" โซ่ " เป็นตัวถ่ายกกำลังขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์ไปยังเพลา ล้อหลัง และเป็นที่นิยมใช้มากที่สุดเรียกได้ว่าเกือบร้อยเปอร ์เซนต์ เพราะราคาถูกและมีประสิทธิภาพดี ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ใช้รถจักรยานยนต์แล ะ ช่างซ่อมที่จะต้องทำความเข้าใจระบบโซ่ว่าประกอบดดดด้ วยอะไรและจะทำการตรวจซ่อมอย่างไร
ในสภาพการใช้งานปกติจะมีฝุ่นจากถนนซึ่งจะเกาะติดไปกั บโซ่เมื่อวิ่งไปบนถนนที่เปียกโซ่จะต้องผจญกับสภาวะที ่หนักกว่าเพราะมีทั้งน้ำและความชื้น อีกทั้งสเตอร์หน้าที่หมุนดึงให้สเตอร์หลังหมุนตามจะเ กิดความตึงในเส้นโว่ จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับน้ำหนักการบรรทุกและสภาพถนน นอกนั้นการสั่นสะเทือนในขณะที่ขับขี่ซึ่งโซ่จะมีการส ะบัดตัวและการขับเคลื่อนของล้อหลังจะเกิดแรงกระชาก เหล่านี้เป็นสาเหตุของการเสื่อมสภาพของโซ่ทั้งสิ้น
การบำรุงรักษาโซ่
เมื่อสภาพของโซ่เต็มไปด้วยคราบสกปรกการดูแลรักษาจึงเ ป็นเรื่องจำเป็นนั่นคือการทำความสะอาดและ ปรับตั้งโซ่เรื่อง ทำความสะอาดมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากนักโดยเริ่มต้น
การถอดฝาครอบสเตอร์หน้า
ถอดบังโซ่ รถบางรุ่นจะมีชุดบังโซ่แบบเต็ม ซึ่งจะเจอในรถแบบครอบครัว ซึ่งต้องถอดทั้งตัวบนและตัวล่างเพื่อง่ายต่อการทำงาน
เมื่อทำการถอดชุดบังโซ่ออกหมดแล้วให้ทำการตรวจเช็คระ ยะความตึงของโซ่ หากพบว่าหย่อนให้ทำการคลายยน๊อตยึดเพลาหลังเพื่อเตรี ยมปรับตั้งความตึงโซ่ จากนั้นใช้คีมหรือไขควงดันคลิปล๊อคข้อต่อโซ่ออก
ทำการถอดข้อต่อโซ่และโซ่ออกจากสเตอร์เพื่อนำมาล้างทำ ความสะอาด พร้อมกับตรวจเชคสภาพของโซ่ ถ้าหากว่าโซ่มีอาการติดขัดตรงข้อต่อหลายๆข้อไม่ควรนำ มาใช้งาน
สำหรับการทำความสะอาดโซ๋ให้ใช้น้ำมันก๊าดและแปรงล้าง สิ่งสกปรกออก ( ห้ามใช้น้ำมันเบนซิลล้างเป็นอันขาด เนื่องมีปฎิกิริยาในการทำละลายสูง )
และในขณะเเดียวกกันก็ให้เช๊คสถาพของสเตอร์หากฟันสเตอ ร์สึกมากก็ควรเปลี่ยนสเตอร์ เสียด้วย ซึ่งควรเปลี่ยนทั้งข้างหน้าและข้างหลัง
เมื่อทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วให้ชโลมด้วยน้ำมันหลล่ อลื่น ใส่โซ่ลงบนสเตอร์พร้อมข้อต่อโซ่ ตั้งระยะความตึงของโซ่ให้มีระยะความตึงถึงตกท้องช้าง ไม่เกิน 20-30 มม.
จากนั้นขันน๊อตให้แน่นทำความสะอาดคราบน้ำมันที่สวิงอ าาร์มและที่แก้มยางเป็นอันเสร็จสิ้น
( ทุกครั้งที่มีการถอดทำความสะอาดโซ่และเปลี่ยนสเตอร์ค วรที่จะเปลี่ยนข้อต่อโซ่ โอริง และแผ่นบังคับใหม่เสมอ )
เมื่อเอาใจใส่การซ่อมบำรุงรถจักรยานยนต์ก็เป็นเรื่อง ง่ายๆ ที่ใครๆ ก็สามารถที่จะทำได้ด้วยตนเอง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายที่อาจเสียมากกว่าเมื่อเข้าไปห าช่างซ่อม แถมยังรู้อาการของรถด้วย ซึ่งจะทำให้ง่ายต่อการบำรุงรรักษาครั้งต่อไป
Bookmarks