รวมอาการเสีย--วิธีเช็ค--วิธีซ่อม แบบบ้านๆครับผม

สวัสดีครับ

รถสั่งประกอบใหม่ และ ขับมาปีกว่าแล้ว ต้องดูแลหรือเปลี่ยนอะไรบ้างครับ

ขอบคุณมากครับ

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ selfishness

สวัสดีครับ

รถสั่งประกอบใหม่ และ ขับมาปีกว่าแล้ว ต้องดูแลหรือเปลี่ยนอะไรบ้างครับ

ขอบคุณมากครับ

สวัสดีครับผม

รถใช้งานบ่อยไหมครับผม ขับทีนึงระยะทางไกลไหมครับ

ถ้าใช้งานมากๆ ก็ควรดูเรื่องต่างๆดังนี้ครับผม
1. น้ำมันเครื่อง
2. หัวเทียน (ดูสีของหัวเทียนครับ และสภาพ เพื่อปรับเบอร์ให้เหมาะกับการขี่ครับผม)
3. ทองขาว (ดูว่ามันสึกไหม และ มีรอยไหม้ที่หน้าทองขาวรึเปล่า)
4. สายเบรค สายครัช สายเกียร์
5. ผ้าเบรค และ ผนังด้านในล้อ ควรดูความหนาของผ้าเบรคว่าควรอัดใหม่ หรือเปลี่ยนหรือยัง รวมถึงเป่าเขม่าออกด้วยครับผม
6. สภาพยางรถ มีรอยรั่ว ปริแตกหรือไม่
7. ท่อไอเสีย ถ้าหากใช้รถเยอะ แนะนำให้ไปผ่าเอาเขม่าที่อุดตันออกครับผม
8. หากมีเวลาก็ล้างถังน้ำมัน และล้างคาร์บูเรเตอร์ รวมถึงทำความสะอาดกรองอากาศไปด้วยในตัวครับผม

ปล. ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัย และวิถีการขับรถครับผม
ปล2. น้ำมันเครื่อง ลองใช้ของเพนซอย 0w-30 หรือ 40 ดูครับผม

้ออโตลูปใส่ เท่าไรคับ ถ้าใส่เยอะมากก็มีส่วนคับ

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ VespaDevil

ขอโทษที่ตอบช้าครับพี่ vespalia ยังไม่ได้ถ่ายรูปให้ดูนะครับ เรื่องคอล์ยหัวเทียน
รบกวนอีกนิสครับ เรื่องการผสมน้ำมันออโตลูปลงถัง ผสมเยอะ หรือ น้อย มีผลเกี่ยวกับการสตาร์ทมั๊ยครับ
คือผมใช้สปริ๊น ขับทำงานตอนเช้า กลับบ้านเย็น เอียงสตาร์ท ติดปกติ แต่พอขี่มาเครื่องร้อนๆ จอดแล้วสตาร์ทหลายทีกว่าจะติด
สตาร์ทจนน้ำมันท่วม พอเปิดฝาข้าง เปิดฝาคาร์บู แล้วเอามือปิดตรงรูปากคาร์บู ก้อทีเดียวติดเลยครับ
ลืมบอกครับ รถผมน้ำมันจะพ่นตรงปากคาร์บูเป็นละอองนะครับ
ก้อเลยจะสอบถามว่า ที่สตาร์ทติดยาก (ตอนเครื่องร้อน) จะเกี่ยวกับคาร์บู หรือ เกี่ยวกับการผสมน้ำมันออโตลูปเยอะหรือน้อยมั๊ยครับ
ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ

มีส่วนคับใส่ออโตลูปมากไป

ใส่ ออโตลูปมากไปก็มีส่วนคับ ใช้1หนึ่งกี่ฝาคับ

สะหวัดดีครับ รบกวนสอบถามครับ
อาการคือ รถผมเวลาสตาทเดินเบาเสียงปกติ แต่พอกำคลัชจะมีเสียงดังแก็กๆ(จะเป็นเฉพาะตอนกำคลัช) แต่เวลาขี่หรือว่าปล่อยคลัชก็ปกติครับ ใส่เกียนิ่มเหมือนเดิม ไม่ทราบว่าเสียงที่เกิดนั้นมาจากอะไรครับขอบคุณครับ

ขออณุญาติรบกวนครับพี่ คือรถผมมีอาการ เวลากำคลัชแล้วมีเสียงดังลัวๆครับ แต่เวลาไม่กำก็ปกติ ตอนกำครึ่งหนึ่งจะเสียงดังมากครับ เวลากำสุดก็จะดังอยุ่แต่ค่อย เวลาขี่และเข้าเกียก็ปกติครับ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรครับ ขอบคุณครับ เสียงตามคลิปเลยครับ https://youtu.be/A2EP8rljVSk

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ punoyclassic

ขออณุญาติรบกวนครับพี่ คือรถผมมีอาการ เวลากำคลัชแล้วมีเสียงดังลัวๆครับ แต่เวลาไม่กำก็ปกติ ตอนกำครึ่งหนึ่งจะเสียงดังมากครับ เวลากำสุดก็จะดังอยุ่แต่ค่อย เวลาขี่และเข้าเกียก็ปกติครับ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรครับ ขอบคุณครับ เสียงตามคลิปเลยครับ https://youtu.be/A2EP8rljVSk

สวัสดีครับผม
เริ่มจากอย่างแรกก่อนนะครับ

ตอนสตาร์ทแล้วเดินเบา ลองฟังเสียงเครื่อง มันจะมีเสียง โตกๆๆ ดังตามรอบเครื่อง
เสียงนี้ น่าจะมาจากตัวเบ้าลูกปืนกับตัวลูกปืนข้างข้อ(ลูกปืนต ับเป็ด) มันหลวมนิดหน่อยครับ
ส่วนใหญ่รถมีอายุ มักจะมีช่องเล็กน้อยครับ

วิธีแก้แบบไม่จริงจังคือ ผ่าเครื่องแล้ว กลึงบูชทองเหลืองใส่
ตอนใส่บูชทองเหลือง ให้เผาแคร้งเครื่องตรงรูที่จะใส่ลูกปืน
เพื่อให้รูมันขยายตัวครับ
เวลาใส่บูชไปแล้วมันจะแน่นพอดีครับ

วิธีแก้แบบจริงจังคือ เชื่อมพอกใหม่ แล้วมิลลิ่ง และกลึงตัวรูใส่ลูกปืนใหม่ครับผม
วิธีนี้ก็จะได้ความฟิต และเสียงที่เงียบ
เหมือนวีดีโอตามยูทูปที่ฝรั่งเค้าผ่าเครื่องกันครับ
มันจะไม่มีเสียงโตกๆ ครับ

ซึ่งถ้าไม่ซีเรียสกับเสียงนี้ก็ปล่อยผ่านครับผม
รถผมก็เป็นครับ(กินดินเข้าไปเยอะครับ)

ส่วนเรื่องเสียงตอนกำคลัช
ต้องลองเปิดฝาฝั่งคลัชดูครับผม

ให้ช่างเค้ากดดูตรงชุดคลัชว่ามันจากรึเปล่าครับ
เพราะบางทีคลัชมันอาจจะติดครับผม
ก่อนประกอบกลับให้ช่างเค้าเอากระดาษทรายขัดๆ ที่ตรงผ้าคลัชซักหน่อยครับผม

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ vespalia

สวัสดีครับผม
เริ่มจากอย่างแรกก่อนนะครับ

ตอนสตาร์ทแล้วเดินเบา ลองฟังเสียงเครื่อง มันจะมีเสียง โตกๆๆ ดังตามรอบเครื่อง
เสียงนี้ น่าจะมาจากตัวเบ้าลูกปืนกับตัวลูกปืนข้างข้อ(ลูกปืนต ับเป็ด) มันหลวมนิดหน่อยครับ
ส่วนใหญ่รถมีอายุ มักจะมีช่องเล็กน้อยครับ

วิธีแก้แบบไม่จริงจังคือ ผ่าเครื่องแล้ว กลึงบูชทองเหลืองใส่
ตอนใส่บูชทองเหลือง ให้เผาแคร้งเครื่องตรงรูที่จะใส่ลูกปืน
เพื่อให้รูมันขยายตัวครับ
เวลาใส่บูชไปแล้วมันจะแน่นพอดีครับ

วิธีแก้แบบจริงจังคือ เชื่อมพอกใหม่ แล้วมิลลิ่ง และกลึงตัวรูใส่ลูกปืนใหม่ครับผม
วิธีนี้ก็จะได้ความฟิต และเสียงที่เงียบ
เหมือนวีดีโอตามยูทูปที่ฝรั่งเค้าผ่าเครื่องกันครับ
มันจะไม่มีเสียงโตกๆ ครับ

ซึ่งถ้าไม่ซีเรียสกับเสียงนี้ก็ปล่อยผ่านครับผม
รถผมก็เป็นครับ(กินดินเข้าไปเยอะครับ)

ส่วนเรื่องเสียงตอนกำคลัช
ต้องลองเปิดฝาฝั่งคลัชดูครับผม

ให้ช่างเค้ากดดูตรงชุดคลัชว่ามันจากรึเปล่าครับ
เพราะบางทีคลัชมันอาจจะติดครับผม
ก่อนประกอบกลับให้ช่างเค้าเอากระดาษทรายขัดๆ ที่ตรงผ้าคลัชซักหน่อยครับผม

ขอบคุณพี่มากๆเลยครับสำหรับข้อมูลดีๆ ผมว่าจะลองเปลี่ยนคลัชยกก้อนเลยครับ อิอิ

เปลี่ยนหลอดไฟท้าย/ไฟเบรค แล้วไม่ติด เกิดจากสาเหตุใด และ แก้ไข หรือ เช็ึึค อย่างไรได้บ้างครับ

ไฟหน้าติด แตรติด ขอบคุณครับ

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Selfishness

เปลี่ยนหลอดไฟท้าย/ไฟเบรค แล้วไม่ติด เกิดจากสาเหตุใด และ แก้ไข หรือ เช็ึึค อย่างไรได้บ้างครับ

ไฟหน้าติด แตรติด ขอบคุณครับ

สวัสดีครับผม

ต้องถามก่อนว่า เดิมทีนั้นหลอดไฟมันเคยติดอยู่หรือไม่
ถ้ามันเคยติดแล้วหลอดขาด เราเปลี่ยนใหม่แล้วมันไม่ติด
ให้ลองเช็คตามนี้ครับผม
1. ตัวหลอดไฟที่นำมาเปลี่ยนใหม่นั้น จำนวนวัตต์ เท่ากับหลอดเดิมหรือไม่
เช็คได้จากตัวขั้วของหลอด จะมีเขียนไว้ครับผม 10w, 15w, 20w อะไรประมาณนี้ครับผม

2. หลอดไฟที่นำมาเปลี่ยนใหม่นั้น ไส้หลอดขาดหรือไม่
เช็คโดยที่เรา ยกหลอดไฟส่องดูตรงข้างในหลอด มันจะมีขาสองข้าง ซ้าย, ขวา โดยที่จะมีแกนลวดขด อยู่ระหว่างกลาง
โดยหลอดที่ยังดีอยู่นั้น แกนจะเชื่อมต่อกันจากขาหนึ่งไปอีกขา
แต่ถ้าตัวขดลวดนี้ขาด แสดงว่า หลอดขาด ต้องเปลื่ยนหลอดใหม่ครับผม

3. เช็คไฟที่ขั้วของไฟท้ายครับ
วิธีนี้จำเป็นจะต้องมี มัลติมิเตอร์ เพื่อวัดกระแสไฟครับผม
โดยเราสตาร์ทรถ เปิดสวิตท์ไฟตรงแฮนด์ให้ไฟท้ายติด
ถอดหลอดไฟออก และนำมิเตอร์มาวัดไฟครับ
โดยหมุนมิเตอร์ไปที่ VDC หรือ วัดโวจท์ที่กระแสตรงครับ
หมุนที่ 50 Volt ครับ มิเตอร์จะได้ไม่ขาดครับ

มิเตอร์จะมีสายวัดสีแดง ซึ่งเป็นขั้วบวก และดำ เป็นขั้วลบครับ
ให้เราเอาสายวัดสีแดง ไปจิ้มกับด้านขั้วหลอด ตรงไฟท้าย
และสายสีดำ ไปจิ้มกับส่วนที่เป็นเหล็กหรือโครเมี่ยม ของตัวฐานของไฟท้ายครับ

เมื่อจิ้มแล้ว ถ้ามิเตอร์ขยับ โดยอ่านค่าได้ประมาณ 6-9 โวตท์ ก็แสดงว่าไฟมาปรกติครับ

ถ้ามิเตอร์ไม่ขยับแสดงว่า
1. สายไฟขาด
2. จิ้มผิดที่
3. มิเตอร์เสีย
4. สวิตซ์ตรงแฮนด์อาจมีปัญหาครับ

ในกรณีที่อยากเช็คไฟเบรค ก็ใช้วิธีเดียวกันครับผม

ผมลองวัดแล้ว มันขึ้น 1.0 0.9 1.2 โวตท์ ประมาณนี้ ครับ

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ vespalia

สวัสดีครับผม

ต้องถามก่อนว่า เดิมทีนั้นหลอดไฟมันเคยติดอยู่หรือไม่
ถ้ามันเคยติดแล้วหลอดขาด เราเปลี่ยนใหม่แล้วมันไม่ติด
ให้ลองเช็คตามนี้ครับผม
1. ตัวหลอดไฟที่นำมาเปลี่ยนใหม่นั้น จำนวนวัตต์ เท่ากับหลอดเดิมหรือไม่
เช็คได้จากตัวขั้วของหลอด จะมีเขียนไว้ครับผม 10w, 15w, 20w อะไรประมาณนี้ครับผม

2. หลอดไฟที่นำมาเปลี่ยนใหม่นั้น ไส้หลอดขาดหรือไม่
เช็คโดยที่เรา ยกหลอดไฟส่องดูตรงข้างในหลอด มันจะมีขาสองข้าง ซ้าย, ขวา โดยที่จะมีแกนลวดขด อยู่ระหว่างกลาง
โดยหลอดที่ยังดีอยู่นั้น แกนจะเชื่อมต่อกันจากขาหนึ่งไปอีกขา
แต่ถ้าตัวขดลวดนี้ขาด แสดงว่า หลอดขาด ต้องเปลื่ยนหลอดใหม่ครับผม

3. เช็คไฟที่ขั้วของไฟท้ายครับ
วิธีนี้จำเป็นจะต้องมี มัลติมิเตอร์ เพื่อวัดกระแสไฟครับผม
โดยเราสตาร์ทรถ เปิดสวิตท์ไฟตรงแฮนด์ให้ไฟท้ายติด
ถอดหลอดไฟออก และนำมิเตอร์มาวัดไฟครับ
โดยหมุนมิเตอร์ไปที่ VDC หรือ วัดโวจท์ที่กระแสตรงครับ
หมุนที่ 50 Volt ครับ มิเตอร์จะได้ไม่ขาดครับ

มิเตอร์จะมีสายวัดสีแดง ซึ่งเป็นขั้วบวก และดำ เป็นขั้วลบครับ
ให้เราเอาสายวัดสีแดง ไปจิ้มกับด้านขั้วหลอด ตรงไฟท้าย
และสายสีดำ ไปจิ้มกับส่วนที่เป็นเหล็กหรือโครเมี่ยม ของตัวฐานของไฟท้ายครับ

เมื่อจิ้มแล้ว ถ้ามิเตอร์ขยับ โดยอ่านค่าได้ประมาณ 6-9 โวตท์ ก็แสดงว่าไฟมาปรกติครับ

ถ้ามิเตอร์ไม่ขยับแสดงว่า
1. สายไฟขาด
2. จิ้มผิดที่
3. มิเตอร์เสีย
4. สวิตซ์ตรงแฮนด์อาจมีปัญหาครับ

ในกรณีที่อยากเช็คไฟเบรค ก็ใช้วิธีเดียวกันครับผม

ตอนแรกน่าจะวัดผิด ลองอีกทีแล้วครับ มันไม่ขยับเลย ขอบคุณครับ

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Selfishness

ตอนแรกน่าจะวัดผิด ลองอีกทีแล้วครับ มันไม่ขยับเลย ขอบคุณครับ

ลองปรับมิเตอร์มาที่ โอห์ม แล้วจับเข็มวัดข้างละมือครับ โดยที่ปลายโลหะโดนนิ้วเราทั้งสองอันครับ
ถ้าเข็มขยับแสดงว่ามิเตอร์ไม่เสียครับ
ถ้าเข็มนิ่งแสดงว่า ฟิวส์มิเตอร์ขาดครับผม

ให้ลองไล่สาย โดยเอาเข็มวัดด้านใดก็ได้ จิ้มไปที่ตัวโลหะของโคมไฟท้ายครับ
และอีกด้าน ให้ไปจิ้มที่ด้านหลังของสวิทซ์แฮนด์ ที่เป็นทองเหลืองครับ(ปรับมิเตอร์ที่โอห์มครับ)

วิธีนี้ เราจะทราบว่าสายไฟขาดหรือไม่ครับผม
ปล. เราจะทราบได้อย่างไรว่า สายไฟไหนตรงสวิทซ์แฮนด์ ที่เป็นสายไฟท้าย
ตอบ ให้เราดูสีของสายไฟ ที่เข้าโคมไฟท้ายครับผม ส่วนใหญ่จะสีเดียวกันครับผม

สวัสดีครับ สปริ้นคาร์บูเดิม ไฟดี
วิ่งปิดฝาครอบปิดไม่ติดมือเลยครับ พอถอดฝาครอบออกวิ่งดีปิดมือ
สาเหตุเกิดจากอะไรครับ ขอบคุณครับ