สมุดบันทึกเล่มเล็ก ! - หน้า 2
                                
หน้าที่ 2 จากทั้งหมด 3 หน้า แรกแรก 1 2 3 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 16 ถึง 30 จากทั้งหมด 31

ชื่อกระทู้: สมุดบันทึกเล่มเล็ก !

  1. #16
    Senior Member RO_Tung_RY's Avatar
    วันที่สมัคร
    Apr 2011
    สถานที่
    ADVANCE , Mazda Club
    ข้อความ
    1,796
    ขอบคุณ
    139
    ได้รับขอบคุณ 79 ครั้ง ใน 47 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    16

    มาตรฐาน



    อ้างอิง ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ vespeno90 อ่านข้อความ
    ยกซด..ยกซด..อูยเผ็ด..ด้วยความเคารพพพพพพพพพพพพ..อิอ ิ
    สงสัยจะเจอน้ำร้อนแล้วครับ ดูสิ หน้าแดงเชียว อิอิ......รักนะจุ๊บๆ

  2. #17
    Senior Member octzilla's Avatar
    วันที่สมัคร
    Feb 2009
    สถานที่
    Mazda club thailand
    ข้อความ
    3,356
    ขอบคุณ
    3
    ได้รับขอบคุณ 70 ครั้ง ใน 42 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    19

    มาตรฐาน

    อ้างอิง ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sk9991 อ่านข้อความ
    เผ็ดมากก็ทาน"นํ้าสิค่ะ"อุ้ย!ครับพี่อ๊อค
    อ้างอิง ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ vespeno90 อ่านข้อความ
    ยกซด..ยกซด..อูยเผ็ด..ด้วยความเคารพพพพพพพพพพพพ..อิอ ิ
    อ้างอิง ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ RO_Tung_RY อ่านข้อความ
    สงสัยจะเจอน้ำร้อนแล้วครับ ดูสิ หน้าแดงเชียว อิอิ......รักนะจุ๊บๆ
    เอ้อเหอ...เผลอแพล่บเดียว..โดนแก๊งสามเกลอรุมโว้ย... .ชิๆๆ..ต้องโดนเบาะๆให้สะอึกสะอื้นซะบ้าง...เพราะอย่ างน้อยน้ำที่แก้เผ็ด..ก็น้ำสดๆใหม่ใสๆ ไม่ขังตุ่ม ถ้วย ถังสังกะสีเก่าเก็บ ตะกอนเขรอะละเว้ยยยย..5555555
    @ วันที่ฉันออกเดินทาง ทุกหนทางอบอุ่น ท่ามกลางสายลมแห่งความรัก @
    ..........................MONKEY TERRITORY


    นายเตชินท์ คุ้มเกษ 180/2 ซอย จรัญสนิทวงศ์ แขวงวัดท่าพระ เขต บางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ 10600
    มือถือ : 087-5888-699 e-mail : [email protected]

  3. #18
    TOOK_14's Avatar
    วันที่สมัคร
    Aug 2008
    สถานที่
    -
    ข้อความ
    2,246
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 2 ครั้ง ใน 2 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    18

    มาตรฐาน

    (1).... ปลายสมัยราชวงศ์ชิง ในเขตเจียงหนานมีครอบครัวตระกูลเสิ้น ซึ่งร่ำรวยมั่งคั่งจากการค้าขายมาหลายชั่วอายุคน เวลานั้นตระกูลเสิ้นมั่งคั่งด้วยทรัพย์สินเงินทองอัน มากมาย ทว่าหลังจากลูกหลานผลาญเงินทองราวกับเบี้ยไปหลายรุ่น สมบัติพัสถานก็เริ่มหร่อยหรอจากที่เคยรุ่งโรจน์ก็ตกต ่ำสิ้นเนื้อประดาตัว
    เสิ้นเย่าจู่ ทายาทรุ่นหลังเพีียงคนเดียวของตระกูลเสิ้นก็ได้แ่ต่ข ายสมบัติเก่ากินไปวันๆ สุดท้ายเขาก็ขายสมบัติที่มีอยู่ไปจนหมดสิ้น ไม่เหลืออะำำำไรติดตัว มีแต่เพียงรูปภาพโบราณธรรมดาๆ ที่แขวนอยู่บนกำแพง ซ้ำยังมีฝุ่นเกาะหนาทั่วภาพ ลูกหลานตระกูลเสิ้นยุคหลังเอาแต่เที่ยวเตร่สุขสำราญ ไม่มีใครตั้งใจเรียนหนังสือเลยสักคน อักษรก็รู้จักเพียงไม่กี่ตัว สำหรับภาพวาดแล้วยิ่งไม่มีความรู้แม้แต่น้อย...

