orbit อยู่เสาชิงช้า เขาเปลี่ยนเสาใหม่แล้ว ไปดูบ้างรึยัง ห๋า..
                                
กำลังแสดงผล 1 ถึง 2 จากทั้งหมด 2

ชื่อกระทู้: orbit อยู่เสาชิงช้า เขาเปลี่ยนเสาใหม่แล้ว ไปดูบ้างรึยัง ห๋า..

  1. #1
    Senior Member jecked's Avatar
    วันที่สมัคร
    Jun 2006
    สถานที่
    orbit อยู่เสาชิงช้า เขาเปลี่ยนเสาใหม่แล้ว ไปดูบ้างรึยัง ห๋า..
    ข้อความ
    711
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    18

    มาตรฐาน orbit อยู่เสาชิงช้า เขาเปลี่ยนเสาใหม่แล้ว ไปดูบ้างรึยัง ห๋า..



    “เสาชิงช้า” สัญลักษณ์แห่งรัตนโกสินทร์

    เมื่อครั้งที่สถาปนากรุงเทพฯ ขึ้นเป็นราชธานีของไทย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงโปรดฯ ให้สร้างเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2327 เนื่องมาจากมีพราหมณ์นาฬิวันชาวเมืองสุโขทัยผู้หนึ่ง นามว่า "พระครูสิทธิชัย(กระต่าย)" ได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลต่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอด ฟ้าจุฬาโลกมหาราชว่า ในการประกอบพิธีตรียัมปวายอันเป็นประเพณีของพรหมณ์ที ่มีมาแต่โบราณนั้น จำเป็นต้องมี "การโล้ชิงช้า" รวมทั้งเพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความเป็นศูนย์กลางข องพระนคร ซึ่งกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานสำคัญของป ระเทศไทยเมื่อปี พ.ศ.2492



    พระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าพราหมณ์เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ บอกว่า ตามโบราณราชประเพณีนั้น เมื่อจะมีการเปลี่ยนเสาชิงช้าจะต้องตั้งเครื่องบูชาถ วายเครื่องสักการะเทพ เทวา เพื่อขอพรขอให้เสาชิงช้าเป็นเสามงคลที่จะใช้ประกอบพิ ธีพระราชพิธีตรียัมปวายได้ ซึ่งต่างจากตอนซ่อมที่ช่างเพียงแต่อธิษฐาน ขอขมาและขอพรไปในตัวจากเหล่าเทพ เทวาที่คุ้มรักษา โดยไม่ต้องใช้พิธีกรรมทางพราหมณ์

    ทั้งนี้ เมื่อจัดทำเสาชิงช้าใหม่เสร็จเรียบร้อย ก็ต้องจัดให้มีพิธีการสมโภชน์เสาชิงช้าใหม่ด้วยโดยกา รตั้งเครื่องสักการะบูชาเช่นเดียวกับตอนที่จะมีการเป ลี่ยนเสาออกแล้วเอาใหม่เข้าไปใส่แทนที่ ซึ่งเครื่องสักการะทางพราหมณ์จะใช้ผลไม้ ขนมหวาน จะไม่มีการใช้อาหารคาวแต่อย่างใด
    “มีบายศรีกี่ชั้นก็ได้ แต่เราจะนิยมใช้บายศรี 7 ชั้นด้วยกัน ส่วนเรื่องฤกษ์ก็จะพิจารณาว่าเหมาะสมที่จะเป็นช่วงส่ วนมากก็จะเป็นช่วงเช้าหรือช่วงกลางวัน และดูตามความพร้อมอีกด้วย ส่วนพราหมณ์ใช้กี่คนก็ได้แล้วแต่จะมี แต่สำหรับครั้งนี้ก็ใช้พราหมณ์ 8 คนตามที่เทวสถานมี”

