ภาพนี้ก็ถ่ายบริเวณที่เค้าจัดงานครับ จะอยู่แถวบ้านแป๊ะติ๋ว ว่าแต่ทำไมจอดอยู่คันเดียวเนี้ย เพื่อนๆที่นัดกันไว้เมื่อไหนจะมาเนี้ย em89
div>
ยังนึกๆถึงแปะติ๋วอยู่เลย เมื่อก่อนสมัยไปอยู่ที่ภูเก็ต จะเที่ยวไปแวะหาแกเกือบๆทุกวันอาทิตย์ ดูท่าทางคงจะยังแข็งแรงดีนะครับ
ส่วนโกลิปที่ว่าไม่รู้ว่าจะใช่คนๆนึงที่ชอบปั่นจักรย านเฮอคิวลิสเพลทรูปคนยืนแบบนี้ ที่มีหัวไฟกลมๆขัดซะทองเหลืองวาวไปทั้งใบหรือเปล่า เห็นแกชอบปั่นจักรยานไป-มาๆแถวๆตลาดกับตลาดซอยหล่อโรง เคยไปแวะหาแกทีนึง ตอนนั้นอยากได้ซันบีม26"หญิง แกบอกว่าเคยมี ไม่รู้ว่าใช่คนเดียวกันหรือเปล่า อายุน่าจะห้าสิบได้แล้วนะ....
ส่วนหมุดเพลทเฮอคิวลิส พี่สงสัยว่าทำไมหมุดของรถ26"พี่มันไม่เหมือนกับในรูป นะที่เป็นรถ28" ของพี่มันเป็นอลูมิเนียม จะว่าเอาเพลทที่อื่นมาตอกหมุดใส่ใหม่ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะรถพี่ตามข่าวมาตั้งแต่พบอยู่ที่ถลางแล้ว เพลทมันมีตั้งแต่ตอนที่เห็นรถ ถามเพื่อนๆก็บอกว่ามันมาแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้ว และรถบีเอสเอ26"ของพี่ก็เป็นหมุดอลูมิเนียมเหมือนกัน ซึ่งรถก็สันนิษฐานว่าอายุก็คงพอๆกัน ก็เลยงงๆอยู่
แต่ถ้าสังเกตให้ละเอียดอีกนิดนึง จะพบว่าลักษณะเนื้อเพลทจะไม่เหมือนกัน รถของโกลิปเพลทจะออกเป็นทองเหลืองอย่างชัดเจน ส่วนรถของพี่เพลทมันจะออกแนวผสมทองแดงนะครับ เป็นจุดที่น่าสังเกตจุดหนึ่ง ไว้เป็นข้อมูลครับ..
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย wasant : 01-03-2007 เมื่อ 21:58
เห็นเค้าพูดกันถึงภูเก็ต วันนี้ขอพูดมั่ง....มีอาจารย์ท่านหนึ่งแกไปเรียนที่ภ ูเก็ตครับ...มีเท่านี้แหละครับเพราะผมเองยังไม่เคยไป เลยซักที่...ภูเก็ต
การคุยกันอยู่ทุกวัน เหมือนเรายืนอยู่ในที่แจ้ง..แต่.ยังมีอีกหลายคนยืนอย ู่ในที่มืด..ยืนมองเราอยู่.
"สวัสดีครับ...เออ...ผม............................ .........................................."
อ๋อ..คุณที่ไปร้านจักรยานห้วยกระบอกมาใช่ไหมครับ
"ครับ"
คุยกันเสียยืดยาว ......เมื่อวานนี้มีคนบ้ารถถีบที่ได้ติดตามพวกเราคุย กันมานาน แต่เข้ามาอ่านแบบไม่ได้เป็นสมาชิกเนื่องจากเค้าบอกว่ าสมัครตั้งหลายครั้งแล้วไม่สำเร็จ.....แกมาคุยอยู่นา น...ก็พอจับใจความได้ว่าแกสนใจรถถีบมานานเหมือนกันแล ะก็หาของตามโรงเหล็กมาบ้าง แกไปทุกที่ที่มีคนบอกว่ามีรถโบราณแถวนั้น....นั่นสิ. ...ผมว่าพักนี้ทำไมหารถไม่ค่อยได้เลย....แกบอกว่าเมื ่อก่อนภูเก็ตรถเยอะ...ผมบอกว่า..คนบ้ารถถีบล้อโตเก็บ มาหมดแล้ว...สักวันคงได้ต้อนรับสมาชิกใหม่ครับ..
เพราะเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วคนบ้ารถถีบเมืองกาญจน์ขี ่รถไปเปิดงานพระแท่นดงรัง เป็นงานประจำปีแล้วนำรูปเกี่ยวกับวัดพระแท่นมาลงในกร ะทู้ ยิ่งเพิ่มความร้อนแรงเข้าไปอีกจนอาจารย์ท่านนั้นอดรน ทนต่อไปไม่ได้ ..เพราะแกเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่พระแท่นดงรัง .. อยู่อำเภอเดียวกันนั่นเอง..พวกผมไม่รู้นี่ที่บุกไปถ้ ำสิงห์ แล้วเมื่อวานเย็นท่านก็มากระตุกหนวดเสือไปเส้นหนึ่ง. ..เอ้ย..คันหนึ่ง เป็นฮัมเบอร์ 28 ชาย...หนวดเสือหลุดไปเส้นหนึ่งแล้ว......
(รูปหมดเลยส่งรูปนี้ให้แทน ขนาดขอถ่ายรูปจะหาแฟนให้เธอยังอายหน้าแดง....สนมะ... อาจารย์แว่น..ต้องมีค่านายหน้าเน้อ...
...ปลูกทุกอย่างที่กิน.........กินทุกอย่างที่ปลูก.. .
ต้องขอต้อนรับสมาชิกใหม่ครับ สำหรับท่านที่กำลังจะเข้ามาคุยในเร็วๆนี้...
ตอนอยู่ที่ภูเก็ต ขนจักรยานมาได้ไม่กี่คันเองครับ เป็นซากๆจากร้านรับซื้อของเก่าเสียโดยมาก ถ้าไม่ซื้อเก็บก็โดนตัดเป็นเศษเหล็กไปหมด ส่วนที่ได้เป็นคัน เห็นจะมีเพียงสองสามคันซึ่งในนั้นก็เป็นซันบีมเสียคั นนึง..
เล่นจักรยานโบราณมาตั้งแต่ปี2541 แต่ก็ถือว่ายุคหลัง เพราะว่าไปที่ไหนๆเค้าก็บอกว่าเมื่อสองสามปีก่อนเค้า มาหาซื้อไปกันจนหมดแล้ว..ดังนั้นจึงมักจะไม่ค่อยจะได ้อะไรจากที่นั่นมาก แต่เนื่องจากตอนนั้นเป็นคนที่ไม่ค่อยจะเลือกอะไรมากน ัก ไม่ต้องครบก็ได้ ขอให้ถูกใจเป็นพอ...
วันนี้นั่งรถเมล์ผิดสาย เลยเสียเวลาไปหน่อยต้องเดินย้อนแยกเพื่อกลับมาต่อรถเ มล์อีกที ระหว่างนี้ก็มีคนบ้ารถถีบจากสิงห์บุรีโทรเข้ามาพอดี. ..โทรมาถาม..."พี่..! เสื้อเสร็จละยัง...?.." ก็เลยอธิบายและคุยเรื่องอื่นๆเสียยืดยาว ตั้งแต่ขึ้นรถเมล์..ลงเรือข้ามฟาก..ต่อรถไฟฟ้า... สุดท้ายก็เอามาคุยต่อที่นี่อีกที.
ก็เป็นเรื่องหลังจากยกภาระเรื่องการสกรีนเสื้อไปให้ม ืออาชีพเค้าทำแล้ว ชักจะว่างๆ หลังจากคิดๆที่จะทำสติกเกอร์คนบ้ารถถีบขึ้นมาเล่นๆซึ ่งก็คงจะลองไปติดต่อแถวๆย่านมาบุญครองเพราะใกล้ที่ทำ งานดี...ก็คิดอยากจะทำข้อมูลจักรยานและรวบรวมคนบ้ารถ ถีบขึ้นมาอีก ช่วงนี้ที่ทำงานก็พอจะพอมีเวลาว่าง ก็เลยนั่งหัดพิมพ์โปรแกรมที่สามารถนำรูปภาพและตัวหนั งสืออยู่ในแผ่นเดียวกันโดยไม่ต้องไปตัดแปะเอาเหมือนจ ดหมายเหตุฯแบบเมื่อก่อน....เมื่อวานนี้ก็ลองทำออกมาไ ด้หนึ่งแผ่นหลังจากลองไปลองมาอยู่นาน..
