
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ
108ท่า5นาT
คาราวานรถโบราณ พ่วงท้ายด้วยสัมภาระพะรุงพะรัง วิ่งเรียงรายเป็นระเบียบอยู่บนถนน เป็นสีสันตามรายทางให้แก่นักเดินทางผู้เปลี่ยวเหงา แต่ภาพรถโบราณ คันแล้วคันเล่าที่แซงลับหายไปบนหนทางเบื้องหน้า เพียงบรรยายถึงตัวตน ความคิด และเส้นทางที่พวกเขาเลือกเดินไว้อย่างผิวเผิน บางครั้งหลายคนอาจมองพวกเขาแบบเหมารวม โดยใช้คำจำกัดความในทางลบว่า แก็งมอเตอร์ไซค์กวนเมือง แต่หากจะเปิดใจ เข้าไปสัมผัสพวกเขาอย่างใกล้ชิดถ่องแท้ ลึกๆ ในใจของพวกเขา กลับฉายภาพที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง
พวกเขาเรียกตัวเองว่า" ภูไทคลาสสิค" กลุ่มนักขี่ที่มารวมตัวกันด้วยหลงในเสน่ห์ของรถมอเตอ ร์ไซค์คลาสสิค เพียงแต่การรวมตัวกันของพวกเขา มิได้เกิดขึ้นเพียงเพื่อพบปะเพื่อนฝูง เพราะแต่ละทริปที่พวกเขารวมตัวกันออกคาราวานเดินทางไ ปพวกเขายังสร้างกิจกรรมที่มีประโยชน์ช่วยเหลือสังคมอ ีกด้วย
5 โมงเย็นของทุก ๆ วันเสาร์ บริเวณหน้าศาลเจ้าปู่มเหสักข์ ของอำเภอวาริชภูมิ รถมอเตอร์ไซค์รูปทรงงดงามจอดเรียงรายอวดโฉม ที่นี่คือแหล่งรวมพลของกลุ่ม"ภูไทคลาสสิค" ที่ซึ่งสมาชิกของกลุ่มจะมาพบปะสังสรรค์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เตรียมการกิจกรรม และมารู้จักกันฉันท์พี่น้อง
"พี่เก่ง" หัวหน้ากลุ่ม เริ่มเล่าความเป็นมาของกลุ่มว่าเดิมทีนั้น ใน อ.วาริชภูมิ มีจำนวนของผู้ที่ขับขี่รถโบราณอยู่ไม่น้อย และคนที่ขับขี่อยู่นั้นต่างก็มีใจที่รักและชื่นชอบใน รถโบราณ แต่ขาดความรู้ในเรื่องรถ "พี่เก่ง" จึงได้รวบรวมคนเหล่านั้นให้มารวมตัวกัน เพื่อแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดความรู้ให้กันต่อกันเฉย ๆ ไม่มีเรื่องของการเดินทางออกทริปอะไรเลย แต่พอรวมตัวกันนานมากวันขึ้นเลยเกิดความคิดเรื่องการ ออกทริปตามมาทีหลัง
ทริปแรกของ "ภูไทคลาสสิค" นั้นเกิดขึ้นที่ อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ เราออกเดินทางกันเพียงแค่5คนกับรถ3คัน ออกเดินทางกันตอนเช้าถึงานตอนบ่าย ค้างที่งาน1คืน แล้วเดินทางกลับบ้านตอนรุ่งสางของอีกวัน มาถึงบ้านก็เกือบจะเที่ยงวัน ทุกคนนั้นแน่นอนว่าต้องเหนื่อย แต่ไม่มีใครที่บ่นออกมาให้ได้ยินแม้แต่คำเดียวเลย และการเดินทางครั้งนั้นคือจุดเริ่มต้นของการเดินทางของพวกเราจนถึงปัจจุบันเราคงเดินทางต่อไปเ รื่อย ๆ ในอีกหลาย ๆ ทริป ไม่มีหยุด
หลายเดือนมาแล้วที่สมาชิก"ภูไทคลาสสิค"มีความสัมพันธ์อันเหนียวแน่น การนัดหมายรวมตัวกันทุกๆ วันเสาร์ ไม่เคยปล่อยให้ใครต้องอ้างว้าง ในตอนนี้กลุ่มของเรามีสมาชิกกว่า 30 คน กับรถอีก เกือบ 20 คัน
"การรวมตัวกันแบบนี้ คงเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะความมีใจรัก มิตรภาพ และความเสียสละ" พี่เก่ง เล่าต่อว่า "เมื่อก่อน เรารวมกลุ่มกันมีรถหลายยี่ห้อแต่ตำรวจก็ห้ามไม่ให้มา รวมตัวกันที่ ศาลเจ้าปู่ ฯ แต่เราก็ไม่ยอมไปที่อื่น จนเขาขี้เกียจไล่ เราก็เลยยึดเป็นที่รวมตัวหลักมาจนถึงปัจจุบัน"
ซึ่งหากจะมองตามสายตาของคนนอก การถูกไล่ที่ก็ไม่น่าแปลกใจ สำหรับภาพกลุ่มนักบิดหลายสิบชีวิตที่มารวมตัวกัน ใส่เสื้อกั๊กติดอาร์มพะรุงพะรัง แล้วเอาผ้ามาโพกหัว จอดมอเตอร์ไซค์ไว้เรียงราย รถที่ประดับประดามาสวยงามอย่างไรก็ไม่โดดเด่นสะดุดใจ เท่ากับความหวาดระแวงของคนที่ไม่รู้จักและอคติของคำว ่าแก๊งมั่วสุมในสายตาคนทั่วไป แต่พอได้เข้ามาคลุกคลีตีโมงพวกเค้าเรียกได้ว่าเป็นสุ ภาพบุรุษ ที่มีทั้งมีความนอบน้อมต่อผู้หลักผู้ใหญ่ มีความเป็นกันเอง ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่ตรงกันข้ามกับที่สังคมมอง
ถึงแม้ว่ากลุ่มของเราจะเน้นไปในทางทำประโยชน์เพื่อสั งคม แต่ก็มีหลายคนที่เข้ามาแสวงหาเพื่อนเดินทาง ยิ่งในสังคมปัจจุบันแค่เพื่อนรู้ใจเดินทางก็นับว่าหา ยากแล้ว
ยินดีที่ได้รู้จัก กลุ่มคนเดินทาง ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แบบครอบครัว ไม่ได้ชวนหนีเมียเที่ยว นี่คือ ข้อความในใบปลิว 100 ใบ ที่สมาชิคคนหนึ่งนำไปติดรถโบราณทั่ว อ.วาริชภูมิ เพื่อหาเพื่อนที่จะมาร่วมเที่ยวร่วมเดินทางด้วยกัน
คนที่เข้ามาใหม่ๆ เรายังไม่รับว่าอยู่ในกลุ่มนะ ต้องผ่านการพิสูจน์ก่อน ไปไหนมาไหนด้วยกันซัก 3 4 ครั้ง เราจะมองดูลักษณะท่าทาง นิสัย มารยาทดีหรือเปล่า ถ้าสอบผ่านถึงจะนับเข้ากลุ่ม
เพราะแม้จะเป็นคนขี่รถโบราณเหมือนกัน แต่ทุกคนเมื่อเข้ามายังกลุ่มแล้วก็ต้องปฏิบัติตามกฎข องกลุ่ม อย่างเช่น กฎเหล็กคือ ไม่ยุ่งแฟนเพื่อน เคารพอาวุโส ขี่รถมีมารยาท โดยเฉพาะเรื่องการขับขี่รถเป็นขบวนคาราวาน ที่มีรูปแบบเฉพาะตัว คือ มีรถนำ รถเก็บหลัง และรถดูแถว จะมีการสื่อสารกันตลอดเวลา เพราะยึดถือเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ ซึ่งวินัยในการขี่รถนี้ เป็นเป้าหมายสำคัญประการหนึ่งของ กลุ่ม"ภูไทคลาสสิค"ที่จะพัฒนาทักษะการขี่รถแบบคาราวาน และสร้างจิตสำนึกที่ดีในการใช้รถใช้ถนนร่วมกับผู้อื่ นให้กับสมาชิกของกลุ่ม ถ้าแซงรถนำขบวน จะโดนใบเหลืองใบแดง ต้องรับการอบรมสั่งสอน พี่ก่ง ในฐานะผู้นำขบวนรถเล่า มารยาทในการขี่รถเป็นเรื่องสำคัญ อย่างผม กลุ่มยกให้เป็นหัวขบวน ผมไม่ได้เป็นคนสลักสำคัญอะไรหรอก แต่เค้าไว้ใจ ...ผมก็ต้องดูแลขบวนให้เป็นระเบียบ ดูรถซ้ายขวา ขอทางรถใหญ่ ไม่ให้เค้าเบียด สิบล้อต่างจังหวัดเค้าจะหลบซ้ายเปิดไฟให้เราแซง เราก็ต้องยกนิ้วโป้งขอบคุณ ถือเป็นสัญลักษณ์ที่ทุกคนรู้กัน รถในขบวนก็ต้องรู้ว่าใช้ความเร็วแค่ไหน มีบ้างที่หลุดแนว ไม่ค่อยฟัง เราก็ต้องเรียกมาตักเตือนให้อยู่วินัยมากขึ้น เพราะถ้ารถล้มคันเดียว ก็อาจทำให้รถอีกหลายคันในขบวนล้มตามได้ ถ้ามีอุบัติเหตุขึ้นมา มันกร่อย มันหมดสนุก การที่เราไปกลับจุดหมายอย่างสวัสดิภาพ จึงถือว่าเราประสบความสำเร็จสูงสุดสำหรับการเดินทางใ นครั้งนั้น
และปัจจุบันการเดินทางของเรายังคงไม่ยอมหยุดลง และใครที่สนใจจะเข้ามาเป็นเพื่อนร่วมเดินทางกับพวกเร าชาวกลุ่ม ''ภูไทคลาสสิค" ก็ขอเชิญครับทุก ๆ วันเสาร์ 5โมงเย็น ที่ศาลเจ้าปู่มเหสักข์ อ.วาริชภูมิ ครับ หรือติดต่อที่
0804202944 พี่เก่ง
0807408717 นิกกี้