    “การที่เสาชิงช้ามีสีแดงก็เพราะทางพราหมณ์ยึดถือตามส ีของพระอาทิตย์ในยามที่ทอแสงตอนรุ่งอรุณหรือสีหม้อให ม่ที่กำลังสุกแดงซึ่งเป็นสีที่มีมงคลสว่าง เจริญรุ่งเรืองเป็นสีซึ่งเป็นธรรมชาติ เมื่อก่อนจะใช้สีชาดทาแต่ปัจจุบันก็ใช้สีทาบ้านทั่วไ ป”



    ที่มาแห่งพิธีโล้ชิงช้า

    จากการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับพิธีโล้ชิงช้าในหนังสือ “ของดีกรุงเทพฯ พบว่า พิธีนี้ถือเป็นพิธีกรรมวันปีใหม่แบบโบราณของพราหมณ์ใ นดินแดนชมพูทวีป โดยมีที่มาจากคัมภีร์เฉลิมไตรภพซึ่งบันทึกเอาไว้ว่า. ..

    พระอุมาเทวีทรงมีความปริวิตกว่า โลกจะถึงกาลวิบัติ พระนางจึงทรงพนันกับพระอิศวรโดยให้พญานาคขึงตนระหว่า ง “ต้นพุทรา” ที่แม่น้ำ แล้วให้พญานาคแกว่งไกวตัว โดยพระอิศวรทรงยืนขาเดียวในลักษณะไขว่ห้าง เมื่อพญานาคไกวตัว เท้าพระอิศวรนั้นไม่ตกลง แสดงว่า โลกที่ทรงสร้างนั้น มั่นคงแข็งแรง พระอิศวรจึงทรงชนะพนัน

    ดังนั้น พิธีโล้ชิงช้าจึงเปรียบเสาชิงช้าเป็น “ต้นพุทรา” ช่วงระหว่างเสาคือ “แม่น้ำ” ส่วนนาลีวันผู้โล้ชิงช้าคือ “พญานาค” โดยมีพระยายืนชิงช้านั่งไขว่ห้างอยู่บนไม้เบญจมาศ

    นอกจากนี้ ยังเชื่อกันว่าเป็นพิธีกรรมที่จัดขึ้นเพื่อเสริมความ เป็นสิริมงคลให้กับชีวิต ตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ โดยเชื่อกันว่าพระอิศวรจะเสด็จลงมาเยี่ยมโลกมนุษย์ ปีละครั้งในเดือนยี่ ครั้งหนึ่งกำหนด 10 วัน คือจะลงมาในวันขึ้น 7 ค่ำ และวันแรม 1 ค่ำ เสด็จขึ้นกลับ คณะพราหมณ์จึงได้จัดพิธีต้อนรับขึ้นในระยะเวลาดังกล่ าว เพื่อความเป็นสวัสดิมงคลแก่พระนคร

    สำหรับการประกอบพิธีโล้ชิงช้านั้น ถือได้ว่าเป็นพิธีการที่สนุกสนานครึกครื้น เริ่มด้วยการตั้งโรงราชพิธี จากนั้นให้พราหมณ์อันเชิญพระอิศวร ครั้งได้ฤกษ์ดี ทางราชการจะให้ขุนนางที่มีบรรดาศักดิ์ชั้นพระยาพานทอ งแต่งตัวโอ่โถงสมมุติเป็นพระอิศวร เรียกว่า พระยายืนชิงช้า เสร็จแล้วให้มีกระบวนแห่ไปที่เสาชิงช้า

    เมื่อพระยายืนฯ ไปถึงเสาชิงช้าก็เข้าไปนั่งในโรงราชพิธี จากนั้นให้ผู้ที่จะโล้ชิงช้าขึ้นชิงช้าทีละ 4 คน(โล้ 3 กระดาน รวมเป็น 12 คน) โดยมีเชือกที่ถือยึดไว้แน่นทั้งสี่ด้าน สองคนหันหน้าเข้าหากัน พนมมืออยู่กลางกระดาน มือสอดเชือกไว้ อีกสองคนอยู่หัวท้ายมีเชือกจับมั่นคง ถีบโล้ชิงช้าเพื่อฉวยเงินรางวัล 1 ตำลึง

