ครม.ได้มีมติ สั่งห้ามนำเข้าตัวถังรถเก๋งและโครงรถมอเตอร์ไซด์ใช้แ ล้ว และงดรับจดทะเบียนรถที่ประกอบ
วันนี้ ( 17 เม.ย.) นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม.ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบห้ามไม่ให้นำเข้าตัวถังรถยนต์น ั่งใช้แล้วและโครงรถจักรยานยนต์ใช้แล้ว เข้ามาในราชอาณาจักร ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยออกเป็นร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์เรื่อง กำหนดให้ตัวถังของรถยนต์ที่ใช้แล้วและโครงรถจักรยานย นต์ที่ใช้แล้ว เป็นสินค้าต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร รวมทั้งเห็นชอบไม่ให้มีการรับจดทะเบียนรถยนต์ที่ประก อบจากชิ้นส่วนอุปกรณ์ ของรถยนต์ที่ใช้แล้วทั่วประเทศ ตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอ โดยครอบคลุมรถยนต์ 4 ประเภทคือ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน, รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7คนแต่ไม่เกิน 12 คน, รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลและรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล
ทั้ง นี้กระทรวงพาณิชย์ชี้แจงว่าปัจจุบันมีประกาศกระทรวงพ าณิชย์ว่าด้วยการนำ สินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรและประกาศกระทรวงพาณิชย์เร ื่องการนำเสินค้าเข้ามา ในราชอาณาจักร เพื่อควบคุมการนำเข้าอยู่แล้วแต่ไม่ควบคุมถึงการนำเข ้าชิ้นส่วนและโครงรถ ยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ใช้แล้ว ทำให้มีการนำเข้ามาเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีกันมาก ขณะเดียวกันหากกำหนดมาตรการห้ามนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ ที่ใช้แล้วหรือชิ้นส่วน ของรถจักรยานยนต์ที่ใช้แล้ว อาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ต้อ งการนำเข้าชิ้นส่วนมาทด แทนส่วนที่ชำรุดหรือเสียหาย ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมสูงขึ้นไปอีก ดังนั้นเพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้ใช้รถยนต์และรถจักรยาน ยนต์โดยทั่วไป จึงเห็นควรกำหนดห้ามเฉพาะตัวถังรถยนต์ที่ใช้แล้วและโ ครงรถจักรยานยนต์ที่ใช้ แล้วเท่านั้น รวมทั้งไม่รวมถึงกรณีที่นำเข้ามาเพื่อเป็นต้นแบบในกา รผลิตหรือศึกษาวิจัยใน ปริมาณเท่าที่จำเป็นด้วย
นายชลิตรัตน์ กล่าวด้วยว่า ส่วนกระทรวงคมนาคมชี้แจงว่า ได้ หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเห็นชอบร่วมกัน ให้ระงับการจดทะเบียนรถ ที่ประกอบจากชิ้นส่วนอุปกรณ์รถเก่าตามกฎหมายว่าด้วยร ถยนต์เฉพาะรถยนต์นั่ง ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คนและรถจักรยานยนต์ และมอบหมายให้กรมการขนส่งทางบกพิจารณาข้อกฎหมายและรถ ยนต์ประเภทอื่นที่ระงับ การจดทะเบียนรถดังกล่าวโดยไม่บังคับกับรถตามกฎหมายว่ าด้วยการขนส่งทางบก ซึ่งกำหนดไว้ 4 ประเภท
ทั้งนี้ครม.ได้มีมติเมื่อวันที่ 27 ธ.ค .54 มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงคมนาคม เ ซึ่งเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอเกี่ยวกับปัญหาการ นำชิ้นส่วนและโครงรถ ยนต์ที่ใช้แล้วเข้ามาประกอบในประเทศ ที่พบว่ามีการนำเข้ามาเพื่อประกอบหรือดัดแปลงเป็นรถย นต์ใหม่ในประเทศ ซึ่งเป็นการใช้ช่องว่างของกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ต ้องชำระภาษีอากรที่ เกี่ยวข้อง จึงมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เร่งดำเนินการห้ามนำเข้า ชิ้นส่วนและโครงรถยนต์ ที่ใช้แล้วและให้กระทรวงคมนาคมระงับการจดทะเบียนรถยน ต์ที่ใช้ชิ้นส่วนและ โครงรถยนต์เข้ามาประกอบหรือดัดแปลงเป็นรถยนต์ใหม่โดย เร็วที่สุด เพราะปัจจุบันมีการจดทะเบียนรถยนต์ประเภทนี้ถึงปีละ 4,000 คัน ทำให้รัฐบาลสูญเสียรายได้จำนวนมาก ขณะเดียวกันทำความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการรถยนต์ ด้วย
ที่มา dailynews.co.th
Bookmarks