ช่วงหลังมานี้มีข่าวลือของ BES 10 ออกมาหลายครั้ง วันนี้ทาง RIM ออกมาแถลงข้อมูลอย่างเป็นทางการของ BES 10 แล้ว
อย่างแรกที่สำคัญแต่หลายคนอาจมองข้าม (ผมก็อ่านข้ามในตอนแรก) คือชื่อเต็มของ BES เปลี่ยนมาเป็น BlackBerry Enterprise Service (ไม่ใช่ Server อีกแล้ว) ส่วนตัวย่อยังใช้เป็น BES เหมือนเดิม
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สะท้อนว่า BES 10 ไม่ใช่เซิร์ฟเวอร์เดี่ยวๆ เหมือนกับ BES 5.x อีกแล้ว เนื่องจากมันมีองค์ประกอบเพิ่มเข้ามาหลายอย่างจนต้อง เรียกเป็น Service แทน

BES 10 ประกอบด้วยส่วนประกอบ 4 อย่าง ดังนี้

  • BES 5.0.3 สำหรับให้บริการเครื่อง BlackBerry รุ่นเก่า ตั้งแต่เวอร์ชัน 7 ลงไป
  • BlackBerry Device Service (BDS) สำหรับให้บริการ BlackBerry รุ่นใหม่คือ BB10 และ PlayBook
  • Universal Device Service (UDS) สำหรับให้บริการมือถือแพลตฟอร์มอื่นๆ ในที่นี้รองรับ iOS และ Android
  • คอนโซลจัดการผ่านหน้าเว็บ ที่ใช้ได้กับส่วนประกอบทั้ง 3 อย่างข้างต้น

ช่วงแรกๆ ส่วนประกอบย่อยของ BES 10 จะยังแยกส่วนกันทำงานอยู่มาก แต่ในอนาคต RIM จะพยายามผนวกมันเข้าด้วยกันภายใต้แบรนด์ BES 10 อย่างเดียว
BES 10 รุ่นแรกสุดจะออกช่วงไตรมาสแรกของปี 2013 และยังมีข้อจำกัดอยู่พอสมควร โดยจุดที่เป็นปัญหาหน่อยคือ BES 5 ที่ยังต้องแยกตัวเป็นเอกเทศ ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ของตัวเองอีกเครื่องหนึ่ง (ลงร่วมกับ BES 10 ไม่ได้ และรันบนเครื่องเสมือนไม่ได้) ส่วน BDS/UDS สามารถอยู่บนเครื่องเดียวกันได้ และใช้งานเครื่องเสมือนได้
จากนั้นในเดือนพฤษภาคม 2013 เราจะเห็น BDS/UDS รวมตัวกันกลายเป็นโปรแกรมเดียว และ BES 5 จะสามารถรันบนเซิร์ฟเวอร์เดียวกับ BES 10 ได้เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการ อย่างไรก็ตาม RIM ไม่ได้บอกว่าในอนาคต BES 5 จะถูกพัฒนาให้ทำงานบนสภาพแวดล้อมเสมือนได้ด้วยหรือไม ่
ถึงแม้แผนการของ RIM ดูยุ่งยากพอสมควร แต่มองในแง่ดีก็คือไม่มีเครื่อง BlackBerry รุ่นเก่าๆ ที่ถูกทิ้งครับ
ที่มา - BlackBerry


อ่านต่อ...