    เสิ้นเย่าจู่มองภาพวาดโบราณ ในใจก็คิดนี่คือบรรพบุรุษทิ้งไว้น่าจะมีค่าบ้างกระมั ง? หากนำไปจำนำได้ซักแปดตำลึง สิบตำลึง อย่างน้อยก็น่าจะประทังชีวิตไปได้ซักสิบวันหรือไม่ก็ ครึ่งเดือน ใคร่ครวญแล้วชายหนุ่มก็นำภาพนั้นไปที่โรงรับจำนำทันท ี
    เมื่อหลงจู๊คลี่ภาพออกมาดูในใจก็คิดว่าภาพนี้ช่างวิเ ศษนัก เป็นภาพวาดของเจิ้นป่านเฉียว แถมยังเป็นของแท้เสียด้วย!

    ภาพของเจิ้นป่านเฉียวในสมัยนั้นหากตีราคาอย่างต่ำๆก็ น่าจะมีค่าราวสองร้อยตำลึง ยิ่งถ้าเป็นภาพวาดของจริงก็ยิ่งหายากยิ่งนักเงินห้าห กร้อยตำลึกก็ไม่อาจจำจองได้ หลงจู๊ผู้นี้เป็นนักสะสมของเก่าที่รู้จักสินค้าเป็นอ ย่างดี เขาแกล้งทำเป็นเอ่ยขึ้นอย่างไม่สนใจนักว่า " ภาพนี้...เจ้าต้องการซักเท่าไหร่กัน" คุณชายไม่เอาถ่านแห่งตระกูลเสิ่นว่าไปแล้วก็หลักแหลม อยู่เหมือนกัน เมื่อเห็นท่าทางตกตะลึงของหลงจู๊ขณะที่คลี่ภาพวาดนั้ นออก เขาก็พินิจแล้วว่า ภาพวาดที่บรรพบุรุษทิ้งไว้ให้ต้องเป็นสมบัติที่ทรงคุ ณค่าอย่างแน่นอน มูลค่าของมันย่อมไม่น้อย......
    .......เราสร้างดวง อย่าให้ดวงสร้างเรา......

  4. #19
    TOOK_14's Avatar
    วันที่สมัคร
    Aug 2008
    สถานที่
    -
    ข้อความ
    2,246
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 2 ครั้ง ใน 2 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    18

    มาตรฐาน

    (2)....ทว่าเสิ้นเย่าจู่กลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการค ้าขายภาพวาดเลยแม้แต่น้อย เขาจึงไม่กล้าที่จะเอ่ยปาก สุดท้ายก็ไ้ด้แต่ตอบคำถามอีกฝ่ายด้วยคำถามเช่นกัน" ท่านดูภาพนี้แล้วท่านสามารถให้ข้าได้มากที่สุดเท่าไห ร่ล่ะ!
    หลงจู๊ลังเลซักครู่ จากนั้นก็เอ่ยขึ้น " ภาพเขียนเก่านี้ว่าจะดีก็ดีอยู่ เสียแต่มีตำหนิเล็กน้อย แต่...ไม่เป็นไร ถ้าเช่นนั้นก็...สี่สิบตำลึง! มากกว่านี้ข้าก็จนปัญญาที่จะรับไว้ได้" พอเสิ้นเย่าจู่ได้ยินเงินสี่สิบตำลึงก็ดีใจลิงโลดจนแ ทบจะเป็นลมเพราะมากกว่าเดิมที่เขาเคยคาดไว้ในใจสี่ถึ งห้าเท่า จึงคิดว่าภาพนี้ต้องมีชื่อเสียงแน่นอน ราคาจริงของมันจะต้องมากกว่านี้! เขาไม่เชื่อว่ามันจะตีค่าได้เพียงสี่สิบตำลึงเท่านั้ น แต่หลงจู๊บอกว่าภาพนี้มันมีตำหนิเล็กน้อย ที่แท้ก็มีจุดบกพร่องที่ไหนกันแน่? เขาเองก็ไม่กล้าเอ่ยปากถาม เพราะเกรงจะถูกมองว่าไร้ความรู้ ในใจคิดว่าขอแค่ขายให้ได้ราคาสูงก็พอแล้ว ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนความคิด พยายามข่มความดีใจเอาไว้ แสร้งพูดว่า " เฮ้อ! ราคาต่ำเกินไป ข้าไม่คิดจะขายด้วยราคานี้หรอก"
    เมื่อหลงจู๊ไ้ด้ยินดังนั้นก็คิดว่าหนุ่มผู้นี้เชี่ยว ชาญด้านภาพวาดจึงรีบเสริมขึ้นทันที "ถ้าเช่นนั้นข้าเพิ่มให้อีกสองตำลึงก็แล้วกัน" ในใจของคุณชายเสิ้นนั้นเชื่อว่าถ้าเพิ่มราคาได้อีก ภาพนี้ต้องเป็นสินค้าชั้นยอดแน่ เขาจึงรีบฉวยโอกาสทองนี้กล่าวว่า" เฮ้อ! คงไม่ได้หรอกท่าน ท่านคิดว่าข้าเป็นคนขายสินค้า่ที่ไม่รู้จักสินค้าหรื ออย่างไร ภาพมีชื่อจะมีค่าเพียงน้อยนิดเช่นนี้ได้อย่าำไร"
    ฝ่ายหลงจู๊ยากที่จะได้เห็นภาพวาดแท้ฝีมือเจิ้นป่าวเฉ ียวสักครั้งในใจก็ร้อนรนขึ้นมา " เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ข้าเพิ่มให้เจ้าอีกยี่สิบตำลึง ไม่ต้องต่อรองอีกแล้ว" เสิ้นเย่าจู่ได้ฟังก็คิดอยากจะขายภาพนี้ยิ่งนัก ทั่งยังสงสัยว่าภาพวาดธรรมดาๆ ถึงได้มีราคาค่างวดมากมายเพียงนี้ ในใจจึงไตร่ตรองว่าน่าจะนำภาพวาดกลับไปศึกษาดูซักหน่ อย! บางทีอาจจะขายได้ราคาที่ดีกว่านี้ก็เป็นได้ " ราคาเช่นนี้จะขายไปก็น่าเสียดายนัก ข้าขอกลับไปคิดดูก่อน พรุ่งนี้ค่อยกลับมาคุยราคากับท่านใหม่" พูดจบ เสิ้นเย่าจู่ก็รีบหอบภาพวาดกลับไป พอถึงบ้าน เขาก็วางภาพนั้นไว้บนโต๊ะ ก่อนจะมองดูอย่างพินิจพิจารณา ที่แท้มันเป็นภาพอะไรกันแน่? ทำไมราคามันถึงสูงนัก ........
    .......เราสร้างดวง อย่าให้ดวงสร้างเรา......

