กลไกการแข็งตัวขององคชาตในภาวะตื่นตัวทางเพศในเพศชาย เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนมาก มีปัจจัยหลายอย่างที่มาเกี่ยวข้อง ทั้งปัจจัยทางร่างกาย (สมอง, ฮอร์โมนต่างๆ, ระบบประสาท, กล้ามเนื้อ, หลอดเลือดดำและแดง) และปัจจัยทางจิตใจ เมื่อมีสิ่งเร้าทางเพศมากระตุ้น เส้นประสาทในองคชาตจะมีการปล่อยสาร "ไนตริกออกไซด์ (Nitric Oxide)" ออกมากระตุ้นให้มีการสร้างสารไซคลิกจีเอ็มพี (cGMP) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้มีการคลายตัวของกล้ามเนื้อเรียบเ ส้นเลือดแดงที่นำเข้า สู่ในองคชาต ทำให้เกิดการพองตัวของร่างแหฟองน้ำ คอร์ปัส สปองจิโอซั่ม (Corpus spongiosum) (ซึ่งเมื่อพองตัวแล้ว ก็จะไปเบียดกดเส้นเลือดดำที่ไหลออกจากองคชาต ทำให้เลือดไหลออกจากองคชาตได้น้อยลงอีกด้วย) จึงทำให้องคชาตเกิดการแข็งตัวขึ้น (อ้างอิงที่ 1, 2)

ภาวะหย่อน สมรรถภาพทางเพศ คือ ภาวะที่องคชาติไม่สามารถแข็งตัวหรือแข็งตัวได้ไม่นาน พอจะทำให้เกิดความพึงพอ ใจในกิจกรรมทางเพศได้ ทั้งที่ผู้ชายคนนั้นมีความต้องการที่จะมีเพศสัมพันธ์ (อ้างอิงที่ 1)

ข้อมูลจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 2000 มีการสำรวจในชายไทยในเขตกรุงเทพมหานคร และเขตเมืองในอีก 8 จังหวัดใน 4 ภาคๆ ละ 2 จังหวัด โดยเลือกจังหวัดใหญ่และจังหวัดเล็กอย่างละหนึ่งจังหว ัด รวมแล้วทั้งหมดจำนวน 1,250 ราย ที่มีอายุช่วง 40-70 ปี พบว่า มีชายไทยที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองเป็นโรคหย่อนสมรรถภาพ ทางเพศประมาณร้อยละ 37.5 โดยแบ่งเป็นอาการขั้นต้นคือ มีอาการเล็กน้อย ไม่รุนแรง เช่น ทำกิจกรรมทางเพศไม่สำเร็จแค่บางครั้ง ร้อยละ 19.1 อาการปานกลาง ร้อยละ 13.7 และอาการขั้นรุนแรงถึงขั้นที่ไม่สามารถทำกิจกรรมทางเ พศได้เลย ร้อยละ 4.7 ทั้งนี้คนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเล็กจะเป็นน้อยกว่าคน ที่อาศัยอยู่ในจังหวัด ใหญ่ ซึ่งงานวิจัยนี้ ชี้ว่าอายุที่มากขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชายไทยป ระสบปัญหากับภาวะหย่อน สมรรถภาพทางเพศ และอัตราการเป็นจะเพิ่มสูงมากในกลุ่มอายุ 60-70 ปี มากกว่ากลุ่มอายุ 40-49 ปี งานวิจัยนี้สอดคล้องกับงานวิจัยที่ทำในอเมริกา โดยทำการศึกษากับกลุ่มผู้ชายอายุ 40-69 ปี จำนวน 1,709 คนในรัฐแมสซาชูเซตส์ และติดตามผลอย่างต่อเนื่องประมาณ 8.8 ปี พบว่า อัตราการเพิ่มขึ้นของภาวะนี้ทุก 1,000 คนในแต่ละกลุ่มช่วงอายุ คือ ช่วงอายุ 40-49 ปี เป็น 12.4 คน ช่วงอายุ 50-59 ปี เป็น 29.8 คน ช่วงอายุ 60-69 ปี เป็น 46.4 คน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ทำให้เกิดภาวะหย่อนสมรร ถภาพทางเพศอีก เช่น โรคเบาหวาน (เป็นสาเหตุของโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศที่พบได้บ่อยที ่สุดในเวชปฏิบัติ เกิดจากโรคเบาหวานทำให้เกิดความผิดปกติทั้งต่อเส้นปร ะสาทที่มาควบคุมการแข็ง ตัวขององคชาตและเส้นเลือดที่มีความผิดปกติ) ความเครียด ความอ้วน โรคหัวใจ พฤติกรรมการสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน (อ้างอิงที่ 1-5)

ปัจจุบันนี้มีงาน วิจัยสนับสนุนเกี่ยวกับสารอาหารที่ช่วยในเรื่องการแข ็งตัวขององคชาต นั่นคือ กรดอะมิโนที่มีชื่อว่า แอล-อาร์จินีน ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์ไนตริก ออกไซด์ (Nitric Oxide) (อ้างอิงที่ 6) ที่เป็นสารสื่อประสาทชนิดหนึ่ง มีบทบาทในเรื่องการแข็งตัวขององคชาตในเพศชายดังกล่าว ข้างต้น (อ้างอิงที่ 7) มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ทำกับกลุ่มผู้ชายที่มีปั ญหาภาวะหย่อนสมรรถภาพ ทางเพศ (confirmed organic ED) ชนิดที่มีปัญหาการผลิต Nitric Oxide น้อย หรือหลั่ง Nitric Oxide ลดลง พบว่าช่วยทำให้ดีขึ้น (อ้างอิงที่ 8) อีกงานวิจัยหนึ่งใช้ L-arginine ร่วมกับ Pycnogenol ในกลุ่มผู้ชาย without confirmed organic ED พบว่า สมรรถนะทางเพศดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (อ้างอิงที่ 9)

และยังมีงานวิจัยรองรับว่า การใช้สารละลาย L-arginine HCL ความเข้มข้น 10% ที่ 80 มิลลิลิตรต่อวัน เป็นระยะเวลา 6 เดือนกับกลุ่มผู้ชายที่เป็นหมันในลักษณะที่มีจำนวนอส ุจิปกติ (มากกว่า 20 ล้านตัวต่อมิลลิลิตร) แต่ตัวอสุจิเคลื่อนตัวช้า พบว่า แอล-อาร์จินีนสามารถช่วยให้ตัวอสุจิเคลื่อนตัวได้ดีขึ้น โดยปราศจากผลข้างเคียงใดๆ (อ้างอิงที่ 10)

นอกจากนี้แล้ว พบว่าการใช้กรดอะมิโน L-Arginine ร่วมกับกรดอะมิโน L-Ornithine เป็นที่นิยมใช้ในกลุ่มผู้ที่ต้องการเสริมสร้างกล้ามเ นื้อ มีงานวิจัยสนับสนุนว่า ช่วยสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกาย เพิ่มมวลกล้ามเนื้อไม่รวมไขมัน (Lean Body Mass) ช่วยลดอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะจากการออกกำลังกายหนัก (อ้างอิงที่ 11) และมีการนำใช้ร่วมกับไนอะซินาไมด์ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในเรื่อง ช่วยให้ร่างกายได้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน (อ้างอิงที่ 12) อีกทั้งมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการหลั่ง Growth Hormone (อ้างอิงที่ 13) ซึ่งตามธรรมชาติ ระดับ Growth Hormone จะลดลงทุกปี เป็นผลให้เกิดการเพิ่มพูนของเนื้อเยื่อไขมัน การหดลีบของกล้ามเนื้อ พละกำลังและความบึกบึนหายไป (อ้างอิงที่ 14)

Giffairne ARG-N-ORN
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แอล-อาร์จินีน แอล-ออร์นิทีน และไนอะซินาไมด์ ชนิดแคปซูล (ตรากิฟฟารีน)
วิธีรับประทาน ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 2 ครั้ง พร้อมอาหาร
ขนาด 60 แคปซูล
ราคา 435 บาท
โทร 0866063832 (http://giffarineargnorn.blogspot.com)
เตือน : กระทู้เก่า
กระทู้นี้เก่ากว่า 360 วัน ข้อมูลและสินค้าบางรายการ อาจจะไม่ตรงกับปัจจุบัน โปรดสอบถามก่อน