เวสป้ากับสายฝน
คุณเคยไหม กับการเดินทางผจญภัยที่ไม่รู้จุดหมายว่าจะไปจบลงที่ใ ด ? เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงหน้าฝน เป็นช่วงที่ใครหลายคนต่างหยุดการเดินทางพักผ่อนอยู่ก ับบ้าน เนื่องจากความไม่สะดวกในการเดินทาง อันตรายจากความลื้นของพื้นถนน ความเปียกปอน ความไม่สบายตัว และอีกต่างๆนาๆที่ดูเหมือนจะทำให้ทุกอย่างหยุดลงในช่ วงฤดูฝน แต่พวกเรากับคิดว่าการเดินทางของชีวิต การเดินทางของพวกเราไม่มีวันหยุดตราบที่ยังมีลมหายใจ ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไปอยู่ตลอดเวลา เพียงแค่รอเวลาและพลังบางอย่างที่เหมาะสมและทะยานออก ไปสู้เส้นทางแห่งเสรีภาพ ที่ดูเสมือนจะรอเราอยู่ที่ไหนสักแห่ง
เย็นวันหนึ่งในวันที่ฝนตก ผมและเพื่อนๆนั้งมองหน้ากันพูดคุยกันถึงเรื่องราวการ เดินทาง ทุกคนมีความรู้สึกเดียวกันว่าอยากจะเดินทางท่องเที่ย วธรรมชาติ ด้วย Scooter คู่ใจ ไปที่ไหนก็ได้สักแห่งโดยไม่ต้องคำนึงถึงอะไร ไม่ต้องมีเป้าหมายอะไรที่จะทำให้ดูเป็นการตีกรอบให้ช ีวิตจนหมดเสน่ห์แห่งเสรีภาพของการเดินทาง พวกเราตั้งเป้าหมายไว้เพียงคล้าวๆ คือ จังหวัด นครนายก แต่จะเป็นที่ใดนั้นคงต้องลุยกันเอง เรารู้เพียงว่าที่นี้มีธรรมชาติที่งดงาม มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่น เขื่อน ป่า เขา และน้ำตกเป็นต้น
เราออกเดินทางในตอนเช้าตรูของวันเสาร์ จุดออกตัว คือย่านรังสิตถิ่นที่อยู่ของพวกเรา
เป่าหมาย คือจังหวัดนครยายก ชายหนุ่ม5คนกับ เวสป้า5คัน นั้นก็คงเพียงพอ บรรยากาศระหว่างทางเต็มไปด้วยพืชพันธ์ทางธรรมชาติ ท้องฟ้าที่คลึ้มไปด้วยกลุ่มเมฆฝนที่ดูเหมือนไม่นานคง ตกลงมา แต่นั้นคงเป็นสิ่งที่เราต้องการ การขี่รถคู่ใจผ่านสายฝนเย็นฉ่ำที่โปรยปราย อาจทำให้เกิดความประทับใจในรูปแบบใหม่ก็เป็นได้ เราขี่รถไปตามทางสายหลักอย่างไม่เร่งรีบ แวะถ่ายภาพริมทางบ้าง รับประทานอาหารริมทางบ้าง ทักทายชาวบ้านริมทางบ้าง ทั้งหมดล้วนเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจที่หาซื้อไม ่ได้ ตลอดเส้นที่ไปนั้นเราหยุดพักเพื่อท่องเที่ยวตามจุดท่ องเที่ยวที่สำคัญๆหลายจุดได้แก่ แก่งสามชั้น ซึ้งเป็นพื้นที่ ที่ใครหลายคนรู้จักเป็นอย่างดีในฐานะพื้นที่สันทนากา รริมน้ำ น้ำที่นี้ไม่เคยเหือดแห้งเนื่องจากเป็นสายน้ำด่านหน้ าเขื่อน หลังจากนั้นเริ่มหาที่พักอาสัยเราให้การสอบถามจากชาว บ้านเป็นหลักจึงได้ที่พักมาที่หนึ่งน่าสนใจมากเป็นโฮ มสเตย์ชื่อ บ้านสวนโฮมสเตย์ ลักษณะเป็นบ้านไม้สองชั้นขนาดใหญ่ ราคาค่าที่พักตกประมาณะคนละ100บาทเท่านั้น สรุปเราได้บ้านหลังนี้ทั้งหลังรวมพื้นที่หน้าบ้าน ในราคา 500บาท หลังจากอาบน้ำจัดเก็บข้าวของเสร็จจึงเริ่มออกเดินทาง ไปชมทัศนียภาพที่เขื่อนท่าด่านปราการชล ที่อยู่ไม่ไกลจากที่พัก เราชื่นชมธรรมชาติบริเวณหลังเขื่อนที่ตอนนี้ดูจะเขีย วสดใสเหมือนพร้อมใจกันออกดอกพริใบออกมาต้อนรับแขกผุ้ มาเยือน พื้นน้ำที่ใสสะอาด ทัศนียภาพที่งดงามเป็นอีกจุดที่น่าประทับใจมาก
ยามค่ำคืนเราได้รับการตอนรับอย่างดีจากเพื่อนเจ้าถิ่ นชาวนครนายกที่อาษาเป็นผู้นำทางในยามค่ำคืนพากลุ่มเร าไปชมแสงสีและวิถีชีวิตในยามค่ำคืน ที่ดูเหมือนจะแปลกและแตกต่างไปจากบ้านของพวกเรามากมา ย แต่นั้นก็เป็นอีกหนึ่งความประทับใจในทริปนี้ก็ว่าได้ และจบวันนี้ด้วยการนอนพักเอาแรงไว้สู้ต่อกันอีกวันคว ามสุนทรียังรอเราอยู่แต่จะเป็นอะไรนั้นคงต้องรอพิสูท ธกันต่อไป
รุ่งเช้านี้เป็นวันที่สดใสจริงๆหลังจากที่ผ่านคืนแห่ งสายฝนมาท้องฟ้าสดใสฟ้าสีครามเป็นสัญญาณที่ดีเหมือนก ับธรรมชาติกำลังบอกพวกเราว่า จงมีชัยในวันนี้ เราเตรียมเก็บข้าวของตรวจตรากันอีกครั้งก่อนจะยกมือส วสัสดีอำลาป้าเจ้าของบ้านใจดีสำหรับที่พักอาศัย เราออกเดินทางต่อทันทีเราถามกันว่าอยากไปไหนกันดี คงมีคำตอบกลับมาพร้อมกันว่าควรเป็นน้ำตกนางรอง น้ำตกนางรองเป็นน้ำตกที่สวยมากอีกแห่งหนึ่งที่แนะนำใ ห้สัมผัสด้วยตัวเอง สายน้ำเย็น น้ำมากในฤดูฝน ความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ ผมอดใจไม่ได้ที่จะกดชัตเตอร์จากกล้องคู่ใจ มาฝากเพื่อนก่อนที่พวกเราทั้ง5คนจะเดินทางกลับบ้าน ด้วยหัวใจที่พองโต ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวการเดินทางใน ฤดูฝนของพวกเรา กลุ่มรังสิต
นาย เฉลิมพล อินหัน
14 กันยายน 2553
div>
Bookmarks