  5. #20
    TOOK_14's Avatar
    วันที่สมัคร
    Aug 2008
    สถานที่
    -
    ข้อความ
    2,246
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 2 ครั้ง ใน 2 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    18

    มาตรฐาน

    (3) ....ภาพวาดนี้เป็นภาพวาดทิวทัศน์ ท่ามกลางเทือกเขาอันตั้งตระหง่าน เมฆขาวปกคลุมอยู่ทั่วท้องฟ้า คนหาฟืนกำลังลากเจ้าล่อตัวหนึ่ง บนหลังของมันแบกฟืนมัดใหญ่เอาไว้ ในจังหวะที่กำลังจะข้ามสะพานแขวนบนเหวสูงอันลึกสุดหย ั่ง ล่อตัวนั้นกลับขลาดกลัวเหลือเกินกว่าจะก้าวย่าง คนหาฟืนได้แต่ดึงเชือกเพื่อลากให้มันเข้ามา แต่เจ้าล่อก็เอาแต่ถอยหนีกลับไปเบื้องหลัง อาจเป็นเพราะคนหาฟืนออกแรงดึงมากไปจึงทำให้เชือกเส้น นั้นขาดลง
    ตลอดทั้งภาพวาดได้งดงามราวกับอยู่บนดินแดนแห่งสรวงสว รรค์ จุดที่ทำให้คนชื่นชมมากที่สุดก็คือ .......ก็คือ...... ก็คือ.....(ต้องติดตามอ่านต่อพรุ่งนี้ครับ)......
    .......เราสร้างดวง อย่าให้ดวงสร้างเรา......

  6. #21
    Senior Member vespeno90's Avatar
    วันที่สมัคร
    Jun 2007
    ข้อความ
    2,791
    ขอบคุณ
    315
    ได้รับขอบคุณ 302 ครั้ง ใน 164 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    22

    มาตรฐาน

    อ้างอิง ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ TOOK_14 อ่านข้อความ
    (3) ....ภาพวาดนี้เป็นภาพวาดทิวทัศน์ ท่ามกลางเทือกเขาอันตั้งตระหง่าน เมฆขาวปกคลุมอยู่ทั่วท้องฟ้า คนหาฟืนกำลังลากเจ้าล่อตัวหนึ่ง บนหลังของมันแบกฟืนมัดใหญ่เอาไว้ ในจังหวะที่กำลังจะข้ามสะพานแขวนบนเหวสูงอันลึกสุดหย ั่ง ล่อตัวนั้นกลับขลาดกลัวเหลือเกินกว่าจะก้าวย่าง คนหาฟืนได้แต่ดึงเชือกเพื่อลากให้มันเข้ามา แต่เจ้าล่อก็เอาแต่ถอยหนีกลับไปเบื้องหลัง อาจเป็นเพราะคนหาฟืนออกแรงดึงมากไปจึงทำให้เชือกเส้น นั้นขาดลง
    ตลอดทั้งภาพวาดได้งดงามราวกับอยู่บนดินแดนแห่งสรวงสว รรค์ จุดที่ทำให้คนชื่นชมมากที่สุดก็คือ .......ก็คือ...... ก็คือ.....(ต้องติดตามอ่านต่อพรุ่งนี้ครับ)......

    หลังเที่ยงคืนมาโพสต์ต่อนะครับ..อยากรู้ๆครับ...ขอบค ุณครับพี่ตุ๊ก

  7. #22
    Senior Member kratae's Avatar
    วันที่สมัคร
    Jan 2011
    ข้อความ
    1,746
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 4 ครั้ง ใน 1 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    15

    มาตรฐาน

    รออ่านเหมือนกันค๊าาาาาา......

  8. #23
    sk9991's Avatar
    วันที่สมัคร
    Apr 2010
    สถานที่
    สายวี บางแค..
    ข้อความ
    7,455
    ขอบคุณ
    2,123
    ได้รับขอบคุณ 1,325 ครั้ง ใน 763 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    35

    มาตรฐาน

    ติดหนึบเลย55 อ่านแล้วได้อะไรเยอะดี เห็นภาพในมุมมองชีวิตของตัวละครแต่ละคนหลายอย่างดีคร ับ
    และชวนติดตามต่อไปด้วย5555เยี่ยมที่สุดครับพี่ผู้ใหญ ่5555

  9. #24
    Senior Member kratae's Avatar
    วันที่สมัคร
    Jan 2011
    ข้อความ
    1,746
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 4 ครั้ง ใน 1 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    15

    มาตรฐาน

    อ้างอิง ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sk9991 อ่านข้อความ
    ติดหนึบเลย55 อ่านแล้วได้อะไรเยอะดี เห็นภาพในมุมมองชีวิตของตัวละครแต่ละคนหลายอย่างดีคร ับ
    และชวนติดตามต่อไปด้วย5555เยี่ยมที่สุดครับพี่ผู้ใหญ ่5555

    ซีรีส์เกาหลีชิดซ้ายอ่ะพี่โอ.................555+

  10. #25
    Senior Member mazdaproceed's Avatar
    วันที่สมัคร
    Nov 2010
    ข้อความ
    408
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 13 ครั้ง ใน 9 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    14

    มาตรฐาน

    ความทรมาน คือ การรอคอย จริงๆหรือนี่.......

  11. #26

    มาตรฐาน

    อ้างอิง ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ TOOK_14 อ่านข้อความ
    (3) ....ภาพวาดนี้เป็นภาพวาดทิวทัศน์ ท่ามกลางเทือกเขาอันตั้งตระหง่าน เมฆขาวปกคลุมอยู่ทั่วท้องฟ้า คนหาฟืนกำลังลากเจ้าล่อตัวหนึ่ง บนหลังของมันแบกฟืนมัดใหญ่เอาไว้ ในจังหวะที่กำลังจะข้ามสะพานแขวนบนเหวสูงอันลึกสุดหย ั่ง ล่อตัวนั้นกลับขลาดกลัวเหลือเกินกว่าจะก้าวย่าง คนหาฟืนได้แต่ดึงเชือกเพื่อลากให้มันเข้ามา แต่เจ้าล่อก็เอาแต่ถอยหนีกลับไปเบื้องหลัง อาจเป็นเพราะคนหาฟืนออกแรงดึงมากไปจึงทำให้เชือกเส้น นั้นขาดลง
    ตลอดทั้งภาพวาดได้งดงามราวกับอยู่บนดินแดนแห่งสรวงสว รรค์ จุดที่ทำให้คนชื่นชมมากที่สุดก็คือ .......ก็คือ...... ก็คือ.....(ต้องติดตามอ่านต่อพรุ่งนี้ครับ)......
    ก็คือ... เส้นเชือกที่ขาดออกจากกันนั่นเอง

  12. #27
    TOOK_14's Avatar
    วันที่สมัคร
    Aug 2008
    สถานที่
    -
    ข้อความ
    2,246
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 2 ครั้ง ใน 2 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    18

    มาตรฐาน

    55555 ขอบคุณทุกท่านครับ ดีใจครับที่เข้ามาอ่าน ก็หวังว่ากระทู้นี้คงไม่ไปทำให้เสียบรรยากาศของการพู ดคุยกันนะครับ...ถ้าเพื่อนๆพี่น้องคนไหนรู้สึกอึดอัด หรือขัดใจ ก็ขอประทานโทษด้วยนะครับ อยากจะเรียนว่า...ผมมีเป้าหมาย และผมก็มีฝันของผมครับ...
    ขอต่อให้จบเลยนะครับ....
    ถูกต้องครับน้องต้น จุดที่ทำให้ผู้คนชื่นชมมากที่สุดก็คือเส้นเชือกที่ขา ดออกจากกันนั้นเอง ดูมีชีวิตชีวาราวกับถอดวิญญาณออกมา "กำลัง" และ"ความงาม"สะท้อนออกมาในช่องว่างที่หายไป ยามเมื่อมองดูก็ราวกับจะได้ยินเสียงขาดของเชือกเส้นน ั้น!
    ทว่าเสิ่นเย่าจู่กลับตีความภาพวาดนี้ไม่ออกเลยแม้แต่ น้อยเขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเจิ้งป่านเฉียวเป็นใคร! และเขาก็ไม่รู้ว่าภาพวาดชิ้นนี้มีดีที่ตรงไหนกัน? และเมื่อชายหนุ่มเหลือบมองไปที่เส้นเชือกที่ขาด ก็รู้สึกตื่นตระหนกเป็นยิ่งนัก ใจคิดว่า"หรือว่ารอยตำหนิที่หลงจู๊บอกจะอยู่ตรงนี้นี ่เอง ถ้าเป็นเช่นนั้นข้าจะใช้หมึกวาดเส้นเชือกให้เชื่อมกั น ภาพวาดชิ้นนี้ก็จะสมบูรณ์ที่สุด พรุ่งนี้จะนำไปขายก็คงจะได้ราคาเพิ่มขึ้นอีก"
    วันรุ่งขึ้น เสิ้นเย่าจู่หอบภาพที่แก้ไขแล้วไปโรงจำนำด้วยความลิง โลด เขากล่าวออกมาอย่างดีใจว่า " ท่านดูภาพนี้สิ บัดนี้ไม่มีตำหนิใดๆอีกแล้ว คงจะขายได้ราคาสูงอีกซักนิดใช่ไหมเล่า"
    หลงจู๊เปิดภาพนี้ออกดูแล้วก็โยนทิ้งทันที " สวรรค์! ตอนนี้เจ้าขายแค่หนึ่งตำลึงข้ายังไม่เอาเลย " เสิ้นเย่าจู่เอ่ยว่า"เดิมทีภาพนี้มีตำหนิ ท่านกลับยินดีให้ถึงหกสิบห้าตำลึง ตอนนี้ข้าแก้ไขตำหนิเหล่านี้จนดีแล้วก็ควรจะได้ราคาส ูงขึ้นมิใช่หรือ"
    หลงจู๊จึงตอบว่า"ตำหนิที่ข้าพูดถึงคือขี้แมลงสาบ ขี้จิ้งจกที่เป็นรอยสกปรกอยู่ด้านบนภาพวาดต่างหาก แค่นำไปติดกระดาษแข็ง เช็ดให้สะอาดสักหน่อยก็ใช้ได้แล้ว ใครใช้ให้เจ้าวาดเส้นเชือกนั้้นลงไป! เท่ากับวาดงูเติมขาชัดๆ! ข้าจะบอกเจ้า! ความสุดยอดของภาพนี้อยู่ตรงเส้นเชือกที่ขาดนั้นอย่าง ไรเล่า! ตอนนี้ถูกเจ้าของทำพังหมดแล้ว ไม่เหลือค่าแม้ตำลึงเดียว"

    จบแล้วครับ....
    .......เราสร้างดวง อย่าให้ดวงสร้างเรา......

  13. #28
    Senior Member ปุ๊ทะริ's Avatar
    วันที่สมัคร
    Jul 2010
    ข้อความ
    2,821
    ขอบคุณ
    245
    ได้รับขอบคุณ 273 ครั้ง ใน 131 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    18

    มาตรฐาน

    อ้างอิง ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ TOOK_14 อ่านข้อความ
    ภรรยาผู้หนึ่งระบายความค้บข้องใจกับผู้เป็นสามี" คุณช่างโชคดีที่ได้รับความรักอันแสนบริสุทธิ์ของฉันไ ป คุณได้รักแรกไปจากฉัน ฉันไม่เคยรักใครมาก่อนเลย ฉันหวังว่าุคุณจะรักษาความรักของฉันไว้เป็นอย่างดี"
    ทางด้านสามีกลับปลอบประโลมภรรยาด้วยคำพูดอันแสนฉลาด " คุณก็โชคดีเหมือนกันที่ได้รับความรักอันเปี่ยมด้วยวุ ฒิภาวะของผมไป คุณไ้ด้รักสุดท้ายของผม ถ้าผมไม่เคยผ่านความรักครั้งก่อนๆมา แล้วจะมีความรักแบบผู้ใหญ่เช่นนี้ได้อย่างไร ผมหวังว่าคุณจะดูแลความรักของผมให้ดีเช่นกัน"
    คำพูดของสามีภรรยาคู่นี้ไม่มีจุดหมายใดที่ขัดแย้งกัน เลยซักนิด... วินสตัน เซอร์ซิล เคยกล่าวไว้ว่า " หากเราต้องต่อสู้กับอดีตเพื่อปัจจุับันแล้วละก็จักต้ องสูญเสียอนาคตไปอย่างแน่นอน"
    ผู้หญิงหลายคนรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรมยามเมื่อหวนถึ ง"รักครั้งเก่า" ก่อนแต่งงานและนั้นก็เป็นหนึ่งในสาเหตุความสัมพันธ์อ ันเปราะบางของคู่สามีภรรยา ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วชีวิตของคนเราย่อมแตกต่างก ันอย่างไม่ต้องมีข้อสงสัย ของบางอย่างเป็นของใหม่ ไม่เคยถูกใช้งานมาก่อนย่อมเป็นของดีกว่า แต่ของบางอย่างหากไม่เคยผ่านการใช้งานมาซักครั้ง ยามที่้ต้องใช้จริงก็อาจจะทำงานได้ไม่ดีนัก อาจทำให้งานนั้นเสียหายล้มเหลวลงก็เป็นได้
    รักครั้งแรกก็สมหวัง สอบครั้งแรกก็ติดอันดับ ทำธุระกิจครั้งแรกก็ได้กำไร ฟังคำพูดอันเป็นหลักการครั้งแรกก็เข้าใจ ฝึกขับรถครั้งแรกก็ออกถนน สิ่งเหล่านี้เป็นไปได้หรือ? ผู้ที่ไม่เคยล้มเหลวชีวิตแบบนี้ก็ย่อมจืดชืด ขาดประสบการณ์เหมือนขาดการปรุงรสในชีวิตไป เพราะไม่เคยได้ลิ้มรสความสุขจากการก้าวย่าง ความปิติแห่งการเติบโต ความผิดพลาดสำคัญที่คนเราพลั้งเผลอกันไปก็คือ '' กลัวที่จะทำผิด จนไม่กล้าที่จะทดลอง"
    ผู้ชนะย่อมไม่กลัวความผิดพลาด สิ่งที่น่ากลัวคือ กลัวความผิดพลาดจนไม่กล้าทำสิ่งใด ได้ลิ้มลองความพ่ายแพ้จึงจะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลง เมื่อความล้มเหลวค่อยๆจางหาย สุดท้ายย่อมเอื้อมถึงความสำเร็จ!
    .............อ่านแล้วนึกถึงเพลงรอสายของพี่วีครับ(ไ ม่ใช่เพลงน้องเปานะ55)..เพลงแสงสุดท้ายครับ...บอดี้ส แลม

  14. #29
    Senior Member ปุ๊ทะริ's Avatar
    วันที่สมัคร
    Jul 2010
    ข้อความ
    2,821
    ขอบคุณ
    245
    ได้รับขอบคุณ 273 ครั้ง ใน 131 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    18

    มาตรฐาน

    อ้างอิง ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ TOOK_14 อ่านข้อความ
    55555 ขอบคุณทุกท่านครับ ดีใจครับที่เข้ามาอ่าน ก็หวังว่ากระทู้นี้คงไม่ไปทำให้เสียบรรยากาศของการพู ดคุยกันนะครับ...ถ้าเพื่อนๆพี่น้องคนไหนรู้สึกอึดอัด หรือขัดใจ ก็ขอประทานโทษด้วยนะครับ อยากจะเรียนว่า...ผมมีเป้าหมาย และผมก็มีฝันของผมครับ...
    ขอต่อให้จบเลยนะครับ....
    ถูกต้องครับน้องต้น จุดที่ทำให้ผู้คนชื่นชมมากที่สุดก็คือเส้นเชือกที่ขา ดออกจากกันนั้นเอง ดูมีชีวิตชีวาราวกับถอดวิญญาณออกมา "กำลัง" และ"ความงาม"สะท้อนออกมาในช่องว่างที่หายไป ยามเมื่อมองดูก็ราวกับจะได้ยินเสียงขาดของเชือกเส้นน ั้น!
    ทว่าเสิ่นเย่าจู่กลับตีความภาพวาดนี้ไม่ออกเลยแม้แต่ น้อยเขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเจิ้งป่านเฉียวเป็นใคร! และเขาก็ไม่รู้ว่าภาพวาดชิ้นนี้มีดีที่ตรงไหนกัน? และเมื่อชายหนุ่มเหลือบมองไปที่เส้นเชือกที่ขาด ก็รู้สึกตื่นตระหนกเป็นยิ่งนัก ใจคิดว่า"หรือว่ารอยตำหนิที่หลงจู๊บอกจะอยู่ตรงนี้นี ่เอง ถ้าเป็นเช่นนั้นข้าจะใช้หมึกวาดเส้นเชือกให้เชื่อมกั น ภาพวาดชิ้นนี้ก็จะสมบูรณ์ที่สุด พรุ่งนี้จะนำไปขายก็คงจะได้ราคาเพิ่มขึ้นอีก"
    วันรุ่งขึ้น เสิ้นเย่าจู่หอบภาพที่แก้ไขแล้วไปโรงจำนำด้วยความลิง โลด เขากล่าวออกมาอย่างดีใจว่า " ท่านดูภาพนี้สิ บัดนี้ไม่มีตำหนิใดๆอีกแล้ว คงจะขายได้ราคาสูงอีกซักนิดใช่ไหมเล่า"
    หลงจู๊เปิดภาพนี้ออกดูแล้วก็โยนทิ้งทันที " สวรรค์! ตอนนี้เจ้าขายแค่หนึ่งตำลึงข้ายังไม่เอาเลย " เสิ้นเย่าจู่เอ่ยว่า"เดิมทีภาพนี้มีตำหนิ ท่านกลับยินดีให้ถึงหกสิบห้าตำลึง ตอนนี้ข้าแก้ไขตำหนิเหล่านี้จนดีแล้วก็ควรจะได้ราคาส ูงขึ้นมิใช่หรือ"
    หลงจู๊จึงตอบว่า"ตำหนิที่ข้าพูดถึงคือขี้แมลงสาบ ขี้จิ้งจกที่เป็นรอยสกปรกอยู่ด้านบนภาพวาดต่างหาก แค่นำไปติดกระดาษแข็ง เช็ดให้สะอาดสักหน่อยก็ใช้ได้แล้ว ใครใช้ให้เจ้าวาดเส้นเชือกนั้้นลงไป! เท่ากับวาดงูเติมขาชัดๆ! ข้าจะบอกเจ้า! ความสุดยอดของภาพนี้อยู่ตรงเส้นเชือกที่ขาดนั้นอย่าง ไรเล่า! ตอนนี้ถูกเจ้าของทำพังหมดแล้ว ไม่เหลือค่าแม้ตำลึงเดียว"

