เสพวันละนิด ชีวิตเกิดกิเลส ( วิธีดูแลรถที่ท่านรัก )

เนื่องจากวันนี้อากาศดีไม่รู้จะออกไปไหน

เลยหาอะไรอ่านๆ เล่นไปเลื่อยเปลื่อย

ช่วงนี้ผมรู้สึกว่าตัวผมเองเรื่องรถหนักไปหน่อย

ไหนๆ เค้าก็เปิดบอร์ดให้แล้ว ทำตัวให้เป็นประโยชน์สักหน่อย

บทความนี้ผมเขียนขึ้นมาด้วยความหวังดี หากว่าอ่านแล้วขัดๆตรงไหน

ก็ขออภัยด้วยนะครับ ไม่มีเจตนาแฝงใดๆ เลย




คนที่เล่นจักรยานโบราณทุกคนชอบตรงที่มันมีเอกลักษณ์

แต่ละคันชอบรถกันต่างๆ นาๆ แต่เห็นหมายปองกันมี

SUNBEAM ,BSA, NEW HUDSON, CENTAUR ,

RUDGE ,TRIUMPH, Norman,HERCULES,Gazelle,(อาจมีมากกว่านี้)

และที่ให้ความสำคัญน้อยสุด RALEIGH, HUMBER เพราะรถเล่านี้หาง่าย

แต่ลืมไปว่าจักรยานหน้าที่ของมันคือ สิ่งที่อำนวยความสะดวกสบาย

รถที่มีมากหาง่าย ผมว่าก็ยากเหมือนกันที่จะหาครบๆ หากคนที่พึงหัดเล่นจักรยาน

ผมว่านับหนึ่งจากสิ่งที่หาง่ายที่สุดดีกว่า (ถ้าไฝ่รู้ต้องการศึกษาเอง)

แต่หากมีงบประมาณ รถที่ง่ายและครบ ก็คงไม่พ้นที่จะแนะนำ ebay แต่ก่อนจะเล่น

ผมว่าควรค้นหาตัวเองก่อน ว่าเล่น รถเพราะอะไร เราชอบแบบไหน

กำลังตัวเรามีแค่ไหน

หากยังไม่พร้อมแล้วใจรัก ผมว่ายิ่งหายิ่งเจอ

ยิ่งพยายามยิ่งสำเร็จ ยิ่งตั้งใจทำยิ่งออกมาดี


รถบ้านเราผมก็คงแนะนำ หัดเล่น RALEIGH, HUMBER ก่อน

หากท่านเก่งยี่ห้อพื้นฐานแล้ว ท่านจะไปจับยี่ห้อไหน ก็ได้หมด

หลัการของรถเหมือนๆ กัน อาจแตกต่างที่รูปร่างและความสวย

ไม่รู้จะเริ่มดูแลกันตรงไหนดี

ผมว่าอันดับแลก หลังจากได้รถมา

ถ้าใจรัก และไม่ดูถูกตัวเอง ผมเชื่อว่าทุกคนทำได้หากตั้งใจ

ผมว่าลื้อออกมาให้หมดทั้งคัน ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นส่วนๆ

ยิ่งคันแรกแล้วเราทำกับมือ ย่อมมีความผูกผัน ผมเชื่ออย่างนั้น

ขออนุญาติยืมรูปพี่t13 หน่อยนะครับ(ถือว่าเป็นบุคลที่ผมชื่นชมคนหนึง)

ผมแนะนำนะครับ

ขณะแกะ ลื้อรถ ควรจะอยู่ในช่วงเวลาที่สงบ

เปิดเพลงเย็นๆ ฟัง ทำอารมณ์ให้มีความสุขกับการได้ทำ

อย่าทำในขณะที่รีบร้อน เพราะมันจะช่วยให้รถดีขึ้น

กับตรงกันข้าม จะทำให้รถท่านพังไปมากกว่าเดิม

หากรถที่ได้มาเป็นสนิมทั้งคัน ไม่สมควรที่จะลื้อเลย

ควรใช้น้ำมันเบรค หยอดจุดต่างๆ ที่คิดว่าบริเวณนั้นสามารถเคลื่อนไหวได้

เช่น บนข้อต่อช่วงต่างๆ เบาะ แฮนด์ บันได หัวน็อต มือเบรค

บริเวณที่คิดว่าเป็นลูกปืนขับเคลื่อน

ความclassic ที่ท่านแสวงหากัน ว่ามันอยู่ตรงไหน

ลองดูท่านจะได้สัมผัส

เสียดายตอนผมทำไม่เคยคิดถ่ายรูปเก็บ(เป็นข้อเสีย)

