ข้อมูลการลงเครื่อง JZ
เพื่อนๆเคยเห็นกระทู้แบบนี้กันบ้างไหมครับ???
- รถผมอยากวางเครื่องเจ แต่ไม่รู้จะเลือกตัวไหนดี?
- เครื่องเจกินน้ำมันเท่าไหร่?
- จะรู้ได้ยังไงว่าเครื่องที่ซื้อมาของครบหรือไม่ครบ?
- วางเจเกียร์ออโต้ ใช้เฟืองท้ายเท่าไหร่ดี?
- จะแก้วัดรอบ/วัดความเร็วได้ยังไง?
- ต้องใส่มิเตอร์หรือของแต่งอะไรเพิ่มบ้าง?
- ทำอู่ไหนดี? ราคาเท่าไหร่?
ฯลฯ
ผมว่ากระทู้ทำนองนี้เริ่มเยอะขึ้นทุกๆวัน คงเป็นเพราะคนเริ่มสนใจที่จะวางเครื่อง JZ กันมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน คนที่จะคอยให้ข้อมูลเหล่านี้ก็เริ่มน้อยลงทุกๆวันเหม ือนกัน
คงเป็นเพราะไม่ว่างที่จะตอบ หรือตอบคำถามประเภทนี้มาเป็นสิบกระทู้แล้ว, ขี้พิมพ์
ฯลฯ
ผมก็เลยคิดว่าเราน่าที่จะรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นเหล่า นี้ไว้ให้กับผู้ที่สนใจจะวางเครื่อง JZ ได้เอาไว้อ่าน
เราจะได้ไม่ต้องมาพิมพ์ตอบซ้ำๆกันหลายครั้ง ถ้าใครสงสัยก็ให้เปิดกระทู้นี้อ่านได้เลย
ตอนที่ 1. จะใช้รถอะไรมาวางเครื่อง JZ ดี?
คำถามแรกก็คงไม่พ้นเรื่องตัวรถ จะเลือกรถอะไรมาวางเครื่องดีหนอ?
สำหรับคนที่มีรถอยู่แล้ว ก็มองข้ามข้อนี้ไปได้เลย
แต่สำหรับคนที่กำลังมองหารถที่จะเอามาวางเครื่อง คงต้องคิดหนักกันหน่อย
โดยทั่วๆไปแล้ว รถที่จะสามารถเอามาวางเครื่องตระกูล JZ ได้
ต้องเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลังเท่านั้น
ซึ่งรถที่มีขายอยู่ในตลาด บอดี้ที่นิยมนำมาวางเครื่องกันก็มี
Nissan (A31,200SX,Cedrick)
Benz (W123,W124)
Volvo (244,740,760 turbo intercooler, 940)
BMW (

, E28, E30, E34, E36)
เปอร์โยต์ (305,505)
TOYOTA (Crown, Cressida,)
รถเก๋งและกระบะขับเคลื่อนล้อหลังเกือบทุกยี่ห้อ
ฯลฯ
จะเห็นได้ว่ารถที่สามารถนำมาวางเครื่อง JZ ได้นั้นมีอยู่เป็นสิบๆรุ่น
แล้วคราวนี้เราจะเลือกรถอะไรดีล่ะ?