    ส่วนการที่จะฉวยเอาเงินรางวัลได้นั้น คนที่อยู่หัวกระดานเป็นคนฉวย โดยเงินนั้นผูกแขวนไว้กับฉัตรสูงที่ปักไว้แล้วมีคันท วยยื่นออกไประยะห่างพอที่จะโล้ชิงช้ามาถึงได้ คนดูที่อยู่ข้างล่างก็ "ตีปีก" เชียร์กันอย่างสนุกสนาน

    การโล้ชิงช้านี้สำคัญอยู่ที่คนท้าย คือจะต้องเล่นตลก คือพอคนหน้าจะคาบถุงเงิน คนท้ายจะทำกระดานโล้ ให้เบี่ยงไปเสียบ้าง ทำกระดานโล้ให้เลยถุงเงินเสียบ้าง จึงจะเรียกเสียงฮา จากคนดูได้
    สำหรับเรื่องเล่าปากต่อปากว่า ถ้าใครโล้ชิงช้าแล้วตกลงมาจะถูก "ฝัง" ไว้ที่ใต้ชิงช้านั้น เรื่องนี้ไม่เคยปรากฏว่ามีการตกหรือได้ฝังใครเลย และไม่มีตำราเล่มไหนบอกไว้ทั้งนั้น คงเป็นเรื่องเข้าใจผิดๆ ติดมาจากการฝังหลักเมืองมากกว่า

    การโล้ชิงช้านี้ ได้มีติดต่อกันมาหลายรัชกาล จนกระทั่งถึงรัชกาลที่ 7 จึงได้ยกเลิกประเพณีการโล้ชิงช้าไปเสีย และพิธีนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นอีกเลย ซึ่งล่าสุดเมื่อคราวเฉลิมฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 222 ปี ถึงได้รื้อฟื้นพิธีจำลองกลับขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

    ประวัติการซ่อมบูรณะเสาชิงช้าที่สำคัญ

    พ.ศ.2327 รัชกาลที่1 ก่อสร้างเสาชิงช้า
    พ.ศ.2361 รัชกาลที่2 เกิดฟ้าผ่าบนยอดเสา แต่ไม่เสียหายมากนัก
    พ.ศ.2463 รัชกาลที่6 เสาชิงช้าผุทั้งหมดจึงมีการเปลี่ยนเสาไม้ บริจาคไม้โดย บริษัท หลุย ที เลียวโนเวนส์
    พ.ศ.2478 ได้มีการซ่อมกระจังเดิมที่ผุหัก และได้ใช้มาจนทุกวันนี้
    พ.ศ.2490 เกิดไฟไหม้ที่โคนเสาแต่ได้มีการซ่อมประทังไว้
    พ.ศ.2513 เสาชิงช้าผุชำรุดมาก จนต้องเปลี่ยนเสาโครงสร้างทั้งหมด


    (จริงๆนะไม่ได้โม้...พึ่งรู้นี่แระ)
    La dure pendant laquelle tadalafil 10mg prix tadalafil sandoz prend tout vnement groupes contrle et exprimental.

  2. #2
    Senior Member emotionbirdrb's Avatar
    วันที่สมัคร
    Jul 2006
    สถานที่
    ~O~r.b.i.t. CluB~
    ข้อความ
    485
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    18

    Talking


    แน่นอนเลยลุง em86
    ++ การช่วยเหลือคนอื่น คือการที่เราจ่ายค่าเช่าของชีวิตที่อยู่ในโลกนี้+
    --- ก็ผม อนุรักษ์ของเดิมครับ ---
    --- ---
    ลำ ลำ กึ๊ก



Bookmarks

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •