โบราณเล่าว่า..... - หน้า 2
                                
หน้าที่ 2 จากทั้งหมด 2 หน้า แรกแรก 1 2
กำลังแสดงผล 16 ถึง 19 จากทั้งหมด 19

ชื่อกระทู้: โบราณเล่าว่า.....

  1. #16
    pooclassic's Avatar
    วันที่สมัคร
    Nov 2006
    สถานที่
    Bangkok, Thailand, Thailand
    ข้อความ
    585
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    18

    มาตรฐาน



    ส่วนพระโพธิสัตว์องค์ที่ 5 อันเป็นลูกองค์สุดท้ายของแม่กาเผือกคือ พระศรีอริยเมตไตรย จักเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 5 ในภัททกัปนี้จะมีอายุถึง 8 หมื่นปี ในยุคของพระศรีอริยเมตไตรย์นั้น สภาพสังคมมนุษย์โลกจะอุดมสมบูรณ์พูนสุขมาก เพราะผู้คนมีศีลธรรมอยู่ด้วยกันได้เมตตาธรรม มีศีล 5 บริสุทธิ์ ทุกคน จึงมีทรัพย์สมบัติมาก มีอายุ ยืนยาว ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ มีรูปร่างสวยสดงดงาม หน้าตาผ่องใสเบิกบานด้วยกันหมด เพราะผู้คนในยุคนั้นได้สร้างบุญบารมี ให้ทาน รักษาศีล ภาวนา กันมาสมบูรณ์ดีหมดและเพราะพระบารมีของพระพุทธเจ้าศรี อริยเมตไตรยที่สั่งสมบารมี เพื่อ ความ สันติสุขของโลกซึ่งมีพระเจ้าสังขจักรพรรดิทรงปกครองบ ้านเมืองโดยชอบธรรมในเมืองเกตุมวดีนคร แผ่ธรรมจักรพรรดิให้คนรักษาศีล 5 ทั้งโลก เมื่อพระศรีอริยเมตไตรยได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ ว ผู้คนจึงได้ฟังพระธรรมจักรได้ดื่มรส อมตธรรมแห่งพระศรีอริยเมตไตรย์ ได้บรรลุเข้าถึงสวรรค์นิพพานโดยแท้ ผู้คนในยุคนั้นจึงโชคดีที่สุดที่เกิดมาเพื่อสันติสุข เข้าถึง ศีลธรรมอันดีงามทั้งหมด
    ขอบพระคุณทุกท่านครับ

    086-0358555
    pooclassic : ขายของเก่า - ของสะสม

  2. #17
    pooclassic's Avatar
    วันที่สมัคร
    Nov 2006
    สถานที่
    Bangkok, Thailand, Thailand
    ข้อความ
    585
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    18

    มาตรฐาน

    ขออนิสสงฆ์ผลบุญจงบังเกิดกับและทุกๆท่านที่ได้เข้ามา อ่านทุกท่านเทอญ ให้ประสบแต่ความสุขสวัสดิ์พิพัฒน์มงคล อุดมไปด้วยปัจจัย4 ทั้งโชคลาภวาสนาและบารมีจงมาบังเกิดเป็นแก้วสารพัดนึ กให้สมความปรารถนาทุกประการเทอญ สาธุๆๆ

    ***อรุณสวัสดิ์วันพระ แรม 8 ค่ำ เดือน 10 ครับ***
    ขอบพระคุณทุกท่านครับ

    086-0358555
    pooclassic : ขายของเก่า - ของสะสม

  3. #18
    pooclassic's Avatar
    วันที่สมัคร
    Nov 2006
    สถานที่
    Bangkok, Thailand, Thailand
    ข้อความ
    585
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    18

    มาตรฐาน

    โต๊ะหมู่บูชาพระ













    รูป รูป  
    ขอบพระคุณทุกท่านครับ

    086-0358555
    pooclassic : ขายของเก่า - ของสะสม

  4. #19
    pooclassic's Avatar
    วันที่สมัคร
    Nov 2006
    สถานที่
    Bangkok, Thailand, Thailand
    ข้อความ
    585
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    18