    จบแล้วครับ....
    ..........เพราะทั้ง2ไม่มีความจริงใจต่อกัน......ต่า งฝ่ายอยากได้ซึ่งผลประโยชน์...สุดท้ายไม่เหลืออะไรเล ย....นิทานที่พี่ตุ๊กเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าคนเราต้อง มีความจริงใจต่อกันใช่หรือไม่ครับ..พี่ตู๊ก...
    ปล.ผมคิดเอาเองผิดถูกขอโทษด้วยนะครับ...

  15. #30
    boy115's Avatar
    วันที่สมัคร
    Dec 2006
    สถานที่
    กากอยคลับ...mazda club
    อายุ
    41
    ข้อความ
    4,260
    ขอบคุณ
    189
    ได้รับขอบคุณ 144 ครั้ง ใน 80 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    23

    มาตรฐาน


    พ่อครับ..ผมขอยืมเงินสองร้อย

    เสร็จจากงาน ถึงบ้าน
    เกือบสามทุ่มเข้าไปแล้ว เขาเดินเข้าบ้าน
    ที่ดูเงียบเหงา เนื่องจาก ภรรยาเสียชีวิตไปเมื่อปีกลาย
    ทิ้งลูกชายคนเดียวไว้ กับเขาให้หา เลี้ยงลูกตามลำพัง
    ดีว่าเจ้าหนูน้อยพอจะช่วยตัวเองได้บ้าง
    อาหารก็กิน อาหารปิ่นโต ที่ผูกประจำ หากินเองได้
    ทำให้ ไม่เป็นภาระมากมาย นัก
    เข้ามาในบ้าน เหงื่ออาบแก้มยังไม่ทันได้พัก ผู้เป็นพ่อ
    เห็นหน้าลูกชายวัยซน ที่รอรับเอ่ยปาก ทัก
    " พ่อครับวันนี้ทำงานเหนื่อยมั้ยครับ "
    " เหนื่อยสิ ลูกแล้ววันนี้ทำการบ้านเสร็จ แล้วเหรอ "
    ผู้เป็นพ่อตอบเนือยๆ พร้อมกับ ถาม ต่อ ด้วยความเคยชิน
    " เสร็จหมดแล้วครับ คือ ผม มีเรื่องบางอย่างอยากจะถามพ่อน่ะ พ่อว่างหรือยังครับ "
    ลูกชายตัวน้อย ถาม ต่อ
    ''เดี๋ยวพ่อจะไปอาบน้ำ หาข้าวกินข้าวซัก หน่อย
    แล้วคงจะเข้านอนวันนี้เหนื่อยเหลือเกิน ว่าแต่แก จะถามอะไรพ่อเหรอ "
    ผู้เป็นพ่อ ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า
    " คือผมอยากรู้ ว่า พ่อทำงานได้ ค่าจ้างวันละเท่าไรครับ "
    ลูกชาย ถามด้วยน้ำ เสียงใสซื่อ

    เค้าหันมามองหน้าลูกชาย พร้อมกับ ขมวดคิ้วด้วย ความสงสัย
    แล้วผู้เป็นพ่อ แต่ก็ตอบไปว่า
    " วัน ล่ะ สี่ร้อย "

    " งั้นผม ขอยืม ตังค์ พ่อ ซักสองร้อยได้ มั้ยครับ "
    ลูกชายตัวน้อยเอ่ยปากด้วยสายตาวิงวอน

    " หา แกว่าไง นะ "
    ผู้เป็น พ่อ ขึ้นเสียงด้วยอารมณ์ขุ่นมัว

    ก่อนที่จะ หันมา พูดกับ ลูกชายด้วยเสียงเข้มขึ้น กว่าเดิม
    " นี่ฟังนะ แกคิดว่า เงินทอง หาได้ง่ายๆ เหรอ กว่าพ่อจะได้เงิน สี่ร้อย บาท
    ต้องทำงานเหนื่อยตั้งแต่เช้ายันค่ำแต่พอกลับมาถึงบ้า น เจอแก รอขอยืมเงิน
    พ่อง่ายๆแบบนี้นี่นะแกลองไปคิดดูให้ดี สิว่าแกทำประโยชน์อะไรให้พ่อบ้าง
    พ่อถึงจะต้องให้ เงินสองร้อยนี่ให้แก ยืม "

    เด็กชายยืนนิ่ง มองหน้าพ่อ ไม่มีเสียงหลุดออก จาก ปาก
    แต่น้ำตาไหลซึม ลงอาบร่องแก้มทั้ง สองข้าง
    ก่อนที่จะหัน หลังเดินกลับห้อง ตัวเอง อย่างซึมเซา
    หลังจากอาบน้ำเสร็จ แวะเข้าครัว หาข้าวปลากินเรียบร้อย
    เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ เดินไป ที่ ระเบียง ความรู้สึกเคร่งเครียดที่ได้รับ
    มาจากงานนอกบ้าน เริ่มผ่อนคลาย คิดไป ถึงอดีตที่ผ่านและงานที่ทำมาทั้งวัน
    แล้วก็ ย้อน กลับคิดไปถึงลูกชายตัวน้อย ลูกเป็นเด็กดี
    ไม่เคยเกเร ไม่เคยเอ่ยปากขอเงินเพิ่ม นอกจากเงินค่าขนมที่เขาให้
    ประจำวันเท่านั้น แต่วันนี้ทำไม ถึงเอ่ยปากยืมเงินเมื่อสักครู่
    เขา เหนื่อยเกินไป หรือเครียดเกินไปหรือป่าว

    ถึงได้ใช้อารมณ์กับ ลูกไปอย่างนั้น เมื่อได้คิด เขาดับ บุหรี่
    แล้วเดินไปที่ห้องลูกชายไฟในห้องนอนดับแล้ว
    เมื่อเปิดประตูเข้าไปเอื้อม มือเปิดไฟในห้อง หนูน้อยนอนตะแคง
    หน้าตายังคงลืมจ้องมองมาที่ประตูแก้มที่แนบกับหมอน ชุ่มด้วย น้ำตา
    พร้อมเสียงสะอื้นเบาๆอยู่คน เดียว
    เขาเดิน ไปนั่งที่ขอบเตียงมือลูบผม ลูกชายเบาๆ พร้อมกับ
    เอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเครือ จุกคอ
    " พ่อขอโทษนะลูก เมื่อกี้ พ่อเหนื่อยมามากเลยใช้อารมณ์ กับลูกมากไปหน่อย
    จริงๆตะกี้พ่อไม่ได้ถามลูกด้วยซ้ำว่า ลูกอยากยืม เงินพ่อไปทำไม ลูกอาจจะมี
    เหตุจำเป็นที่จะ ต้องใช้เงินก็ได้ เงินแม้ว่าจะหาได้ลำบาก
    ไม่ได้ได้มา ง่ายๆ แต่ถ้าลูกมีเหตุผลเพียงพอ พ่ออาจจะให้ยืม ก้อได้ เพราะว่า ลูก
    น่ะสำคัญสำหรับพ่อเหนือ สิ่งอื่นใด และพ่อรักลูกจ้ะ "

    " ว่าแต่ ไหน ลูกลองบอกพ่อสิว่า ลูกอยากยืม เงินสองร้อยไปทำ อะไร "
    ผู้เป็นพ่อถามลูกชายที่มอง
    หน้าพ่อนิ่ง ด้วยน้ำเสียงปราณี เต็มเปี่ยมด้วยความรัก
    ลูกชายตัวน้อย ส่งเสียงสะอื้นจากลำคอ
    " พ่อครับ ตั้งแต่แม่ ตาย ผมเห็นพ่อต้องทำงาน
    หนักเพื่อหาเงินทุกวัน จนไม่ได้พัก ไม่ได้อยู่กับผมเลย เราแทบไม่มีเวลาได้อยู่ด้วยกัน
    ผมเลย ค่อยๆเก็บค่าขนมของผมไว้ ตลอดมาจนถึงตอนนี้
    ผมเก็บได้สองร้อยบาทแล้ว แต่พอผมรู้จากพ่อ ว่า
    พ่อทำงานได้ ค่าจ้างวันล่ะสี่ร้อยผม จึงอยากยืมพ่อเพิ่มอีกสองร้อย
    ให้เป็นสี่ร้อยเพื่อจะได้ใช้เป็นค่าจ้างให้พ่อได้พัก
    ได้อยู่กับผม ซักวันนึง ครับ "
    เงินทอง อาจจะจำ เป็น ต่อการดำรงชีวิต
    แต่ ครอบครัว ยังคงต้องการ ความรัก ความอบอุ่น และ
    เวลาที่มีให้ แก่กัน
    " อย่าห่วงงานจนลืม ครอบครัว และ คนที่คุณรัก "
    เล่นไปตามงบ...เเล้วจะจบสวย
    ราคาไม่เท่าไหร่ แต่ยิ่งใหญ่ในความรู้สึก

    [email protected]
    โอนเงิน
    หมายเลขบัญชี6450092397 ณรงค์ศักดิ์ ทับทิมเงิน
    ธ.กรุงเทพสาขาบิ๊กซีพิษณุโลก
    ส่งของ
    ณรงค์ศักดิ์ ทับทิมเงิน 1090/9ถ.บรมไตรโลกนารถ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก65000
    DTAC0845911478

    เฟสบุค https://www.facebook.com/boy115

หน้าที่ 2 จากทั้งหมด 3 หน้า แรกแรก 1 2 3 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย

Bookmarks

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •