อ่าน : หอมกลิ่นยางมะตอย
                                
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 1 2 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 1 ถึง 15 จากทั้งหมด 25

ชื่อกระทู้: อ่าน : หอมกลิ่นยางมะตอย

  1. #1
    Member bigjohn's Avatar
    วันที่สมัคร
    Oct 2007
    ข้อความ
    290
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    17

    มาตรฐาน อ่าน : หอมกลิ่นยางมะตอย



    หอมกลิ่นยางมะตอ

    ตอน : ทริปแรกของบิ๊กจอห์น “อุปสรรคมีไว้เพื่อทดสอบใจมนุษย์”

    โดย บิ๊กจอห์น

    -1-
    ปีกว่าแล้วที่ได้เจ้าโชกุน เอสอาร์ 400 ซีซี มาไว้ในครอบครอง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เคยได้ออกทริปทางไกลกับเค้าซักที ทั้งที่หาดใหญ่ และภูเก็ต เจ้ารถคันนี้จะว่าดีมันก็ดี จะว่าไม่ดีก็ว่าได้ เรื่องของเรื่องคือซื้อผ่อนมาจากห้างร้านที่กรุงเทพฯ โน่น ไม่มีเงินสดหรอก อาศัยผ่อนเอา ไม่บอกด้วยว่าร้านไหน (เดี๋ยวเค้าเสียชื่อ) ดาวน์ไปสามหมื่น ผ่อนเดือนสามพันกว่า ขนหน้าแข้งไม่ร่วงแต่น้ำหนักลด ผ่อนกันปีนึงพอดี พอครบปีก็เป็นช่วงเปลี่ยนงานย้ายจากหาดใหญ่มาภูเก็ต

    มาอยู่ภูเก็ตเดือนแรก เจ้าโชกุนก็แผลงฤทธิ์ ตอนนั้นกำลังไล่กวด เอ่อ...ฮอนด้าเวฟ! ของเพื่อนที่ขี่ไปทำงานด้วยกัน เพื่อนมันชอบขี่เร็วเลยแซงเราไปก่อน ฮึ เวฟมันจะแรงซักเท่าไหร่กัน ของเราตั้งสี่ร้อยซีซี มวยคนละรุ่น ว่าแล้วก็เทิร์นเกียร์ 4 บิดคันเร่งกะสอนมวยเด็กซะหน่อย บิดคันเร่งนิดเดียวโชกุนขึ้นแซงทิ้งห่างเวฟแบบไม่เห็ นฝุ่น ขณะที่กำลังกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่นั่นเอง

    ครืด! เสียงเครื่องดังทางฝั่งเกียร์ ก้มลงไปดูมีน้ำมันเครื่องทะลักออกมาด้วย เอาแล้วกูงานเข้า เจ้าโชกุนสำแดงอาการทันที เข้าเกียร์ติดๆ ขัดๆ เวฟคันเมื่อตะกี๊ขับตามมาทันพอดี

    “เฮ้ยรถเป็นไร” เพื่อนถาม มันยิ้มด้วย ยิ้มแบบกวนตีน ประมาณว่าหัวเราะทีหลังดังกว่า

    “สงสัยเกียร์พังแล้วว่ะ” เราหน้าถอดสี ยอมรับสภาพ อาการนี้ของเจ้าโชกุนเป็นมานานแล้ว เหมือนคลัชไม่จับหรือจับก็จับไม่ดี คลัชลื่น จะอะไรก็ช่าง ต้องหาร้านซ่อม ตอนนั้นร้านช่างพงศ์เพิ่งย้ายมาอยู่บนถนนเส้นที่เราผ ่านไปทำงานได้ไม่นาน มีรถจอดอยู่ไม่กี่คัน ดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือว่าจะซ่อมเอสอาร์ได้ (อิอิ) เลยไม่สน

    “กูต้องหาร้านที่มีบิ๊กไบค์จอดเรียงหลายๆ คัน รถพวกนั้นสี่สูบรถเราสูบเดียว เค้าซ่อมได้สบายๆ”

    เชิดใส่ร้านช่างพงศ์ แล้วมุ่งหน้าไปร้านบิ๊กไบค์ร้านหนึ่งในภูเก็ต ร้านนี้ถ้าผมเอ่ยชื่อรับรองใครที่อ่านหนังสือภาษาไทย เข้าใจคงไม่อยากไปใช้บริการอย่างแน่นอน อย่าไปเอ่ยถึงแล้วกัน เรื่องซ่อมรถบางทีก็แล้วแต่ดวง เหมือนหาเมียนั่นแหละ (ฮา)

    ช่างผ่าเครื่องออกมาดูแล้วโทรมาบอกว่าแกนคลัชหัก! ต้องเปลี่ยน เราเลยรีบแจ้นไปดู เค้าหยิบแกนคลัชมาให้ดูมันก็มีรอยบิ่นๆ จริง เลยตัดสินใจเปลี่ยนทั้งแกนคลัช แผ่นคลัช สั่งบดวาล์วด้วย เบ็ดเสร็จโดนไปหมื่นแกว่ อิ่มครับพี่น้อง (หมื่นสี่พอดิบพอดี) ซ่อมเสร็จเอามาขี่ก็โอเค หงุดหงิดนิดหน่อยเพราะออกจากร้านยังไปไม่ถึงบ้าน สายคลัชก็ขาดซะแล้ว และวาล์วก็ดังชิบหายเลย เอาไปให้ช่างตั้งใหม่ ก็ยังดังชิบหายเหมือนเดิม ขี่ผ่านไปอีกวัน มองป้ายร้าน..............