    มาตรฐาน


    โต๊ะหมู่บูชาพระ
    ความเป็นมาเกี่ยวกับโต๊ะหมู่บูชานั้น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดํารงราชานุภาพ
    ได้ทรงนิพนธ์ไว้ในเรื่อง “อธิบายเครื่องบูชา” ได้ทรงกล่าวถึงม้าหมู่ไว้ดังนี้
    “เครื่องบูชาชนิดน้ีเป็นอย่างไทยแกมจีนน้ัน เพราะความคิดท่ีจัด เครื่องบูชาเป็นความคิดไทย แต่กระบวนการท่ีจัดเอาอย่างมาจากที่จีน เขาจัดตั้งเครื่องแต่งเรือน หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ลายฮ่อ” ซึ่งจีนชอบ เขียนฉาก และเขียนเป็นลายแจกันและเครื่องถ้วยชามอย่างอื่น จีนเรียกว่า “ลายปักโก๊” เป็นของที่ได้เห็นกันมาในประเทศนี้เห็นจะช้านานแล้ว แต่ตามเรื่อง ตํานานปรากฏว่า เมื่อในรัชกาลที่ ๒ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงสร้างสวนชวาที่ในพระบรมมหาราชวัง (ตรงบริเวณสวนศิวาลัยบัดน้ี) ครั้งน้ัน ประจวบเวลาราชทูตไทยออกไปเมืองปักก่ิง ไปได้เครื่องตั้งแต่งเรือน อย่างจีนเข้ามาจัดแต่งพระตําหนักท่ีในสวนชวา เป็นเหตุให้เกิดนิยมกันขึ้น เป็นท่ีแรกว่า เป็นของงามน่าดูถึงไปผูกเป็นลายเขียนผนังโบสถ์ แต่คิด ดัดแปลงไปให้เป็นเครื่องพุทธบูชา ยังมีปรากฏอยู่ทุกวันน้ีที่พระอุโบสถวัดราชโอรส ซ่ึงพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างตั้งแต่ ยังดํารงพระยศเป็นพระเจ้าลูกยาเธอ อยู่ในรัชกาลท่ี ๒ แล้ว เจ้าพระยา นิกรบดินทร์ (โต ต้นสกุล กัลยาณมิตร) เอาอย่างมาเขียนฝาผนังพระอุโบสถ วัดกัลยาณมิตร ซ่ึงสร้างเม่ือในรัชกาลท่ี ๓ น้ัน เป็นต้น สันนิษฐานว่า แม้ใน ช้ันนั้นก็ยังไม่เกิดเคร่ืองบูชาอย่างม้าหมู่ มาเมื่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า เจ้าอยู่หัวทรงพระราชดําริโดยอนุโลมตามลายฮ่อ ซึ่งเขียนผนังโบสถ์ดังกล่าว มาแล้ว ให้สร้างม้าหมู่ขึ้นสําหรับต้ังเครื่องบูชาหน้าพระปร ะธานในพระอุโบสถ วัดพระเชตุพน เป็นม้าหมู่ใหญ่ ๑๑ ตัว และทรงพระราชดําริให้สร้างม้าหมู่ ขนาดน้อย มีม้าสําหรับตั้งเครื่องบูชาหมู่ละ ๔ ตัว ตั้งประจําพระวิหารทิศ สันนิษฐานว่า เครื่องบูชาอย่างม้าหมู่เกิดข้ึนด้วยพระราชดําริของพ ระบาท สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อคร้ังฉลองวัดพระเชตุพนเป็นเดิมแล้ว ผู้อื่นนิยมก็เอาแบบอย่างทํากันต่อมาจนทุกวันนี้ เคร่ืองบูชาอย่างม้าหมู่ท่ีใช้เวลามีการงาน