เว็บไซต์ The Atlantic ลงพิมพ์เนื้อหาส่วนหนึ่งในหนังสือเรื่อง Dogfight: How Apple and Google Went to War and Started a Revolution ของ Fred Vogelstein ที่เพิ่งวางขายไปเมื่อเร็วๆ นี้
เนื้อหาในหนังสือสัมภาษณ์ทีมวิศวกรของ Android ในช่วงแรกเริ่ม โดยระบุว่าสมัยนั้นวงการมือถือกระจัดกระจายมาก แอพที่รันได้ในมือถือรุ่นหนึ่งไม่สามารถไปใช้กับมือถ ืออีกรุ่นได้โดยง่าย และโอเปอเรเตอร์มีอำนาจต่อรองสูงมาก กูเกิลเองก็เคยพยายามเจรจากับ Vodafone เพื่อนำ Google Search ไปลงมือถือ แต่ Vodafone กลับนำผลการค้นหาของกูเกิลไปอยู่ท้ายๆ เพราะต้องการให้ผลการค้นหาจำพวก "โหลดริงโทน" ที่สร้างรายได้ให้ Vodafone อยู่ด้านบนๆ แทน
เหตุผลเหล่านี้ทำให้กูเกิลตัดสินใจทำ Android ตั้งแต่ปี 2005 โดยตอนนั้นกูเกิลมองว่าคู่แข่งที่สำคัญคือไมโครซอฟท์ ที่ไปได้ดีกับ Windows Mobile ทำให้กูเกิลกลัวว่าถ้า Windows Mobile ครองโลกแล้วจะทำให้กูเกิลโดนกีดกันแบบที่ Netscape เคยโดนมาก่อน
ดังนั้น Android ในช่วงแรกเริ่มจึงพัฒนาขึ้นเพื่อต่อสู้กับ Windows Mobile เป็นหลัก มือถือ Android รุ่นต้นแบบตัวแรกใช้โค้ดเนมว่า Sooner ใช้อินเทอร์เฟซแบบเมนู ไม่มีจอสัมผัส และมีคีย์บอร์ดจริง
แต่ทุกอย่างถูกเปลี่ยนแปลงทันทีเมื่อแอปเปิลเปิดตัว iPhone ช่วงต้นปี 2007 โดยทีม Android เล่าว่าทุกคนรู้อยู่แล้วว่าแอปเปิลจะเปิดตัวโทรศัพท์ แต่ไม่มีใครคิดว่าแอปเปิลจะทำออกมาได้ดีขนาดนั้น (ตอนที่สตีฟ จ็อบส์ขึ้นเวที Andy Rubin แห่งทีม Android อยู่บนรถ ซึ่งเขาขอให้คนขับจอดรถเพื่อหยุดดูถ่ายทอดสดการเปิดต ัว iPhone ให้จบ)
Chris DeSalvo หนึ่งในทีม Android เล่าถึงเหตุการณ์ในตอนนั้นว่า ในฐานะผู้บริโภค เขาตื่นเต้นกับ iPhone มากและอยากได้สักเครื่อง แต่ในฐานะทีม Android เขารู้สึกทันทีว่า "ต้องทำใหม่หมด" ส่วน Andy Rubin ก็พูดกับคนที่ไปด้วยกันในรถว่า "เราไม่สามารถวางขาย Sooner ได้อีกแล้ว"
หลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ ทีม Android ก็ปรับแผนการใหม่หมด และหยิบเอาไอเดียมือถือจอสัมผัสชื่อ Dream มาผลักดันแทน Sooner (ซึ่งมันกลายเป็น T-Mobile G1 หรือ HTC Dream หลังจากนั้นอีกเกือบ 2 ปี)
ทีม Android ระบุว่าซอฟต์แวร์ของ Android รุ่นแรกๆ นั้นก้าวหน้ากว่า iPhone ในหลายๆ มิติ เช่น มีเบราว์เซอร์ตัวเต็มที่สามารถรันบริการอย่าง Google Maps หรือ YouTube ได้, รองรับ multitasking สมบูรณ์แบบ, มีเรื่อง online store เตรียมไว้แล้ว แต่สิ่งที่ด้อยกว่ากับเป็นเรื่องความสวยงามและวิธีกา รใช้งานด้วยนิ้วสัมผัสที่ iPhone ทำได้ดีกว่ามาก จนทีม Android ต้องกลับไปปรับปรุงตัวเองมาใหม่เพื่อไม่ให้ด้อยกว่าก ันจนเกินไป
ที่มา - The Atlantic
Android, Google, Mobile, iPhone, Windows Mobile




อ่านต่อ...