนดีๆอีกเยอะที่ยังไม่เจอกั น อย่าทำให้วงการนี้เสียหายเลยนะครับ

จึงเรียนมาเพื่อทราบ
เติร์กกี้ เมืองดอกบัว ร้อยเอ็ด

[mart_c50]

สำหรับ พวกทุนนิยม พอถึงเวลา ที่เค้ารู้ตัวว่าเค้าอยู่ไม่ได้ เค้าไป เค้าก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะเค้า รวยแล้ว มีบ้าน มีรถยนต์ มีทุกอย่างแล้ว ดังนั้น เราต้องเริ่มแต่วันนี้ อย่าปล่อยให้่ ทุนนิยม ลอยนวล

[mart_c50]

ผมขอรบกวน พี่น้อง ช่วยกัน ช่วยใช้ ลายเซ็นแบบเดียวกับของผม ซึ่งจะเป็นการ ประชาสัมพันธ์ ได้ทั่วถึงและรวดเร็วยิ่งขึ้น ครับ สามารถ นำไป ใส่ ที่ลายเซ็นได้เลยครับ ผม่ไม่ได้ยุยงให้แตกแยก แต่ผม ต้องการแยก คนดี ออกจาก คนเลว เท่านั้นเอง ไม่งั้น คนดีก็ ทำดีแทบตาย