เรื่องราวตระกูลk

**colazaa** · 06-10-2011, 17:05

Suzuki 125 S10 "ซูไก่"
http://image.free.in.th/z/it/ks100.jpg

ในปี ค.ศ. 1965 ทางบริษัท ซูซูกิ ได้เริ่ม สายการผลิตเครื่องยนต์ 2 จังหวะ 1 สูบ ขึ้นโดยใช้ชื่อรหัสว่า S10 เป็นรหัสแรกที่ทางบริษัท ซูซูกิ ผลิตออกมาจำหน่ายในบ้านเราโดยส่งไปยังตัวแทนจำหน่าย ทางภาคกลางตอนบนโดยเน้นตลาดกับกลุ่มคนเกษตรกรที่ใช้จ ักรยานยนต์เป็นพาหนะในการขนส่งผลผลิตทางเกษตรกรรม จนมีการนำรถจักรยานยนต์มาบรรทุก “ไก่” ให้กันตามท้องถนนกันอย่างแพร่หลาย จนได้ฉายาว่า “ซูไก่” มาจนทุกวันนี้
Suzuki 125 S10 มีอายุยาวนานมาถึง >= 41 ปี เริ่มแรกมาดูที่ไฟหน้ายังคงใช้ของเดิม เรือนไมล์ยังคงบอกความเร็วได้ชัดเจน ปะกับคันเร่งทั้งซ้ายและขวาเป็นของเดิม ปลอกแฮนด์ตีตรา Suzuki ให้เห็นเด่นชัด ถังน้ำมันตรงรุ่นที่มี่ยางแก้มถัง และเพลทโลโก้อยู่ครบทั้งสองฝั่ง หรือแม้กระทั่งเพลทลายเซ็นต์ตรงกระเป๋าข้างก็ยังอยู่ ในสภาพดี ด้านเครื่องยนต์นั้นเป็น 2 จังหวะ 1 สูบ ระบายความร้อนด้วยอากาศ (air cooling) ใช้ระบบโรตารี่ (Rotary) ในการจ่ายเชื้อเพลิงไปยังห้องจุดระเบิดที่มีแค่ 1 สูบ 2 พอร์ตไอเสีย (1:2) ระบบกันสะเทือนหน้าแบบโช้คน้ำมัน (Telescopic) ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นแบบสวิงอาร์มโช้คน้ำมันคู ่ ปริมาตรกระบอกสูบ 124 ซี.ซี. มีความเร็วสูงสุด 115 กม./ชม. ระบบเกียร์ 4 สปีด ขับเคลื่อนด้วยโซ่ คลัตซ์ เป็นแบบเปียกหลายแผ่นซ้อนกัน

จากนิตยสารไทยแลนด์คลาสสิค คลับ
ปีที่ ๓ ฉบับที่ ๑๓ ประจำเดือน สิงหาคม-กันยายน ๒๕๕๒

Suzuki K125 Mark 1
http://image.free.in.th/z/ir/k125_m10.jpg

หลังจากที่บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ได้ส่งเจ้า Suzuki S10 ออกสู่ตลาดบ้านเรา และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจึงได้ผลิตรถรุ่นใหม่ โดยใช้ชื่อรหัสว่า K125 ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1974 เป็นต้นมา โดยผลิตออกมาถึงสามรุ่นด้วยกัน K125 Mark 1, K125 Mark 2 และ K125 Mark 3 ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีความแตกต่างกันออกไป จะสังเกตุได้ชัดเจนก็ที่ถังน้ำมันของแต่ละรุ่นซึ่งจะ เป็นตัวบอกได้เลยว่ารุ่นไหน

Suzuki K125 Mark 1 คันนี้เป็นเครื่องยนต์ 2 จังหวะ ที่ระบายความร้อนด้วยอากาศ ใช้ระบบโรตารี่ในการจ่ายเชื้อเพลิงไปยังห้องจุดระเบิ ดที่มีแค่ 1 สูบ แต่มี 2 พอร์ตไอเสีย (1:2) เพื่อช่วยระบายไอเสีย ซึ่งมีพิกัดเครื่องยนต์เพียง 123 cc. ความเร็วสูงสุดที่ 110 กม./ชม. แรงม้าสูงสุดที่ 10.3 แรงม้าที่ 7000 รอบ/นาที ที่ส่งแรงม้าทั้งหมดผ่านชุดคลัตช์แบบเปียกหลายแผ่นไป สู่ระบบเกียร์วน 4 สปีด ก่อนที่จะส่งแรงโดยโซ่ไปยังล้อหลัง มีระบบกันสะเทือนแบบสวิงอาร์มโช้คน้ำมันคู่ ระบบกันสะเทือนแบบโช้คน้ำมัน (Telescopic) ที่ใช้กันอยู่ในรถจักรยานยนต์รุ่นปัจจุบัน

หลังจากที่ Suzuki ได้นำ Suzuki Mark I ออกสู่ท้องตลาดรถของไทย ก็ได้ผลิต Suzuki Mark II ออกมาติดๆ โดยมีการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์บางส่วน (Miner Cheng) แต่เครื่องยนต์ยังคงเป็นบอล์คเดียวกันกับ Mark I ส่วนที่เปลี่ยนแปลงไปที่เห็นได้ชัดก็คงจะเป็นถังน้ำม ันนอกนั้นจะมีความเหมือนกันเกือบทั้งหมด

Suzuki K125 Mark II คันนี้ยังคงใช้เครื่องยนต์ 2 จังหวะ ที่ระบายความร้อนด้วยอากาศ ใช้ระบบโรตารี่ในการจ่ายเชื้อเพลิงไปยังห้องจุดระเบิ ดที่มีแค่ 1 สูบ แต่มี 2 พอร์ทไอเสีย (1:2) เพื่อช่วยระบายไอเสีย ซึ่งมีพิกัดเครื่องยนต์เพียง 123 cc. ความเร็วสูงสุดที่ 110 กม./ชม. แรงม้าสูงสุดที่ 10.3 แรงม้าที่ 7000 รอบ/นาที ที่ส่งแรงม้าทั้งหมดผ่านชุดคลัตช์แบบเปียกหลายแผ่นไป สู่ระบบเกียร์วน 4 สปีด ก่อนที่จะส่งแรงโดยโซ่ไปยังล้อหลัง มีระบบกันสะเทือนแบบสวิงอาร์มโช้คน้ำมันคู่ ระบบกันสะเทือนหน้าแบบโช้คน้ำมัน (Telescopic) ที่ใช้กันอยู่ในรถจักรยานยนต์รุ่นปัจจุบัน เครื่องยนต์ของ Mark II นี้ยังคงเป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกับ Mark I

จากนิตยสารไทยแลนด์คลาสสิค คลับ
ปีที่ ๓ ฉบับที่ ๑๓ ประจำเดือน สิงหาคม-กันยายน ๒๕๕๒

จากนิตยสารไทยแลนคลาสสิค คลับ ปีที่ 3 ฉบับที่ 13 ประจำเดือน สิงหาคม-กันยายน 2552