ครั้งหนึงnew hudson ในดิสเพล์ เคยมีสภาพประมาณนี้เลย

แต่ยังกลับมามีชีวิตอีกครั้งครับ ผมว่าหลายคนทำได้

เพราะเรามีสองมือเหมือนกัน (ถ้าคิดแบบนี้ทำได้แน่นอน)

กระทู้นี้ผมจะเสพสุขแค่คนเดียวมันคงสุข

แต่น้อยกว่าที่เราจะมาช่วยกันเสพและช่วยกันสุขด้วยกั น

ขอเชิญชวนนะครับหากใครมีเคล็ดลับเด็ดๆ อยากแบ่งปัน

ณ ที่นี้ต้องการให้เกิดความสุขร่วมกัน เชิญบรรยายได้เลยนะครับ

เพราะร้อยคนรู้ร้อยอย่าง เอามารวมกันก็จะเป็นรอบรู้ครับ

ผมคนเดียวคงมีความรู้อันน้อยนิด

เนี้ยไปๆ ดีครับๆ

หลังจากที่เราได้ลื้อและถอดจนหมดแล้ว

ควรเอาชิ้นส่วนต่างๆ ล้างด้วยน้ำมันโซ่ล่า หรือดีเซล

เพราะจะได้ไม่เปลืองมาก ไม่ระเหย

แล้วเช้ดให้แห้งทุกชิ้น เช็คดูว่ามีตัวไหนสึกหรบ้าง

เช่น แกนกลางหรือเพลา ชุดถ้วยคอ

วิธีการดูก้คือถ้า เป้นรอยลูกปืนเป็นเส้น แล้วควรเปลี่ยนเลย

ลูกปืนนี่ก็สำคัญ หากสังเกตุว่าลูกมันไม่กลมหรือเล็กลงไปจนเป้นสีเทาๆ

ควรเปลี่ยนทิ้ง อย่าเสียดาย เพราะมันจะทำให้อายุรถท่าน สั้นลง

ลูกปืน ณ ที่นี้หมายถึงทุกส่วนเลยนะครับรวมทั้งล้อด้วย สำคัญมาก

ต่อมาก็เช็คดูโซ่ ลองหักดูข้อต่อข้อเลยว่ามันงอได้หรือเปล่า

หากมันกระด้างก็ควรเปลี่ยน ดูจุดสำคัญๆของตัวโครงรถด้วย

ปลายตะเกียบ คอตะเกียบสึกก็ควรเอาไปพอกให้เต็ม ตัวถังแข็งแรงอยู่หรือเปล่า

จากนั้นก็ก็ดูขอบล้อ หากผุแต่ไม่มากก็หากาวมาอุดรูด้วย

หลังจากที่เช็คเรียบร้อย พร้อมใส่ยาง ควรทาจาระบีบางมากๆ ในขอบด้านใน

แล้วเอาแป้งโรย ไม่ให้น้ำมันโดนยางตัดยางรองหัวซี่หนึ่งรอบ หรือใช้ผ้ากันยางโดนซี่

ยางในจะได้ใช้งานได้นาน



หากใครที่ชอบรถทำสี ก็คงต้องหาวิธีขัดเหล็กให้เรียบ

ถ้าสนิมมากก็ใช้วิธีการโป๊วสี วิธีการลองอ่านดูครับคลิก แต่ต้องขัดให้เนียนครับ

พ้นรองพื้นด้วยสีกันสนิมก่อน ขณะพ่นแดดควรแรงๆ

ถ้าพ้นในที่ร่มจะทำให้สีพอง(ส่วนตัวไม่ชอบทำสี)

