ดูรายนะเอียดส่วนตัว
ดูกระทู้ตอบทั้งหมด
ดูกระทู้ ทั้งหมด
Ignore This Member
ดู Albums ทั้งหมด
ข้อความส่วนตัว
View Friends
ดูบทความ
View Blog Entries
ธรรมดาของคนบ้ารถถีบที่จะต้องมีตู้สำหรับเก็บชิ้นส่ว นที่รอการใช้หรือเหลือใช้ ของผมเองก็มีอยู่สองสามใบ ใบหนึ่งเป็นของจักรยานล้วนๆ อีกใบหนึ่งเป็นที่เก็บพวกงานสังกะสี มีช้อนและจานลายดอกอยู่ ร้อยกว่าชุด
ธรรมดาของคนบ้ารถถีบที่จะต้องมีตู้สำหรับเก็บชิ้นส่ว นที่รอการใช้หรือเหลือใช้ ของผมเองก็มีอยู่สองสามใบ ใบหนึ่งเป็นของจักรยานล้วนๆ อีกใบหนึ่งเป็นที่เก็บพวกงานสังกะสี มีช้อนและจานลายดอกอยู่ ร้อยกว่าชุด
...ปลูกทุกอย่างที่กิน.........กินทุกอย่างที่ปลูก.. .
สวัสดีครับน้องกระยอดินฯ ไม่ได้คุยกันหลายวันแล้ว สองวันก่อนพี่บวรก็โทรมาคุยด้วยเหมือนกัน เห้นว่ากิจกรรมก็ยังคงมีอยู่เรื่อยๆนะครับ ชมรมฯนี้ถือว่าเป็นนักกิจกรรมเพื่อสังคมเลยก็ว่าได้. ...
เมือวานนี้เลิกงานแล้วก็แวะไปเอาเสื้อที่สั่งทำเอาไว ้ เป็นการเอารูปภาพจากกล้องดิจิตอล มาใส่ลงไปในเสื้อ งานออกมาคิดว่าใช้ได้นะครับ แต่ราคาค่อนข้างสูงไปหน่อย คือ 350 บาท รวมเสื้อ แต่ถ้ามีรูปติดที่หน้าอกอย่างเดียวก็ 250 บาท
ลองถามเค้าดูเล่นๆว่าหากจะทำสัก 60 ตัว จะคิดราคาเท่าไร....
ส่วนเสื้อคนบ้ารถถีบปีนี้คิดว่าจะทำแบบรูปด้านหลังที ่เป็นโลโก้สีเหลือง แต่ย้ายมาติดที่หน้าอกเสื้อแทน และคงใช้สกรีนแบบธรรมดา เพราะหากใช้เป็นแบบในภาพ ถึงงานจะคมกว่า แต่ราคามันจะแพงไป และคิดว่างบสำหรับเสื้อหนึ่งตัวรวมค่าส่งแล้วน่าจะไม ่เกินตัวละ 150 บาท แต่ทั้งนี้คนสกรีนจะต้องไม่ทำให้เสื้อเสีย เพราะจะทำให้ค่าราคาเฉลี่ยสูงขึ้นไปอีก
เมื่อวานมีคนถามผมเกี่ยวกับรถถีบยี่ห้อ Rudge ถึงอะไหล่รวมๆ ซึ่งก็น่าจะใช้ของตระกูลราเล่ห์ครับละ
ครับ แต่ถ้าเป็น Rudge Coventry อันนี้จนด้วยเกล้าจริงๆครับ พูดถึงเรื่องจานปั่นของRudgeแล้ว ส่วน
ใหญ่ที่เจอๆกันก็น่าจะเป็นเครือราเล่ห์หมด หมายถึงจะตอก Raleigh Indastries แล้วมีจานปั่นของ
Rudgeแบบที่ไม่ตอกมีมั้ย ?
