black or yellow?
เพื่อนๆหลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับ carbon-fiber, carbon-kevlar เคยสงสัยบ้างไหมครับว่าจริงๆแล้วมันคืออะไร สร้างมาจากอะไรแตกต่างกันอย่างไร อันไหนดีกว่ากัน คุณสมบัติเหมือนกันไหมบทความนี้อาจจะน่าเบื่อนิดนึง แต่เอาเป็นว่าลองทนอ่านกันหน่อยก็แล้วกันนะครับ
ในวงการ motorsport ปัจจุบันนี้เพื่อนๆหลายๆคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ทำมาจาก carbon-fiber บ้าง kevlar บ้าง จริงๆแล้วเนี่ยมันมีที่มาอย่างนี้ครับ หากยังไม่รู้ว่าจริงๆแล้วมันคืออะไรก็ไม่ต้องอายนะครับเพราะว่าถ้าเพื่อนยังอายที่จะรู้ต่อไปละก็เพื่อนๆอาจ จะถูกหลอกหรือเข้าใจผิดว่าชิ้นส่วนที่เพื่อนๆใช้อยู่มีคุณภาพเท่าที่ F1 ใช้ ทั้งๆ ที่จริงๆแล้วมันไม่ได้มีมาตรฐานในการผลิตเลยก็ได้
Carbon-fiber นั้นจริงๆ แล้วนั้นมันมีพื้นฐานมาจากพลาสติกธรรมดา ที่เราๆเห็นกันทุกวันนี้แหละครับ เพราะมันคือ Polyacrylonitrile (โพลิอะคลิโลไนไทรล์)ผมขอเรียกมันย่อๆ ว่า PAN ก็แล้วกันนะครับ เจ้า PAN ก็คือต้นกำเนิดที่ใช้ในการผลิตผ้า เรยอง นั้นแหละครับโดยเราจะเอาโมเลกุลที่ไม่มีความแข็งแรงเหล่านี้มาเปลี่ยนแปลงการเรียงลำดับโครงสร้างทางเคมีกันใหม่ ซึ่งการผลิตเส้นใย carbon จาก PAN นั้นมี 4 ขั้นตอนดังนี้ครับ
1. Oxidation คือขั้นตอนที่เอาเส้นใย PAN มาเผาที่ความร้อนสูงถึง 3,000 องศาเซลเซียส จนเส้นใย PAN เปลี่ยนจากสีขาวกลายเป็นสีดำ โดยจะต้องเผาให้ทั่วจนถึงส่วนที่ลึกที่สุดของเส้นใย PAN เลยนะครับ เมื่อจบขั้นตอนนี้จะได้ผ้า ‘Nomex’ หรือเสื้อกันไฟได้ครับแต่หากเราต้องการ carbon-fiber มันยังไม่พอครับ
2. Carbonisation คือการแยกธาตุทุกชนิดที่ไม่ใช้ carbon ออกจากเส้นใย PAN โดยวิธีแยกก็คือนำไปเผาที่ความร้อน 10,000-30,000 องศาเซลเซียสในบรรยากาศไนโตรเจนด้วยความดันสูงมาก ไม่ใช่ที่บรรยากาศโลก หรือ สูญญากาศ นะครับโดยยิ่งเผาที่ความร้อนสูงเท่าไร carbon-fiber ก็จะยิ่งมีความแข็งแรงมากเท่านั้นครับ
3. Surface Treatment คือการเคลือบผิวหน้าของเส้นใยให้สามารถรวมตัวกันเป็นเส้นใยที่ใหญ่ขึ้นเพื่อนำไปใช ้งานครับโดยการเคลือบจะใช้สารประกอบโพลิเมอร์ ซึ่งสามารถยึดเกาะโครงสร้างเล็กๆให้สามารถคงรูปอยู่ได้ และทำให้เส้นใยมีความแข็งแรงครับหากเคลือบไม่ดีเวลานำเส้นใยไปใช้อาจจะมีโพรงอากาศเกิ ดขึ้น และทำให้มันไม่แข็งแรงพูดง่ายๆ ก็คือเปราะครับ
4. Surface Coating คือการเอาอีพ็อกซี่มาเคลือบผิวเพื่อให้สามารถนำไปใช้ได้โดยไม่ มีการหลุดรุ่ย เพราะ carbon-fiber ที่เรานำมาใช้ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปผืนผ้าที่จะต้องนำมาตัดและขึ้นรูปกับแม่พิมพ์แล้วทำการหล่อ เพื่อนำไปใชงานอีกทีโดยหากเราเคลือบไม่ดี เส้นใย carbon จะหักเป็นเศษเล็กๆ ที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นและหากคุณสูดมันเข้าไปจะเป็นต้นเหตุของมะเร็งขั้วปอด ได้ครับ
เมื่อจบสี่ขั้นตอนดังกล่าวแล้วเพื่อนๆ ก็จะได้ ผืนผ้า carbon-fiber ซึ่งมีความทนทานกว่าเหล็กถึง 5 เท่าเมื่อเทียบกับมวลที่เท่ากันนะครับนอกจากนี้ยังสามารถทนแรงบิด แรงเค้นได้มาก รวมถึงยังเบาและมีความหนาแน่นน้อยกว่าโดยหากดูที่ความสามารถในการทนแรงดึงแล้วละก็ carbon-fiber สามารถทนแรงดึงได้มากกว่า Titanium ด้วยซ้ำ
หากถามว่าทำไมมันถึงแข็งแรงก็เนื่องมาจากการจัดเรียงตัวของโมเลกุลธาตุ carbon นั้นแหละครับเหมือนที่ถ่านก็คือ carbon ชนิดหนึ่งแต่มีความคงทนไม่เท่ากับ เพชร ที่เป็นธาตุ carbon เหมือนกันก็เพราะการจัดเรียงตัวของโมเลกุลธาตุ carbon ที่อุณหภูมิแตกต่างกันนั้นเองเมื่อได้ผืนผ้า carbon-fiber มาแล้วก็ถึงขั้นตอนการนำไปใช้ซึ่งขั้นตอนก็คล้ายๆกับการนำเส้นใย fiber-glass มาใช้นั้นแหละครับแต่ว่าเรซินที่ใช้กับ carbon-fiber จะมีความแตกต่างกับน้ำยาที่ใช้ในงานไฟเบอร์ทั่วไป เพราะทางโรงงานผู้ผลิตผืนผ้า carbon-fiber จะขายผืนผ้า caron-fiber พร้อมกับน้ำยาเรซิน และตัวทำ hardener (น้ำยาทำให้แข็ง) ซึ่งเป็นคนละชนิดกับที่ใช้ในงานไฟเบอร์กลาสทั่วไป
นอกจากน้ำยาที่แตกต่างกันแล้วการจะนำ carbon-fiber ไปขึ้นรูปจะต้องอบหรือให้ความร้อนตาม spec หรือเกรดและจำนวนชั้นของ carbon-fiber ตามที่โรงงานผู้ผลิตกำหนดนะครับมิฉะนั้นจะไม่ได้ความแข็งแรงเทียบเท่ากับมาตรฐานที่ก ำหนด
โดยในความเป็นจริงแล้วผู้ผลิต bodypart ทั่วโลก (โดยเฉพาะในประเทศไทย)มักไม่ได้ใช้น้ำยาพิเศษซึ่งมีราคาโคตรแพง นอกจากนี้ยังไม่ได้อบชิ้นงานตาม spec ที่โรงงานผู้ผลิตกำหนด ทำให้ชิ้นส่วนbodypart นั้นไม่ได้ความแข็งแรงตามมาตรฐานดังนั้นเพื่อนๆต้องเพื่อใจไว้นิดนึงนะครับว่าชิ้นงานที่ได้จะไม่ได้ มีความแข็งแรงเหมือนกับที่ใช้ใน Formula1 หรือรถ supercars ราคาหลายสิบล้าน
ถึงส่วนสุดท้ายที่เพื่อนๆคงอยากรู้ว่า carbon-fiber กับ carbon-kevlar มันแตกต่างกันอย่างไร ตรงไหน อย่างไรทนกว่ากันหรือว่าต่างกันแค่ลาย
คำตอบก็คือ
• carbon-fiber เป็นสีเทา-ดำ
• carbon-kevlar เป็นสีเหลือง-ดำ
ทางด้านความแข็งแรงนั้น carbon-fiber แข็งแรงกว่าแต่ให้ตัวได้น้อยกว่า ส่วน carbon-kevlar จะเหนียวกว่าให้ตัวได้มากกว่าและดูดซับแรงกระแทกได้ดีกว่าโดยการที่จะใช้ทำส่วนประกอบรถที่ดีนั้น จะใช้ทั้ง carbon-fiber และ carbon-kevlar วางซ้อนกันหลายๆ ชั้นครับ
<<<<<<<<<<<<<<<<<< >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
รับหุ้ม carbon-fiber, carbon-kevlar
ผ้าที่ใช้เป็นผ้า carbon-fiber แท้เท่านั้น ไม่ใช่ฟิมล์
- หัว C หุ้ม 999.-
- พลาสติกใต้หัวหุ้ม 799.-
- ถังน้ำมันถังแยกหุ้ม 1,299.-
- ท่อC หุ้ม 1,399.-
- บังโคลนหน้าC หุ้ม 1,499.-
- บังลมC ทั้งบานหน้า-หลังหุ้ม 3,200.-
- กระเป๋า 2 ข้างหุ้ม 999.-
- อกCหุ้ม 499.-
งานชิ้นอื่นสอบถามได้คับ 086-838 9894 วุฒิ em97
![]()
เตือน : กระทู้เก่า
กระทู้นี้เก่ากว่า 360 วัน ข้อมูลและสินค้าบางรายการ อาจจะไม่ตรงกับปัจจุบัน โปรดสอบถามก่อน
Bookmarks