จากร่างกฎหมายด้านเศรษฐกิจดิจิทัลชุดใหม่ 10 ฉบับ ที่เพิ่งผ่านมติคณะรัฐมนตรีไปเมื่อเร็วๆ นี้ ถ้าอ่านร่างกฎหมายอย่างละเอียด (ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ Thai Netizen)จะพบว่าหน่วยงานด้านไอซีทีของประเทศไทยจะถูกเปลี่ยน แปลงครั้งใหญ่
เนื่องจากรายละเอียดของการเปลี่ยนแปลงมีมากพอสมควร ผมขอสรุปเป็นแผนผังและข้อมูลคร่าวๆ ตามนี้ครับ (หมายเหตุ: ผมอ่านกฎหมายแล้วมีความเห็นต่างจาก แผนผังของ Thai Netizen อยู่บ้างบางจุด แต่หลักๆ แล้วเหมือนกัน)
โครงสร้างของกระทรวงไอซีทีในปัจจุบัน

ตอนนี้ (ก่อนร่างกฎหมายทั้ง 10 ฉบับผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และมีผลบังคับใช้) ประเทศไทยมีหน่วยงานด้านไอซีที 2 หน่วยงานคือ

  • กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มีสถานะเป็นส่วนราชการ (ตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พศ. 2545)
  • กสทช. มีสถานะเป็นหน่วยงานของรัฐ แต่ไม่ได้เป็นส่วนราชการ (ตั้งขึ้นตาม พรบ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิท ยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553)

โครงสร้างของกระทรวงไอซีทีในปัจจุบัน สามารถดูได้จาก เว็บไซต์กระทรวงไอซีที

กระทรวงไอซีทีมีส่วนราชการ 4 ส่วนคือ

  1. สำนักงานรัฐมนตรี
  2. สำนักงานปลัดกระทรวง
  3. กรมอุตุนิยมวิทยา
  4. สำนักงานสถิติแห่งชาติ

รัฐวิสาหกิจในกำกับดูแล 3 หน่วย

  1. บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน)
  2. บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)
  3. บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด

องค์การมหาชนในกำกับดูแล 3 หน่วย

  1. สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) - SIPA
  2. สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) - สรอ. หรือ EGA
  3. สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) - สพธอ. หรือ ETDA

โครงสร้างหน่วยงานด้านไอซีทีแบบใหม่

ภาพอาจเล็กไปหน่อย คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

จะเห็นว่ามีรายละเอียดเพิ่มเข้ามามากมาย จะค่อยๆ อธิบายไปทีละส่วนครับ
1) คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

กฎหมายเศรษฐกิจดิจิทัลชุดใหม่จะตั้ง "คณะกรรมการระดับชาติ" ชื่อข้างต้น มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีหัวหน้าส่วนราชการระดับรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง และภาคเอกชนเป็นกรรมการ (เดี๋ยวจะเขียนเรื่องนี้แยกเป็นอีกบทความหนึ่ง)
หน้าที่ของคณะกรรมการชุดนี้คือเป็นหน่วยงานสูงสุดที่ กำหนดนโยบายด้าน "ดิจิทัล" ของประเทศ โดยต้องออก "นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศ รษฐกิจและสังคม" เป็นนโยบายด้านดิจิทัลระดับสูงสุดของประเทศ เพื่อบังคับใช้กับหน่วยงานของรัฐทุกแห่ง ถ้าไม่ทำ ปลัดกระทรวงหรือหัวหน้าหน่วยงานจะมีความผิดทางวินัยด ้วย
รายละเอียดเรื่องนี้อยู่ใน ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษ ฐกิจและสังคมแห่งชาติ
2) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

กระทรวงดิจิทัลจะมาแทนที่กระทรวงไอซีทีเดิม จุดต่างไปคือมีส่วนราชการเพิ่มเข้ามา 1 ส่วนคือ "สำนักงานดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม"
สำนักงานดิจิทัลฯ มีหน้าที่ใหญ่ๆ 2 ประการคือ

  • ทำหน้าที่เป็นกองเลขาให้กับ "คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ" เพื่อร่างแผนและนโยบายระดับชาติให้คณะกรรมการอนุมัติ
  • บริหารงาน "กองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม" ที่โอนมาจากกองทุน กสทช. เดิม (จะกล่าวต่อไป)

รายละเอียดอยู่ใน ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..)
3) หน่วยงานด้านดิจิทัลชุดใหม่

นอกจากตัวกระทรวงดิจิทัลแล้ว หน่วยงานภายใต้กำกับดูแลของกระทรวงดิจิทัลจะถูกตั้งใ หม่และแปรรูปเพิ่มเติมดังนี้
หน่วยงานตั้งใหม่ 3 หน่วยงาน ได้แก่


หน่วยงานทั้ง 3 หน่วยนี้มีสถานะเป็น
"หน่วยงานของรัฐที่เป็นนิติบุคคล และไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารร าชการแผ่นดิน หรือรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณหรือ กฎหมายอื่น"
อธิบายง่ายๆ คือมีสถานะเป็นหน่วยงานของรัฐ แต่ไม่ใช่ราชการ ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ ไม่ใช่องค์การมหาชน (น่าจะมีสถานะเหมือน กสทช. หรือ สวทช.)
กล่าวโดยสรุปคือเราจะมีหน่วยงานใหม่ 3 แห่ง กำกับดูแลโดย 4 บอร์ด และโอนย้ายหน่วยงานบางส่วนของกระทรวงไอซีทีเดิมมาอยู ่กับหน่วยงานเหล่านี้
สังเกตว่าหน่วยงานใต้กำกับดูแลของกระทรวงไอซีทีเดิมท ี่ไม่ถูกแก้ไขเลยคือ สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) ส่วนรัฐวิสาหกิจทั้ง 3 รายยังอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
4) กสทช. โฉมใหม่

ร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับก ารประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับใหม่) แก้โครงสร้างของ กสทช. ไปพอสมควร (ไว้จะเขียนเรื่องนี้โดยละเอียดอีกครั้ง) โดยสรุปคือ

  • บอร์ด กสทช. มีจำนวนเท่าเดิม 11 คน แต่ไม่แยกเป็น 2 บอร์ดย่อยแล้ว
  • กสทช. ยังปฏิบัติงานอิสระเหมือนเดิม ไม่อยู่ใต้กระทรวงดิจิทัล แต่การจัดทำ "แผนแม่บทบริหารคลื่นความถี่" จะต้องส่งให้ "คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ" อนุมัติ
  • กสทช. ไม่ได้บริหาร "กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ" (กองทุน กทปส.) อีกแล้ว โดยกองทุนนี้จะถูกเปลี่ยนชื่อแล้วย้ายไปอยู่กับกระทร วงดิจิทัลแทน

กองทุน กทปส. ถูกปรับเปลี่ยนรูปแบบตาม ร่างพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจแล ะสังคม โดยโอนทรัพย์สินเดิมไปให้ กองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ตั้งขึ้นใหม่ มี "คณะกรรมการกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม" มาบริหาร ส่วนงานสำนักงานจะมอบหมายให้ "สำนักงานดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม" ของกระทรวงดิจิทัลมาทำหน้าที่แทน
อย่างไรก็ตาม กสทช. ยังมีหน้าที่ต้องส่งเงินเข้ากองทุนเหมือนเดิม โดย 50% จะเข้ากองทุนดิจิทัล และอีก 50% ส่งเข้าคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
บทสรุปและข้อสังเกต

จากโครงสร้างใหม่ข้างต้น จะเห็นว่า

  1. กระทรวงไอซีที/ดิจิทัล ไม่ใช่หน่วยงานหลักด้านดิจิทัลอีกต่อไป โดยอำนาจสูงสุดจะไปอยู่ที่ "คณะกรรมการดิจิทัลฯ" แทน ทุกอย่างถูกกำหนดด้วย "แผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลฯ" ที่เป็นแผนระดับชาติ สั่งงานได้ทุกหน่วยราชการ
  2. หน่วยงานที่กลายเป็นแกนหลักของโครงสร้างทั้งหมดคือ "สำนักงานดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม" เพราะรับงานตรงจากคณะกรรมการดิจิทัลฯ รวมถึงคอยดูแลเงินหลักหมื่นล้านของกองทุนดิจิทัลด้วย
  3. หน่วยงานตั้งใหม่ 3 หน่วยงานที่มีสถานะเป็นหน่วยงานของรัฐ จะมีบทบาทมากขึ้น แต่ละหน่วยงานมีกฎหมายระดับ พ.ร.บ. ของตัวเอง มีคณะกรรมการของตัวเอง การพึ่งพิงกระทรวงดิจิทัลย่อมลดลง (จะมองว่ากระทรวงดิจิทัลถูกลดอำนาจก็ได้)
  4. กสทช. ถูกลดอำนาจลง ไม่ได้ดูแลกองทุนอีกแล้ว (แต่ยังต้องส่งเงินเข้ากองทุน) และต้องขอให้คณะกรรมการดิจิทัลฯ อนุมัติแผนแม่บทให้ด้วย
  5. จากแผนภาพจะเห็นว่าเรามี "คณะกรรมการ" เยอะมาก โดยมีคณะกรรมการระดับชาติ 1 ชุด และคณะกรรมการนโยบาย/หน่วยงานอีก 6 ชุด

บทความตอนต่อๆ ไปจะเขียนถึงคณะกรรมการเหล่านี้ รวมถึงโครงสร้างที่เปลี่ยนไปของ กสทช. ด้วยครับ
MICT, NBTC, Thailand, Telecom, Law




อ่านต่อ...