ใช้เป็นท่ีต้ังพระพุทธรูป ประกอบเครื่องบูชา เช่น ในงานทําบุญเรือนเป็นต้น ก็มีใช้แต่เป็นอย่าง เครื่องประดับ เช่น ต้ังที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่องานระดูหนาวเป็นต้นก็มี ถ้าใช้ตั้งพระพุทธรูปต้องถือว่า ท่ีต้ังพระเป็นสําคัญ คือ จะต้ังอย่างไรให้เป็น สง่างาม เหลือที่ตั้งพระเท่าใด จึงจัดเครื่องบูชาเข้าประกอบ คือ เชิงเทียน และเคร่ืองปักดอกไม้เป็นต้น ถ้าตั้งม้าหมู่เคร่ืองบูชาเป็นอย่างเครื่องประดับ โดยเฉพาะมีการประกวดกัน มีเครื่องกําหนดสําหรับการตัดสินว่า ดีหรือเลว ด้วยหลักดังอธิบายต่อไปน้ี คือ
    ๑. ความสะอาดเป็นข้อสําคัญอย่างย่ิง ถึงตัวม้าหมู่และเครื่องต้ัง เคร่ืองประดับจะดีปานใด ถ้าปล่อยให้เป้ือนเปรอะสกกะปรก ก็อาจถูกตัดสิน เป็นตกไม่ได้รางวัล เพราะเป็นความผิดของเจ้าของ
    ๒. ตัวม้าหมู่นั้นควรใช้ของทําประเทศนี้ ถ้าย่ิงฝีมือทําประณีต และ ความคิดประกอบม้าสูงต่ําให้ได้ทรวดทรงงามเพียงใด ก็นับว่าดีขึ้นเพียงนั้น ม้าหมู่ท่ีทํามาขายแต่เมืองจีนไม่นับเข้าองค์สําหรับ ตัดสินให้รางวัล เพราะ เป็นของมีขายในท้องตลาดดาษดื่นนับด้วยร้อย หาวิเศษไม่
    ๓. เครื่องบูชาท่ีตั้งบนม้าหมู่จะใช้เครื่องแก้วหรือเคร ื่องถ้วย เครื่องโลหะหรือทําด้วยส่ิงอันใดก็ได้กําหนดเลือกว่า ดีน้ัน คือ เป็นของหายาก สามารถหาของประเภทเดียวกันได้หมด ยกตัวอย่าง ดังเช่นว่า ถ้าใช้ เครื่องแก้วเจียระไน *** หนามขนุน *** ก็ให้เป็นเครื่องแก้วเจียระไน หนามขนุน ทั้งส้ิน หรือใช้เคร่ืองแก้วแดง ก็ให้เป็นเครื่องแก้วแดงท้ังสิ้น ดังน้ีเป็นตัวอย่าง ส่ิงของท่ีตั้งไม่ขัดกับเครื่องบูชา ยกตัวอย่างข้อห้ามดังเอาชามอ่างสําหรับ ล้างหน้ามาต้ัง หรือเอาคณฑีที่เขาทําสําหรับใส่สุรามาใช้ปักดอกไม้ ดังน้ี เป็นต้น นับว่าขัดกับเคร่ืองบูชาอย่างย่ิง แต่กําหนดเหล่านี้มีการผันผ่อนให้บ้าง เช่น บางทีคุมของที่หายาก ยกตัวอย่าง ดังคุมเครื่องแก้วเจียระไน อย่างกะหลาป๋า หาเชิงเทียนแก้วอย่างนั้นไม่มี จะใช้อย่างอื่นแทนก็ไม่ติเตียน เพราะพ้นวิสัยซึ่งจะหาได้ ถ้าว่าโดยย่อเครื่องต้ังม้าหมู่นั้น ถ้าเป็นของหายาก และได้ครบท้ังชุดหรือโดยมากนับว่าดี
    ๔. กระบวนจัดตั้งของบนม้าหมู่เครื่องบูชานั้น ต้องจัดให้เห็นสง่างาม แก่ตา คือ ได้ช่องไฟและแลเห็นของเล็กของใหญ่ได้ถนัด แม้ในเวลากลางคืน ก็ให้แสงไฟเทียนท่ีจัดต้ัง อาจส่องกระจ่างทั่วทั้งหมู่ม้า จึงนับว่า ดี ยังของ ซึ่งจัดในเคร่ืองบูชามีดอกไม้เป็นต้น ย่ิงจัดให้ประณีตงดงามก็ยิ่งดี