โห.............ดีเลยครับ ผมก็ลองอยากทำเองอยู่เหมือนกัน ยัง 13 อยู่เลย ประกอบ-ถอดไม่ค่อยเป็นครับ เกิดและเรียนรู้ไม่ทันรถ แฮ่ๆๆๆๆ

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ new_hudson

...
หากใครที่ชอบรถทำสี ก็คงต้องหาวิธีขัดเหล็กให้เรียบ

ถ้าสนิมมากก็ใช้วิธีการโป๊วสี วิธีการลองอ่านดูครับคลิก แต่ต้องขัดให้เนียนครับ

พ้นรองพื้นด้วยสีกันสนิมก่อน ขณะพ่นแดดควรแรงๆ

ถ้าพ้นในที่ร่มจะทำให้สีพอง(ส่วนตัวไม่ชอบทำสี)...

แวะมาคุยเรื่องสีโป้ว กับการทำสีครับ คือ พอจะรู้เรื่องนี้บ้างครับ
ก่อนอื่นเดี๋ยวจะงงครับ สีโป้ว ไม่ได้ใช้เพื่อแก้ปัญหาสนิมนะครับ
คร่าว ๆ นะครับ คือใช้ในกรณีบุบ ยุบ เพื่อถมหรือเก็บให้เนื้อชิ้นงานเสมอกัน ...
สีโป้วมีหลายชนิด แล้วแต่การใช้งาน ถ้าเลือกใช้ถูกการทำงานก็จะง่าย และได้ผลงานที่ดี

ถ้าคิดจะทำสีเอง มานั่งโป้ว นั่งขัดเองนี่ ต้องแน่ใจว่ามีเวลาและเครื่องมือพร้อมครับ
เคยนั่งดูช่างจักรยานทำ พ่นแล้วโป้ว โป้วแล้วขัด ขัดแล้วลูบดู ลูบแล้วพ่น พ่นแล้วโป้ว หลายรอบครับ
จนผิวเนียนเสมอกัน อะ อะ คงนึกว่าอย่างนี้เนื้อสีก็หนาสิ โป้ว พ่น ซะหลายรอบ
จริง ๆ แล้วไม่ใช่ครับ เที่ยวสุดท้ายต้องจนแทบจะเหลือแค่เนื้อเหล็ก กับสีโป้วที่ขัดจนเรียบลื่นเสมอกับเนื้อเหล็ก
จากนั้นค่อยพ่นรองพื้นอีกที การพ่นสีรองพื้นตอนแรกเพื่อให้เราเห็นร่องรอยของผิวง านได้ดีขึ้น และเป็นการทำความสะอาดพื้นผิวให้การยึดเกาะดีไปในตัว อ้อ ตอนขัดสีโป้ว ถ้าขัดไม่ดีนี่เป็นลอนครับ ต้องระวัง

หลักการคร่าว ๆ คือ หลังจากที่ขูดสีจนถึงเนื้อเหล็กแล้ว พ่นรองพื้นบาง ๆ ชั้นนึงก่อน
จากนั้นก็โป้วตามร่องรอยที่เห็น ปล่อยให้แห้งสนิทแล้วค่อยขัด ด้วยกระดาษทรายน้ำ
แล้วปล่อยให้แห้งสนิทอีกครั้งก่อนพ่นรองพื้น และตามด้วยสีจริง
(ถ้าไม่แห้ง (บางทีข้างนอกแห้ง แต่ข้างในไม่แห้ง รถถีบพื้นที่น้อยอาจเห็นไม่ชัด แต่ถ้าเป็นรถยนต์พื้นที่ใหญ่
อาจเกิดตามดตอนพ่นสีจริงและกรณีที่ช่างเรียกว่า "ขึ้นเหลือง" "ขึ้นแดง" ตามชนิดของสีโป้วที่ใช้ แต่มีวิธีแก้ครับ

สำหรับสีที่ใช้ หากทำเองส่วนมากจะตายที่สีสเปร์ย เพราะง่าย ถูก ส่วนงานที่ได้ก็คุณภาพสีสเปร์ย
พวกนี้เนื้อสีจะน้อย พ่นเคลียร์ทับสุดท้ายเนื้อสเปร์ยก็บางมากครับ จะซีดเร็ว
แต่ถ้าเป็นช่างทำเค้าจะใช้สีเกรดพ่นรถยนต์ รวมถึงแลคเกอร์เคลือบเงาก็เป็นเกรดพ่นรถยนต์ด้วย
จะมีความเงา ความแข็งของเนื้อฟิล์มสูงกว่า สีก็จะมีความเงาทน นั่นหมายถึง ราคาที่ต้องจ่ายไปกับ
ค่าอุปกรณ์ เคมีที่ใช้ผสม เป็นต้น ครับ ดังนั้นหากจะทำสีเล่นแค่คันสองคัน คงไม่คุ้มกับการลงทุนแน่

ไปขึ้นลำไยผ่านมาเลยแวะอ่าน...เยี่ยมครับสำหรับข้อมู ล

สำหรับผมก็พอมีประสบการณ์บ้าง การลอกสีที่พ่นทับมา ก่อนอื่นต้องใจเย็นๆ
รถคันนี้ได้มาจากคนแก่ครับ ส่วนมากคนแก่มักจะไม่ทาสี ก็พ่นสี เป็นเรื่องปกติครับ
แต่เขามักจะไม่เคลือบ ก็โชคดีหน่อยมันจะลอกง่ายครับ

ก่อนอื่นก็ฉีด โซเน็กหรือ น้ำมันครอบจักรวาล ตามน็อตต่างๆ
เพราะรถที่ไม่เคยถอดพวกน็อต ต่างๆมันจะตายครับถอดยาก
ทิ้งไว้ซักระยะ แล้วค่อยลงมือถอด
จากนั้น ก็ทำความสะอาดรถล้างคราบสกปรก คราบขี้โคน
ค่อยๆทำนะครับ โดยเฉพาะตรงที่เป็นลายน้ำ

(อย่าใช้น้ำยาลอกสีนะครับเพราะมันแรงเกินไป)
จากนั้นก็ใช่ ทินเนอร์ เช็ดบางๆอย่าชุบเยอะนะเพราะมันจะกัดสี
จากนั้นก็ใช่ แอลกอฮอล์ เช็ดบางๆอีกทีทำสลับกันไปเรื่อยๆนะครับ
จากนั้นก็ล้างด้วยน้ำเปล่าอีกที
ส่วนที่เป็น โคมเมียม ใช่ฝอยขัดหม้อที่ใช้แล้วเพราะมันจะได้ไม่คมมาก
ตอนขัดใช้น้ำยาล้างจานช่วยด้วย มันจะได้เป็นการทำความสะอาดไปด้วย
และก็ล่อลื่นไปในตัว

สิ่งที่สำคัญ ต้องใจเย็นๆนะครับค่อยๆทำ
ลองดูครับ

ที่สำคัญ ตรงลายน้ำครับ ใจเย็น ผมทำเป็นอันดับสุดท้าย

เพราะลายน้ำมันเก่ากาวอาจจะเสื่อมสภาพ ถ้าไม่ระวัง ลายน้ำอาจจะไม่เหลือ
อย่างทีบังโคนหลัง ขัดแรงไปหน่อย ตรงเพจหน้าก็เลยขัดระวังเป็นพิเศษ

ก็ดีนะครับที่เจ้าของเดิม พ่นสีมาไม่อย่างงั้น คงจะเน่ากว่านี้
อายุ อานามก็ 61 ปีแล้ว 1949

แต่ต้องค่อยๆใช่เวลานะครับ สนุกดีทำเอง ใส่ใจทุกรายละเอียด ค่อยๆทำ พอเสร็จแล้วก็ชื่นใจ

ขอให้สนุกกับรถที่ท่านรักนะครับ

"มันก็มีชีวิต"
--------ถ้าเราเบื่อมัน มันก็เบื่อเรา ถ้าเรารักมัน มันก็รักเรา-----------