อันดับแรกที่ควรจะนึกถึงก็คือเรื่องวัตถุประสงค์การใ ช้งานและเรื่องงบประมาณ
ผมคงต้องเอาสองเรื่องนี้รวบมาอยู่ด้วยกัน เพราะถ้าแยกกันแล้วมันจะวุ่นวายเป็นอย่างมาก
ยกตัวอย่างเรื่องวัตถุประสงค์การใช้งานเช่น
ถ้าเราต้องการรถที่ใช้ทำงานธรรมดา ไม่ได้เอาไว้บรรทุกของ อันนี้ก็แน่นอนอยู่แล้วว่าคงต้องเป็นรถเก๋ง
แต่ถ้าจะเอาไว้บรรทุกของได้ด้วย ก็คงต้องหันมามองรถกระบะ
หรือถ้าจะเอาไว้โมดิฟายเพื่อเอาไปแข่ง ก็อาจจะต้องหารถที่น้ำหนักเบาๆหน่อยมาใช้
แต่ถ้าต้องการรถเก๋ง ก็คงต้องมาดูงบประมาณก่อนว่ามีเงินเท่าไหร่ ก็เลือกได้ตามที่เราชอบ
ถ้าเงินเยอะแล้วต้องการความหรูหราสักหน่อย ก็อาจจะเลือก BMW E34 หรือ E36
แต่ถ้ามีงบน้อยลงมาอีกนิด แต่อยากได้รถคันใหญ่ๆนั่งสบาย ก็อาจจะเลือก Volvo
หรืออาจจะชอบรถญี่ปุ่นขับสนุกๆ หาของแต่งง่าย ก็อาจจะเลือก A31
ถ้ามีเงินเหลืออีกหน่อย แล้วต้องการรูปทรงสปอร์ต ก็อาจจะเลือก 200SX เป็นต้น
ส่วนคำถามที่ว่า แล้วรถตัวไหนที่วางแล้วจบง่ายๆ?
คำตอบก็คือ เหมือนๆกันแหละครับ รถต่างรุ่นต่างยี่ห้อกับเครื่องยนต์
ยังไงๆก็ต้องมีการดัดแปลงแก้ไขคล้ายๆกัน ขึ้นอยู่กับฝีมือการทำงานของอู่แต่ละอู่ว่าทำแล้วจบห รือไม่จบ
นอกจากนั้นก็ต้องแล้วแต่วัตถุประสงค์การใช้งานอีกด้ว ย คือ
ถ้าเป็นรถบ้าน ก็อาจจะไม่ต้องทำอะไรมาก
แต่ถ้าต้องการโมฯเต็ม ก็อาจจะต้องรื้อ+ดัดแปลงช่วงล่างเยอะหน่อย
เรื่องการเลือกรถนี้คงต้องแล้วแต่ความชอบและงบประมาณ ของแต่ละบุคคลจริงๆล่ะครับ
ตอนที่ 2. เครื่อง JZ มีกี่รุ่น? จะรู้ได้อย่างไร?
พอเลือกรถได้ถูกใจแล้ว คราวนี้ก็คงต้องมาเลือกกันว่าจะเอาเครื่องยนต์อะไรใส ่เข้าไป จึงจะเหมาะสม
เครื่องยนต์ในตระกูล JZ มีอยู่ด้วยกันหลายรุ่น หลายปี แยกรุ่นกันตามรหัสและส่วนประกอบต่างๆกัน เช่น
รหัสเครื่อง 1JZ จะมีความจุประมาณ 2500 CC.
แต่ถ้าเป็นรหัส 2JZ ก็จะมีความจุประมาณ 3000 CC.
ถ้าลงท้ายด้วย GE ก็จะเป็นเครื่อง N/A
แต่ถ้าลงท้ายด้วย GTE ก็จะเป็นเครื่องที่มีระบบอัดอากาศเป็น Turbo
หรือถ้าลงท้ายด้วย VVT-I ก็แสดงว่ามีระบบวาล์วแปรผันด้วย
ปัจจุบันเครื่องในตระกูล 1JZ และ 2JZ ที่นิยมนำมาใช้วางแทนเครื่องยนต์เดิม ก็มีอยู่ตามนี้
1JZ GE ฝาขาว
1JZ GE ฝาดำ
1JZ GE VVT-I
1JZ GTE ปลั๊กบาง (Twin Turbo)
1JZ GTE ปลั๊กหนา (Twin Turbo)
1JZ GTE VVT-I (Single Turbo)
2JZ GE
2JZ GE VVT-I
2JZ GTE (Twin Sequential Turbo)
2JZ GTE VVT-I (Twin Sequential Turbo)
จริงๆแล้วยังมีแยกย่อยตามเกียร์อีกนะครับ เช่นเกียร์อัตโนมัติ 4-5 สปีด และเกียร์ ธรรมดา 5-6 สปีด
นอกจากนั้นก็ยังมีรุ่นแยกย่อยตามแคร็งก์น้ำมันเครื่อ ง เป็น แคร็งก์หน้า แคร็งก์กลาง แคร็งก์หลัง อีกต่างหาก
ถ้าแยกกันยิบย่อยขนาดนั้น ผมว่าจะงงกันเสียปล่าวๆ เอาเป็นว่า หลักๆก็มีอยู่ประมาณ 10 รุ่นที่ว่ามาก็แล้วกัน
(ส่วน technical spec. ของแต่ละตัวผมคงไม่บอกล่ะ น่าจะหาอ่านกันได้ทั่วๆไปอยู่แล้ว)
แล้วเครื่องไหนปีเก่า เครื่องไหนปีใหม่กว่ากัน?