ตอบได้อย่างเต็มปากว่ามีครับ ที่ผมเจอทั้งแบบจานขาวและดำ ส่วนใหญ่เจอจะเจอในรุ่นเก่าๆ แต่อันนี้ก็
ไม่แน่ใจนักครับ
"ถ้าชอบ ก็ทำเถิด แต่อย่าทำให้คนอื่นเค้าเดือดร้อนนะลูก"
เมื่อวันเสาร์ เอาเสื้อที่สั่งสกรีนรูปตัวเองและคนบ้ารถถีบติดด้านห ลัง ประเดิมใส่เดินคลองถมวันแรก ตกเย็นกลับมาถึงบ้านปรากฏว่ารูปที่สกรีนชำรุดแยกซะแล ้ว สู้แบบที่ใช้สีสกรีนไม่ได้ สีสกรีนจะทนทานกว่า หรืออาจจะเป็นเพราะคุณภาพของงานยังไม่ค่อยจะดีมากนัก แค่ใส่เล่นๆครั้งสองครั้งอาจจะพอได้ ก็คงต้องทดลองใช้ต่อไปก่อน รออีกสักอาทิตย์หนึ่งให้รูปติดสนิทจริงๆ แล้วค่อยซัก ค่อยดูกันอีกทีว่าจะเป็นอย่างไร
วันเสาร์ที่ผ่านมาอีกเช่นกัน กำลังเดินๆอยู่ที่คลองถม เฮียสมศักดิ์ ซึ่งปั่นจักรยานผ่านมาแถวคลองถมแล้วเห็นจักรยานติดสต ิกเกอร์คนบ้ารถถีบล่ามโซ่ติดกับป้ายข้างทางก็เลยโทรม าทักทาย อาจจะจำจักรยานได้หรืออาจจะเห็นสติกเกอร์ เลยเดาเอาว่าใช่แน่ๆ
พูดถึงสติกเกอร์ ผมได้ฝากสติกเกอร์ที่จะให้กับอาจารย์mkaโดยฝากไว้ที่ แว่นแล้วนะครับ ทีแรกให้ไปห้าใบแต่คนที่ยืนคุยกับแว่นขอไปหนึ่งก็เลย เหลือแค่สี่ เห็นว่าเล่นจักรยานเหมือนกัน
เมื่อวาน นั่งตะไบโครงคานไขว้บริเวณข้อต่อ ค่อยๆทำไปไม่รีบร้อน กลัวจะได้ไม่ดีดังใจ ใจเย็นๆดีกว่า ระหว่างนี้ก็คอยรวบรวมอะไหล่ไปก่อน แต่ก็ใกล้สำเร็จแล้ว ก่อนหน้านี้พอกทองเหลืองแต่พอตะไบแล้วใส่มันโดดๆอย่า งไรไม่รู้ เลยให้เค้าเชื่อมพอกใหม่เอาเชื่อมแบบที่เป็นเหล็กอย่ างเดิม ไม่เอาเป็นทองเหลือง ยอมตะไบใหม่อีกครั้ง
พอสักสี่ทุ่ม แฟนถามว่าได้เลขมั่งละยัง ขอเป็นสามตัวนะ..
.ได้รับเรียบร้อยแล้วครับสำหรับสติ๊กเกอร์ กะเก็บไว้ติดรถคันเด็ดๆหรือคันที่ออกขี่บ่อยๆ จะได้ถ่ายเลือดบ้าให้คนเห็นใด้ติดกันหลายๆคน
เดี๋ยวเย็นนี้ต้องค้นหารถคันใหม่ที่เบรคดีๆหน่อย คันที่ขี่อยู่พอเบรคแล้วมันวิ่งต่อไปอีกเหมือนไม่ได้ เบรค จะเปลี่ยนเบรคก็เป็นรุ่นใหม่ๆ ดูมันไม่สวยไม่เข้ากับรถ คันที่เบรคดีๆมีหลายคันต้องค่อยๆค้นมาลองดู
...ปลูกทุกอย่างที่กิน.........กินทุกอย่างที่ปลูก.. .
