เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าแอพแบบ Metro เท่านั้นที่จะสามารถวางขายบน Windows Store ได้ (ดูรายละเอียดการส่งแอพแบบ Metro ขึ้นสโตร์ได้จากข่าวเก่า) ส่วนแอพแบบเดสก์ท็อปนั้น Windows Store จะทำหน้าที่แสดงข้อมูลเท่านั้น ลูกค้าที่สนใจจะต้องกดลิงก์ Go to developer's website เพื่อไปยังหน้าเว็บแล้วซื้อ-ดาวน์โหลดเอง (ข่าวอ้างอิง) ซึ่งล่าสุดไมโครซอฟท์ก็ได้เผยรายละเอียดการนำข้อมูลแ อพแบบเดสก์ท็อปขึ้นไปแสดงบน Windows Store แล้ว โดยนักพัฒนาจะต้องดำเนินการ ดังนี้

  1. ลงทะเบียนเพื่อขอบัญชีผู้ใช้ Hardware/Desktop Dashboard (ลิงก์เว็บนี้ดูได้จากที่มาของข่าว)
  2. อัพโหลดผลการทดสอบแอพที่ได้จาก Windows App Certification Kit (โปรแกรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Windows Software Development Kit ใครสนใจศึกษาและดาวน์โหลดชุด SDK ได้จากที่นี่)
  3. หลังจากไมโครซอฟท์รับรองผลการทดสอบแล้ว ให้นักพัฒนาส่งข้อมูลแอพขึ้นสโตร์ โดยลงชื่อเข้าใช้ Windows Store ด้วยบัญชีผู้ใช้อันเดียวกับข้อที่ 1 จากนั้นกรอกรายละเอียดของแอพ แล้วส่ง (submit) เพื่อขอการรับรองจากสโตร์ (Windows Store Certification)
  4. เมื่อแอพนั้นผ่านการรับรองแล้วก็จะไปปรากฎบน Windows Store

ในการกำหนดราคาสำหรับแอพประเภทเสียเงินนั้น ไมโครซอฟท์แนะนำว่าควรระบุ price tier ที่ใกล้เคียงกับมัธยฐาน หรือราคาที่อยู่ตรงกึ่งกลางของราคาแอพทั้งหมดที่เป็น ไปได้ที่จะวางขายในทุกตลาด (อาทิ แอพที่ขึ้นสโตร์มี 5 รุ่นวางขายใน 3 ประเทศ ก็จัดเรียงราคาของทุกรุ่นทุกตลาดจากถูกสุดไปแพงสุด แล้วเอาราคาตรงกลางมาเพื่อเลือก price tier บน Windows Store) โดย Windows Store จะรับหน้าที่แปลงราคาเป็นสกุลเงินต่างๆ ให้อัตโนมัติ
นักพัฒนาสามารถระบุตลาด (market) ที่จะวางขายแอพ และภาษา (language) ที่แอพรองรับได้เหมือนกับแอพแบบ Metro แต่สิ่งที่แตกต่างไปจากการส่งแบบ Metro ขึ้นสโตร์ คือ ไมโครซอฟท์จะบังคับให้นักพัฒนาระบุ URL ไปยังหน้าที่ลูกค้าสามารถสั่งซื้อแอพได้ (แยกกันระหว่างเวอร์ชัน 32 และ 64 บิต) จุดนี้ไมโครซอฟท์แนะนำว่านักพัฒนาควรทำหน้าเว็บที่ลู กค้าสามารถเข้าผ่านจาก Windows Store ไปซื้อได้แทบจะในทันที
ที่มา: Windows Store for developers


More...