รายละเอียดก็คงจะเป็นประมาณว่าในหนึ่งหน้ากระดาษเอ4 ก็จะมีหัวข้อเช่น รถเฮอคิวลิส และมีภาพประกอบรถเต็มคัน และภาพเล็กๆแสดงจุดที่น่าสนใจสักภาพ-สองภาพ มีคำบรรยายเล็กๆน้อย แต่ก็คงไม่ถึงกับต้องไปค้นคว้าข้อมูลละเอียดถึงกับ เป็นรถรุ่นไหน ผลิตปีอะไร....เพราะข้อมูลไม่มีมากขนาดนั้น เน้นต้องการแสดงรูปภาพมากกว่า
ก็จะลองทำรายละเอียดหนึ่งคันต่อหนึ่งแผ่นกระดาษเอ4 เริ่มจากรถของตัวเองก่อน ค่อยๆเก็บข้อมูลไป และอาจจะขออนุญาตพี่ๆน้องๆหลายๆคนที่คุ้นเคยกัน นำภาพรถที่เคยถ่ายๆเก็บเอามารวบรวมเป็นข้อมูลในที่นี ้ด้วย
และก็จะรวบรวมรูปถ่ายคนบ้ารถถีบที่ถ่ายกับรถจักรยานต ัวเองมาในที่นี้ด้วยเหมือนกัน รายละเอียดก็คงจะเป็นรูปภาพและรายละเอียดส่วนตัวนิดๆ หน่อยๆรวมไปถึงที่อยู่
สุดท้ายเมื่อได้ข้อมุลเพียงพอแล้ว ก็คิดว่าจะพิมพ์จัดส่งให้ตามคนที่คุ้นเคยหรือมีรายละ เอียดรถหรือรูปของตัวเองในนี้
เหมือนๆกับทำหนังสือรุ่น ประมาณนั้น...ก็เป็นโครงการอันหนึ่งที่กำลังคิดจะเริ ่มทำครับ...
เมื่อวานไม่ได้คุยก็มีคนเห็นว่าเข้าไปอ่านแล้วไม่ยอม คุย บางทีคุยมากๆกลัวคนอื่นรำคาญเอาเหมือนกัน..แต่เพื่อไ ม่ให้บอร์ดเงียบจึงหลับหูหลับตาคุยมันเรื่อย
เมื่อเช้าคุยทางภาคใต้ไปนิดหน่อย ตอนนี้อยากจะคุยความรู้สึกของคนบ้ารถถีบที่มีความรู้ สึกกับเชียงใหม่บ้าง
สักปี 2528 เชียงใหม่คือชื่อที่ใฝ่ฝันอยากจะไป ฟังคนโน้นคนนี้พูดฟังแล้วมันเหมือนเมืองในสรวงสวรรค์ ดูข่าวทีวีเห็นมีการประกวดนางงามขี่รถกางจ้อง สักวันเราคงมีโอกาสไป
ครับมันก็เป็นเรื่องความไม่พร้อมทางด้านการเงิน เพราะสมัยเด็กๆ พ่อเป็นครูใหญ่เงินเดือนไม่ถึงพัน ใครจะกล้าพูดถึงการขอเงินไปเที่ยว เคยขี่จักรยานแล้ววิ่งกระหืดกระหอบเข้าไปกินข้าว ไปชนหม้อต้มปลาทูล้มค่ำยังโดนมองตาเขียว มันยากจนจริงๆ
การไปเชียงใหม่ครั้งแรกก็ไปกับทัวร์(เรียกเสียหรู)เร ียกว่าไปกับรถนำเที่ยวดีกว่า เป็นรถที่ใช้พัดลม วิ่งไปเสียงดังรอบทิศทาง กลางวันต้องเปิดพัดลมเปิดหน้าต่างรถทุกบาน ผมเผ้าไม่ต้องพูดถึงแข็งฟูเหมือนฝอยขัดหม้อ พอไปถึงเชียงใหม่ก็ไปค้างที่วัดเลย .. เออ..ได้แค่กลิ่นเชียงใหม่เท่านั้นเพราะมืดแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้คงได้เห็นเมืองที่เราอยากเห็น
เคยเห็นรถยนต์ที่ติดสติ๊กเกอร์ที่บอกว่า ..ไหนวะ กรุงเทพฯ... ก็เหมือนกันนั่นแหละ..เราไม่มีโอกาสไปเหมือนที่เราอย ากไป...เช้าต้องรีบทำธุระส่วนตัวอย่างเร่งรีบกับห้อง น้ำวัด....เสร็จแล้วก็ต้องไปรีบขึ้นรถรอคนเฒ่าคนแก่อ ีกครึ่งค่อนคัน วันๆไปได้ไม่กี่ที่...ไปเล่นน้ำตกแม่กลางอย่าง...คนอ ื่นๆเค้าเช่ารถไปขึ้นดอยอินทนนท์มาเล่าให้ฟัง ไปเจอชาวเขา ไปโน่น ไปนี่ เรามัวแต่เล่นน้ำตก...แต่คิดอีกทีก็ดีไปอย่างเพราะเร าขนเอาครอบครัวไปและเอาแม่เอาน้องไป จะเคลื่อนย้ายทัพไปไหนทีก็ลำบาก.......มานึกถึงครงนี ้เราเองก็ภูมิใจนะ...เพราะแม่เกิดมาก็เพิ่งเคยไปเชีย งใหม่ครั้งเดียวครั้งนั้นแหละ ...ไปลาว...ไปไหนๆ..เราจะเอาแม่ไปด้วย...เรียกว่า แม่ได้ไปเที่ยวไกลๆ ...เวลากลับจากตากลงมาก็น่าเบื่ออีกเพราะทางมันราบเร ียบมันไม่สนุก สู้แถวดอยสะเก็ดไม่ได้ มันขึ้นๆลงๆมันหวาดเสียวดี...ไม่ใช่เพราะคนขับขับเร็ วหรอกนะที่หวาดเสียว..แต่เป็นเพราะรถที่เช่าไปเป็นรถ ที่วิ่งระหว่างจังหวัด...เครื่องยนต์มันไม่แรงผสมโรง กับความเก่าของรถและราคาถูกเมื่อเช่าใช้บริการ ขึ้นดอยที่เด็กท้ายรถต้องเตรียมตัวตลอดเวลา...เตรียม ขอนไม้คอยหนุนเผื่อรถขึ้นไม่ไหวตะหาก...นี่ก็ไกล้เดื อนเมษาอีกแล้วกลิ่นอายเชียงใหม่ชักโชยๆมาอีกแล้ว....
...ปลูกทุกอย่างที่กิน.........กินทุกอย่างที่ปลูก.. .
วันปีใหม่ปี2538เรานั่งรถ(เพื่อนๆ)ออกจากแม่สะเรียงแ ละดูหมอกในตอนเช้ามืดอูณภูมิน่าจะประมาณ5-8องศาได้ครับเมฆหมุนและเต้นรำเหมือนทะเลทางภาคเหนือผ ่านโค้งถนนที่มีป่าสูงอยู่สองข้างทางมองดูสวยงามแต่น ่าหวาดเสียวถนนที่เป็นดินแดงบางช่วงถูกน้ำเซาะผ่านไป จนเหลือแค่ครึ่งเดียวพวกเรานั่งรถขึ้นเขาได้ดูวิสองข ้างทางเป็นเวลาเกือบสามชั่วโมงนั่งรถกระบะไปจนถึงอเภ อท่าสองยางจังหวัดตากที่ต้องเลือกมาทางนี้เพราะว่าคน ที่แม่สะเรียงบอกว่า..ถ้าลงเรือที่แม่สามแลบคุณจะต่อ เรือไปแมนเนอร์พลอไม่ได้เพราะเขากำลังยิ..........กั นที่แม่สามแลบถ้าจะให้ปลอดภัยต้องขึ้นแมนเนอร์พลอจาก ท่าสองยางในจังหวัดตากเมื่อนึกถึงวิถีชีวิตของคนเมือ งกรุงกับที่นี่มันเหมือนคนละโลกกันเลย..