ว่างๆเลยประกอบดูแบบอะไหล่มั่วๆไม่เน้นเดิมเดียวครับ
div>
ขอบคุณครับ คุณหนุ่ย แฮะๆ แต่จริงๆแล้ว อะไหล่มั่วๆหมดเลยครับ ช่วงหน้าเนี้ยเป็นของซันบีม จานเค วินเลียม ที่อยู่ในซันบีม บังโคลนน่าจะเป็นของฮอปเปอร์ ดุมหน้าบีเอสเอ ดุมหลังไม่รู้ครับ มีแต่ตอกเมดอินอิงแลนด์ บันไดยูเนียน ไฟลูกัส กล้ามเบรคน่าจะฟิลลิป ทับทิม-ฟรี-สูบอังกฤษ มั่วดีมั้ยครับ ก็ไหนๆก็ไหนๆแล้วเอาให้มันจำกัน ไม่ไหวเลยละกัน ::
"ถ้าชอบ ก็ทำเถิด แต่อย่าทำให้คนอื่นเค้าเดือดร้อนนะลูก"
เห็นรถหัวโป่คันนี้แล้วยิ่งนึกถึงยุคที่จักรยานเริ่ม กำเนิดและพัฒนาขึ้นมาเป็นการพัฒนาโดยที่ต่างฝ่ายต่าง คิดค้นได้คนละอย่าง เอ็ดดูอาร์ด เบียงชี่ ชาวฝรั่งเศสออกแบบจักรยานให้มีล้อหน้า-หลังเท่ากัน แต่โครงไม่แข็งแรง โธมัส ฮัมเบอร์ เสนอแบบแฟรมใหม่คือแบบที่เราใช้มาจนทุกวันนี้ แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องล้อที่เป็นเหล็กหรือไม้ทำให้ไม ่นุ่มนวล ชาร์ล กู๊ดเยียร์ค้นคว้าคุณสมบัติยางได้ในปี ค.ศ.1839 แต่หลังจากนั้น30 ปีถึงได้มีการนำมาใส่ล้อจักรยานหากแต่ว่ายังใช้งานได ้ไม่ดี ปี 1887 จอห์น บอยด์ ดันลอพ ชาวสก็อตแลนด์ ค้นคว้าเรื่องยางพัฒนาจนใช้งานได้สำเร็จในอีกสองปี รถของหัวโป่คันนี้ก็เป็นรถที่ดีสวยงามและใช้งานได้ก็ ด้วยการเติมเต็มในส่วนที่ขาดด้วยอะไหล่ที่มีอยู่หรือ หาได้อย่างเหมาะสมไม่ขัดกัน ดีครับเหมือนคืนชีวิตให้มันอีกครั้ง( ข้อมูลที่ว่ามาหาอ่านได้จากหนังสือ" คนรัก กับ จักรยาน" หรือจากหนังสือสารคดี ฉบับเดือนมกราคม ปี 43 นะครับ)
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย pj : 14-11-2006 เมื่อ 21:37
ขอบคุณคำติชมจากพี่ๆทุกคน น้อมรับไปปรับปรุงแก้ไขครับ เพิ่งมารู้เองว่า เวลารถถีบไม่ใส่บังโซ่มันตั้งล้อง่ายดีครับ เช่นนี้ เวลาเราปั่นไปแล้วยกขาขึ้นจากบันไดทั้งสองข้าง จะได้ยินแค่เสียงฟรี และตัวจานปั่นยังอยู่กับที่ ไม่ได้หมุนตามฟรีไป ลองๆทำแบบนี้ดูครับ
"ถ้าชอบ ก็ทำเถิด แต่อย่าทำให้คนอื่นเค้าเดือดร้อนนะลูก"
Bookmarks