    “ฮึ! กูจะไม่มาที่นี่อีกแล้ว”

    -2-
    “เฮ้ยทำไมซ่อมแพงจัง อย่างนี้เปลี่ยนเครื่องใหม่ได้ลูกนึงเลยนะ ไอหยาเสียดายจัง” อ้วนๆ ดำๆ ท่าทางใจดี นั่นแหละช่างพงศ์ของเรา หลังจากได้ฟังเรื่องปล่อยไก่ของเรา แกบ่นพลางสะบัดมือที่บังเอิญไปจับโดนเอาท่อเอสอาร์ร้ อนๆ เข้า

    “ก็ผมไม่รู้นี่ว่ามันจะเป็นแบบนี้ ทำไงได้” เราตอบซื่อๆ ทำตัวให้น่าเห็นใจไว้ก่อน จะได้ไม่โดนช่างฟันหลังเอาอีก

    หลังจากด้อมๆ มองๆ เก๊กท่าอยู่หลายวัน จำนวนเอสอาร์ที่มาจอดเพิ่มขึ้นหน้าร้านช่างพงศ์ ทำให้ร้านดูมีสง่าราศีขึ้นมาทันที เราเลยตัดสินใจขับรถเข้าไปใช้บริการ ช่างพงศ์ให้คิม สันป่าตอง กับมาร์ค เชียงใหม่ ลูกน้องมือซ้ายกับมือขวา เปลี่ยนน้ำมันเครื่องกับตั้งวาล์วให้ใหม่ หลังจากวันนั้นเสียงวาล์วก็เงียบ ไม่เรียกร้องอะไรอีก ช่างพงศ์มีเอสอาร์ด้วยคันหนึ่ง เลยเข้าใจหัวอกลูกค้าเป็นอย่างดี ซ่อมอะไรนิดอะไรหน่อยก็ไม่คิดตังค์ วันดีคืนดีเมียไม่ด่า ก็ซื้อเบียร์มาเลี้ยงเพื่อนเลี้ยงลูกน้อง

    “เค้ากำลังจะตั้งกลุ่มกัน ถ้าสนใจก็มาร่วมได้นะ” ช่างพงศ์บอก
    เราคิดในใจ “น่าตื่นเต้นดีว่ะ” จะได้มีเพื่อนขี่รถไปไหนมาไหนด้วยกัน

    “ใช้ชื่อว่า” ช่างพงศ์ ผายมือฟุ้งเฟ้อ แล้วประกาศผ่างออกมาว่า

    “ภูเก็ตซิงเกิ้ลคลับ!”

    ถ้ามีดนตรีโอเปร่าประกอบซักหน่อย การประกาศชื่อกลุ่มของช่างพงศ์ครั้งนี้ก็คงจะสมบูรณ์ แบบอย่างที่สุด

    “สมาคมคนโสดแห่งเกาะภูเก็ตเหรอ”

    “เย้ยยยย! ไม่ช่ายแบบน้านน รถเอสอาร์เป็นรถสี่ร้อยซีซีแต่มีสูบเดียวลูกใหญ่ เค้าเรียกว่าบิ๊กซิงเกิ้ล ไม่เข้าใจเหรอ ตามให้ทันหน่อย” ช่างพงศ์ อธิบาย

    “อ๋อ แบบว่าสมาคมรถสูบเดียว (หมายถึงเอสอาร์) แห่งเกาะภูเก็ต โอเค ซิงเกิ้ลก็ซิงเกิ้ล”

    “คงมีการนัดรวมตัวกันบ่อยๆ ว่างก็มานะ” ช่างพงศ์ โน้มน้าว หาสมาชิก

    “โอเค ถ้าว่างมาแน่นอน”

    ตั้งแต่วันที่รับปากกับช่างพงศ์ ผ่านไปหลายเดือนผมไม่เคยได้ไปร่วมสมาคมกับเพื่อนๆ ภูเก็ตซิงเกิ้ลคลับเลยซักครั้ง จะเจอกันบ้างก็ตอนเอารถไปซ่อม รู้มาจากช่างพงศ์ว่าในกลุ่มมีสมาชิกเกือบ 50 คัน ส่วนใหญ่เป็นเอสอาร์ 400

    โอวว ช่างน่าตื่นเต้นดีแท้

    -3-
    ขาดการติดต่อกันไปหลายวันมารู้อีกทีช่างพงศ์ ก็ถูกโหวตให้เป็นหัวหน้าแก๊งค์ เอ๊ย หัวหน้ากลุ่มเรียบร้อยโรงเรียนเขารังไปแล้ว สมาชิกกว่า 50 คันลงคะแนนเสียงอย่างเป็นเอกฉันท์ งานแรกที่จะทำคือนำพาเหล่าสมาชิกควบสองล้อเอสอาร์ไปใ ห้ถึงงานเซาเทร์นไบค์ที่เมืองคอน เราถูกทาบทาม (แกมบังคับ) ให้ไปออกทริปกับเค้าด้วย

    “ไปกันซักครั้งเถอะน่า จะย้ายไปหาดใหญ่แล้วไม่ใช่เหรอ” ช่างพงศ์ ท้วง

    “เสาร์-อาทิตย์ ใช่มะ ลองดูก็ได้เดี๋ยวจะขอแลกเวรกับน้องเค้า งั้นพรุ่งนี้จะมาถ่ายน้ำมันเครื่องก่อน”

    เป็นอันว่าการทาบทามเสร็จสิ้น ช่างพงศ์แสดงความยินดีที่สามารถล็อบบี้สมาชิกให้สมยอ มเดินทางไปด้วยกันได้อีกหนึ่งคันด้วยการซื้อเบียร์มา ฉลองอีกครึ่งโหล หลังจากจัดการครึ่งโหลแรกหมดไปเรียบร้อยแล้ว มีร้านซ่อมมอร์ไซด์ไม่กี่ร้านที่เลี้ยงเบียร์ลูกค้าไ ด้ทุกวี่วัน

