ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ
mazda club thailand
8 แรง เมืองย่าโม ตอนที่ 5 "วิกฤตที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย (ได้)"
ในระหว่างที่พาเธอกลับมาในใจครุ่นคิดย้อนไปถึงในคู่ม ือจดทะเบียน ตรวจสอบประวัติผู้อุปถัมภ์เธอมาถึง 6 ชีวิต ทำไมไม่เกิดปัญหาเลย พอมาถึงผมคำว่า "วิกฤต" ก็ทำให้คนที่ไม่มีประสบการณ์ หาทางออกไม่เจออย่างผม ถึงกับท้อที่เคยคิดว่าจะส่งเธอกลับคืน แต่เมื่อมองสรีระ ความรู้สึกจากสายตาของนางฟ้าที่ทอดผ่าน อยากจะสื่อสารกับผมเป็นครั้งสุดท้ายก็เป็นได้ กับประโยค "ในเมื่อกาลเวลาผ่านมาถึงเกือบ 50 ปี ทำให้ฉันได้รู้ถึงจิตใจของมนุษย์ ว่าสิ่งที่มองกันมาก็มีแค่ร่างกายภายนอกแค่นั้นหรือ ซึ่งต่างจากคุณที่แคร์ความรู้สึกของฉัน และคุณก็เป็นความหวังสุดท้ายที่จะดูแลฉัน กับกาลเวลาที่ฆ่าฉันไม่ตาย "คุณเมย์ " เท่านั้นหล่ะครับทำให้ผมพยายามหาทางออกอย่างสุดความส ามารถ ขอกล่าวถึง "พี่นิด"พี่สาวร่างเล็ก จนท.ขนส่งที่ให้คำปรึกษาเบื้องต้น เกี่ยวกับผู้ครอบครอง พี่นิดบอกว่า "ก่อนปี 46 ยังไม่มีการโอนงานทะเบียนจากกรมตำรวจมายังขนส่งทั่วป ระเทศเท่ากับว่ายังไม่มีการนำข้อมูลรถเข้าระบบคอมพิว เตอร์จึงไม่สามารถเช็คได้ว่าหมายเลขเครื่อง หมายเลขตัวถัง ซ้ำกับรถคันอื่นหรือไม่ จึงไม่แปลกเลยว่าผู้อุปถัมภ์เธอทั้ง 6 ท่านสามารถโอนได้โดยไม่ได้มีการตรวจสอบจากขนส่งจังหว ัด" คร่านี้ วิกฤต ก็มาตกที่ผม "ไหนๆก็มาถึงขนาดนี้แล้ว" ผมไม่รีรอที่จะขอคำปรึกษาจาก "พี่เอกชัย" หน.งานตรวจสภาพรถ ชายร่างเล็ก ใส่แว่น ดูสุขุม พี่เอกชัยได้ให้คำตอบมาประโยคนึงว่า "เป็นพี่ พี่ไม่ซื้อรถคันนี้หรอก " นั่งฟังน้ำตาตกใน คิดในใจ " ถ้ารู้ว่าน้องนางฟ้าโอนไม่ได้ คุณพ่อผมก็ไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรก " พี่เอกชัยสอนผมหลายอย่างเกี่ยวกับการทำงานของระบบราช การ พูดคุยกันซักระยะนึง พี่เอกก็ให้คำแนะนำว่า ให้เจ้าของลำดับสุดท้ายมาให้บันทึกปากคำว่าเป็นผู้คร อบครองอยู่จริง "เจ๊ไข่"สาวมั่นดูคล่องแคล้ว ร่างท่วม ผิวขาว ทราบต่อมา "เจ๊ไข่" เป็นผู้รับจำนำน้องนางฟ้า ผู้ถือครองคนสุดท้าย จากการนัดแนะโดยที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน "สวัสดีครับ เจ๊ไข่" ผมทักทายด้วยความยิ้มแย้ม เพราะรบกวนเวลา "เจ๊ไข่" เจ้าของกิจการ แถมจบ ป.