ผมคงไม่รู้ละเอียดขนาดว่ารหัสไหนผลิตปีไหนหรอกนะครับ เพราะว่ามันยากที่จะระบุปีให้แน่นอน
แค่บอกว่ายกออกมาจากตัวถังไหนก็แย่แล้ว
แล้ววันที่ ที่ปั๊มอยู่บนสายหัวเทียนก็ไม่สามารถบอกปีเครื่องได้
เพราะมันเป็นวันที่ที่ผลิตสายหัวเทียน ไม่ใช่วันที่ผลิตเครื่องยนต์
(แต่อย่างน้อยก็พอดูได้ว่าเครื่องเราผลิตหลังจากวันท ี่ผลิตสายหัวเทียนก็แล้วกันนะ)
คราวนี้ลองมาเปรียบเทียบกันดูแบบคร่าวๆก็แล้วกัน ว่าตัวไหนใหม่ตัวไหนเก่ากว่ากัน?
เครื่อง 1JZ GE ฝาดำ ปีใหม่กว่าฝาขาว แรงบิดมากกว่า แรงม้ามากกว่า
เครื่อง 1JZ GTE ปลั๊กหนาใหม่กว่าปลั๊กบาง แรงบิดสูงกว่าที่รอบเครื่องต่ำกว่า
เครื่องที่ลงท้ายด้วยรหัส VVT-I เป็นเครื่องปีใหม่สุด เครื่องสดที่สุด
เท่านี้ก็คงใช้เป็นแนวทางได้สำหรับคนที่ต้องการจะรู้ ว่าเครื่องตัวไหนปีเก่าปีใหม่กว่ากัน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้หมายความว่าเครื่องปีใหม่ที ่สุดจะต้องเป็นเครื่องที่สภาพดีที่สุดนะครับ
การที่จะได้เครื่องสภาพดีๆ ก็คงต้องมีวิธีการดูการเลือกเพื่อให้ได้เครื่องที่ดี ที่สุดตามที่เราต้องการ
ตอนที่ 3. เราจะเลือกเครื่องตัวไหนมาวางในรถเราดีล่ะ?
การจะเลือกเครื่องตัวไหนมาวางในรถสุดรักของเรา คงต้องย้อนกลับไปดูวัตถุประสงค์การใช้งานกับกำลังเงิ น
ผมลองสรุปคร่าวๆได้ 2 ประเภทใหญ่ ๆ และย่อยๆตามนี้นะครับ
1. เอาไว้ใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน (ไม่เน้นแรง)
เน้นประหยัดเงิน ไม่เน้นแรง ก็คงต้องเลือก 1JZ GE ฝาขาวหรือฝาดำ
มีเงินเยอะหน่อย แต่เน้นประหยัดน้ำมัน เครื่องสด ไม่เน้นแรง ก็อาจจะเลือก 1JZ GE VVT-I
มีเงินเยอะอีกหน่อย ขอแรงเล็กน้อย แต่จะเอาประหยัดน้ำมันด้วย ก็อาจจะเลือก 2JZ GE
มีกำลังเงินพอสมควร อยากได้เครื่องสดๆ แรงพอได้ แต่ประหยัดน้ำมัน ก็เลือก 2JZ GE VVT-I
2. เน้นแรงไว้ก่อน (แต่ก็ยังเอามาขับใช้งานประจำวันได้)
งบประมาณไม่มากนัก แรงพอควร ก็วาง 1JZ GTE ปลั๊กบาง
งบเยอะขึ้นมาอีกนิด แรงขึ้นอีกหน่อย ก็เลือก 1JZ GTE ปลั๊กหนา (จริงๆมันก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก)
งบเหลือๆ อยากแรง แต่จะเอาประหยัดด้วย ก็เลือก 1JZ GTE VVT-I (แต่ไม่เหมาะที่จะโมฯต่อ)
ถ้าเงินเยอะ เน้นแรงมากในแบบแสตนดาร์ด ก็เลือก 2JZ GTE VVT-I
ถ้าเงินเหลือเฟือ เน้นแรงมาก เผื่อไว้โมฯต่อด้วย ก็เลือก 2JZ GTE น่าจะดีกว่า
แต่นอกจากเรื่องความแรงและความประหยัดแล้ว
ก็อาจจะต้องมองถึงตัวรถที่จะนำมาวางเครื่องด้วยว่ามี ขนาดและน้ำหนักมากน้อยอย่างไร
เพราะถ้าจะเอาเครื่อง 1JZ GE ไปลากตัวถังรถที่ขนาดใหญ่และหนักมากๆ
มันก็คงซิ่งไม่ออกและคงไม่ประหยัดน้ำมันซักเท่าไหร่
ก็คงต้องดูองค์ประกอบในส่วนนี้ด้วย
ส่วนเรื่องเกียร์ ก็แล้วแต่ความชอบและความถนัด เช่น
- ถ้าจะเอาไว้ใช้งานสบายๆขับเพลินๆ ค่าซ่อมบำรุงถูก ก็เลือกเกียร์ออโต้ไปเลย
- แต่ถ้าเน้นแรงไว้ก่อนและเผื่อเอาไว้โมฯต่อในอนาคต ก็น่าจะเลือกเกียร์ธรรมดา
(แต่จะเป็น 5 หรือ 6 สปีด ก็คงต้องแล้วแต่งบ)
อย่าลืมนะครับว่า เกียร์ธรรมดาราคาแพงกว่าเกียร์ออโต้ 2-3 เท่าตัว
ยิ่งถ้าจะทำการโมดิฟายเครื่องเพิ่มเติมด้วยแล้ว ก็ต้องเสียเงินในการ upgrade ชุดคลัชท์หรือเฟืองท้ายตามมา
อย่าลืมเผื่อเงินไว้ในส่วนนี้ด้วย เดี๋ยวจะกลายเป็นเครื่องแรงแต่วิ่งไม่ได้ ก็ไม่มีประโยชน์
จากข้อมูลข้างต้นนี้ก็น่าจะได้แนวทางการเลือกเครื่อง ยนต์กันแล้วนะครับ
แต่ยังไงก็แล้วแต่ นี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว
บางคนอาจจะมองไม่เหมือนกันก็ได้ ก็แล้วแต่มุมมองและรสนิยมของแต่ละท่าน
ตอนที่ 4. เครื่องแต่ละรุ่น กินน้ำมันมาก-น้อยขนาดไหน?
มีหลายท่านที่กำลังจะเริ่มวางเครื่อง แต่ก็ติดเรื่องกลัวจ่ายค่าน้ำมันไม่ไหว
แหม
..รักจะเป็นปิ่น(มาแต่งงานกับเจ)แล้ว ก็อย่าไปเสียดายค่าน้ำมันเลยครับ
มีคนพูดกันอยู่บ่อยๆว่า ความแรงมักสวนทางกับความประหยัดเสมอ
พูดอย่างนี้ หลายคนอาจจะเริ่มกลัวว่า ไอ้เครื่องเจเนี่ยท่าทางจะซดน้ำมันน่าดูชม
..มันก็ไม่ขนาดน้านนนน
ต้องมองกันในหลายๆด้านครับ อย่างเช่น
รถ Volvo เครื่องเดิมกินน้ำมันก็มาก แถมยังวิ่งไม่ค่อยออกซะอีก ค่าซ่อมเครื่องก็แพงมหาโหด
แต่พอเปลี่ยนมาวางเครื่อง JZ สิ่งที่ได้เพิ่มมาคืออะไร?
อย่างแรก ก็แน่นอนครับ คือเรื่อง feelingในการขับขี่ ได้อัตราเร่งที่ดีขึ้น ขับสบายขึ้น
อย่างที่สอง อัตราการกินน้ำมันที่ลดลง หรืออย่างแย่ที่สุดก็อาจจะเกือบเท่าเดิม
อย่างที่สาม เรื่องค่าซ่อมบำรุงที่ถูกกว่ากันหลายเท่า
อย่างที่สี่ เพิ่มเงินเพียงสามร้อยก็มีสิทธิ์สมัครเป็นสมาชิก Club JZ ได้
(เอิ๊ก เอิ๊ก)
ข้อดีแค่สามข้อแรกก็น่าจะเพียงพอต่อการตัดสินใจวางเค รื่องใหม่แล้วนะครับ
คราวนี้ลองมาดูตัวเลขกันเลยว่า เครื่องในแต่ละรุ่นกินน้ำมันมาก-น้อยขนาดไหนกัน
แต่ผมขอออกตัวไว้ก่อนเลยนะครับว่า เป็นการประมาณจากข้อมูลของเพื่อนๆหลายๆคน
อาจจะมีบางคนได้ตัวเลขมากหรือน้อยกว่านี้ก็ได้
ขึ้นอยู่กับวิธีการขับขี่, เฟืองท้าย, ชนิดของเกียร์, ขนาดล้อและยาง, ขนาดและน้ำหนักของรถด้วย
1JZ GE ฝาขาวหรือฝาดำ
ใช้งานในเมืองอัตราการกินน้ำมัน 7-8 กม./ลิตร, วิ่งทางไกล 9-10 กม./ลิตร
1JZ GE VVT-i
ใช้งานในเมืองอัตราการกินน้ำมัน 9-10 กม./ลิตร, วิ่งทางไกล 11-12 กม./ลิตร
2JZ GE
ใช้งานในเมืองอัตราการกินน้ำมัน 7-8 กม./ลิตร, วิ่งทางไกล 9-10 กม./ลิตร
2JZ GE VVT-i
ใช้งานในเมืองอัตราการกินน้ำมัน 8-9 กม./ลิตร, วิ่งทางไกล 10-12 กม./ลิตร
1JZ GTE ปลั๊กบางหรือปลั๊กหนา
ใช้งานในเมืองอัตราการกินน้ำมัน 6-7 กม./ลิตร, วิ่งทางไกล 8-10 กม./ลิตร
1JZ GTE VVT-i
ใช้งานในเมืองอัตราการกินน้ำมัน 7-8 กม./ลิตร, วิ่งทางไกล 9-11 กม./ลิตร
2JZ GTE
ใช้งานในเมืองอัตราการกินน้ำมัน 5-6 กม./ลิตร, วิ่งทางไกล 8-10 กม./ลิตร
2JZ GTE VVT-i
ใช้งานในเมืองอัตราการกินน้ำมัน 6-7 กม./ลิตร, วิ่งทางไกล 9-12 กม./ลิตร
ตัวเลขที่ได้นี้ ขอเน้นว่ามาจากเครื่องแสตนดาร์ด ที่วางมาค่อนข้างสมบูรณ์ แล้วก็ขับใช้งานอย่างปกติ
อาจจะมีซัดบ้างเล็กๆน้อยๆพอหอมปากหอมคอนะครับ
ถ้าเป็นเครื่องยนต์โมดิฟาย แล้วขับซิ่งตลอดเวลาตัวเลขก็คงลดน้อยลงไป
ข้อมูลจาก
http://news.banphan.com/%E0%B8%82%E0...1jzgte-2jzgte/
Bookmarks