    “ผมไม่รีบนอนก่อนหรอก มันนอนไม่หลับ ตื่นเต้ลล” ช่างพงศ์ ว่า
    ผมตื่นแต่เช้ารีบยัดของใช้ส่วนตัวใส่เป้ใบเล็ก เสื้อผ้าไม่ได้เอาไป กะว่าชุดเดียวใส่ทั้งไปทั้งกลับ ออกจากบ้านแวะเติมน้ำมันเต็มถัง มุ่งหน้าไปบ้านช่างพงศ์ พบสมาชิกจอดรออยู่แล้ว 4 คนคือ บิ๊ก วิดวะ, ช่างพงศ์, คิม สันป่าตอง และเขาคนนั้น อาจารย์รอมฎอน บังดอน หรือดอน ไสยวน เจ้าของประติมากรรมบนแหลมพรหมเทพ!?! (ฮา)

    บังดอนมาในชุดไบเกอร์รุ่นเก๋าแต่งตัวรัดกุม โดดเด่นด้วยผ้าพันคอพื้นขาว พิมพ์ตัวหนังสือสีเขียว ระบุที่มา “โรงพยาบาลหาดใหญ่”

    “มะพี่ให้มา แกว่าเผื่อเป็นไรไปเค้าได้พาส่งโรงพยาบาลถูก” บังดอน ชี้แจง

    อืมม ดูเหมือนทฤษฎีจะโอเค แต่ในทางปฏิบัติก็คงต้องว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง สมมุติบังดอนล้มรถที่กระบี่ ถ้าจะให้เป็นไปตามที่มะวางแผนไว้ มูลนิธิจะต้องหามแกไปส่งที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ เท่านั้น! ถึงตอนนั้นบังยังจะอยู่ดีหรือเปล่า คงต้องติดตามกันต่อไป แต่ออย่าให้เกิดเหตุร้ายขึ้นเลย บิสมินลา นะโม อาเมน......เพี๊ยงง

    “พี่คงไม่ได้ไปด้วย แต่เดี๋ยวจะไปส่งให้ไกลที่สุดเท่าที่ทำได้” บังดอน เจ้าของประติมากรรมบนแหลมพรหมเทพ แสดงเจตนารมณ์
    เมื่อทุกอย่างพร้อมเราเดินทางทันทีหมายแรกอยู่ที่ปั๊ มน้ำมันบนถนนบายพาสต์ ที่นั่นเราพบเพื่อนใหม่อีก 3 คน มีปิ๊ก ป่าตอง, เสี่ย ป่าตอง, และพี่บอย คลับแมน เติมน้ำมันเสร็จก็ออกเดินทางกันทันที ผมกับบิ๊ก วิดวะ มุ่งหน้าไปก่อนตามคำสั่งหัวหน้าทีมที่บอกว่ามีเพื่อน อีกคนหนึ่งรออยู่แถวบ้านพอน บิดกันไปจนถึงไม้ขาวแล้วก็ไม่พบใคร ช่วงนี้เองที่เจ้าโชกุน เริ่มมีอาการ

    “กึ๊ก!” มือบีบคลัชอ่อนยวบ เป็นสัญญาณให้รู้ว่าสายคลัชขาด เหลือติดอยู่อีกนิดเดียว ยังพอประคองไปได้

    ไม่นานเพื่อนๆ ก็ตามกันมาทัน สมาชิกใหม่ที่เพิ่มมาอีกคันคือบังฉัตร บางเทาผมรีบขี่แซงขึ้นหน้า แม้สายคลัชจะขาดมิขาดแหล่ แต่เจ้าโชกุนก็วิ่งได้มันส์ถึงใจจริงๆ การออกทริปครั้งแรกในชีวิตชักจะน่าตื่นเต้นเข้าไปทุก ทีแล้ว ถึงทางแยก อย่างไม่ลังเลผมพุ่งตรงไปข้างหน้า แต่... คันอื่นเค้าไปอีกทาง หลงว่ะ ต้องยูเทิร์นกันอีกไกล มีสมาชิกรออยู่ 3 คันตามมาทันก็บิดกันต่อ ไปถึงในตลาดพังงาถึงได้หาสายคลัชมาเปลี่ยน ไปได้ของรุ่นไหนไม่รู้ เอามาต่อใส่ตัวล็อค ใช้แก้ขัด ถึงพังงาจึงได้รู้ว่าลืมกระเป๋าตังค์กับบัตรเอทีเอ็ม ไว้ที่บ้าน ในกระเป๋ากางเกงมีไม่กี่บาท สงสัยต้องหาหยิบยืมใครก่อน เฮ้อออ ทริปแรกอุปสรรคมากมายดีแท้....

    คิม สันป่าตอง เป็นคนใส่สายคลัชให้ ทดสอบแล้วใช้งานได้ดี เสียเวลาไปเกือบสองชั่วโมงถึงได้ไปต่อ แต่ออกจากปั๊มมาไม่ไกลตัวล็อคสายคลัชก็หลุดอีก โชคดีที่มันไม่หล่นหายไปบนถนน คราวนี้บังดอน เจ้าของประติมากรรมบนแหลมพรหมเทพ รับอาสาขันให้จนแน่น จึงได้เดินทางกันต่อ

    “ขอโทษด้วยทุกคน ที่ทำให้เสียเวลา” ผมบอกเพื่อนๆ

    “เฮ้ย ไม่ใช่ปัญหา เหตุสุดวิสัย ไปต่อกันดีกว่า” รู้สึกเสียงนี้จะมาจากช่างพงศ์

    ผมเพิ่งมานึกตรงนี้ว่าบังดอน เจ้าของประติมากรรมบนแหลมพรหมเทพ บอกว่าแค่จะมาส่งแต่ไหงยังไม่ยอมกลับ ถามดูจึงรู้ว่าทนความยั่วยวนของกลิ่นยางมะตอยไม่ไหวเ ลยโทรไปที่แหลมพรหมเทพ แจ้งข่าวว่าวันนี้ให้ดวงอาทิตย์ตกน้ำล่วงหน้าไปก่อนไ ม่ต้องรอเขา (ฮา)

    เราขี่กันเร็วบ้างช้าบ้างตามสภาพถนน เสียงเอสอาร์กระหึ่มอย่างกับฝูงบินเฮลิคอปเตอร์ ผ่านไปทางไหนผู้คนก็หันมองด้วยความชอบใจ (บางคนอาจหมั่นใส้) เราขี่ตามหลังบังดอน เห็นผ้าพันคอโรงพยาบาลหาดใหญ่ปลิวไสวไปกับแรงลมที่มา ปะทะ แม้แดดจะร้อนแต่ลมก็พัดเย็นสบายไม่อบอ้าว เอสอาร์ที่ใครหลายคนบอกว่ามันหยาบกระด้าง เครื่องสั่น ขี่แล้วเหนื่อย เอาเข้าจริงๆ ก็ปกติ ธรรมดา ถ้าไม่เคยขี่รถสี่สูบมาก่อนก็ไม่เห็นว่ามันจะสั่นมาก มายตรงไหน ส่วนเครื่องเมื่อได้ขี่ปะทะกับลมอย่างเต็มที่ก็ไม่ได ้ร้อนเหมือนกับเวลาขี่ในเมือง คนที่ว่าเอสอาร์ ทั้งสั่น ทั้งกระด้าง น่าจะเป็นพวกที่ใช้รถสี่สูบจนชินกับความนิ่มมากกว่า

    “ขี่สี่สูบเหมือนขี่เก๋ง แต่ขี่เอสอาร์ เหมือนควบม้า มันมันส์กันคนละแบบ” ใครคนหนึ่งว่าไว้

    ก่อนถึงทางลัดไป อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีฯ รถบังดอนมีวัตถุบางอย่างตกกลิ้งหลุนๆ ลงมาจากรถ ผมตามหลังเห็นไม่ถนัดว่าเป็นอะไร บางทีบังแกอาจขี่ไปเหยียบลูกยางก็เป็นได้ แต่พอขี่ไปได้สักระยะ บังดอนรีบชะลอรถ ผมมองไปที่ล้อหลัง มันมีอาการแกว่งๆ ยังไงชอบกล

    “รถเป็นไรบัง” เราถาม

    “ไม่รู้สิ มันส่ายจังว่ะ” บังดอน เจ้าของประติมากรรมบนแหลมพรหมเทพ ตอบ

    “ดูนั่น” ใครคนหนึ่งชี้ที่ไปที่แกนสวิงอาร์มด้านซ้ายของตัวรถ มันโผล่ออกมาเกือบคืบ ไปดูด้านขวา น็อตยึดตัวใหญ่อันตรธานไปเสียแล้ว ที่เข้าใจว่าเป็นลูกยาง จริงๆ แล้วเป็นน็อตยึดสวิงอาร์มของบังดอนแกนี่เอง

    ผมหาก้อนหินมาตอกให้สวิงอาร์มกลับเข้าที่ แล้วไปต่อ แต่คราวนี้บังดอนไม่กล้าบิดแล้ว เพราะสำรวจดูแล้วแรงสั่นสะเทือนของรถ เล่นเอาน็อตจับคอหลวมไปเลย โชคดีขี่ไปไม่ไกลเจอร้านซ่อมสิบล้อ ช่างหาน็อตขนาดเดียวกันมาใส่แทนให้ ยิงบ๊อกลมให้อย่างเหนียวแน่น

    “ยิงบ๊อกลมอย่างนี้ผมขี่ไปอีกสิบปีรับรองไม่มีห ลวม” บังดอน เจ้าของประติมากรรมบนแหลมพรหมเทพ กล่าวอย่างภาคภูมิใจ

    เส้นทางที่เราผ่านก่อนถึงตัวเมืองนครศรีธรรมราช แวดล้อมไปด้วยสภาพป่าเขาอุดมสมบูรณ์

    “อลาสก้า” ใครคนหนึ่งว่า แต่มันคือ อ.ลานสกา อำเภอที่มีโอโซนร้อยเปอร์เซนต์ ภูเขาที่นี่สวยงามมาก ถนนราบเรียบ เราขี่กันจนเพลินไม่นานก็ไปถึงเมืองคอน

    เมืองคอนยามนี้มีแต่รถบิ๊กไบค์เต็มเมือง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเด็กๆ และชาวบ้านที่มาออกันบนสองข้างทาง เรารีบไปลงทะเบียนแล้วเลยไปหาที่พัก อาบน้ำอาบท่าเสร็จจึงเข้าไปร่วมในงาน พอเอารถไปจอดไบเกอร์ทั้งหลายก็เตร่เข้ามาดูเอสอาร์ขอ งกลุ่มเราอย่างสนใจโดยเฉพาะโอลด์สคูลของคิม สันป่าตอง และของบังฉัตร บางเทา

    งานในคืนนั้นผ่านไปได้ด้วยดีทุกอย่าง มี อส.เป็นกองร้อยมาคอยดูแลความสงบ สาวๆ ในงานส่วนใหญ่ล้วนซ้อนท้ายมากับไบเกอร์หน้าโหด เลยไม่มีใครกล้าแซวเพราะไม่มั่นใจว่าบู๊ทที่พี่แกสวม มาอาจจะพุ่งมากระแทกคางหรือพุงกะทิเอาได้ ความซวยเลยมาตกที่สาวเชียร์เบียร์สิงห์ ภูเก็ตซิงเกิ้ลคลับ ผลัดกันแทะโลมหาเศษหาเลยกันอย่างสนุกสนาน และจบลงด้วยการขวัดด้งเปล่า! วืด แห้ว แป่ว แหว่ว แหว่ว....

