Lambretta Service Station ชวนหิว ชวนชิมครับ

[โคกคูณตระกูลแลม]

สเต็กต้องเเวะคับ หมูบ้านมิตรภาพ ถูกอร่อย อาหารหลากลาย

[โคกคูณตระกูลแลม]

อาหารญี่ปุ่นคับ เป็นบุเฟห์ อยู่หาปากซอบ เอกมัย หัวละ 500 มั่ง ไม่เเน่ใจ ยังไม่เคยไปกิน แต่พี่สาวไปแล้ว บอกอาหารอร่อย
ใครที่ชอบอาหารญี่ปุ่น ไม่ควรพลาด คับ

[Lam Station]

สัปดาห์นี้เรามีร้านอาหารทะเลสดๆ รสชาติแสนอร่อย ที่สำคัญราคาไม่แพงมาแนะนำกัน ร้านนี้ตั้งอยู่ในบริเวณแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งในบริเวณนั้นเป็นแหล่งจำหน่ายอาหารทะเลสด และแปรรูปหลากหลายชนิด และมีร้านอาหารหลายร้านให้บริการ แต่ร้านที่เราอยากแนะนำให้ไปลองชิมคือ ร้านเจ๊ไหม

จุดเด่นของร้านเจ๊ไหม อยู่ที่ความสดของบรรดาอาหารทะเลเพราะอยู่ใกล้แหล่งอา หารทะเล นอกจากนั้นรสชาติยังจัดจ้าน เข้มข้น อร่อยทุกจาน และที่ประทับใจที่สุดคือราคาอาหารสั่งมาทานกันได้สบา ยใจทุกๆ จาน ไม่เชื่อลองดูอาหารที่เราจะแนะนำในวันนี้ครับ

(1) กั้งทอดกระเทียมพริกไทย (100 บาท) ทางร้านเลือกกั้งสดๆ ตัวใหญ่นำไปทอดให้สุก จากนั้นปรุงรสชาติให้หอมอร่อย เน้นความจัดจ้านของรสพริกไทยและกระเทียมสับที่ใส่มาแ บบไม่หวงของ รับประทานเปล่าๆ ก็อร่อย หรือจะเพิ่มรสเปรี้ยวๆ เผ็ดๆ ด้วยการจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดก็ไม่ผิดกติกา

(2)กรรเชียงปูนึ่ง (130 บาท) กรรเชียงปูที่ร้านนี้รับประกันความสด เนื้อยังแน่น หวานตามธรรมชาติ แถมเป็นกระเชียงปูขนาดใหญ่ด้วยรับประทานคู่กับน้ำจิ้ มซีฟู้ดสูตรเด็ด

(3)แกงส้มกุ้งชะอมไข่ (80 บาท) เสริฟกันมาเป็นหม้อไฟ เราประทับใจกับกุ้งไซส์ใหญ่มาก แถมสด กรอบอีกต่างหาก นอกจากนั้นยังมีไข่ชะอมเนื้อนุ่มๆ หนาๆ กับรสชาติแสนเข้มข้นของน้ำแกงส้ม ได้ทานร้อนๆ แล้วคล่องคอดีจริงๆ (เป็นกับแกล้มก็ได้น๊ะครับ)

(4)กุ้งผัดพริกขี้หนู (100 บาท) สำหรับคนชอบความเผ็ดร้อนของพริกขี้หนูไม่ควรพลาดจานน ี้เพราะทางร้านเลือกกุ้งทะเลตัวโตๆ นำมาผัดกับเครื่องปรุงรสเด็ด พร้อมกับพริกขี้หนูและกระเทียมชิ้นโตๆ ได้รสชาติเข้มข้นถูกใจ ถ้าอยากทานให้อร่อยจริงๆ ต้องทานพริกขี้หนูไปพร้อมๆ กับกุ้งแซ่บได้ที่เลย

(5)ปลากะพงทอด (220 บาท) อร่อยไปกับปลากะพงสดๆ ตัวโต นำมาแล่เปิดด้านข้างออก ก่อนจะนำไปทอดในน้ำมันร้อนๆ จนเหลืองกรอบ ก่อนเสริฟโรยหน้าด้วยกระเทียมหอมๆ

(6) ปิดท้ายด้วยของหวานแสนอร่อยอย่าง ลอดช่อง (10 บาท) เส้นลอดช่องนุ่มหอมกลิ่นใบเตย กับน้ำกะทิที่เคี่ยวมากับน้ำตาลอย่างดีจึงทั้งหอม ทั้งมัน โรยหน้าด้วยน้ำแข็ง รับประทานเป็นของหวานคลายร้อน

วันหยุดนี้แวะมาเที่ยว บางแสน หรือ พัทยา อย่าลืมมาพิสูจน์ความสด อร่อย และราคาไม่แพงของบรรดาอาหารทะเลที่ร้านอาหารเจ๊ไหมน๊ ะครับ พี่ๆเพื่อนๆน้อง สมาชิก Lambretta Service Station ทั้งหมาย