คนเล่นรถถีบเก่าๆคิดว่าแต่ละคนคงจะมีรถกันอย่างน้อยค นละ 2 คันขึ้นไปสำหรับรถที่เป็นรถโบราณ ซึ่งคันแรกคงจะเป็นคันที่ใช้ขี่ไปไหนมาไหน ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่นปั่นเล่นๆแถวบ้าน ปั่นไปซื้อกับข้าว ซึ่งไม่ต้องระแวดระวังมากนัก ถลอกได้บ้างนิดๆหน่อย ส่วนอีกคันนึงก็จะเป็นรถที่เก็บเอาไว้ออกงานต่างๆ เช่นงานปั่นจักรยานรณรงค์ งานรวมพลจักรยานโบราณซึ่งอาจจะมีการนัดขึ้นเป็นในบาง โอกาส รถอย่างหลังนี้ค่อนข้างจะหวงและทะนุถนอมเป็นพิเศษ บันไดก็แทบจะไม่ให้โดนเท้าเหยียบลงตรงๆต้องหาแผ่นยาง มาหุ้มอีกชั้น อันนี้เป็นความรักความชอบของแต่ละบุคคลที่อาจจะ..สุด ขีด...ไม่เท่ากัน
ในส่วนของตัวเองนั้น รถที่ใช้ขี่ในชีวิตประจำวันจะมีอยู่สองคัน คันแรกเป็นบีเอสเอ26"ชาย ทำสีไอไว้แบบลวกๆนานแล้ว ตอนนี้ถลอกปอกเปิกหลายแห่ง ใช้ขี่ออกมาที่ปากซอยเพื่อนั่งรถเมล์ไปทำงาน ส่วนจักรยานก็ล่ามโซ่(อันเขื่อง)เอาไว้ ไม่กลัวหายเพราะว่าชินเสียแล้ว อีกอย่างการขโมยไม่ว่าจะขโมยมอเตอร์ไซค์หรือจักรยานก ็มีโทษเท่ากัน ที่ว่าอย่างนี้ก็เพราะติดๆกันมีมอเตอร์ไซค์จอดอยู่ข้ างๆเอาโซ่อันเล็กกว่าของเราอีกล็อคล้อหน้าเอาไว้ เค้ายังไม่กลัวหายเลย.....
ส่วนอีกคันหนึ่งเอาไว้ที่ทำงาน เป็นรถรัดจ์26"ชาย ดัดแปลงแฮนด์เอาพวงมาลัยมาใส่ ขี่แล้วโก้ไปเลย ใช้ขี่ไปมาแถวที่ทำงาน เช่นออกไปจ่ายค่าบ้านบ้าง ส่งพัสดุบ้าง แล้วแต่โอกาส รถพวงมาลัยคันนี้ขี่ไปไหนมีแต่คนมอง ทำให้อยากจะเล่นรถออกไปอีกแนว ออกจะเป็นแนวคิดสร้างสรรค์ เช่นแต่งจักรยานออกเป็นรูปต่างๆ หรือทำรถให้ออกแปลกๆ
เดี๋ยวนี้เวลาจะปลุกโครง ปลุกซากให้ตื่นขึ้นมา ใช้งานได้นั้น รู้จะยากยิ่งขึ้น เหตุเพราะองค์ประกอบหลัก
ของรถขาดหายไป จะเอาของอื่นทดแทน ก็คิดว่าน่าจะมี เอาไปเอามามันก็ไปไม่มีมา จำต้องรอไป
เรื่อยๆ แบบไม่มีกำหนดเวลาแล้วเสร็จ เลยไปกลายเป็นความท้อ ล้า เบื่อ เซ็ง หน่าย ....
เอ... แต่พอเจออะไรใหม่ๆเข้ามา กลับโดนกระตุ้นแบบง่ายๆ ให้กลับเข้ามาอยู่ในวังวนต่อไป เป็นวัฎจักร
ที่ไม่จักจบจักสิ้น
"ถ้าชอบ ก็ทำเถิด แต่อย่าทำให้คนอื่นเค้าเดือดร้อนนะลูก"
สามสี่วันมานี้ เลิกงานกลับมาบ้าน พอทำธุระอะไรเสร็จแล้ว ก็จะมานั่งตะไบแต่งข้อต่อของคานไขว้คันใหม่ ที่ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นโครงการระยะยาวไปแล้ว ที่ว่าระยะยาวหมายถึงไม่อยากจะไปรีบมากโดยเฉพาะในการ ตะไบแต่ง ใจเย็นๆค่อยๆทำ งานน่าจะออกมาดีกว่าทำอย่างรีบๆ อีกอย่าง พอขึ้นเป็นคันแล้วก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปจอดไว้ที่ไหน สู้เป็นโครงวางไว้ก่อนดีกว่า พอว่างเมื่อไรก็เอาโครงออกมาตะไบแต่งไปเรื่อยๆให้มัน มีอะไรทำ
ส่วนโครงการทำสีรถบีเอสเอพับได้ ก็เป็นโครงการกำลังจะทำตามมา งานนี้ก็ต้องใช้วิชาดัดแปลงฝาประกับมือเบรคอีกนิดหน่ อย เพราะได้แต่มือเบรคมาแต่ขาดตัวประกับ คงต้องอาศัยวิชางานช่างฝีมือ(วิชาตะไบ)สมัยเรียนอยู่ เทคนิคกาญจน์อีกครั้ง..... รูปที่ลงประกอบก็อาจจะเป็นรูปเดิมๆที่คงจะคุ้นตากันม าแล้ว จะว่าไปก็อยากจะเห็นบ้านคนอื่นกันบ้างครับ ไม่รู้ว่าจัดวางรถกันอย่างไร
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย wasant : 11-06-2008 เมื่อ 08:28
.พักนี้รถโบราณไม่ค่อยมีให้เล่นกับเค้า เพื่อไม่ให้ปลุกแล้วไม่ตื่นฟื้นไม่มี(ยังมีไฟเรื่องจ ักรยาน) ปากก็ว่าพอแล้วพอไปโกดังเก่าญี่ปุ่น ก็อดไม่ได้ที่จะหอบหิ้วติดไม้ติดมือมา เมื่อวานก็โดนไปเกือบหมื่น แต่ยังขี่ไม่ได้ต้องหาของถูกๆใส่ให้พอขี่ได้
.ลองขึ้นชื่อว่าคนบ้ารถถีบ มันบ้าไปทุกรถที่ต้องใช้เท้าถีบ เมื่อวานบอกเพื่อนว่าไม่ไปแล้ว เอ..แต่วันนี้อยากไปขึ้นมาอีกแล้ว อย่างงี้มีเท่าไรก็หมด ไม่มีก็กดเงินเสียดอกก็ยอม......แต่ก็ดีที่ไม่ไปหมดก ับเรื่องไม่เป็นเรื่อง...
...ปลูกทุกอย่างที่กิน.........กินทุกอย่างที่ปลูก.. .
อาจารย์... ผมก็ไม่ต่างจากอาจารย์เท่าไหร่เลย กดบัตรสนองตัฒหาตัว ชื่นชมด้วยความดีใจ หารู้ไม่เบื้องหลัง หาน้ำมาลูบท้องประทังไปวันๆ แม้จะบอกกับใครไปว่า จะเพลาๆแล้ว แต่ก็....จนได้ครับ
"ถ้าชอบ ก็ทำเถิด แต่อย่าทำให้คนอื่นเค้าเดือดร้อนนะลูก"
คุณหัวโป่ครับ...แท่นซ่อมจักรยานตัวนี้ ไม่ใช่ของประดิษฐ์เองใช่มั๊ยครับ
สังเกตุจากแขนหมุน (ลักษณะเหมือนแขนหมุนของเครื่องไสน้ำแข็ง) ที่ติดอยู่กับแขนแคล้มป์จับจักรยานน่ะครับ
คือ ผมกำลังทำแท่นที่ว่านี่อยู่ จะซื้อของนอกก็แพงเหลือเกิน มีปัญหากับตัวแคล้มป์ ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะใช้อะไรดี ว่าจะใช้คอแฮนด์ของ Bmx ไม่แน่ใจว่าจะเวิร์คหรือไม่ จะซื้อเฉพาะตัวแคล้มป์ก็แพงอีกเหมือนกัน
ไม่ทราบว่าจากที่คุณหัวโป่ได้ใช้งานจริง อยากรบกวนคุณหัวโป่เกี่ยวกับคล้มป์ว่า น่าจะใช้วัสดุอะไรมาดัดแปลงถึงจะเหมาะสมกับการใช้งาน น่ะครับ
ตอนไปทำบัตรเอทีเอ็ม เจ้าหน้าที่บอกว่าอายุ 58 เมื่อไรต้อง ทำธนวัตร ไอ้ตัวนี้สำคัญ เริ่มทำก็ไม่เคยหลุดจากติดลบสักที กดทีไรก็เสยดอก แต่มันหักจากบัญชีเลยไม่ค่อยรู้สึก ถ้าแขกขับรถมาเก็บทุกวันคงอายนะ แต่นี่มันหักเท่าไรไม่กลัวเพราะไม่อาย นี่แหละจุดอ่อนที่ธนาคารรู้แต่เราก็ชอบด้วย
อ้อขิงจากวังเหนือเริ่มโผล่ออกมาให้เห็นบ้างแล้ว ดูมันแข็งแต่ไม่ค่อยแรงเลยนะ ใช้เวลาตั้งเดือนกว่าๆจะโผล่ ถ้าเป็นขิงจากท่ามะกานะปลูกปั๊บโผล่ปุ๊บเลยซิ ผับผ่า....
...ปลูกทุกอย่างที่กิน.........กินทุกอย่างที่ปลูก.. .
อ้อ ขอเสริมจากข้างบนหน่อยเพราะมันกระโดดเลยลบยาก...ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ mka
หมายถึงธนวัตร อายุครบ 58 ต้องคืนทั้งต้นทั้งดอกให้หมด ธนาคารกลัวปลดเกษียณแล้วไม่มีเงินส่ง
.....นี่แหละทำให้ผมเสียคนเพราะจักรยานมันยั่ว...... .รถที่เก็บๆไว้ก็อาศัยเงินตัวนี้แหละ ลำพังเงินเหลือเก็บเท่าที่เริ่มทำงานมายังไม่เคยเห็น บวกนำหน้ายอดเงินเลย ใครจะเอาอย่างผมก็ยินดีแนะนำนะครับ....... ตอนนี้ก็ - 78,000 แล้ว กว่าจะถึงสิ้นเดือนก็เฉียด หกหลัก....
...ปลูกทุกอย่างที่กิน.........กินทุกอย่างที่ปลูก.. .
จริงครับอาจารย์ ผมใช้บัตรรูดปี๊ด รูดปี๊ด ... ใช้เงินแบบไม่เห็นเงิน พอครบกำหนดสลิปมาที ตกกะใจ จากที่คิดว่ารูดไปเฉพาะค่าจักรยานเดือนนี้ไม่กี่ตังค ์ กลายเป็นหลายตังค์ พยายามปลดหนี้เดือนต่อเดือน ไม่ให้ค้าง เพราะเงินพวกนี้ดอกโตเร็ว พอปลายเดือนทีหมุนกันหัวปั่น ตั้งใจว่าเดือนหน้าจะไม่เอาอีกแล้ว ก็อดไม่ได้สักกะที em84
นี่ก็อุตส่าห์ไปซื้อบัตร7-11 เห็นเค้ามีก็อยากมีบ้าง ด้วยคิดว่าสะดวกดีเพราะก่อนกลับบ้านแวะเกือบทุกวัน ... แต่ก็ต้องคอยเช็คยอดเงิน+เติมเงินเรื่อย ๆ (ใช้เงินไม่เห็นเงินอีกแล้ว) อยู่ดี ๆ ก็เอาเงินไปให้เค้าหมุนก่อนซะงั๊น
เรื่องแท่นจับจักยานนี้ไม่ได้ทำเองครับ เป็นแท่นประกอบจักรยานโบราณ คืออายุของมันก็พอๆกับ
จักรยาน ที่เราๆท่านๆขี่กันอยู่ทุกวันนี้ละครับ ขอเดาว่าไม่ของอังกฤษก็เยอรมัน แต่ที่แน่ๆไม่ใช่ของพี่
ไทยร้อยเปอร์เซนต์ครับ ดูงานแล้วละเอียดดี บางชิ้นเป็นเหล็กหล่อ เรื่องน้ำหนักไม่ต้องพูดถึงครับ ยก
จักรยานธรรมดายังเบากว่าเลยครับ
ตัวพวงมาลัยไม่ได้ใช้ล็อกตัวรถนะครับ แต่ใช้หมุนตัวรถและสามารถหมุนตัวรถได้ 360 องศา ตัวแท่น
นี้ถือว่าเกือบครบครับ เข้าใจว่าตัวที่ล็อกส่วนที่จับเฟรมน่าเป็นพวงมาลัยเล ็กๆหรือน็อตหางปลา ประมาณ
นี้ครับ
"ถ้าชอบ ก็ทำเถิด แต่อย่าทำให้คนอื่นเค้าเดือดร้อนนะลูก"
กฎการส่งข้อความ
ตอบ-อ้างอิงข้อความ
Bookmarks