    ๕. สิ่งของสําหรับจัดต้ังเครื่องบูชาม้าหมู่นั้นของท่ีเ ป็นหลักจะขาด ไม่ได้ก็คือ เทียน ธูป ดอกไม้ ๓ อย่างน้ี นอกนั้นเห็นอันใดเป็นของสมควร ดังเช่นผลไม้เป็นต้นจะใช้ด้วยก็ได้ แต่มีข้อห้ามตามตําราหลวงมิให้ใช้ดอก หรือผลไม้ ซึ่งสาธุชนมักรังเกียจกลิ่น ยกตัวอย่างดังเช่น ผลฝร่ัง ผลมะม่วง ผลจันทน์ ที่สุกงอมนั้นเป็นต้น”*
    จากพระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดํารงราชานุภาพ ได้ทรงอธิบายเกี่ยวกับเคร่ืองบูชาดังกล่าว ทําให้สันนิษฐานได้ว่า การจัด โต๊ะหมู่บูชา เร่ิมมีมาแต่รัตนโกสินทร์ตอนต้น สืบเนื่องมาแต่รัชสมัย พระบาทสมเด็จพระน่ังเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ได้ทรงมีพระราชดําริให้ จัดสร้างม้าหมู่ขึ้นสําหรับตั้งเครื่องบูชาหน้าพระปร ะธานในพระอุโบสถ วัดพระเชตุพน ซึ่งเป็นม้าหมู่ขนาดใหญ่ และม้าหมู่ขนาดน้อย ที่ต้ังประจํา วิหารทิศ แต่ยังไม่มีโต๊ะตัวล่างที่เป็นฐานรองรับม้าหมู่ ซึ่งเป็นการจัดแปลง โต๊ะเคร่ืองบูชาอย่างจีนมาเป็นอย่างไทย และต่อมามีผู้นิยมจัดโต๊ะเครื่องบูชา ม้าหมู่เพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป และมีโต๊ะประกอบเป็นท่ีตั้งเคร่ืองบูชา ในการทําบุญโอกาสต่าง ๆ ของพระบรมวงศานุวงศ์ และของเจ้านายผู้ใหญ่ ในสมัยนั้น ในช่วงระยะเวลาที่ถือว่าได้มีการพัฒนาเกี่ยวกับโต๊ะห มู่บูชา มากที่สุดยุคหนึ่ง ก็คือ ในการจัดพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษกพระบาท สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขอแรงพระบรมวงศานุวงศ์ เจ้าภาษี นายอากร พ่อค้า จัดโต๊ะเครื่องบูชา เข้าไปต้ังเป็นเคร่ืองประดับ จํานวน ๑๐๐ โต๊ะ ซ่ึงเป็นปฐมเหตุท่ีให้มีความนิยม ในการประกวดโต๊ะเคร่ืองบูชา ดังน้ัน ในการบําเพ็ญกุศลคล้ายวันประสูติ ของพระบรมวงศานุวงศ์ เจ้านายผู้ใหญ่ หรืองานทําบุญวันคล้ายวันเกิด ของผู้มีบรรดาศักดิ์ มักจะมีการประกวดโต๊ะหมู่บูชาและการจัดเคร่ืองบูชา เมื่อของผู้ใดดีก็จะมีรางวัลพระราชทานหรือมอบให้ เมื่อมีผู้นิยมในการ ประกวดม้าหมู่ ก็ย่อมมีการดูแลรักษาเคร่ืองบูชาให้คงอยู่ครบชุด มีการ จัดแปลงในการสร้างม้าหมู่บูชาให้มีความวิจิตรสวยงาม อันเป็นการแสดงถึง