ชื่อร้าน: ร้านอาหารเจ๊ไหม
เปิดบริการ: ทุกวัน 08.00 -15.00 น.
ที่อยู่: ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
โทร: 038-493-874, 038-490-894, 08-6067-1339
บัตรเครดิต: ไม่รับ
ที่จอดรถ: จอดรถได้ริมถนนหรือที่จอดรถฝั่งตรงข้ามร้าน

[Lam Station]

ร้านน้องไผ่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังค่ะ ย่านนั้นก็มีร้านอาหารทะเลราคาไม่แพง แถมรสชาติอร่อยๆ ก็หลายร้าน แต่ที่มีแฟนประจำเยอะหน่อยก็ต้องยกให้ร้านน้องไผ่ (ใกล้ๆกับร้อนเจ๊ไหม) ทางไปร้านอาหารสุดทางรักครับ...
(1) สำหรับเมนูแนะนำต้องขอยกนิ้วให้กับ แกงป่าปลาเห็ดโคน (60 บาท) จานนี้มีทีเด็ดที่รสชาติของน้ำแกงป่า ขอบอกว่าแซ่บจริงๆ ที่สำคัญปรุงมาด้วยรสจัดจ้าน ใครทานเผ็ดไม่เก่งอาจถึงกับน้ำหูน้ำตาไหลเอาได้แต่รั บรองว่าคุณจะทานจนหมดชาม เพราะความอร่อย

(2)จานถัดมาที่ต้องสั่ง กุ้งผัดพริกเผา (120 บาท) อร่อยไปกับกุ้งตัวโต เนื้อแน่นๆ ที่ผัดคลุกเคล้ามาอย่างดีกับเครื่องปรุงรสเด็ดกับน้ำ พริกเผารสเข้มข้น ที่สำคัญมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของน้ำพริกเผาด้วยตักมาคลุกกับข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อยเหาะเลยล่ะ

(3) กุ้งอบวุ้นเส้น (150 บาท) อีกเมนูกุ้งที่น่าสนใจ เพราะทานได้ทุกเพศ ทุกวัย แม้รสชาติจะอ่อนไปนิด แต่ก็ทดแทนได้ด้วยความสดของกุ้ง

(4)มาดูเมนูปลากันบ้างดีกว่าเด็ดของร้านนี้สำหรับเมน ูปลาต้องยกนิ้วให้กับ ปลาเห็ดโคนทอด (100 บาท) ทางร้านเลือกปลาเห็ดโคนสด ขนาดพอดีนำมาปรุงรสให้อร่อยแล้วนำไปทอดจนกรอบทานได้ท ั้งตัว ได้โปรตีนและแคลเซียมสูงนะคะ ทานเป็นกับแกล้มหรืออาหารทานเล่นระหว่างรอจานก็เป็นไ อเดียที่ดี (สำหรับบรรดาสมาชิก "สายเมา")

(5)ปลากะพง/ปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลา (ราคาตามน้ำหนัก) สำหรับใครที่ชอบทานปลาทอดราดน้ำปลา เรามีมาแนะนำสองแบบ จะชอบทานแบบกรอบอร่อยก็ต้องเลือกปลากระพง แต่ถ้าชอบเนื้อแน่นๆ ก็ต้องเลือกปลาอินทรีย์เมนูนี้เสริฟมาพร้อมน้ำจิ้มมะ ม่วง ที่เสริมรสชาติของปลาทอดน้ำปลาให้อร่อยยิ่งขึ้น

หวังว่าร้านน้องไผ่ แหลมฉบังจะเป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกความอร่อยของท่านชา วLambretta Service Station น๊ะครับ
ชื่อร้าน: น้องไผ่
เปิดบริการ: ทุกวัน 10.00-20.00
ที่อยู่: แหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
จุดสังเกต: ใกล้โรงกลั่นน้ำมัน Esso แหลมฉบัง
ที่จอดรถ: หน้าร้านและฝั่งตรงข้าม จอดได้ประมาณ 10 คัน
โทร: 0 3849 3797

[PirenZe]

หิวซะงั้นอ่ะ

[Lam Station]

อีกร้านครับ...แถวๆระยอง ท่าเรือแกลง ใครผ่านไปผ่านมาแถวๆ หาดแม่รำพึง ระยอง ก็ต้องหาโอกาสแวะมาทานกัน ดังนั้นไม่แปลกเลยที่ในช่วงวันหยุดจะเห็นรถทะเบียนกร ุงเทพมาจอดเรียงรายกันเต็มไปหมดร้านที่ว่าคือ ร้านคุณไกร ผัดไทย ท่าเรือแกลง

(1) สิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับร้านคุณไกรก็ต้องยกให้กั บ ผัดไทย (30 บาท) ที่เส้นเหนียวนุ่ม รสชาติก็เข้มข้น ที่พิเศษคือร้านนี้ใส่เนื้อปูและกุ้งลงไปด้วยแถมมีที เด็ดที่เกี๊ยวกรอบทอดเสริฟมาด้วย ยิ่งเพิ่มความอร่อย