เอก อีกต่างหาก (เราคุยกับ ดร.เลยหรอเนี้ย) หลังจากพบกันพร้อมหน้าพร้อมตา (พี่เอก,เจ๊ไข่,ผม) ที่ขนส่ง ระหว่างที่สอบถามเรื่องราว บันทึกให้ปากคำยืนยันการเป็นเจ้าของ ระหว่าง เจ๊ไข่ เขียนบันทึกตามคำบอกของพี่เอก ถึงประโยค "หากตรวจสอบแล้วว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถคันเดียวกันกั บที่จดทะเบียนไว้เดิมจริงกับที่ขนส่งกรุงเทพ (จดปี 2507)แต่นางฟ้าจดทะเบียน( ปี 2512) มีโอกาสเป็นรถคันเดียวกัน ข้าพเจ้าจะขอรับผิดทั้งแพ่งและอาญา" เท่านั้นหล่ะครับเจ๊ไข่ของขึ้น วางปากกา ไม่เขียน ไม่เซ็นต์เอกสารใดๆทั้งสิ้น เพราะ เจ๊ไข่เองก็ไม่รู้เช่นกันเพราะก่อนหน้านี้ก็สามารถโอ นมาเป็นชื่อของ เจ๊ไข่ ได้เลย งานเข้าผมอีกแล้ว วิกฤตซ้ำเติมละลอกสาม ระดับ ดร.ไม่ยอมมาเสียหากับเรื่องแค่นี้หรอก "เจ๊ไข่" ทิ้งสมอ แล้วก็ล่ำลาจากไป ความหวังของผมเริ่มริบหรี่ กลับมาที่ พี่นิด สาวร่างเล็ก จนท.ขนส่ง กับเรื่องราวที่ผ่านมาของ เจ๊ไข่ ด้วยความผิดหวัง "ไว้เดี๋ยวพี่นิดจะปรึกษากับพี่เอกให้นะ" พี่นิดได้ให้กำลังใจผม เพราะเห็นความมุ่งมั่นที่ไม่ละเลย อีกอาทิตย์ต่อมาได้รับสายจาก พี่นิด ว่าให้ติดต่อเจ้าของลำดับก่อน "เจ๊ไข่" ไปพบพี่เอกที่ขนส่งเพื่อที่ให้ถ้อยคำเหมือนที่ผ่านมา ผมนึกในใจ "ไม่ถึงลำดับแรกเลยหรอนี่ แล้วจะไปตามหรือขุดโครงกระดูกปลุกวิญญานมายืนยันกันเ ลยมั๊ย" ว่าแล้วก็ติดตาม โทรนัดมาจนได้ ยังมีชีวิตอยู่ ผมเรียกท่านว่า "พ่อแฉล้ม" และผมก็ได้เล่าความเป็นมาให้ พ่อแฉล้มฟัง ท่านน่ารักมากไม่มีข้อกังหา มาได้ทุกเมื่อ หลังจากได้นัดแนะ (พี่เอก พ่อแฉล้ม และผม) ที่ขนส่ง ระหว่างบันทึกข้อความให้ปากคำ ถึงประโยคที่ "วิกฤต" จะเป็นเหมือนเจ๊ไข่หรือเปล่า และแล้ว พ่อแฉล้มก็เขียนผ่านฉลุยโดยไม่มีข้อกังขา ด้วยเหตุผลเดียวที่พ่อแฉล้มบริสุทธิ์ใจว่าการได้มาด้ วยการไม่ได้ไปขโมยใครมา ทำให้สามารถเขียนบันทึกให้ปากคำด้วยความเต็มใจ ผมซึ้งใจน้ำใจ และแววตาที่เป็นมิตรของพ่อแฉล้มอย่างเต็มเปี่ยมครับ เท่านั้นยังไม่จบครับ พี่เอกได้ให้ จนท.ทำหนังสือไปสอบถามและรอการตอบกลับจากขนส่งกรุงเท พ เป็นขั้นตอนต่อไป หลังจากนั้นก็ได้ร่ำลาพ่อแฉล้ม พี่เอก อย่างมีความหวัง....ในตอนที่ 6 "คำตอบนี่หรือ?..ที่รอคอย"
Bookmarks