....เข้าใจว่าท่านประทับใจมากขนาดไหน..เพราะผมก็เคยเ ป็นอย่างท่านมาก่อนและก็ยังเป็นอยู่ทุกวันนี้ครับพี่ ๆๆของผมทุกท่านเป็นยิ่งกว่าพี่แท้ๆๆของผมอีกนะพี่เขา ให้ใจมาเกินร้อยผมเป็นน้องต้องจัดให้พี่2ร้อยแน่นอนค รับเมื่อมีโอกาศเชื่อเถอะครับว่ามีที่บ้านมาสด้าที่เ ดียวครับความอบอุ่นแบบนี้..ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้มาอ่ านเรื่องราวของพวกเราและคุณอยากเข้ามาเป็นส่วนนึ่งขอ งพวกเราคุณต้องเปิดใจและเดินตามรอยของพวกพี่ๆเขาครับ และคุณจะรู้ว่าความสุขไม่ได้อยู่ที่รถครับ..แต่มันอย ู่ที่...ใจคุณครับ..เสร็จสิ้นกับภารกิจมี๊ตติ้งกันแบบพี่ๆน้องๆ มาสด้าคลับ อบอุ่นจริงๆครับ นี่เป็นครั้งแรกของผม ได้เจอหลายๆเหตุการณ์ที่ประทับใจ เอาตั่งแต่โทรคุยนัดหมายกับพี่ดาบเปิ้ลก่อน ไม่เคยเจอกันมาก่อนครับ เช้าวันที่เดินทางเป็นครั้งแรก ได้เจอพร้อมกับพี่ดา ( ได้แต่คุยผ่านหน้าเว็ป ) เริ่มออกเดินทาง ให้ตำรวจนำอย่างที่พี่ดาว่า นำลิ่วเลย ไม่รอผมเลย รถของผม1300 เดิมๆ เหยียบ 80 นี่ว่าเร็วแล้วนะ วันนั้นเหยียบเป็น 100 หูอื้อครับ เสียงเครื่องดังมาก ประมาณ 9.40 ครับ ถึงวัดทับกระดาน สถานที่แรก พี่โอต้อนรับอย่างอบอุ่น ด้วยคาราบาวแดง แต่ผมขอบาย ดื่มแล้วใจสั่นครับ ก็ได้พูดคุยทักทาย ดูรถของกันและกัน ทุกคนแปลกใจรถผมที่มันมีกันขโมย (อันที่จริงผมติดไว้เพื่อไม่อยากใช้กุญแจไขประตู และมันต้องเปลี่ยนลูกกุญแจใหม่ ไม่อยากใช้กุญแจหลายดอก แบบว่ารักเดียวใจเดียวครับ) พี่โอก็แนะนำหลายๆ อย่าง ก็จะเก็บเอาไว้ไปปรับปรุงครับ เริ่มเดินทางต่อท่าม่วง คราวนี้พี่โอนำ ก็เหมือนเดิมครับ ไปลิ่วเลย ไอ้เราก็กลัวตามไม่ทัน เหยียบเป็นเหยียบครับ การเดินทางก็ราบรื่นโดยดี แล้วพวกเราก็ถึงร้านพี่เกริก สมาชิกเยอะมาก เหมือนว่าเราไปสายนะพี่โอ ผมก็ไม่รอช้าหยิบกล้อง แล้วก็เข้าไปทักทายสวัสดีพี่น้องมาสด้าเราทุกคนๆอัธย าศัยดีครับ ได้รับการต้อนรับย่างอบอุ่นครับ และก็ต่อด้วยมื้อเช้าก๋วยเตี๋ยวที่ร้านพี่เกริก อร่อยครับ แบบว่าทานได้เลย ไม่ต้องปรุงเพิ่มเติม หลังจากเติมพลังงานกันแล้ว ถึงเวลาออกทริปสะพานข้ามแม่น้ำแคว ได้ยินเสียงจากวิทยุบอกว่าจะพาพวกเราขับผ่านเมืองเพื ่อโชว์ตัวกันนิ๊ดหนึ่ง ขบวนแตกบ้างเป็นเรื่องธรรมดาครับ เพราะจราจรหนาแน่ (ดีนะที่ผมทำการบ้านมาก่อน ติดตามในเว็ป ว่าถ้าออกทริป เขาจะใช้ ว.แดงกัน งานนี้ผมเลยไม่พลาดการสื่อสารครับ แต่ว่าไม่ได้พูดมากนัก เพราะว่า พูดไม่ทันท่านแม่ทัพทั้งหลายครับ หยอกกันตลอดทาง ผมกับพี่ดาได้ฟังแล้ว ยังมองหน้ากันแล้วหัวเราะ..สนุกครับ)
ถึงจุดหมายสะพานข้ามแม่น้ำแคว ซ็อตที่พวกเราไม่พลาดก็คือถ่ายรูปครับ หมู่ เดี่ยว เดี่ยวๆ ตามอัธยาศัย แต่ซ็อตที่เด็ด ได้ถ่ายรูปกะหญิง แต่ว่างานนี้ พี่ซิกแซก ได้แย่งซีนท์ทั้งหมดครับ ก็คนมันหล่อนี่หน่า ช่วยไม่ได้ใช่ไหม๊ครับพี่ซิกแซก หลังจากนั้นเราก็เดินทางกลับครับ แต่ครานี้ใช้เส้นทางเลี่ยงเมืองครับ จราจรก็ลดความหนาแน่นลงไปเยอะเลย แวะดูแม็ค และร้านของเล่น ไม่รู้ว่าใครได้อะไรไปกัน แต่ที่เห็นคงเป็นพี่วีที่ได้กระทะกะตะหลิว คงจะเตรียมเอาไว้ทำอาหารเช้า ไข่ดาว ให้สมาชิกที่ไปเยือนบางแคได้รับประทานกัน แต่ผมว่าฝีมือการทำอาหารของพี่วีคงไม่ธรรมดาแน่ เห็นหลายๆเมนูในกะทู้แล้ว น่ากินทั้งนั้นเลย มีโอกาสคงได้รับประทานฝีมือพี่วีบ้างนะครับ
เสร็จจากร้านของเล่นก็มุ่งหน้าร้านอาหารเรือนแพ เขื่อนแม่กลอง แวะรับสมาชิกเราที่ตามมาสมทบเพิ่ม 2 ท่านครับ แวะ 7-11 นิ๊ดหนึ่ง พี่วีอยากล้างหน้าที่ 7-11 แต่ว่าเขาไม่มีห้องน้ำบริการนะพี่วีครับ ...555 ถึงร้านเรือนแพก็รับประทานอาหารกัน อร่อยครับ ได้ทานข้าวร่วมกับบรรดาแม่ทัพนายกองทั้งหลาย ก็หยอกกันเล่น พูดคุยสไตล์มาสด้า ซึ่งผมก็ตามทันบ้างเป็นบางเรื่อง และก็ถึงเวลาที่ประธานเปิดโครงการสัมมนาท่าม่วง ยินดีกับพี่วีด้วยที่ได้เป็น Webmaster ของ Thaiscooter และพี่วีก็แจ้งทริปครั้งหน้า อันนี้ผมอุบไว้ให้พี่วีแจ้งแถลงเองเป็นทางการดีกว่าค รับ พวกเราก็ดื่ม กิน พูดคุย แต่ซ๊อตเด็ดน่าจะเป็นคลิปที่พี่นัน อันนี้ก็ต้องรอดูจากพี่นันครับว่า จะตัดต่อเสร็จเร็วเพียงใด แล้วก็อัพโหลด สนุกแน่ครับคลิปพี่นัน ประมาณ 17.30 เห็นจะได้ เราก็ย้ายสถานที่มาต่อที่ร้านพี่เกริก เพื่อมาซ่อมรถพี่ดาบเปิ้ล ที่เบรกแตก ก็รถมันแรง นำลิ่วตลอด ได้พ่อหมอมาทำรถพี่ดาบเปิ้ลให้ พี่โอ๊ดครับ เชียน เก่ง เทพจริงๆ รวมทั้งพี่เกริก พี่ปุ๊ และพี่นันด้วยนะครับ เก่งๆกันทุกคน จริงๆแล้วผมก็รู้จักชื่อพี่ๆทั้งหลายไม่ได้หมดครับ เพราะว่าวันนั้นเราไม่ได้แนะนำตัวกันเลย ใครเป็นใคร ล็อกอินอะไร แต่พี่วีจำของผมได้ ผมก็ชื่นใจแล้วล่ะครับ ที่ไม่ลืมกัน ก็ได้ติดตามจากในเว็ปนี่แหละ ว่าใครเป็นใครบ้าง ขอโทษด้วยถ้าผมไม่ได้กล่าวถึงครับ และแล้วรถพี่ดาบเปิ้ลก็เสร็จ ไปทดสอบเบรก ได้ยินจากปากพี่ดาบเปิ้ลว่า มันดีกว่าก่อนหน้านี่เสียอีก นั่นแน่ ผมบอกแล้ว ว่ามาสด้าเขาของจริงกันทุกคน จริงๆแล้วมันเป็นกุสโลบายของพี่ดาบเปิ้ล ที่ต้องการให้สมาขิกมาสด้าของเราได้มานั่งดริ่งกันต่ อ แต่เวลาแห่งความสุขมันชั่งหมดไว้เหลือเกิน เหมือนกับที่พี่วีได้พูดไว้ที่ร้านอาหารเรือนแพ แต่เชื่อผมเถอะว่า เวลาแห่งความสุขมันชั่งหมดไว้เหลือเกิน แต่มันก็จะกลับมาไวเช่นกัน ฉันไดฉันนั้นครับ พวกเราล่ำลากันที่ร้านพี่เกริก แต่เชื่อผมเถอะว่าทุกคนไม่อยากที่จะกลับ เหมือนว่ามันยังไม่ถึงที่สุด แต่สุดท้าย ทุกคนก็ต้องกลับไปทำหน้าที่ของตนเอง แล้วเราจะพบกันใหม่ครับ.....
ปล.ผมไม่รู้ว่าผมจะบรรยายให้ใครอ่าน และใครเขาจะอ่านสตอรี่ห่วยๆของผม แต่ผมอยากจะบรรยายให้มันเป็นบันทึกของผม เก็บไว้ในบ้านมาสด้า ว่าครั้งหนึ่ง ผมเคยเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งนั้นในบ้านมาสด้าครับ... ...
Bookmarks