จักรยานใช้เพลา

**wasant** · 01-05-2009, 07:59

เมื่อคืนได้ถอดเฟืองกลางของรถเพลาออกมาดู อันสืบเนื่องมาจากวันที่25 เมษาที่ผ่านมาได้ลองขี่รถแล้วปรากฏว่าเฟืองมันฟรีคือ ถีบแล้วเฟืองหน้าหมุนแต่ไม่ขับเฟืองหลัง สงสัยว่าเป็นอะไร สอบถามกับเจ้าของเดิม ซึ่งก็บอกว่าสงสัยน็อตที่มีอยู่ตัวหนึ่งมันคลายออก ทำให้ไม่สามารถล็อกเฟืองหน้าให้ยึดกับแกนเพลาได้ ผลก็คือเฟืองหน้าหมุนแต่แกนเพลาไม่หมุนตามทีนี้เฟือง หลังที่การทำงานขึ้นอยู่กับแกนเพลา เมื่อแกนไม่หมุน เฟืองหลังที่ยึดกับแกนก็เลยไม่หมุน เป็นประการฉะนี้
หลังจากเมื่อได้ถอดจานเฟืองออกก็พบว่าน็อตคลายออกจริ งๆ อันเกิดจากขันไม่แน่นเมื่อถอยหลังเบรคเพลาที่หมุนถอย ก็เลยกลายเป็นการคลายเกลียวน็อตนั้นไปในตัว เห็นดังนี้แล้วก็เลยจัดแจงหมุนน็อตให้เข้าไปใหม่แต่ก ็ไม่กล้าขันจนแน่นมากนักเกรงว่าเกลียวจะเสียแล้วปัญห าใหญ่จะตามมา เอาแค่ให้รถวิ่งได้พอ ไม่ต้องถอยหลังเบรคมันละใช้ลงรถทีเดียวเลย เพราะขี่ก็ได้ไม่ไวอยู่แล้ว
เลยถ่ายรูปมาให้ชมกันครับ จะได้เห็นกันว่าข้างในมันเป็นอย่างไร กับวิธีคิดของคนเมื่อร้อยปีมาแล้ว

**wasant** · 01-05-2009, 08:05

จะเห็นน็อตอยู่ตัวหนึ่งที่คลายออกมาจนเห็นเกลียวนะคร ับ น็อตตัวนี้ทำหน้าที่ยึดเฟืองให้ติดกับแกนเพลา เมื่อเฟืองจานหมุน เฟืองเล็กหน้าก็หมุนตาม แกนเพลาก็จะหมุน ทำให้เฟืองหลังหมุนตาม ไปขบกับเฟืองล้อหลัง และล้อหลังหมุนในที่สุด วิธีทำงานเป็นแบบนี้ ส่วนแหวนที่เห็นมีขอบแดงๆแอยู่ เป็นแหวนลูกปืนที่สั่งทำขึ้นมาใหม่เพื่อประคองแกนบัน ไดให้อยู่ตรงกลางครับ ของเดิมไม่มีมา
โชคดีอย่างที่เจ้าของเดิมคือคุณต่อ จักรยานได้บูรณะเบื้องต้นมาครั้งหนึ่งแล้ว ทำให้เป็นโชคดีของเราที่มีโอกาสได้เห็นรถหายากแบบนี้ สามารถขี่ขึ้นมาได้อีกครั้ง
ขอขอบคุณ คุณ ต่อ จักรยาน (เชียงใหม่) ด้วยใจจริงครับ

**popclassical** · 03-05-2009, 13:37

สุดยอดเลยครับคุณลุงวสันต์

**MADE IN ENGLAND** · 21-05-2009, 19:36

คล้ายๆกัน

**โจรปล้นใจ** · 21-05-2009, 22:28

โห..รุ่นนี้เป็นรุ่น ที่เจ้าเมืองสวรรคโลก ใช้รึเปล่าครับ

**T13** · 29-05-2009, 18:38

ลองดูครับ

**wasant** · 29-05-2009, 20:35

ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูล คิดว่าน่าจะใกล้เคียงมากที่สุดแล้ว ว่าน่าจะเป็นยี่ห้อโคลัมเบียจากอเมริกา
ขอบคุณอีกครั้งครับ

**wasant** · 29-05-2009, 20:45

............1898 Pope Mfg Columbia Chainless Model 51 (Shaft drive)
1898 Pope Mfg Columbia Chainless (Shaft drive)

A bicycle such as this Lady’s Columbia Chainless has an interesting historical perspective. Advertising at this time was undergoing a revolution: mass production influenced mass marketing. Professional advertising agents made their debut, and advertisers promoted mass consumption of branded goods as the solution to a whole range of real and imagined problems as well as using national pride to re-align purchasing habits.

The bicycle, followed a decade later by the motorcycle and the car, were prime candidates for such promotion. Bicycle ads used a competitive element, as well as other new ideas, such as celebrity endorsement and sponsoring racing teams.

Bicycle advertising also helped boost a new mass media: the magazine. Most of the Pope ads on this page are taken from magazines of the period.

From the 1890s, the American advertising industry started to use images of athletic women to endorse products; this was, in no small part, due to cycling. For the first time, bicycles provided women with a relatively cheap and easy means of transport, and contributed greatly to female emancipation. The Chainless was designed with female riders in mind, as it was cleaner than a chain driven bike and there was no chain to snag a rider’s skirt.

Having bought out or merged with most of their main competitors, Pope Mfg Co was now America’s number one cycle manufacturer. With their advertising budget providing both financial and creative stimulus, ads for Pope bicycles were among the best of the era.

**สุรแผน เพชรน้ำไหล** · 29-05-2009, 22:15

โห แล้ว คุณยายทวด ท่านนี้ ไปไหนมาไหน ถึงได้ ย้ายมาอยู่ นพบุรีศรีนครพิงค์ เชียงใหม่ล่ะครับ

**wasant** · 14-06-2009, 19:53

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีโอกาสคุยกับคุณต่อจักรยาน ซึ่งเป็นคนขายรถคันนี้ให้ คุณต่อเล่าให้ฟังว่าได้ไปสืบหาบ้านที่รถเพลาคันนี้หล ุดออกมา ปรากฏว่ารถคันนี้ออกมาจากบ้านหรือคุ้มของคนในตระกูลช ั้นสูงในเชียงใหม่ ซึ่งเดิมเก็บไว้ในห้องใต้ดิน แต่ปรากฏว่าในระยะเวลาสาม-สี่ปีที่ผ่านมาเกิดน้ำท่วมที่เชียงใหม่ทั่วไปหมด ไม่เว้นแม้แต่บ้านหลังนี้ จักรยานหลายคันรวมทั้งอะไหล่ต่างๆจึงถูกน้ำท่วมอยู่น าน

ต่อมาเมื่อน้ำลด จึงได้สำรวจความเสียหาย รื้อสิ่งที่ชำรุด ของหลายอย่างที่ใช้ไม่ได้แล้วจึงถูกขายออกไปอยู่กับร ้านรับซื้อเศษเหล็กรวมไปถึงจักรยานใช้เพลาคันนี้ก็ถู กนำออกมาด้วย

จากการสอบถามทำให้ทราบว่าทายาทเจ้าของบ้านหลังนี้คนป ัจจุบันเป็นหญิงอายุแปดสิบกว่าปีแล้ว ส่วนจักรยานเป็นของเจ้าพ่อ(บิดา)อีกที

เป็นเรื่องราวและที่มาของรถคันนี้ที่สืบค้นมาได้ ต้องขอบคุณคุณต่อ มา ณ ที่นี้ด้วยครับ