อ่านข้อความ MR.TUM มาตั้งนาน อธิบายเรื่องราวต่างๆได้ชัดเจน ใช้คำอ่านแล้วทำให้คนอ่านเห็นภาพ สมแล้วครับที่เป็นวิทยากร และ ชอบเขียนหนังสือเป็นงานอดิเรก :)
Ikea เดินเพลินดีจัง ผมว่า MR.TUM น่าจะชอบน่ะครับ
ที่รู้จักเพราะเมื่อประมานปีที่แล้วมีรุ่นพี่ท่านนึง ซื้อหนังสือEnneagramมาให้ผมอ่าน
สารภาพครับว่าอ่านไปได้นิดเดียว เเอบขี้เกียจ
เเต่เท่าที่ผมฟังมา เป็นเรื่องที่หน้าสนใจเลยทีเดียวครับ
เหมือนถ้าจำไม่ผิด จะเอาไว้ใช้วิเคราะห์คน(ผิดถูกคุณตั้มแก้ให้ด้วยนะคร ับ)
หรือคุณตั้มลองเเนะนำเพื่อนๆในกระทู้เราก็ได้ครับ คิดว่าน่าจะมีประโยชน์สำหรับหลายคน
เอ็นเนียแกรมเป็นเรื่องที่อธิบายตัวตน โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว
ดังนั้นการอ่านหนังสือเรื่องนี้ด้วยตนเอง มีน้อยคนมากที่จะเข้าใจ
พี่วาจาสิทธิ์ ลอเสรีวานิช ซึ่งเป็นรุ่นพี่ผมและเป็นอาจารย์ของผมด้วย
เค้าจะไม่เน้นให้ใช้เรื่องนี้ในการวิเคราะห์คนอื่น แต่ให้ใช้วิเคราะห์ตัวเองเป็นอันดับแรก
จากที่สอนมาหลายรุ่น พบว่าผู้เข้าสัมมนานำเอ็นเนียแกรมไปตัดสินลูกน้อง/ตัดสินคนอื่น
ซึ่งนั่นไม่ใช่เจตนาในการเผยแพร่เรื่องนี้ คนทุกสไตล์ก็มีข้อดี/ ข้อด้อย แตกต่างกันไป
คนทุกสไตล์มีจุดแข็งในแบบของตนเอง แต่การใช้จุดแข็งมากเกินไป ก็กลายเป็นจุดอ่อนทันที
เอ็นเนียแกรม สามารถประยุกต์ใช้ได้ในหลายๆ เรื่อง ทั้งการบริหารตนเอง, คนอื่น, เลี้ยงลูก
หรือแม้กระทั่งการหาคู่ครอง พี่วาจาสิทธิ์แปลหนังสือมาแล้วหลายเล่ม ซึ่งเมื่อก่อนต้องหาอ่านของเมืองนอก
ปัจจุบันองค์กรใหญ่ๆ ก็ใช้เอ็นเนียแกรมในการพัฒนาบุคลากร เพื่อผลักดันองค์กรให้เติบโตขึ้นไป
ตอนเริ่มต้นทำงาน ความรู้ทางด้านเทคนิคเป็นเรื่องจำเป็น พอเราปรับตำแหน่งขึ้นไป
สิ่งจำเป็นนั้นไม่ใช่ความรู้ทางด้านเทคนิคแล้วครับ แต่กลายเป็นความรู้ทางด้านการบริหารบุคคล
จากผลสรุปอย่างไม่เป็นทางการ ลูกน้องที่ลาออกไป ส่วนใหญ่สาเหตุมาจากหัวหน้างานแทบทั้งสิ้น
ที่อเมริกาใช้เอ็นเนียแกรมในการทำงานมานานกว่าเมืองไ ทยหลายปี
ส่วนประเทศไทยรู้จักและใช้เอ็นเนียแกรมมากกว่าประเทศ อื่นๆ ในแถบเอเชียครับ
ยาวเลย![]()
ผมกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะสั่งหัวเข็มขัดของ GS
มาใส่กับ Baby Grand ของผมดีหรือเปล่า
คิดราคาออกมา 2,100 บาท แพงเอาการ แต่งานเนี๊ยบมาก
ถ้าวัดจาก World Brand อย่าง Omega หัวเข็มขัดแบบนี้
ราคา 8-9 ร้อยเอง (เบิกศูนย์พารากอน) แต่หัวเข็มขัดของ GS
มีรายละเอียดที่เนี๊ยบกว่าอย่างเห็นได้ชัด (แกะลายและพ่นทราย)
ถ้าเป็นบัคเคิ่ลของ GS ราคาเคาะแล้ว 6,000 กว่าครับ ไม่ไหว![]()
คุณตั้ม ช่วยลงรูป baby g หน่อยสิครับ ของผมมีแต่ casio baby G shock![]()
เคยคิดอยากจะได้ Grand seiko ตัวเก่าๆ แต่ราคาไปไกลเชียว และคิดถึงตอนเสีย น่าจะหาอะไหล่ กับ คนซ่อมให้ยาก เลยได้แต่ดู KS ของตัวเองไปพลางๆก่อน
ตอนนี้ กำลังบ้าอยู่กับพวก world time ตัวเก่าๆ กับพวก ไซโก้ หน้าตัวเขียน
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย debsirin : 02-12-2011 เมื่อ 13:32
ผมเคยลงไปแล้วนี่ครับ อิอิ
ที่จริงผมตั้งให้มันเป็น Baby Grand เองแหละ
ไม่รู้มีใครเรียกแบบผมหรือเปล่า (เข้าข้างตัวเอง)
เอามาให้ดูอีกที ถ่ายคู่กับคุณปู่ IWC
ผู้จัดการฝ่ายของ SCG ที่ผมกับอาจารย์มาสอน
เค้าเห็น Seiko เรือนนี้ของผม เค้าสะกิดเลยครับ ว่าซื้อที่ไหน
ขนาดตัวเค้าใส่ IWC Chronograph นะครับเนี่ย
เลยนั่งคุยเรื่องนาฬิกากันพักใหญ่, สนุกดีครับ เจอคอเดียวกัน![]()
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Mr.Tum : 02-12-2011 เมื่อ 15:13
ผมเป็นคนนึง ที่เข้าใจไม่ได้และไม่อยากทำความเข้าใจกับ ราคาและการดีไซน์ของ GS ครับ /// แต่เรือนที่คุณตั้มเรียกว่า baby G ผมว่าเอาคนไม่รู้เรื่องนาฬิกาหรือรู้ แต่ไม่เคยเล่น SEIKO เลย เอาสองเรือนมาเทียบแล้วถามว่าเรือนไหนสวยกว่า หรูกว่า ผมว่าร้อยทั้งร้อยครับ /// ตัว baby G ได้เปรียบหลายอย่าง คำว่า automatic ใช้ฟ้อนท์สวยดูมีราคา เข็มหน้าปัดก็ออกแบบเีรียบง่ายคล้ายกัน ทีเด็ดอยู่ที่ บอกวันที่ได้ แถมราคายังพอกัดฟันซื้อได้ครับ ต้องใช้คำว่ากัดฟัน เพราะ ราคาก็ใช่ว่าถูกน่ะครับ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย CrossTheTime : 02-12-2011 เมื่อ 18:20
เรื่อง GS ผมมองแบบนี้นะครับ
ถ้าได้เห็น GS ในแต่ละรุ่น ผมว่าวัสดุและงานผลิตเนี๊ยบมาก
เนี๊ยบจริงๆ ครับ เรียกว่าเป็นงานแอนทีคได้เลย เครื่องสวยและเทคโนโลยีเจ๋งมาก
เข็มวินาทีเดินนิ่ม (เพราะความถี่สูง) บางคนเรียกว่าเข็มสะกดวิญญาณ
กับราคาที่หลักแสนบาท ผมว่าก็คุ้มค่า เพียงแต่ถ้าคนไม่รักจริงก็คิดนานครับ
กลุ่มลูกค้าของเค้าส่วนใหญ่อายุ 30 Up และเป็นกลุ่มที่มีนาฬิกาสวิสดีๆ เยอะแล้ว
จึงหลีกหนีความจำเจมาเป็นตัว Grand Seiko
ทำไมรถ Lexus ถึงไม่ใช้ชื่อยี่ห้อ Toyota อันนี้คงจะพอเห็นภาพได้นะครับ
ว่าชื่อแบรนด์นั้นมีความสำคัญมาก ในแง่ผู้ซื้อที่จ่ายเงินในราคาหลักหลายล้าน
แต่ได้ป้ายยี่ห้อเดียวกับรถหลักแสน แบบนี้อาจจะทำให้ผู้ซื้อไม่มีความภาคภูมิใจในแบรนด์
ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า Toyota ทำแบรนด์ Lexus ได้ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด
กลับมาที่ Seiko ไม่ว่าคุณจะจ่ายเงินหลักแสน หรือหลักร้อย คุณก็จะได้ป้ายยี่ห้อเดียวกัน
ในแง่ความภาคภูมิใจในแบรนด์มันกลับไปอยู่ที่ตัวผู้ผล ิต แต่ไม่ได้มาอยู่ที่ผู้สวมใส่
คนไทยยังฝังใจว่า Seiko เป็นนาฬิการาคาไม่แพงและคุณภาพสมราคา
การปรับแบรนด์ของ Seiko ในปัจจุบัน จึงทำให้แฟนๆ ในเมืองไทย ตั้งตัวแทบไม่ทัน
เพราะราคาแพงมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนหลายเท่าตัว
ในแง่ผู้ผลิต เขาก็จงรักภักดีกับแบรนด์ของตัวเอง และออกนาฬิกามาหลายแบบ หลายราคา
เพราะเขาเชื่อว่าแบรนด์ของเขาขายได้ และมีให้เลือกทุกระดับราคา หลักร้อยไปจนถึงหลักหลายๆ แสน
สำหรับการออกแบบ ว่ากันว่าญี่ปุ่นไม่ใช่ประเทศที่ออกแบบผลิตภัณฑ์ได้เ ก่งเหมือนประเทศทางแถบยุโรป
เคยมีคนวิเคราะห์เอาไว้ว่า สภาวะภูมิประเทศก็มีผลต่อไอเดียของคนประเทศนั้นๆ ด้วย
ซึ่งก็ไม่มีบทสรุปอะไรที่เป็นลายลักษณ์อักษรนะครับ สำหรับข้อสันนิษฐานนี้
ในขณะที่หลายคนบอกว่าราคาระดับนี้ไปซื้อ Benz ซื้อ BMW ดีกว่า แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่เลือกซื้อ Lexus
ซึ่งกลุ่มลูกค้าก็นานาจิตตังแหละครับ ผมว่ารถกับนาฬิกาก็คล้ายๆ กัน เพียงแต่ถ้ารถเสียก็จะมีผลกระทบ
ต่อชีวิตประจำวันของเรามาก โดยเฉพาะหากขับแล้วไปเสียกลางทางหรือต้องรออะไหล่เป็ นเดือนๆ
ส่วนนาฬิกาหากเสียเราก็ใส่เรือนอื่น (เพราะราคานาฬิกาถูกกว่ารถ ทำให้มีหลายเรือนได้ง่ายกว่า)
หรือดูเวลาจากโทรศํพท์มือถือเอาก็ได้ ส่วน GS นั้น เรื่องศูนย์บริการในบ้านเรายังไม่มีรองรับ ต้องส่งญี่ปุ่นสถานเดียว
ราคาขายต่อก็หายไปเกือบครึ่ง ดังนั้นถ้าไม่รักจริง ไม่ชอบจริง ก็ไปเล่นนาฬิกาสวิสอย่างโรเล็กซ์จะคุ้มค่ากว่า
ทั้งในแง่ของราคาขายต่อและอัตราการสึกหรอ (โรเล็กซ์สึกหรอน้อยกว่านาฬิกายี่ห้ออื่นๆ เมื่อเทียบกับการใส่ในระยะเวลาเท่าๆ กัน)
ยาวอีกแล้ว![]()
Bookmarks