ผมคุยกับเพื่ อนว่าแปลกมั้ยที่คนในเมืองทั้งผู้ใหญ่และเด็กชอบใส่เ สื้อสีดำกันแต่เด็กกระเหรี่ยงตามหมู่บ้านแถวนี้แต่งช ุดสีแดงเหลืองขาวเขียวกันเต็มไปหมดดูมีสีสรรค์จัง..จ ริงๆแล้วผมว่าสีดำคือไม่มีสี..เหมือนคนเมืองไม่มีสีค ือไม่มีวัฒนธรรมของตัวเองและคนที่กำอำนาจในโลกนี้คือ คนในเมืองพวกเขาไม่เคารพสีของชนบทซ้ำร้ายยังคอยทำลาย มันอยู่เรื่อยๆดังว่าอยากจะเห็นโลกทั้งโลกเป็นสีดำไม ่มีสีไม่มีวัฒนธรรมคนเหล่านี้ยังคงดำเนินชีวิตที่เกา ะเกี่ยวธรรมชาติมาโดยตลอดซึ่งนับวันเหลือน้อยเต็มทีถ ูกคนในเมืองเอาทีวีสีเอาตู้เย็นขาวดำไปหลอกหล่อหมดแล ้วตั้งแต่ญี่ปุ่นจนถึงสิงค์โปรต่างพูดถึงความต้องการ เร่งด่วนในการสร้างสรรค์นั้นถ้าไม่มีทรัพยากรบุคคลที ่สร้างสรรค์เป็นคงเหลือแต่การขายทรัพยากรของตัวเองกา รสร้างสรรค์ต้องมาจากความอิสระประเทศที่ไม่มีความอิส ระจะขาดธุระกิจแบบสร้างสรรค์เมื่อขาดความสร้างสรรค์แ ล้วก็จะเหลือแต่การหากินด้วยการข่มขืนทรัพยากรเพื่อเ อาไปขายผลประโยชน์แบบนี้เป็นผลประโยชน์ที่หมดเร็วตอน นี้มีแต่บัณชีทรัพยากรพม่าเท่านั้นที่ยังเต็มอยู่/\ หากมีตังค์สักก้อนนึง+เวลาผมว่าแอ่วในเมืองไทยให้คบท ุกภาคนี่ก็คุ้มแล้วเนาะไม่แน่ว่าอาจะเจอจักรยานช้างเ ผือกที่ซุกซ่อนอยู่ก็เป็นได้ในรูปเป็นราเล่ย์หญิงเกี ยร์ยังใช้ได้ดีครับ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Nong - nui : 02-03-2007 เมื่อ 11:59
WE CAN HOLD THIS WORLD TOGETHERem88
ไม่รู้ว่าวันอาทิตย์นี้ คนบ้ารถถีบแถวเมืองกาญจน์ จะบุกมาปั่นจักรยานแถวๆกทม.หรือไม่ ? วันนี้ก็วันศุกร์แล้ว ส่วนพรุ่งนี้วันเสาร์ ถ้าไม่มีอะไรก็คงไม่พลาดแน่ๆ เพราะเสาร์ที่แล้วเว้นไปหนึ่งเสาร์เนื่องจากไปต่างจั งหวัด ส่วนสงกรานต์นี้ สงสัยจะได้ไปสุโขทัยเหมือนเช่นทุกปี ก็ไม่รู้ว่าปีนี้จะติดเอารถคันไหนไปปั่นเล่น เหมือนปีที่แล้วที่เอาเฮอคิวลิสไปปั่น
เมื่อวานนี้คุยกันกับหัวโป่ว่า ถ้าได้ไปปั่นที่เชียงใหม่ เอาแค่รอบๆคูเมืองก็พอ เพราะมีวัดที่น่าสนใจตั้งหลายสิบวัด ตกเย็นก็จูงรถเฒ่าไปแอ่วสาวแถวๆถนนคนเดิน
บริเวณรอบคูเมืองเชียงใหม่ ก็น่าปั่นนะครับ เพราะรถต่างๆจะทำความเร็วได้จำกัด อีกอย่างภายในบริเวณคูเมืองก็มีสถานที่เที่ยวเยอะ ยกตัวอย่างวัดภายในบริเวณคูเมือง ก็มีประมาณ 36 วัด คูเมืองเป็นรูป 4 เหลี่ยม ด้านหนึ่งยาวประมาณ 1,800 เมตร กำลังปั่นแบบสบายๆเลย
ช่วงวันเสาร์จะมีถนนคนเดินที่ถนนวัวลาย สำหรับอาทิตย์จะอยู่ที่ถนนกลางเวียง(เรียกเองจำบ่ได้ ) คือตั้งแต่ลานข่วงประตูท่าแพ ยาวผ่านไปจนถึงวัดพระสิงห์ ช่วงเวลาก็ประมาณ 6โมงเย็นเป็นต้นไป
ส่วนเสาร์-อาทิตย์ตอนกลางวัน จะมีถนนคนเดินที่ถนนซอยข้างโรงเรียนปริ๊นซ์ฯ ตั้งแต่ 8โมงเช้า- 6โมงเย็นเลยครับ
"ถ้าชอบ ก็ทำเถิด แต่อย่าทำให้คนอื่นเค้าเดือดร้อนนะลูก"
ใช่คนเดียวกันครับโกลิปแกเป็นคนที่รักรถมาก ตอนนั้นถึงตอนนี้รถแกก็ยังเนียบเหมือนเดิม ไฟยังแวววาวเหมือนเดิม ส่วนแปะติ๋ว ยังแข็งแรงดีครับ จะมีก็แต่เรื่องหูครับ เวลาคุยกับแกต้องพูดดังๆครับ
เฮอร์ ฯ 28 " ชาย ของโกลิป ผมสังเกตุดูอะไหล่รวมๆก็เหมือนๆกับเฮอร์ฯรุ่นอื่นๆ แต่มาต่างกันตรง จาน กับถ้วยคอ เฮอร์ฯของแก ถ้วยคอจะเป็นเนี้อเดียวกันกับตัวโครง จานที่ใส่อยู่ก็จะเป็น จานวาย ขากลม(แต่ก็ไม่รู้ว่าเปลี่ยนมารึยัง)
เฮอร์ฯ ช. 26"ของพี่วสันต์ รุ่นนี้ จานจะ เป็นจานวาย หรือว่า ตัว H 3 ตัว ครับ คือผมอยากรู้ไว้เป็นข้อมูลครับ เผื่อมีโอกาสได้เป็นเจ้าของ เจ้าเฮอร์เพลทหย่าย....ย
* ตอนแรกผมคิดว่า เฮอร์ฯ ตัวในภาพที่ผมมี เพลทมันจะเหมือนกันกับของพี่ซะอีก พึ่งมารู้วันนี้เองว่าเป็นคนละรุ่นกันอีก
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย tong : 02-03-2007 เมื่อ 23:32
ยิ่งคุยก็ยิ่งเห็นเสน่ห์ในความลึกลับซับซ้อนของจักรย านยี่ห้อเฮอคิวลิส เฉพาะเรื่องเพลทก็มีลึกๆตั้งหลายรุ่นแล้ว จากที่คุ้นๆกันกับเพลททองเหลืองกลมตรงกลางเป็นวัสดุค ล้ายพลาสติค กับรุ่นเพลทกลมเป็นอลูมิเนียมทั้งอัน ลึกมาอีกก็เป็นเพลทใหญ่ทองเหลืองที่เรียกกันชินปากว่ ารูปยักษ์ยืนถือกระบอง แถมก็ยังมีเนื้อทองเหลือง เนื้อออกแนวทองแดงผสม และก็มามีขอบไม่เหมือนกันอีก....ชักสนุกแล้วสิ
ข้อมูลที่ได้ ถึงแม้จะไม่ถึงกับทำให้ทราบว่าอันไหนเก่ากว่าอันไหน แต่ที่แน่ๆก็จะทำให้เห็นความแตกต่างและความหลากหลายข องมัน กับรถเฮอคิวลิสที่มีอยู่ในบ้านเรา...ที่ยังไม่นับเพล ทเฮอคิวลิสแบบสี่เหลี่ยมมีตัว" H " อยู่ตรงกลาง...
ขอบคุณน้องต๋องที่ลงรูปมาให้เป็นข้อมูลกับผู้คนในนี้ ครับ....
Bookmarks