    เราออกจากงานไปตอนเกือบเที่ยงคืน ไปหาร้านนั่งดื่มต่อ ร้านแรกที่ไปถึงชื่อร้านแสงจันทร์ บอกว่าเป็นผับเพลงเพื่อชีวิต แต่เปิดเพลงแด๊นซ์เสียงดังสนั่นหวั่นไหว หนุ่มเหน้าสาวสวยโยกหัวส่ายเอวกันแน่นร้าน
    “พี่ได้กลิ่นคาวเลือด” บังดอน เจ้าของประติมากรรมบนแหลมพรหมเทพ พูดออกมาหลังจากสำรวจบรรยากาศเรียบร้อยแล้ว

    “งั้นเปลี่ยนร้าน” เราเชื่อในสัญชาตญาณของดอน ไสยวน อีกฉายาหนึ่งของบังดอน เจ้าของประติมากรรมบนแหลมพรหมเทพ เลยพากันไปนั่งดื่มอีกร้านหนึ่งชื่อร้านมอร์แกน บรรยากาศสบายๆ แต่ดนตรีเลิกเล่นไปแล้ว ดื่มกันได้ไม่นานร้านก็ต้องปิด เลยพากันกลับที่พัก

    คืนนั้นสมาชิกภูเก็ตซิงเกิลคลับ นายหนึ่ง ผู้ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา เก็บการขวัดด้งเปล่า วืด แห้ว แป่ว แหว่ว แหว่ว... ใส่ลงกระเป๋าซ้าย ล้วงกระเป๋าขวาพบว่ายังเหลือตังค์อีกมาก เลยงัดแผนสองมาใช้

    “เท่าไหร่” เขาถามชายหนุ่มที่รู้ภายหลังว่าเป็นแมสเซ็นเจอร์

    “พันแปด” เขาตอบและว่า “ถ้านวดอย่างเดียวสองชั่วโมงห้าร้อย”
    “โอเค ไปเอามาดู”

    สุดสิ้นเสียงสั่ง ไบเกอร์หนุ่มเดินปรี่เข้าห้องพักอย่างผู้กำชัยชนะ เสียงเรียกร้องในหัวใจดังกังวาลออกมาเป็นภาษาคน

    “กูกำลังจะถึงนครศรีธรรมราชแล้วโว้ยยย ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

    อีกด้านหนึ่งหลังจากวางสายโทรศัพท์ที่แมสเซ็นเจอร์ติ ดต่อเข้ามาแล้ว สาวจากดินแดนแห่งที่ราบสูงก็เอ่ยกับเพื่อนร่วมหอด้วย ความปรีดา

    “ให่มั้นได่จั๊งซี่เด๊ ง่านรถใหญ่นี่มันม่วนหลาย โซคดีแท้น้ออีหล่าเอ๊ยยยยย กูไป๋ละ แขกร่ออยู่ บ๊าย บายยยยย”

    -4-
    เราตื่นนอนกันแต่เช้า วันนี้แดดดีเหลือเกิน เจอแดดแบบนี้หากไม่เรียกไข่ลวกมาบำรุงเสียบ้าง คงเข่าอ่อนพังพาบ ไม่มีแรงถีบคันสตาร์ทรถใหญ่อย่างเอสอาร์

    ผมเล่นกาแฟ ขนมปัง กับน้ำส้มที่โรงแรมจัดไว้ให้ ทำธุระส่วนตัวกันเสร็จกินข้าว เติมน้ำมัน แล้วออกเดินทางเอาเมื่อเกือบเที่ยง แวะถ่ายภาพหน้าคุกโบราณกลางเมืองนครศรีฯ แล้วมุ่งหน้ากลับภูเก็ตโดยใช้เส้นทางเดิม

    เจ้าโชกุน ของผมยังทำหน้าที่ของมันได้ดี แม้สายคลัชจะค่อนข้างตึงไปหน่อย ก็ไม่มีทีท่าว่าจะมีปัญหาอะไร เราขี่ตามกันไปแบบไม่เร่งรีบ แวะเล่นน้ำตกที่ อ.ลานสกา ชื่อน้ำตกกะโรม สายน้ำที่เย็นเฉียบเรียกความสดชื่นกลับคืนมาได้อย่าง ดี เราปล่อยเวลากันที่น้ำตกไปถึงสองชั่วโมง จึงออกเดินทางต่อ ขึ้นถนนสายเอเชียแวะปั๊มน้ำมันก็มาพบกับทีมงานช็อปเป อร์ของฮกซิ่ว คนใหญ่คนโตแห่งเกาะภูเก็ต แวะทักทายกันซักพักก็ตกลงว่าจะขี่เกาะกลุ่มกลับภูเก็ ตพร้อมๆ กัน

    ช่างพงศ์ให้ผมขี่ตามกลุ่มช็อปเปอร์ไปก่อน มีผม บังดอน เจ้าของประติมากรรมบนแหลมพรหมเทพ และบิ๊ก วิดวะ เอสอาร์สามคันที่ตามกลุ่มช็อปเปอร์ไป ถนนช่วงทุ่งสง – เวียงสระ ค่อนข้างขรุขระ แต่เราก็บิดกันจนไม่ลืมหูลืมตา ขี่ไปประมาณ 20 กว่ากิโล พี่บ่าว ผู้นำทีมก็เข้าเทียบข้างทาง หันไปข้างหลังยังไม่เห็นกลุ่มช่างพงศ์ตามมา

    “เรามาเลยทางลัดไปแล้วว่ะ เอาไงดี” พี่บ่าวบอก

    ผมพยายามโทรหาช่างพงศ์แต่ติดต่อกันไม่ได้ ถ้าจะไปเส้นเซาเทิร์นซีบอร์ด ซึ่งเป็นทางตรงยาว ก็กลัวน้ำมันในถังจะไม่พอ เลยต้องวกกลับขี่ตามช่างพงศ์กับทีมงานไปทาง อ.ทุ่งใหญ่ บนถนนเอเชียช่วงนั้น มีรถบัสพุ่งชนกับรถเก๋งสองคันและมาอัดกันอยู่ในร่องถ นน ไม่รู้ว่าจะมีใครเป็นอะไรบ้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจและมูลนิธิยังมาไม่ถึง แต่ไทยมุงแสตนด์บายอยู่แล้วหลายสิบคน

    เรารีบขี่ตามกลุ่มช่างพงศ์ไปตามเส้นทางทุ่งใหญ่ – เขาพนม โดยไม่รู้ว่าช่างพงศ์คิดว่าเราแซงหน้าไปแล้วเลยบิดคั นเร่งไล่ตามไปเต็มที่เหมือนกัน กลายเป็นว่าเรายิ่งบิดตามช่างพงศ์ก็ยิ่งบิดหนี แล้วเมื่อไหร่จะทันกันเนี่ย? แต่สภาพถนนค่อนข้างเรียบเลยทำความเร็วได้ดี ก่อนถึงเขาพนมประมาณ 15 กิโลเมตร เจ้าโชกุนส่งเสียงดังฟี๊ด คล้ายเสียงยางรั่ว พริบตาเดียวเสียงโซ่ดังครืดตามมาหนึ่งครั้ง สิ้นเสียงนั้น ล้อหลังของโชกุนล็อคตายทันที ความเร็วกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ท้ายมันส่ายไปทางขวา ขวางกับถนน ผมเกร็งข้อแขนตั้งหัวรถให้ตรง โชกุนปัดท้ายมาซ้ายอีกที “กูไม่รอดแน่คราวนี้” ผมคิดในใจ ความเร็วรถลงลงนิดหน่อยแต่ยังส่ายแซ่ด แซ่ด แซ่ด กลิ่นยางล้อรถบดกับถนนโชยมาเข้าจมูก ควันขึ้นโขมง แล้วเจ้าโชกุนก็สิ้นฤทธิ์อยู่ตรงนั้น มันตายในหน้าที่แต่ผมปลอดภัย ไม่มีแม้รอยขีดข่วน นึกขอบคุณเจ้ารถคันนี้ที่ยังมีความสมดุลไม่ล้มคว่ำให ้เราต้องเจ็บตัว หันไปด้านหลังสมาชิกกลุ่มช็อปเปอร์เบี่ยงหลบและเข้าจ อดข้างทางห่างออกไปช่วงเสาไฟฟ้า

    “โก ฝีมือว่ะ คิดว่าจะล้มคว่ำลงแล้ว” โกเอก สมาชิกกลุ่มช็อปเปอร์ เอ่ยขึ้น

    “ไม่รู้ฝีมือหรือดวง สงสัยหลวงปู่ทวดคุ้มครอง” ผมเอามือคลำหลวงปู่ทวดรุ่นหลังเตารีดที่อยู่ในกระเป๋ าเสื้อแจ๊คเก็ตด้านซ้าย เราลองถอดฝาครอบสเตอร์หน้าของโชกุนออกมาดูเพื่อหาสาเ หตุที่ล้อล็อคกระทันหัน แต่ไม่พบอะไรผิดปกติ สันนิษฐานว่าเกียร์ติดจากสาเหตุอะไรสักอย่าง บีบคลัชสตาร์ท เครื่องยังติดดีแต่เข้าเกียร์ไม่ได้ เอาไงล่ะทีนี้

    “คงต้องจอดรถไว้ที่นี่ก่อนแล้วค่อยหาปิคอัพมาขน ” ฮกซิ่ว คนใหญ่คนโตแห่งเกาะภูเก็ตบอก หลังจากโทรไปตามรถเซอร์วิสแล้วพบว่าอยู่บนถนนเซาเทิร ์นซีบอร์ด ห่างออกไปคนละทิศ

    ผมคิดไม่ตก ถ้ากลับภูเก็ตก่อนก็ต้องหาถมาขนอยู่ดี ถ้าหารถมาขนเสียตอนนี้เลยจะเอารถใคร คำนวณระยะทางดูแล้วเลยตัดสินใจโทรหาเพื่อนรักที่บ้าน ส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ฯ ให้มาขนให้ เพื่อนรับปากว่าจะมาขนให้ ระหว่างที่รอก็เล่นมาม่ากันไปพลางๆ ผมดื่มเบียร์คลายเครียด ปลงตกกับปัญหาที่เกิดขึ้น

    พวกเราทั้งกลุ่มช็อปเปอร์และภูเก็ตซิงเกิ้ลคลับ และแม้แต่กลุ่มอื่นๆ ที่
    เลือกที่จะโลดโผนไปบนถนนสายลูกผู้ชาย หลายคนคงผ่านพบอุปสรรคลักษณะนี้กันมามากมายทั้งในขณะ ที่เหยียบอยู่บนโลกหรือนั่งอยู่บนอาน แม้จะเป็นทริปแรกแต่ก็พอเข้าใจได้ว่า วิถีแห่งสองล้อ ไม่มีช่องให้เราท้อแท้ มีแต่ต้องเตรียมใจยอมรับปัญหาเฉพาะหน้า หาทางแก้ไขให้ผ่านไปได้ มันเป็นรสชาติของชีวิต ชาวสองล้อคงไม่มีใครหันหลังให้อุปสรรค มีแต่จะกระโดดขึ้นบนอาน ติดเครื่อง แล้วควบทะยานพุ่งเข้าไปหามัน มันจะซักเท่าไหร่กันเชียว...

    ระหว่างที่รอเพื่อนมารับ พี่บ่าว ติ่ง และบังดอน ที่ขี่เลยไปหลายกิโลเมตรวกกลับมาสมทบ ผมอุ่นใจและประทับใจที่เพื่อนพ้องน้องพี่นับสิบคนมาอ ยู่เป็นเพื่อน ในยามที่เรามีปัญหามีอุปสรรค กำลังใจคือสิ่งสำคัญ มันเหมือนชาเย็นแก้วโตที่มอบให้เราขณะกำลังหลงทางอยู ่ในในทะเลทรายที่ร้อนระอุ

    ช่างพงศ์ โทรมาแจ้งว่ารออยู่ที่ปั๊มแห่งหนึ่งใน จ.กระบี่

    “บอกแล้วว่าอย่าไปยิกกับฮาเล่ย์ฯ” ช่างพงศ์ กระเซ้ามาตามสาย และบอกว่าจะคอยอยู่ที่นั่นจนกว่าเราจะออกเดินทางไปพร ้อมๆ กันได้ ผมทั้งเกรงใจและอุ่นใจ บอกไม่ถูก แต่รู้สึกดีมากๆ คำว่าเพื่อนพ้องน้องพี่ มีความหมายลึกซึ้งมากกว่าแค่พูดให้ดูเท่ห์

    คอยอยู่พักใหญ่กว่าเพื่อนจะมาถึง เพราะเส้นทางที่เขาเดินทางมามีฝนตกหนัก ทักทายกันพอหอมปากหอมคอเพราะไม่ได้พบกันนานแล้ว เรายกโชกุนขึ้นปิ๊กอัพ เพื่อนบอกว่าไปส่งได้แค่ที่บ้านเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ บ้านแม่ยายเขา จากนั้นจะขนใส่รถอีกคันให้น้องเมียเขาไปส่งให้ถึงภูเ ก็ต เขาติดงานไปไม่ได้ แต่แค่นี้ผมก็ซาบซึ้งใจมากแล้ว

    ช่วงนั้นมีฝนตกหนัก สมาชิกภูเก็ตซิงเกิ้ลคลับและกลุ่มช็อปเปอร์ของฮกซิ่ว คนใหญ่คนโตแห่งเกาะภูเก็ต ต่างเปียกปอนไปตามๆ กัน นึกรู้สึกผิดที่ทำให้คนอื่นต้องเสียเวลาจนมาถูกฝนกระ หน่ำใส่

    เปลี่ยนรถเสร็จผมตามสมาชิกไปทันที่ จ.พังงา ทุกคนเปียกปอนไปตามๆ กัน แต่มือยังไม่คลายจากคันเร่ง ร่างกายยังแนบแน่นกับมอร์ไซด์คู่ใจ... โอลด์สคูลสองคัน น้ำกระฉูด ทั้งด้านหน้าด้านหลัง เพราะไม่มีบังโคลน รถพี่บ่าวน้ำเข้าคาร์บู ทุกคนต้องประคองกันไปให้ถึงบ้าน....อุปสรรคมีไว้ทดสอ บใจมนุษย์ และพวกเค้าสอบผ่านทุกคน!

    ผมให้รถปิคอัพขับตามหลังเพื่อนๆ ไป เผื่อใครมีปัญหาจะได้ช่วยกันดูแล รถข้ามสะพานสารสินมา กลุ่มชอปเปอร์ของฮกซิ่ว คนใหญ่คนโตแห่งเกาะภูเก็ต บอกให้ภูเก็ตซิงเกิ้ลคลับล่วงหน้าไปก่อน เค้ามีปัญหากับรถนิดหน่อยแต่แก้ได้ ไม่มีปัญหา เราเลยมุ่งหน้าไปก่อน ทางเข้าเมืองภูเก็ต ฝนไม่ตกถนนแห้ง ภูเก็ตซิงเกิ้ลคลับกลับมาเริงร่ากันอีกคำรบ อากาศเปิดฝูงบินก็คำรามอีกระลอก อิจฉาเพื่อนๆ ที่ได้ขี่รถไปจนถึงบ้าน นึกขึ้นได้เลยคว้ากล้องถ่ายรูปโดดขึ้นท้ายปิคอัพคอยบ ันทึกภาพให้เพื่อนๆ ขณะกำลังซิ่งรถกัน ทำตัวให้เป็นประโยชน์ชดเชยที่ทำให้ทุกคนพากันเสียเวล า

    ตามปกติภาพขณะกำลังขี่รถกันอยู่คงหาดูได้ยาก เพราะไปเดี่ยวไม่มีคนซ้อน แล้วจะมีใครถ่ายให้ พอเห็นแสงแฟลชวูบวาบไปที่รถทีละคัน ทีละคัน สมาชิกเลยแอ๊คกันใหญ่ ชอบใจกันพอสมควร

    เหลืออีกนิดเดียวจะถึงบ้านแล้ว ตรงแยกไฟแดงหน้าห้างเซ็ลทรัล สมาชิกกลุ่มยังไม่ทันจอดสนิทดี จากไฟแดงก็เปลี่ยนเป็นไฟเขียว เลยออกตัวบิดกันต่อ ปิ๊ก ป่าตอง ฉีกออกมาขวา ขณะที่คันอื่นฉีกไปซ้าย รถตู้ที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงบีบแตรลั่น อีกไม่กี่คืบจะปะทะเข้ากับท้ายรถของปิ๊ก ป่าตอง ผมมองตามหลังไปด้วยความระทึกในดวงหทัย แต่ปิ๊ก ป่าตอง ทำบุญมากับรถเลยรอดไปอย่างหวุดหวิด

    ถึงร้านช่างพงศ์ ยกเจ้าโชกุนลงแล้วแยกย้ายกัน ผมรีบกลับบ้านเพราะน้องที่มาส่งต้องตีรถกลับกระบี่ ขอบอกขอบใจกันแล้ว ให้ของที่ระลึกไปนิดหน่อยเป็นสินน้ำใจ จึงกลับสู่สภาพปกติ โจทย์ที่ต้องคิดต่อคือจะทำยังไงกับโชกุน

    เช้าวันต่อมาช่างพงศ์ แจ้งว่าเกียร์มีปัญหา คงมาจากปั๊มน้ำมันเครื่องเสีย น้ำมันเครื่องเลยไม่หมุนเวียน จนทำให้เกียร์พัง เป็นผลมาจากความสะเพร่าของช่างในการผ่าเครื่องครั้งแ รก หมดไปหมื่นสี่ขี่ได้ไม่ถึงปี พัง!

    ผมตัดสินใจเปลี่ยนเครื่องใหม่เพราะไม่อยากมาตามแก้ปั ญหากันอีก ช่างพงศ์แสดงน้ำใจด้วยการช่วยซื้อเครื่องเก่าเก็บไว้ ศึกษาปัญหา ทำให้เบาใจกับค่าใช้จ่ายลงได้หน่อย ส่วนเครื่องใหม่จะเป็นยังไง รอลุ้นกันอีกที

    ทริปแรกของผมมีหลากหลายรสชาติ จนถึงตอนนี้ก็ยังประทับใจไม่รู้ลืม แม้จะพบเจอปัญหาต่างๆ นานา แต่ไบเกอร์ทุกคนไม่ท้อ ดังที่เออร์เนสต์ เฮมมิ่งเวย์ นักเขียนผู้เรืองนามกล่าวไว้ในงานเขียนของเขาเรื่อง ดิโอลด์แมน แอนด์ เธอะ ซี ที่ว่า

    “ทำให้มนุษย์ตายได้ แต่ทำให้มนุษย์ยอมแพ้ ไม่มีทางทำได้”

























    รูป รูป    
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย bigjohn : 22-08-2009 เมื่อ 10:30

  2. #2
    Senior Member Bluepeaze's Avatar
    วันที่สมัคร
    Mar 2009
    สถานที่
    Phuket Single Club
    ข้อความ
    406
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    16

    มาตรฐาน

    สุดยอด!!!!!!!!!
    ปิ๊ก Phuket Single club

    [email protected]

    Tel. 081-415 5858

  3. #3

    วันที่สมัคร
    Feb 2007
    สถานที่
    phuket single club
    อายุ
    14
    ข้อความ
    501
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 1 ครั้ง ใน 1 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    18

    มาตรฐาน

    โห้ แอบไปพิม ที่ไหนเนี้ย ยาว จัง 555 อ่านกัน ครึ่งวัน 555

  4. #4
    Member bigjohn's Avatar
    วันที่สมัคร
    Oct 2007
    ข้อความ
    290
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    17

    มาตรฐาน

    โทษทีครับพี่โหน่ง กะจะเขียนแบบเรื่องสั้นน่ะครับ อ่านแล้วเป็นไงวิจารณ์ด้วยคร้าบบบบ

  5. #5
    Senior Member angclassic's Avatar
    วันที่สมัคร
    Aug 2007
    สถานที่
    Tantalum Phuket
    ข้อความ
    2,353
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 1 ครั้ง ใน 1 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    19

    มาตรฐาน

    สุดยอดจริงๆ
    กับ ภูเก็ต ซิงเกิล คลับ

    Tantalum Phuket Classic Club !!
    Love Ska

  6. #6
    Street Biker pup87's Avatar
    วันที่สมัคร
    Jan 2006
    สถานที่
    Sup148 Motor Guru
    ข้อความ
    1,757
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    20

    มาตรฐาน

    รูปน้อยไปเยอะเลยครับ
    """"""""""""YOU KNOW ME ALITTLE GO"''''''''''''''"""
    ประจวบคีรีขันธ์ เมือง 3 อ่าว

    อ่าวน้อย อ่าวประจวบ อ่าวมะนาว

  7. #7
    Junior Member
    วันที่สมัคร
    Feb 2009
    ข้อความ
    38
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    0

    มาตรฐาน

    เสียดายไม่ได้ไป

  8. #8
    Member bigjohn's Avatar
    วันที่สมัคร
    Oct 2007
    ข้อความ
    290
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    17

    มาตรฐาน ชาวแก๊งค์

    ชาวแก๊งค์













    รูป รูป    
    วันจันทร์ควรดื่มเหล้า วันอังคารด้วย
    วันพุธก็ไม่ควรเว้น รวมทั้งวันพฤหัสและวันศุกร์
    วันเสาร์จำเป็นจะต้องดื่ม และวันอาทิตย์ จำเป็นยิ่งกว่า!

  9. #9
    uno555's Avatar
    วันที่สมัคร
    Oct 2008
    สถานที่
    ( MO_SO ) Club
    ข้อความ
    1,897
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 1 ครั้ง ใน 1 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    17

    มาตรฐาน

    เพื่อนๆสวัสดิ์ครับ สวยงามครับน่าสนุกจัง เออBIGรถนายไปไหนว่ะ
    เหลือแต่คน

  10. #10
    Junior Member pipe77's Avatar
    วันที่สมัคร
    Jul 2009
    ข้อความ
    58
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    15

    มาตรฐาน หลงเข้ามา

    เขียนดีจัง อ่านสนุกมาก สำนวนเหมือนมืออาชีพ

  11. #11
    MH8 thaha_ie's Avatar
    วันที่สมัคร
    Feb 2009
    สถานที่
    Klong 6 Thanyaburi
    ข้อความ
    28
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    0

    มาตรฐาน

    สุดยอดเลยครับ...ภูเก็ตซิงเกิลคลับ.........em90

  12. #12
    Senior Member sia cafe's Avatar
    วันที่สมัคร
    Aug 2009
    สถานที่
    CLASSIC IRON
    ข้อความ
    497
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    15

    มาตรฐาน

    มีผมทางอ้อมด้วย

  13. #13

    มาตรฐาน มันเยี่ยมจิงๆ

    สำนวนสุดยอด อ่านแล้วทั้งสนุก น่าติดตาม มองเห็นภาพ เยี่ยมจริงๆครับ em90em90em90
    ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน
    ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา

  14. #14
    Member bigjohn's Avatar
    วันที่สมัคร
    Oct 2007
    ข้อความ
    290
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    17

    มาตรฐาน

    เสี่ย ร้อนตัวอ๊ะป่าววววววว หุหุหุ
    วันจันทร์ควรดื่มเหล้า วันอังคารด้วย
    วันพุธก็ไม่ควรเว้น รวมทั้งวันพฤหัสและวันศุกร์
    วันเสาร์จำเป็นจะต้องดื่ม และวันอาทิตย์ จำเป็นยิ่งกว่า!

  15. #15
    Senior Member
    วันที่สมัคร
    Jun 2009
    ข้อความ
    445
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    15

    มาตรฐาน


    ยินดีได้รู้จัก โจ๊ก(หาดใหญ่)081-898-1738













    รูป รูป  

หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 1 2 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย

Bookmarks

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •