วันหนึ่ง ซึ่งเป็นวันธรรมดาทั่ว ๆ ไป
โนบิตะกลับมาจาก โรงเรียน และ ขึ้นไปยังห้องนอน
และพบโดราเอมอนกำลังนอน หลับอยู่เหมือนปกติ
"นี่ ! โดราเอมอน ตื่นมาเล่นกันเถอะ"
แต่โดราเอมอนก็ยังหลับอยู่
โนบิตะคิดว่า โดราเอมอนคงเหนื่อยมาก จึงปลุกไม่ตื่น
ดังนั้นโนบิตะ จึงออกไปเล่นกับชิซูกะและเพื่อนคนอื่น
หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง โนบิตะกลับมายังบ้าน
แต่โดราเอมอน ก็ยังหลับอยู่ โนบิตะรู้สึกแปลก
และพยายามปลุกโดราเอมอน แต่ก็ไม่ปฎิกริยาใด ๆ จากโดราเอมอนทั้งสิ้น
โนบิตะเริ่มรู้สึกกลัว และ เหนื่อยที่จะปลุกโดราเอมอน
โนบิตะพยายามทำทุกอย่าง แต่โดราเอมอนก็ไม่ยอมตื่น
โนบิตะเริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป
และมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โนบิตะเริ่มร้องไห้ และร้องไห้โฮ
แต่โดราเอมอนก็ไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว
และแล้วโนบิตะก็คิดอะไรขึ้นมาได้
ไม่รอช้า โนบิตะกระโดดเข้าไปในโต๊ะที่มีไทม์แมชชีน
และโนบิตะก็ได้ไปในอนาคตเพื่อที่จะพบโดเรมีน้องสาวขอ งโดราเอมอน
โนบิตะขอร้องให้โดเรมีช่วยและพยายามนำตัวโดเรมีให้กล ับมาในปี 1998
หลังจากที่มาถึงโดเรมีก็ได้เข้าไปตรวจสอบในตัวโดราเอ มอนว่าเกิดอะไรขึ้น
หลังจากนั้นไม่กี่นาที โดเรมีก็บอกโนบิตะว่า
"แบตเตอรี่หมด" โนบิตะถูกทำให้เชื่อว่าเป็นเช่นนั้น
และถามโดเรมีเพื่อความแน่ ใจอีกครั้งว่า
"แบตเตอรี่หมดหรือ ? อย่างงั้นโดราเอมอนก็ไม่เป็นไร สิ่ ใช่ไหม?
ถ้างั้น ช่วยเปลี่ยแบตเตอรี่ใหม่ให้หน่อย
ทำให้โดราเอมอนกลับมามีชีวิตเหมือนเดิม"
โดเรมีมองมาที่โนบิตะ และสั่นหน้าแล้วพูดว่า
"ฉันควรจะเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่หรือ "
โนบิตะจึงถามกลับว่า "ทำไมโดเรมีจึงพูดอย่างนั้น"
โดเรมีจึงตอบ ว่า แบตเตอรี่หลักของโดราเอมอนอยู่ตรงนี้
ใกล้กับกระเป๋าและก็ถูกใช้หมดแล้ว แต่จริง ๆแล้วก็ยังมีแบตเตอรี่สำรองอยู่ที่หู
แต่อย่างทีรู้ ๆ กันอยู่ว่าหูทั้งสองข้างของโดราเอมอน ถูกหนูกินไปเมื่อหลายปีก่อน ดังนั้นตอนนี้จึงไม่มีแบตเตอรี่สำรอง โนบิตะจึงถามโดเรมี
"เธอหมายความว่าไงน่ะ"
"ฉันหมายความว่า ถ้าฉันเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่
โดราเอมอนจะสูญเสียความทรงจำทั้งหมดเกี่ยวกับโนบิตะต ลอดกาล
แล้วฉันควรจะเปลี่ยนหรือ
" "อะไรนะ" โนบิตะปิดตาแล้วก็ร้องไห้
แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาที โนบิตะก็หยุดร้อง และพูดเบา ๆ กับโดเรมีว่า
"ขอบคุณมาก ผมจะจัดการส่วนที่เหลือเอง เธอควรจะกลับไปยังโลกอนาคตได้แล้ว"
โดเรมีไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ก็เข้าไปกอดโนบิตะ
แล้วโดเรมีก็ลา โนบิตะกลับไปยังโลกอนาคต
หลังจากที่โดเรมีกลับไปแล้ว โนบิตะก็อุ้มโดราเอมอนไปไว้บนชั้น
---- หลายปีผ่านไป------------
ในปี 2010 โนบิตะโตเป็นผู้ใหญ่
ตั้งแต่วันนั้นโนบิตะก็เปลี่ยนแปลงและเรียนหนังสืออย ่างหนัก
และก็ไม่เคยร้องอีก และเขาอยู่โดยไม่มีโดราเอมอน
โนบิตะบอกชิซูกะแล เพื่อน ๆ ทั้งหลายว่า
โดราเอมอนต้องกลับไปยังอนาคตและไม่สามารถมาพบเพื่อนๆ ทั้งหลายได้อีกแล้ว
ชิซูกะประทับใจในตัวโนบิตะที่มีความเปลี่ยนแปลง
และต่างจากเมื่อ 10 ปีก่อนอย่างสิ้นเชิง
และทั้งสองก็รักกันแล้วแต่งงานกัน
โนบิตะเป็นนักวิทยาศาสตร์ และทำห้องของเขาเป็นห้องทดลอง
และเขาก็ได้ตั้งใจทดลองอย่างนัก และห้ามไม่ให้ชิซูกะเข้ามายังห้องทดลอง
........และแล้ววันหนึ่ง โนบิตะก็เรียกให้ชิซูกะเข้ามายังห้องทดลอง
และมันเป็นครั้งแรกที่ชิซูกะเข้ามายังห้องของสามีของ เธอ
ในขณะที่เธอเข้ามายังห้อง เธอถึงกับอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก
เธอเห็นโดราเอมอนเพื่อนเก่าของเธอที่เคยเล่นด้วยกัน ในตอนที่ยังเป็นเด็ก
โดราเอมอนไม่ขยับ และเหมือนกับกำลังหลับ
"ดูนี่! ชิซูกะ ผมจะเสียบปลั๊กแล้วนะ"
โนบิตะเปิดสวิตช์หลักบนตัวของโดราเอมอน
โดราเอมอนค่อย ๆ ลืมตาขึ้น
เป็นเป็นช่วงที่ทำให้เข้าใจได้ว่าใครเป็นผู้ที่คิดค้ นโดราเอมอนขึ้นมา
ซึ่งก็คือ โนบิตะนั่นเอง
เขาเรียนอย่างหนัก เพื่อที่ว่าจะได้พบและพูดคุยกับโดราเอมอน
เพื่อนรักของเขาที่มารู้จักกันแล้วก็จากไป
โนบิตะเป็นผู้หนื่งที่ได้สร้างโดราเอมอนขึ้นมา
เขาคิดค้นโปรแกรมและโครงสร้างทั้งหลาย สำหรับหุ่นยนต์โดราเอมอน
โนบิตะและชิซูกะร้องไห้อย่างเงียบ ๆ
โดราเอมอนก็ลืมตาขี้น และก็พูดว่า
" โนบิตะ นายทำการบ้านเสร็จแล้วหรือ"

มันเหมือนกับมีก้อนเมฆสีขาวก้อนเดิม ยังลอยอยู่บนท้องฟ้า
ช่างเหมือนกับเวลาแห่งความทรงจำในอดีต ที่พวกเขามีร่วมกัน