ภูมิปัญญาและฝีมือเชิงช่างของนายช่างไทย อันเป็นการพัฒนาการจัดสร้าง โต๊ะหมู่บูชาของนายช่างไทย ดังที่ได้พระนิพนธ์ไว้ตอนหนึ่งเก่ียวกับข้อกําหนด การพิจารณาม้าหมู่หรือโต๊ะหมู่ของคณะผู้จัดการประกวด ในสมัยน้ันข้อหนึ่ง คือ “ตัวม้าหมู่นั้นควรใช้ของทําประเทศน้ี ถ้ายิ่งฝีมือการทําประณีตและความคิดประกอบม้าสูงต่ํา ให้ได้ทรวดทรงงดงาม ก็ยิ่งถือเป็นการทําด้วยการมี ความคิดริเริ่มจัดแปลงให้สวยงามเหมาะสมได้สัดส่วน ผู้เป็นเจ้าของโต๊ะหมู่ ชุดน้ันก็เป็นผู้สมแก่รางวัล” ท่ีเป็นดังนี้ก็เพราะต้องการส่งเสริมให้ช่างไม้ไทย ได้มีความคิดในการจัดแปลงและสร้างม้าหมู่อันเป็นการแ สดงออกถึงศิลปะ และฝีมือเชิงช่างของนายช่างไทยที่มีลักษณะอันอ่อนช้อ ยและสวยงาม ซ่ึงเป็นการแสดงให้เห็นวัฒนธรรมทางด้านศิลปะของสังคม ไทย ซึ่งเป็น ประเทศท่ีมีเอกลักษณ์ในการคิดลวดลายเป็นแบบเฉพาะของต นเอง ซึ่งต่อมามีการจัดสร้างโต๊ะตัวล่างเพ่ือเป็นฐานสําหร ับรองรับม้าหมู่เพื่อให้มี ความสะดวกในการจัดตั้ง เนื่องจากเม่ือนําม้าหมู่ไปจัดตั้งในสถานที่ทําบุญ บางแห่งซึ่งมีพ้ืนที่ไม่เสมอกัน ก็จะต้องจัดหาวัสดุมารองรับที่ฐานของม้าหมู่ แต่ละตัวเพื่อให้มีความเสมอกันและสวยงามซึ่งทําได้ยา ก เมื่อมีโต๊ะตัวล่าง สําหรับต้ังเป็นฐานไว้รองรับกลุ่มโต๊ะหมู่หรือม้าหม่ ูแล้ว สามารถทําให้ตั้ง โต๊ะหมู่ได้ง่าย เกิดความเด่นและมีความสวยงามเพิ่มขึ้น ซ่ึงถือเป็นการพัฒนา ด้านความคิดในการจัดสร้างโต๊ะหมู่ของนายช่างไม้ของไท ย การจัดโต๊ะหมู่บูชา ถือเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันสําคัญ ประการหนึ่งของสังคมไทย ซึ่งได้มีการปฏิบัติสืบทอดและสืบสานกันมาเป็น ระยะเวลาอันยาวนาน ตั้งแต่บรรพบุรุษจนถึงปัจจุบัน ดังนั้น พระราชประเพณี หรือพระราชพิธีต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือประเพณีต่าง ๆ ของสังคมไทย จึงได้มีการจัดโต๊ะหมู่บูชาในการประกอบพิธีต่าง ๆ อันเป็นการ แสดงออกถึงการบูชาต่อส่ิงอันเป็นที่เคารพสักการะอันส ูงยิ่งตามที่บรรพบุรุษ ได้กระทําเป็นแบบอย่างไว้ด้วยความกตัญญูกตเวทีในภูมิ ปัญญาของบรรพบุรุษ
    ขอบพระคุณทุกท่านครับ

    086-0358555
    pooclassic : ขายของเก่า - ของสะสม

หน้าที่ 2 จากทั้งหมด 2 หน้า แรกแรก 1 2

Bookmarks

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •