ตำนานรองเท้า vintage ( VANS & CONVERSE ) - Blogs - ThaiScooter.Com Forums
                                
View RSS Feed

Forza Azzuri

ตำนานรองเท้า vintage ( VANS & CONVERSE )

Rate this Entry
ของฝากจาก...คนบ้ารองเท้า

ผมคงไม่ต้องแนะนำตัวมากมายนะครับเพราะสมาชิกส่วนใหญ่
ใน thaiscooterในส่วนของ"บอร์ดของสะสมอื่นๆ"...................
รู้จักผมเป็นอย่างดีในฐานะ"พ่อค้า...ค้าของแพง"วันนี้ผมไม่ได้มาในแบบที่ใครหลายๆคนรู้จัก...
แต่วันนี้ผมมาในฐานะคนเล่าเรื่อง เป็นเพียงผู้ถ่ายทอดเรื่องเล่าที่เราอยากรู้กัน
ในเรื่องของ "รองเท้า vintage"แต่ก่อนที่เราจะได้รับรู้ถึงเรื่องราวอันน่าทึ่งของ"ตำนาน"
ผมขอกล่าวถึงเรื่องราวที่ค่อนข้างจะส่วนตัวแต่เกี่ยว ข้องกับส่วนรวมซะหน่อย...
ฟังดูแล้วอาจจะงงๆแต่พออ่านจบคงจะไม่งง
แต่อาจมีผลข้างเคียงอย่างใดอย่างหนึ่งกับทุกผู้ทุกคน ที่เล่นของ"vintage"ทุกแนว ผลข้างเคียงก็คือ
"อาจเกิดการต่อต้านในทางความคิด"
"อาจมีความเห็นตรงกันกับผู้เล่าเรื่อง"หรือ"อาจตายด้านทางความรู้สึกนึกคิดไปเลยคือรู้สึกเฉ ยๆ"
ในเรื่องที่จะได้กล่าวต่อไปก็ได้...ไม่ว่ากัน...ใครจ ะรู้สึกยังไงก็แล้วแต่...
ผมจะต้องทำหน้าที่"ผู้ถ่ายทอดเรื่องราว"ต่อไปอยู่ดีและจะนำสิ่งที่หลายๆคน"ฝากมาบอก"ให้เราทุกคนรู้กัน
มีพี่ๆหลายคนสงสัยและรู้สึกแปลกใจไม่ต่างอะไรกับตัวผ มเองที่รู้สึกเหมือนกันเป๊ะๆเด๊ะๆเลยว่า
"ทำไมเดี๋ยวนี้มันเล่นของ vintageกันแปลกๆวะ" "มันไปเอาแนวคิดประหลาดๆนี้มาจากไหนวะ"
และคำถามอย่างอื่นอีกเป็นกระบุงที่ได้ยินมา อะไรที่ทำให้คำถามพวกนี้ลอยเข้าหูแล้วไปอยู่ในหัวผมไ ด้?
คำตอบก็คือ"แนวการเล่นของ vintageเปลี่ยนไป"จากแต่ก่อนกันอย่างลิบลับ การใส่ของอวดกันมีให้เห็นอยู่ทุกยุคทุกสมัย
ตั้งแต่ผมเด็กๆเห็นมาพอสมควร "การใส่อวด"เมื่อก่อนเป็นเพียงแค่การกระตุ้นต่อมให้เพื่อนในกลุ่ มไปหามาใส่อย่างเรามั่งก็แค่นั้น
ไม่ได้ใส่โอ้อวดถึงขั้นเอาเป็นเอาตาย...
แต่เหมือนเป็นการแหย่กันหนุกๆขำๆก็แค่นั้น.......... .........
เดี๋ยวนี้การใสของอวดกันก็ยังคงมีอยู่และคงจะมีไปตลอ ดกาล...
แต่มันต่างกันในเรื่องของวัตถุประสงค์ของการอวด..... .
จากเมื่อก่อน"อวดเอามันส์"แต่วันนี้"ใส่อวดกันแล้วเหยียดหยาม ดูถูกดูแคลน คนที่มีของไม่ถึง"...มันคือเรื่องจริงที่ได้รู้ได้เห็น
และเจอกับตัวเอง...ความรู้สึกผิดหวังเลยเกิดขึ้น แต่ก็พยายามคิดว่าเค้าไม่ได้โตมาในยุคเรา...
ยุคต่างแต่แนวทางในการเล่นคงไว้อย่างเก่าไม่ได้เหรอ. ..ทำไมต้องเอาแนวคิดวิตถารนี้มารวมอยู่กับของที่มีคุ ณค่าทางจิตใจด้วยวะ...
จากความผิดหวัง...กลายเป็นความเซ็งและเบื่อหน่ายไปใน ที่สุด...บทนำเรื่องนี้เลยเกิดขึ้นมาด้วยความหวังเล็ กๆว่าใครหลายๆคนที่มีความคิด
นอกตะเข็บจะกลับมาเดินอยู่บนทางสายเดียวกันในเรื่องข องแนวคิดในการเล่นของเก่า...
อย่างการเล่นของคนเดียวเหมือนกันตัวผมเองก็เคยเป็นเก ็บไว้ดูคนเดียว...ไม่แบ่งใคร
จนวันนึงรู้สึกว่ามันเหงา ความรู้สึกเหมือนกับเราไปนั่งกินสุกี้ MKคนเดียว(เคยทำไงเลยเล่าได้)โดดเดี่ยวอย่างหาที่สุด มิได้
แต่พอได้ไปสวาปามกับเหล่าอภิชาตfriend(เพื่อนผู้แสนป ระเสริฐ)
เอร็ดอร่อยอย่างเห็นได้ชัด...........
...มันเหงาจริงๆกับการเล่นของvintageคนเดียวไม่รู้จะ ไปคุยกะใครแล้วก็ตันๆๆๆ...
ตันในเรื่องแหล่งที่ซื้อ,ตันในเรื่องของแท้ของเทียม, ตันเพราะของบางอย่างมีซ้ำไม่รู้จะเอาไปขายหรือแลกกับ ใครและตันในเรื่องข้อมูลดีๆที่ควรรู้...
พอไปคุยกับคนที่ไม่รู้เรื่องเค้าก็หาว่าบ้า...
แต่ถ้าใครคิดว่าชอบหรือไม่อยากวุ่นวายและมีความสุขอย ู่แล้วกับการเล่นคนเดียวก็แล้วแต่นะครับ ผมแค่อยากบอกว่าผมก็เคยแต่มันไม่สนุก
เลยแนะนำให้เล่นกันหลายๆคน เพราะว่าโลกของเราจะกว้างขึ้น
ได้ของใหม่ๆมาดู ได้ของถูก ของแลกของ...มันส์ดี...
ความเชี่ยวในของแบบนั้นๆจะมีเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้หวังว่าจะให้ไปเป็น"เทพหรือเซียน"กันนะครับ...เพราะสำหรับผมในเรื่องอะไรเหอะ
ไม่เคยมีเทพหรือเซียนองค์ใดปรากฎขึ้นเลยในหัวกบาลนอก จากเป็นการพูดกันขำๆเท่านั้น.........
......อย่างเรื่องรองเท้ามีคนเคยถามผมว่าใครเป็นเซีย นรองเท้าวะ......
ผมตอบเลยว่า"ไม่มี"แม้กระทั่ง
Joshua Mueller(โจชัวร์ มัวเลอร์ ชาวอเมริกันผู้เก็บ chuck taylor มากที่สุดในโลก)
หรือแม้แต่ DIMITRI COSTE(ดิมิตี้ โคสต์ ชาวฝรั่งเศษผู้มี VANSครอบครองมากที่สุดในโลก)ก็ไม่ได้เป็น"เทพหรือเซียน"สำหรับผม...
ผมอาจจะเป็นคนที่มาตรฐานสูงไปหน่อย"เทพหรือเซียน"รองเท้าของผมนั้นคือ......
"คนที่เก็บรองเท้ายี่ห้อนั้นๆ ทุกสี ทุกรุ่น ทุกเบอร์ สภาพไม่เคยใช้งานและพร้อมกล่องเดิมๆเท่านั้น"...ซึ่งไม่มีในโลก
แม้แต่โรงงานผู้ผลิตเองยังไม่สามารถเก็บอย่างที่ผมบอ กได้...แต่ถ้าถามว่าแล้วสองคนข้างบนคืออะไร?
คำตอบคือเค้าคือคนที่มีรองเท้าดีๆมากที่สุดในโลกที่ผ มให้การยอมรับแล้วพูดกับตัวเองบ่อยๆทุกครั้งที่ดูรูป เค้าว่า"เอ็งเจ๋งว่ะ"
.....คนที่เราเรียกว่าเซียนเค้าอาจไม่มีรองเท้าซึ่งค นธรรมดาอย่างเรามีก็ได้ในบางรุ่น...จริงม๊ะ
แล้วการปีนขึ้นไปสูงๆเหยียบย่ำคนอื่นเพื่อขึ้นไปให้ถ ึงคำว่า"เซียน"ย่อมไม่ใช่แนวทางของคนเล่นของvintageตัวจริง....
มีพี่คนนึงบอกผมว่า"เซียนไม่เคยสวด...คนชอบสวดไม่ใช่เซียน"มันคือเรื่องจริงที่เราเคยเห็นกันจนเอียน
เราควรเล่นกันแบบพี่ๆน้องๆดีกว่า คบกันง่ายกว่า และนานกว่า ไม่เหนื่อย ไม่ต้องมานั่งปั้นหน้า ทำท่าทำทาง วางตัวเหนือคนอื่น...
ซึ่งผมเห็นมาพอสมควร ทุกวันนี้เป็นฝุ่นบ้างลอยไปลอยมา เป็นปุ๋ยมะม่วงบ้าง...แล้วแต่ความหนักหน่วงแห่งการกร ะทำ
อีกอย่างนึงที่ผมจะคอยบอกแทบจะทุกคนเลยว่า"ลองดูยี่ห้อนี้มั่งดิ่เจ๋งนะ,ลองดูรุ่นนี้ดิ่แนวมาก ".........
และอีกหลายๆคำแนะนำที่พูดจนปากจะฉีกถึงใบหู แต่ก็มีเพียงส่วนหนึ่งในส่วนน้อย(คิดดูดิน้อยขนาดไหน)ที่ฟังและลองเล่นยี่ห้ออื่น ,รุ่นอื่นดู
จนตอนนี้บ้ารองเท้า vintage no name ไปเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนอเมริกาแล้ว ที่ย้ำนักย้ำหนาว่าให้ลองไปเล่นอย่างอื่นดูบ้าง
สิ่งสำคัญเลยคือ"อยากให้รู้จักรองเท้า vintageอย่างอื่นเยอะๆ"เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่เรารู้จั กมันเยอะๆแล้ว"โอกาส"จะเป็นของเรา
"โอกาส"ที่ว่านี้คือเราสามารถทำมันเป็นรายได้เสริมมาเป็นค่า สุรา เลี้ยงนารี หรือ อาจเป็นรายได้หลักเลยก็ได้
เมื่อเรารู้จักรองเท้าเยอะขึ้นดูเป็น เราอาจซื้อมาขายไม่ว่าจะเพื่ออะไรก็แล้วแต่ บางคนหามาขายเพื่อเอากำไรไปเล่นรุ่นอื่น....
หรือ"จับ"มา"ปล่อย"(เหมือนทำบุญเลยเนอะ)เพื่อที่จะไปเล่นอย่างอื่น "ความสนุกมันอยู่ตรงนี้"
พี่บางคนที่ผมรู้จักจับเสื้อฮาวายมาตัวละ 50บาท(ห้าสิบบาทถ้วน)แต่ขายไป 7,000บาท(ไม่ผิดหรอกเจ็ดพันบาทถ้วน)นี่คือ"โอกาส"
.....บางคนคิดว่าเราบอกเพราะจะได้มาซื้อของเราหรือเพ ื่อของเราได้ขายดีขึ้น...
.....แต่เปล่าเลยผมหาซื้อของมาขายเท่าที่ผมหาได้ เท่าที่เงินทุนผมมี........
ผมไม่มีทางที่จะหามาประเคนตามความประสงค์ของใครได้ทุ กคน จงทำความเข้าใจซะใหม่...เพราะความต้องการมากเหลือคณา นับ
บางคนอยาากได้"ของอเมริการาคาของจีน" , สวย ดี ถูก แท้ เทพ เท่ห์ ทน มีม๊ะ...รายได้ต่ำแต่ความทะเยอทะยานสูง
มีให้เห็นเพียบ...แต่ก็เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องพื้นฐา นที่ทุกคนอยากให้เป็นอย่างงั้น...ผมยังอยากเลย...
แต่ในโลกแห่งความจริงมันเป็นการยากที่จะหาได้อยางงั้ นนอกจากฟลุ๊คถึงโคตรฟลุ๊ค......
เราเลยได้ยินจากพี่ๆพ่อค้าแม่ขายหลายๆคนพูดว่า"ไอ้ที่บอกมาน่ะไปหามาขายดิ่...รับซื้อหมด"...แล้วก็เคืองเค้า โกรธเค้าอีก...
...........เถียงดิ่ว่าที่พูดมาเนี่ยไม่จริง...........ไม่ได้พูดเอาใจใครแต่พูดตามเรื่องจริงที่ เจอมา...จริงๆ
.....พี่ตูน(บอดี้สแลม)เคยพูดบนคอนเสิร์ตว่า"อยากเห็นคนไทยบินได้"(เอาน่า...แกเพ้อเพื่อเข้าเพลงแก).....
.....แต่สำหรับผมอยากเห็น ความเป็น International Vintage เอาแค่ในเรื่องรองเท้าที่ผมถนัดก็พอ....
อยากให้เข้าใจว่าทำไมของ original vintage ถึงได้แพงระยับหูดับตับไหม้...(สำหรับคนที่มองว่าเป็นของสกปรก)
สำหรับคนรุ่นใหม่ๆไม่ซื้อไม่เป็นไรแต่ช่วยทำความเข้า ใจกันหน่อยได้ป่ะล่ะ......
ว่ามันเป็นของมีเหตุที่ต้องผลิต,ผลิตมาเพื่อบางวัตถุ ประสงค์ก่อนที่มันจะมาเป็นเหตุผลทางการค้า ฯลฯ
เคยแอบได้ยินอยู่บ่อยๆว่า"ญี่ปุ่นกว้านซื้อไปหมดแล้ว...ไม่ค่อยเหลือแล้วจะเหล ือก็แต่หางๆ...หัวๆมันเด็ดไปหมดแล้ว"....
นั่นเป็นเพราะเค้าเป็นผู้นำแฟชั่น...เค้ารู้ว่า"การตามแฟชั่นน่ะมันเหนื่อย"ญี่ปุ่นเลยเริ่มอะไรๆก่อนใครในซีกโลกตะวันออก
ในเรื่องของแฟชั่น บางครั้งนำหน้าชาติตะวันตกซะด้วยซ้ำ...และก็ญี่ปุ่นอ ีกนั่นแหละที่ทำให้กลุ่ม "vintage clothing"
มีราคาแพงและดังกระฉ่อนโลก เสื้อช่างบางตัวราคาเป็นแสน? กางเกงช่างบางตัวราคาหลายแสน? เสื้อฮาวายหลายๆรุ่นก็ราคาเป็นแสน?
รองเท้า vintage เช่นกันบางคู่ราคาหลายหมื่นบาท? กางเกงยีนส์มูลค่านับล้านบาทก็ยังมี?
เสื้อยืดบางตัว บางรุ่นราคาเป็นหมื่น?...แม่เจ้า...และของ vintage อีกหลายอย่างที่เราไม่รู้
.........ขอบคุณนะครับที่ทำให้มันแพงได้อย่างไม่น่าเ ชื่อ.........
นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นบนโลกมนุษย์...สำหรับผมเรียนไว้ รู้ไว้ แต่ไม่เก่งกล้าสามารถถึงขั้นสอนใครดูได้และไม่คิดซื้ อใส่
เพราะไม่มีกำลังทรัพย์มากขนาดนั้น แต่ถ้าหลงฟลุ๊คไปเจอเราก็โชคดีไป...
ที่ร่ายยาวมาทั้งหมดเป็นบางส่วนบางเสี้ยวของ"ของฝาก"จากใครหลายๆคน...(แค่นี้คนเกลียดผมเพิ่มอีกทวีคูณรู้กันมั่งมั๊ยเนี่ย พี่)
ทั้งหมดคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับสังคมเล็กๆที่ลุ่ มหลง"ของvintage"...ที่เราคุ้นเคยในวันนี้
ท้ายนี้ขอให้การอ่านเรื่อง"ตำนานรองเท้า vintage"เป็นตัวจุดประกายความเข้าใจใหม่ๆ
...สำหรับผู้ที่รักใคร่ชอบพอกับของสิ่งนี้...

ซึ่งสำหรับคนทั่วไปมันเป็นแค่ของใช้ใส่กันเปรอะกันเป ื้อน แต่สำหรับผมมันคือสิ่งประดิษฐ์ที่เจ๋งที่สุด ไม่น้อยหน้าไปกว่าคอมพิวเตอร์ หรือยานอวกาศ
และขอบคุณมากๆเลยที่ทนอ่านจนจบ ในขณะที่บางเนื้อความอาจทำให้บางคน"เคือง"หรือ"รับไม่ได้"...ขอโทษนะๆ
ลองให้ผู้สันทัดกรณีด้านภาษาตรวจทานถึงการใช้ถ้อยคำเ รื่องที่ได้กล่าวมาทั้งหมด
เค้าบอกว่า"ดีนะ...เหน็บแนมได้แนบเนียน"ตกลงมันดีมั๊ยเนี่ย
สำหรับตัวผมเองคิดว่าการเผาหัวได้ดุเด็ดเผ็ดมันส์ตาม สันดานของตัวเอง อาจเป็นที่ถูกอกถูกใจของเด็กแนวรุ่นใหม่อยู่ไม่น้อย. ..
แต่ก็อีกเช่นกันอาจมีพี่ๆบางท่านอาจเคืองๆบ้างก็ไม่เ ป็นไร...นั่นเป็นเพราะข้าพเจ้าเพิ่งหัดเล่นรองเท้าเม ื่อหน้าทุเรียนนี่เอง...
แต่ริอาจอหังกามาเล่าเรื่องระดับ"ตำนาน"ให้เราได้ฟังกัน...ผมเลยอดคิดแบบขำๆไม่ได้ว่า...
ถ้าผมจัดงานบุญงานมงคลแล้วจัดแบบ"10โต๊ะคนรัก100โต๊ะ คนเกลียด"
10โต๊ะคนรักคงไม่เต็ม...แต่100โต๊ะคนเกลียดคงต้องจัด โต๊ะเสริมอีกเพียบแน่นอน
...เหตุเพราะบทความนี้ก็เป็นได้...

ความไม่พอใจอันใดข้าพเจ้าขอมอบให้ "รองเท้า vintage"รับเคราะห์แทนเพราะมันทำให้ข้าพเจ้าเป็นเยี่ยงนี้และที่สำคัญมันโกรธใครไม่ เป็น


............................FORZA AZZURI........................


ขอความร่วมมือห้ามโพสข้อความใดๆลงในกระทู้นี้
เพราะมันอาจเกิดความมั่วซั่วตั้วเหลียงระหว่างคำชมที ่จริงใจกับเนื้อหาของบทความนะจ๊ะ



Joshua Mueller(โจชัวร์ มัวเลอร์ ชาวอเมริกันผู้เก็บ chuck taylor มากที่สุดในโลก)


DIMITRI COSTE(ดิมิตี้ โคสต์ ชาวฝรั่งเศษผู้มี VANSครอบครองมากที่สุดในโลก)

ขอความร่วมมือห้ามโพสข้อความใดๆลงในกระทู้นี้
เพราะมันอาจเกิดความมั่วซั่วตั้วเหลียงระหว่างคำชมที ่จริงใจกับเนื้อหาของบทความนะจ๊ะ

Submit "ตำนานรองเท้า vintage ( VANS & CONVERSE )" to Digg Submit "ตำนานรองเท้า vintage ( VANS & CONVERSE )" to del.icio.us Submit "ตำนานรองเท้า vintage ( VANS & CONVERSE )" to StumbleUpon Submit "ตำนานรองเท้า vintage ( VANS & CONVERSE )" to Google

Tags: vans Add / Edit Tags
Categories
Uncategorized

Comments