(2)จานถัดมาเราอยากแนะนำ ก๋วยเตี๋ยวผัดขี้เมาทะเล (40 บาท) เอาใจคนชอบรสจัดๆ กับความเข้มข้นของก๋วยเตี๋ยวผัดขี้เมา แต่ร้านนี้จะผัดออกมามีน้ำขลุกขลิกหน่อยไม่แห้งเหมือ นที่เราเคยทานกัน ก็ได้รสชาติไปอีกแบบ ที่สำคัญคือบรรดา กุ้ง เนื้อปู ปลาหมึก ที่ใส่ลงมานั้นสดและอร่อยจริงๆ

(3)อาหารจานเดียวอย่างอื่นก็มีอาทิเช่น ข้าวผัด ราดหน้า ผัดซีอิ๊ว หรือก๋วยเตี๋ยว ชอบสไตล์ไหนก็สั่งมาลองทานกันได้เลย

(4) นอกจากอาหารจานเดียวแล้ว ทางร้านยังมีอาหารหลากหลายไว้บริการ โดยเฉพาะซีฟู้ดที่ขึ้นชื่อเลยต้องยกให้ กรรเชียงปูนึ่ง (250 บาท) สำหรับคนที่ชอบทานปู แต่ติดที่ว่าขี้เกียจแกะ รับรองต้องถูกใจกับจานนี้แน่นอนเพราะเป็นเนื้อส่วนกร รเชียงปูใหญ่ๆ สดๆ นำมาลวก ทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด

(5)ลูกชิ้นปลาลวก (50 บาท) ลูกชิ้นปลาที่นี่ทำจากเนื้อปลาจริงๆ ทำให้เนื้อกรอบ อร่อย รับประทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ดก็เข้ากันดี .....เมนูนี้แนะนำครับ..ถูกอร่อย..ถ้ามี Leo สักขวดน๊ะ..สุดยอดดดด

(6)นอกจากนั้นยังมีอาหารน่าสนใจอีกหลายจานอย่างเช่น ส้มตำปูม้า ยำปลาข้าวสาร น้ำพริกไข่ปู เกี๊ยวปูทอด ปลากะพงนึ่งมะนาวหรือราดพริก เอ็นหอยผัดกะเพรา แกงส้มไข่ปลาเซียว

ชื่อร้าน: คุณไกร ผัดไทย
เปิดบริการ: ทุกวัน10.00-18.00 น.
ที่อยู่: 48 หมู่ 3 ถ. เพ-แกรง-กล่ำ ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยอง
จุดสังเกต: ตรงข้ามโรงเรียนวัดท่าเรือ (ท่าเรือวิทยา)
โทร: 0 3864 8055
บัตรเครดิต: ไม่รับ
ที่จอดรถ: มีที่จอดรถภายในบริเวณร้าน

[Lam Station]

หิวซะงั้นอ่ะ

ต้องจัดทิปไปแถวพัดยาแล้วล๊ะ น้องแจ๊ค

[Lam Station]

ในบรรดาร้านส้มตำที่อร่อยๆ ทั่วๆไปที่เราๆท่านๆ รู้จักกันนั้น เรายังค้นพบ สุดยอดความอร่อยของส้มตำปูม้า หรือหากใช้สำนวนของหวงอี้ (ผู้แต่งเจาะเวลาหาจิ๋นซี และมังกรคู่สู้สิบทิศ) จะกล่าวว่านี่คือ "ยอดฝีมือในเหล่ายอดฝีมือ" มาดูกันว่าLam Stationแนะนำครั้งนี้สุดยอดแค่ไหนครับ

ร้านนี้ตั้งอยู่ที่หน้าวัดเป้ง อยู่ห่างจากตัวเมืองชลบุรีเพียง 10 กิโลเมตร แยกขวาจาก ถนนสุขุมวิทตรงหลักกิโลเมตรที่ 104 ทางเข้าบางแสนตรงแยกกาแลคซี่ เลี้ยวปุ๊บให้ชิดขวา แล้วเข้าซอยทางขวาทันที ไปอีก 200 เมตร ก็ถึงดูง่าย ร้านจะอยู่ตรงข้ามวัดพอดี หรือจะโทรสอบถามเส้นทางจากทางร้านโดยตรงได้ที่เบอร์ 0 - 3874 - 8458 ร้านจะเป็นแบบบ้านคนธรรมดา ใต้ถุนโปร่ง ตามแบบฉบับบ้านไทย ที่นิยมเอาไว้เลี้ยงไก่ เลี้ยงเป็ด ก็ถูดตัดแปลงมาขายส้มตำปูม้าในที่สุด สำหรับการเดินทางจาก กทม. มาชลบุรีร้านนี้จะรู้จักกันดีเฉพาะชาวท้องถิ่น เนื่องจากร้านไม่ได้อยู่ติดกับทางผ่านไปบางแสน แต่กลับกลายเป็นแหล่งที่มีเฉพาะผู้ที่แสวงหาความอร่อ ยโดยแท้ มิได้ฉาบฉวยเพียงกินให้อิ่มท้องระหว่างการท่องเที่ยว เท่านั้น จากการสอบถามทราบว่าขายมา 5 ปีแล้ว (ตั้งแต่ประมาณ 2539) จากที่มีไม่กี่โต๊ะ จนถึงวันนี้รับคนได้นับ 10 - 20 โต๊ะ เจ้าของร้านทำเอง เสริฟเอง และก็กันเอง ล๊ะคร๊าบบบพี่น้อง

รายการที่หากพลาดที่จะสั่งมากินแล้วจะแค้นตัวเองไปชั ่วชีวิตคือ ส้มตำปูม้า / ไก่ย่าง / ยำไข่ปู ส้มตำปูม้า มะละกอตำไม่แหลก ไม่ต้องระคายลิ้น แต่ละเส้นของมะละกอ ล้วนกรอบ อร่อยยิ่งนัก ปูที่ใส่ก็สดไม่คาว อีกทั้งกุ้งแห้ง ก็ไม่ใช่ตัวจิ๋วๆ ปูที่ใส่มาให้หลายชิ้นไม่ขี้เหนียว ถนนราคาเพียงจานละ 20 บาทเท่านั้นเอง จริงๆแล้วนอกจากส้มตำปูม้า ยังมีส้มตำปูดำ เดิมถามคนที่กินแต่ละโต๊ะก็บอกว่าอร่อยเช่นกันครับ (Lam Station แนะนำ "ส้มตำปูม้า" )

จานต่อมาก็คือ "ไก่ย่าง" ไก่ที่นี้นับเป็นสุดยอดแห่งยุคเลยครับ โดยการนำไก่หมักกับนมสดและเครื่องเคียงอื่นๆก่อน แล้วจึงนำมาย่าง เนื้อไก่ทั้งหอม ทั้งนุ่มลิ้น หนังออกกรอบนิดๆ เมื่อกระทบลิ้นเรียกน้ำย่อยได้อย่างยอดเยี่ยมกระเทีย มดอง แนะนำให้กินไก่แกล้มกับส้มตำในคำเดียวกัน ตบด้วยข้าวเหนียวหนึ่งคำ ลองดูตามสูตร Lam Station

หมายเหตุความอร่อย: ร้านนี้แต่ละวันใช้ปู 3-4 กิโลกรัม หากเสาร์อาทิตย์ก็เกือบ 10 กิโลกรัม ขายมาห้าปีครับ

จานต่อมาก็ต้องยำไข่ปู จานนี้ออกเปรี้ยวพอดี ไข่ปูสุกแล้ว ความอร่อยกล่าวได้ว่า "ต่อให้อิ่มข้าวมาแล้ว 3 จานก็ยังหิวและอร่อยเหมือนเดิม" จานต่อมาต้อง ไก่ย่าง ซึ่งห้ามพลาดเด็ดขาด ถือว่าขอร้องละกัน เพราะไก่ที่นี่ หมักใส่นมสด หอมกำลังกิน พอแล้วรีบออกรถไปซื้อด่วนครับ

ระหว่างกินขอแนะนำให้มองหา "ขนมรถเข็นคนขายชื่อเอ็ม" ราคากันเอง ขนมไทย อร่อยจัด กันเองมาก ลองสิ ของไทยหลังส้มตำ แหมสุดยอดๆ

ขากลับหากไม่แวะซื้อ "กล้วยแขกหน้าดับเพลิง" (ขายอยู่หน้าสถานีดับเพลิง)เพราะผมขอแนะนำ ป้าพิกุล แกขายมาสิบปี ความอร่อยเรียกว่า เหยียบเมฆมาทำเลย กล้วยนี้กรอบนอกนุ่มใน ส่วนเผือกกับมันจัดได้แค่พอใช้ Lam Station ไม่ค่อยชอบสู้กล้วยไม่ได้ครับ

ลองไปชิมดูแล้วกลับมาบอกกันด้วยว่าอร่อยเหมือนที่ผมช ิมไหมครับ บอกกันมาตรงๆ เลย หลายคนบอกว่าผมชิมอะไรก็อร่อย คงต้องพิสูจน์กันด้วยงานนี้ล่ะครับท่านชาว Lambretta Service Station......

[Lam Station]

ชีวิตผมได้กินต้มยำมามาก ครั้งที่ผมยังเด็ก อาหารชนิดแรกๆ ที่แม่สอนให้ทำก็ต้มยำ อันเคล็ดไม่ลับเล็กๆน้อยๆ เช่น บีบมะนาวแล้วอย่าต้มต่อจะทำให้น้ำต้มยำขม พริกโขลกละเอียดน้ำจะเผ็ด ไก่ให้ใส่ตอนน้ำเดือดเพื่อให้ให้เหม็นคาว หรือแม้แต่ใส่เกลือน้ำจะได้ไม่ดำ สิ่งเหล่านี้ยังจำได้แม่น แต่ต้มยำที่ผมจะพาไปชิมวันนี้ เคล็ดลับคงมากกว่านี้มากมายนัก เพราะความอร่อย เด็ดขาด จนผมยกนิ้วให้ แค่พูดนี่ก็ยังอร่อยเมื่อคิดถึงร้านนายถึกไก่หุบบอน ตั้งอยู่เส้นทางกรุงเทพ-พัทยา (เน้นอีกครั้งไก่หุบบอนมีหลายร้านต้องร้านนายถึกนะคร ับอย่าลืม) หากนับจากทางเลี่ยงเมืองชล ก็ 20 กิโลเมตรพอดี หรือก่อนถึงแยกเขาเขียว 7 กิโลเมตรทางซ้ายมือครับ

อาหารบนโต๊ะจานแรกก็ต้มยำไก่หุบบอน ความสุดยอดของต้มยำไก่นั้น รสชาติแซบ เผ็ด เปรี้ยวนำ ถึงเครื่องด้วยตะไคร้ ใบมะกรูด ไก่หั่นชิ้นพอคำ พร้อมเครื่องในหั่น ความอร่อยผมให้เต็มร้อยต้มยำนั้นเมื่อซดน้ำร้อนๆ แกล้มด้วยชิ้นไก่ และตบด้วยข้าวตาม สุดยอดเหนือคำอธิบายจริงๆครับ

ความสุดยอดอีกจานคือผัดกระเพราไก่หุบบอน เผ็ดร้อน ถึงใจ อร่อยมากๆ ใส่ไข่อ่อน ปรุงได้ที่แห่งการเรียกนำย่อยจริงๆ การชิมแนะนำให้ ตักมาใส่บนข้าว แล้วตักใส่ปากพร้อมๆกัน อร่อยมากครับ หอม ไก่ก็หนุบๆ นุ่มๆ ออกรสออกชาติ เข้าใจกันไปเลยว่าความอร่อยคืออะไร

จานต่อมาคือไก่สับ จานนี้ไม่ชมมากนัก ไก่จะเหนียวไปนิด เคี้ยวแล้วหนึบๆไปหน่อย แต่ก็จิ้มกับน้ำจิ้ม ตักน้ำต้มยำมารด ก็อร่อยเพลินจนหมดตัวไปต่อหน้าต่อตาเช่นกัน

อาหารทั้งสามอย่างผมกินจนหนำใจ หมดไปในเวลาต่อมา จนต้องนำมาเล่าให้เพื่อนฟังกันบ้าง หากว่าผ่านไปเส้นทางนี้ ไม่ควรพลาดที่จะแวะชิม ว่าอร่อยแบบผมว่าไหมครับ ลองดู

ข้อมูลจำเพาะ: ไก่หุบบอนเป็นไก่บ้าน ปัจจุบันเลี้ยงเพื่อขายกันทั่วชลบุรี ไม่จำเป็นที่ต้องไปถึงหุบบอน เพราะต้องเดินทางไปจากสวนเสืออีก 14 กิโลเมตร ดังนั้น จึงไม่ควรพลาดที่จะไปชิมอย่างยิ่ง

[Lam Station]

เราขอแนะนำแหล่งไก่ย่างเจ้าเด็ด ที่บ้านแคน หรือ “ดงแคนใหญ่” บนเส้นทางหลวงหมายเลข 23 เชื่อมระหว่างจังหวัดอุบลราชธานี และยโสธร ที่นี่มีชื่อเรื่องไก่ปิ้ง-ไก่ย่างมานานหลายสิบปี จำความได้ว่าสมัยยังเด็ก เวลานั่งรถประจำทางผ่านจะมีพ่อค้าแม่ค้าไก่ปิ้งกรูมา รุมล้อมขายไก่ย่างเต็มไปหมดทั้งรถเก๋ง รถโดยสาร แต่ตอนหลังมีคนซื้อโวยมาว่าไม้ปิ้งไก่ทิ่มหน้าทิ่มตา ก็เลยมีการจัดระเบียบการขายใหม่ให้ดีขึ้น แยกกันตั้งเป็นร้าน ๆ ให้จอดรถสะดวก ไม่ต้องแย่งกันขายจนเกิดจลาจลเหมือนเมื่อก่อน

อันที่จริงในสมัยก่อนไก่ย่างที่นี่ใครทำขาย ตกค่ำจะเดินดุ่ม ไปตะเวนซื้อไก่เป็นตามบ้าน ต้องตอนค่ำเท่านั้นนะครับ เวลาอื่นเขาจะไม่ซื้อไก่กัน อยากรู้ว่าทำไม เพราะอะไร….ต้องอดใจอ่านต่อครับ ผมจะค่อยเฉลยตอนท้ายเรื่อง


ถึงแม้ตอนนี้จะไม่เป็นไก่บ้านล้วนเหมือนเมื่อก่อนแล้ ว แต่บ้านดงแคนใหญ่ยังคงเคล็ดลับการปิ้งย่างหลายชั่วคน เอาไว้ ความอร่อยยังเด็ดขาดเหมือนเดิม เนื้อไก่แห้งสนิท ไม่มีมันเยิ้มแบบไก่ย่างที่อื่น ถ้าวัดความอร่อยแล้วคงต้องบอกว่าที่นี่ถือเป็นระดับส ุดยอดที่หนึ่งของเมืองไทยทีเดียว ส่วนไม้ปิ้งที่เป็นกึ๋นกับเครื่องในจะมีไส้ไก่พันรอบ แล้วปิ้งมาด้วย ขมนิด ๆ อร่อยดีครับ ส่วนน้ำจิ้มจะมีแบบหวาน กับแบบน้ำจิ้มแจ่วรสเข้มครับผม ต่างจากแถววิเชียรบุรีที่แถวนั้นเป็นน้ำจิ้มมะขามแทน ….จุดเด่นมันต่างกันตรงนี้นี่เอง

ร้านไหนเหรอครับ อันที่ผมว่ากินแถวนี้ก็อร่อยทั้งนั้น ขอให้เป็นไก่ย่างบ้านแคนเถอะ แต่ถ้ารวมคะแนนหลายอย่างแล้ว ขอแนะนำให้ลองแวะร้านปราณี สังเกตให้ดี จะอยู่ทางซ้ายมือถ้าขับมาจากอุบลฯ อยู่ตรงข้ามเยื้อง ๆ กับปั๊มเอสโซ่ ชะลอรถลงหน่อยพอเห็นป้าย “ดงแคนใหญ่” รับรองหาเจอแน่ ๆ ข้อเด่นก็คือ มี ไก่ย่างกับลาบรสชาติดี จอดรถสะดวก สำหรับนักเดินทางสาว ๆ ร้านนี้ก็มีห้องน้ำให้เข้าอีกด้วย (เพิงไก่ร้านอื่นอาจจะจอดยากกว่า หรือบางแผงอาจไม่มีห้องน้ำ)

พอไปนั่งในร้านจะเจอกับป้าย “บรรหารชวนชิม” เอ๊ยม่ายช่าย…เป็นภาพของคุณบรรหาร ศิลปอาชา นั่งทานอาหารเมื่อคราวมาแวะที่ยโสธรนี่ ใครไม่เชื่อ Lam Station หาว่ากินอะไรก็อร่อยไปหมด ก็ให้เชื่อ “ลุงบรรหาร” แทนก็แล้วกัน แหมถ้าท่านอดีตผู้นำอุตส่าห์มาทานถึงถิ่น ร้านนี้ต้องมีดีอะไรแน่นอน

บรรยากาศก็อยู่ริมทุ่งหน้า จังหวะดีก็มีลมโกรกเย็นสบาย กินไก่ย่างข้าวเหนียวให้อร่อยต้องเซฟท้องให้หิวได้ที ่ มาถึงก็บรรเลงเลย เผลอแวบเดียวก็หมดจานเรียบร้อยโรงเรียนยโสธร ใครว่าเมืองนี้มีดีแค่บั้งไฟ

ก่อนจบก็ขอเฉลยครับ ที่เมื่อก่อน ทำไมเวลาไปซื้อไก่ต้องไปเอาไฟส่องมืด ๆ ค่ำ ๆ ก็เพราะสมัยนั้นไก่เลี้ยงยังไม่แพร่หลายมีแต่ไก่บ้าน ที่ปล่อยวิ่งเล่นใต้ถุน ตามลาน จับลำบากครับ วิ่งไล่จะเหนื่อยทั้งไก่ทั้งคน(ใครไม่ลองไม่รู้ หึ หึ) ต้องรอค่ำ ๆ โน่นให้ไก่มันมาเกาะคอนใต้ถุนบ้านนอนเสียก่อนถึงจะจั บไปขายได้ ก็ไม่มีอะไรครับ ผมไปคุยมาเลยเล่าสู่กันฟัง

หมายเหตุ : หากใครผ่านมาเส้นทางสายนี้แล้วได้แวะซื้อไก่ย่างบ้าน แคน กินจิ้มแจ่วกับข้าวเหนียวร้อนๆ แล้วหละก็ ไม่ควรที่จะลืม จอดรถแวะซื้อมะพร้าวน้ำหอมเผา ที่ขึ้นชื่อลื่อชาของอำเภอท่าวารี ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกัน เรียกได้ว่า กินของคาวแล้ว ก็มาล้างปากกันต่อด้วย น้ำมะพร้าวหอมหวานสดใหม่ให้ชื่นใจกันตลอดเส้นทางอีสา นใต้เส้นนี้กันได้ แค่นี้การเดินทางมายังดินแดนดอกคูณเสียงแคน ก็อิ่มเอมและอิ่มท้องกันทั่วหน้า ไม่แห้งแล้งอย่างที่หลายคนคิดอีกต่อไปแล้ว

ขอยกความดีทั้งหลายให้แก่ "บักแหยม" ครับ..พี่น้องชาว Lambretta Service Station

[b cy]

พี่ไก่ครับ ส้มตำปูม้าที่บางเเสน เด็ดจริงครับเคยไปทานเเล้ว ที่นั่นต้มเครื่องในก็สุดครับ เเต่วันนี้ผมจะมาเเนะนำร้าน ตอนไปเหนือกับพวกบักเเหยม (รอบไทย) ต้องร้านส้มตำเที่ยงคืนหรืออะไร.......เที่ยงคืนนี่ห ละครับพวกพี่จ้อยพาไปทานหลังออกจากวอม สุดมากครับ ถูกด้วยไม่เชื่อดูที่สายตาไอ้เเหยมดิครับ( ออยๆๆๆ อย่าเเย่งชิ้นนั้นนะ ใครเเย่งโดนเเน่เดี่ยวตีมือหักเลยพี่จ้อย) คนเยอะมากขนาดผมไปกัน ตี2 กว่าที่ตั้งไม่ทราบครับ เเต่คนที่เชียงใหม่ถามใครก็รู้จักกันทั้งนั้นครับ เเละถึงพี่ย้ง ซายูริก็ขี้นชื่อครับ หน้าตาดี ลีลาเด็ดไม่ให้เบิ้ลครับ เลิกงานให้มารับกลับ บ้านด้วยเลยครับ ถ้าที่ห้องไม่สะดวกเธอ พาไปห้องเธอเลยครับ เเต่ผมยังไม่เคยไปเลยครับซายูริ 55555555

[Lam Station]

พี่ไก่ครับ ส้มตำปูม้าที่บางเเสน เด็ดจริงครับเคยไปทานเเล้ว ที่นั่นต้มเครื่องในก็สุดครับ เเต่วันนี้ผมจะมาเเนะนำร้าน ตอนไปเหนือกับพวกบักเเหยม (รอบไทย) ต้องร้านส้มตำเที่ยงคืนหรืออะไร.......เที่ยงคืนนี่ห ละครับพวกพี่จ้อยพาไปทานหลังออกจากวอม สุดมากครับ ถูกด้วยไม่เชื่อดูที่สายตาไอ้เเหยมดิครับ( ออยๆๆๆ อย่าเเย่งชิ้นนั้นนะ ใครเเย่งโดนเเน่เดี่ยวตีมือหักเลยพี่จ้อย) คนเยอะมากขนาดผมไปกัน ตี2 กว่าที่ตั้งไม่ทราบครับ เเต่คนที่เชียงใหม่ถามใครก็รู้จักกันทั้งนั้นครับ เเละถึงพี่ย้ง ซายูริก็ขี้นชื่อครับ หน้าตาดี ลีลาเด็ดไม่ให้เบิ้ลครับ เลิกงานให้มารับกลับ บ้านด้วยเลยครับ ถ้าที่ห้องไม่สะดวกเธอ พาไปห้องเธอเลยครับ เเต่ผมยังไม่เคยไปเลยครับซายูริ 55555555

ยังนี้ต้องหาโอกาสไปรับประทานซายูริบ้างแล้วอ๊ะครับ BCY

[Lam Station]

เจ๊ณี" โชคชัยร่วมมิตร ผัดไทยหมูหมักเห็ดหอม

ก๋วยเตี๋ยวผัดไทยอร่อยๆ ที่ไม่แพงจะไปหากินได้ที่ไหน ผัดไทยกุ้งสดจานละร้อยครึ่งร้อยก็ไม่เอา อยากกินผัดไทยสูตรเดิมๆ ของคนไทยนี่แหละ ไม่ต้องไปประยุกต์หรือประดิดประดอยให้เสียเวลา และทำให้ราคาแพงโดยใช่เหตุ
ถ้าเช่นนั้นก็จงลืมร้านผัดไทยดังๆ ทั้งหลาย ที่บางเจ้าก็ใส่กุ้งสดตัวโตๆ บางเจ้าก็ขายพร้อมกับหอยทอดและขนมหัวผักกาด มีร้านก๋วยเตี๋ยวผัดไทยที่ตั้งใจขายผัดไทยจริงๆ อยู่ในซอยโชคชัยร่วมมิตร ซอยที่มีร้านอาหารอร่อยหลายร้าน
ก๋วยเตี๋ยวผัดไทยเจ้านี้เป็นร้านห้องแถวคูหาเดียว ถ้าเข้ามาทางถนนวิภาวดีรังสิต ถึงซอยโชคชัยร่วมมิตรให้เลี้ยวซ้ายเข้าไป จะเห็นร้านข้าวแกงจุฑามาศอยู่ซ้ายมือ ตรงไปอีก 20 เมตรก่อนจะถึงร้านบะหมี่กวางตุ้ง ขวามือจะเห็นร้านผัดไทยที่ขายคู่กับขนมบัวลอยไข่หวาน มีแผงไข่ไก่สดกองโตเป็นที่สังเกต
ผัดไทยร้านนี้ขายดีจนลืมตั้งชื่อร้าน แต่ลูกค้าขาประจำจะเรียกว่าผัดไทยเจ๊ณี เพราะเจ้าของร้านคือ คุณสุปราณี เชาว์แสงกิตติ แม่ค้าผัดไทยที่อารมณ์ดีที่สุด เพราะเวลาที่เจ๊ณีผัดก๋วยเตี๋ยวให้ลูกค้าจะยิ้มแย้มแ จ่มใส ไม่หน้าหงิกหน้างอเหมือนแม่ค้าส่วนใหญ่ มือจับตะหลิวก็ผัดไป ปากก็เจื้อยแจ้วทักทายลูกค้าตลอดเวลา
เจ๊ณีบอกว่าขายผัดไทยมา 14 ปีแล้ว สมัยเด็กๆ เคยช่วยแม่ขายก๋วยเตี๋ยวราดหน้ามาก่อน แต่หลังจากที่แม่เลิกขายราดหน้าเพราะทำไม่ไหว เจ๊ณีก็เปลี่ยนมาขายก๋วยเตี๋ยวผัดไทยที่คิดว่าน่าจะข ายดีกว่าราดหน้า โดยมีคุณบีน้องสาวมาช่วยอีกแรง
ผัดไทยสูตรของเจ๊ณีไม่เหมือนใคร แม้ว่าระยะแรกต้องใช้วิธีครูพักลักจำ คือไปดูร้านก๋วยเตี๋ยวผัดไทยเจ้าอร่อยว่าเขาทำอย่างไ รบ้าง แล้วก็นำมาประยุกต์เป็นสูตรเจ๊ณีคือผัดตามใจฉัน แต่ทุกอย่างจะต้องสดและสะอาด ต้องพิถีพิถันตั้งแต่เส้นก๋วยเตี๋ยว ถั่วงอก กุยช่าย โดยเฉพาะพริกป่นและถั่วคั่วจะต้องคั่วเองตำเอง
ร้านผัดไทยของเจ๊ณีจัดง่ายๆ มีไม่กี่โต๊ะ ลูกค้าต้องรีบกินแล้วรีบไป เพื่อให้คนอื่นที่มารอได้ลิ้มรสความอร่อยบ้าง กรรมวิธีการผัดก๋วยเตี๋ยวของเจ๊ณีก็ดูง่ายๆ โดยผัดเส้นกับน้ำมะขามเปียก ใส่กุ้งแห้ง ถั่วคั่วป่น พริกป่น น้ำตาลทราย ไข่ ผัดจนทุกอย่างเข้าที่แล้วถึงนำมาใส่จานที่มีหมูหมักแ ละเห็ดหอมผัดไว้ก่อนแล้ว
ที่ขาดไม่ได้หรือถ้าขาดแล้วไม่ใช่ผัดไทยเจ๊ณี คือกากหมูกระเทียมเจียวที่ต้องคลุกเคล้าอยู่ในเส้นผั ดไทย เวลาเคี้ยวจะกรุบกรอบอร่อยอย่าบอกใคร
กินผัดไทยที่อื่นจะมีความรู้สึกว่ามีเส้นมากเหลือเกิ น แต่ผัดไทยของเจ๊ณีแต่ละจานนั้นไม่มากแต่อร่อย ลูกค้ากินเพลินๆ แป๊บเดียวก็หมดแล้ว บางคนจะรู้สึกแปลกใจว่าทำไมเดี๋ยวเดียวหมดจานแล้ว ความรู้สึกเช่นนี้เพราะผัดไทยร้านนี้อร่อยไม่เหมือนท ี่อื่น
ต้องบอกก่อนว่าถ้าสั่งจานธรรมดาราคา 25 บาท ก็จะมีแต่หมูหมักไม่มีเห็ดหอม ถ้าอยากจะกินเห็ดหอมด้วยต้องสั่งจานพิเศษราคา 30 บาท
อิ่มอร่อยกับผัดไทยเจ๊ณีแล้วก็ต้องล้างคอด้วยขนมหวาน คือบัวลอยไข่หวานคุณบีน้องสาวเจ๊ณี ลูกค้าร้านนี้ต้องกินทั้งผัดไทยและบัวลอยไข่หวานถึงจ ะครบสูตร เพราะเป็นบ้วลอยที่อร่อยไม่หวานจัด ธรรมดา 10 บาท ใส่ไข่ 15 บาทเท่านั้น
เจ๊ณีเปิดร้านขายผัดไทยแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้น ขายทุกวันตั้งแต่ 6 โมงเย็น พอ 3 ทุ่มก็เก็บร้านแล้ว อยากจะไปชิมฝีมือเจ๊ณีก็รีบๆ ถ้าไปไม่ถูกโทร.ไปสอบถามที่หมายเลข 0-2275-9394

[L@mLamai]

ว่า แต่พี่ไก่จาเลี้ยงมั้ยหละคร้า

[Lam Station]

ว่า แต่พี่ไก่จาเลี้ยงมั้ยหละคร้า

ผ่านไปเมื่อไหร..เลี้ยงทันที