ว่าด้วยจานปั่นรถโรงงานราเล่ห์ (รัดจ์ ฮัมเบอร์ ไทรอัมท์ บีเอสเอฯลฯ)

**nottingham** · 15-08-2012, 08:51

ผมว่าเราตัดเรื่อง spare part ออกไปก่อน แล้วค่อยๆแกะข้อมูลออกมาเรื่อยๆดีกว่าครับ
- ในส่วนของรูปแบบจานพวงมาลัย มันมีมายาวนานควบคู่กับการออกแบบส่วนประกอบอื่นๆของร ถแน่นอนครับและมีใช้ทุกโรงงาน ทุกยี่ห้อ เรียกไืด้ว่าเป็น common pattern ส่วนวิวัฒนาการทางเทคนิคคงประมาณที่เรียนไปแล้วหยาบๆ
- รูปต่างๆที่ปรากฏตาม catalogue อันนี้ผมไม่มีความรู้ที่ชัดเจน และไม่ค่อยสนใจเพราะมันไม่ตรงกับการนำเข้าชิ้นส่วนใน ประเทศไทยทุกอย่างตามนั้น ประมาณฝรั่งแบบ ไทยอีกแบบ และในแง่การสะสมโดยส่วนตัวผมมองว่ามันไม่สวย ขาดสุนทรียภาพและ " เกร่อ "�
- มาพิจารณาในเรื่องการนำเข้าประเทศไทยในเชิงพานิชย์ แน่นอนว่าไม่มีการนำรถประกอบเสร็จทั้งคันนั่งเรือมาแ น่ๆ เฉพาะตัวถังทั้งหมด 10-11 คัน ( อันนี้ไม่แน่ใจ เกือบได้เห็นเป็นบุญตาที่แม่สอด แต่พรรคพวกรีบแบ่งเค้กกันเสียก่อน!) �อัดกันมาแน่นในลังไม้สน ( อันเป็นเหตุผลว่าทำไมต้องดัดตัวถังก่อนประกอบ ทั้งที่เป็นของใหม่)�
- และรวมถึงส่วนประกอบต่างๆที่จัดเข้าชุดมาพร้อมชุดสี (บังโคลน,หุ้มโซ่ ) ไม่ว่าจะเป็นวงล้อ,ชุดไฟ,อาน ฯลฯ ซึ่งในระบบขับเคลื่อนโดยเฉพาะจานปั่น จะถูกออกแบบให้แสดงสัญลักษณ์ของรถแต่ละยี่ห้ออย่างชั ดเจน
- แน่นอนว่าตัวจริงมันก็ต้องมาพร้อมตัวสำรอง ชิ้นส่วนอะไหล่ทดแทนมากมายที่อยู่ในสต๊อกถูกทิ้งไว้เ ป็นภูเขาเลากา เพราะตัวจริงมันไม่พังซะที มันถึงเหลือมาถึงพวกเรานี่แหละครับ!
ส่วนประเด็นที่ผมพูดถึงคงเป็นส่วนที่ปรากฏในเชิงพานิ ชย์ในบ้านเรามากกว่า ในเรื่องของ spare part ถ้าจะเอาให้กระจ่าง คงต้องไปขอข้อมูลการนำเข้าย้อนหลังจาก เซ่ง ง่วน ฮง หรือ เทพนครพานิชย์?�

**nottingham** · 15-08-2012, 10:11

เรื่องรสนิยมเป็นเรื่องปัจเจก ทางใครทางมันครับเรื่องความงาม( ของผมต้องขาว และบางเท่านั้น!)
ว่าต่อถึงลังในตำนานที่ผมพูดถึง ในนั้นทั้งหมดเป็น Robinhood 26" หญิง ผมเลยกดมายกชุด 2 คัน ทั้งหมดเป็นงานช่วงท้ายของRI �ซึ่งแน่นอนว่าจานปั่นเป็นพวงมาลัยตอกตาแป๊ะเล็ก ไม่ใช่ R I N ที่ใช้กับ Robinhood และ Gazelle ผมเลยได้รับคำอธิบายว่าโรงงานได้ลดสเป๊ค ของแถมที่ออกจากเซ่ง ง่วน ฮง ชุดไฟจากอังกฤษเหลือแค่ Sunyo ส่วนอานก็ไม่ใช่ Terry อีกแล้ว ส่วนที่เหลือทั้งหมดเป็น SA ไม่ใช่ RI ผมเลยเก็บทั้งหมดไว้ขายทำทุนหาคันใหม่ที่ปีลึกกว่านี ้ และเป็นทัศนคติที่ว่า RI ยิ่งใหม่ยิ่งแย่ลง
ดังนั้นทัศนะของผมจึงเป็นมุมแคบของคนเล่นจักรยานแบบแ กะกล่อง ทำให้ไม่สามารถไปถึงปีลึกที่มีความหลากหลายพิสดารเพร าะไม่ชอบอะไรเขรอะๆ เลยเล่นแต่รถตลาดไร้ตำหนิหาง่ายขายคล่อง
ในส่วนเรื่องของจานพวงมาลัย spare part ก็คงเป็นปรากฏการณ์ในเชิงพานิชย์แคบๆในประเทศไทย นำมาใช้เป็นบรรทัดฐานชี้วัดอะไรกว้างๆไม่ได้ โปรดใช้วิจารณญานในการรับฟังครับ

**X TAKEN** · 15-08-2012, 10:27

ติดตามอ่านอยู่ครับ ต่อเลย ครับ

**หัวโป่** · 15-08-2012, 11:40

การคุยเรื่องอะไหล่รถ หรือลักษณะรถ ควรระบุช่วงปีที่ผลิตรถด้วย ถึงจะจูนเนื้อเรื่องเข้าหากันได้ เพราะรถแต่ละปีก็มี"อัตลักษณ์"ของมัน แม้จะเป็นยี่ห้อเดียวกันก็ตาม ดังที่ได้กล่าวว่า เช่น Partตีหัวนก, ตัวR, RI (Raleigh Industries), ท่านเซอร์ฯเล็ก-ใหญ่

1921

**ม.หมูสินทวี** · 15-08-2012, 11:55

ดีเลยคับพี่ๆ อ่านแล้วได้ความรู้ทั้งนั้นเลยคับ

**wasant** · 15-08-2012, 12:03

ชอบอ่านเรื่องเก่าๆที่คนเล่นรถรุ่นเก่าๆอย่างคุณน็อต ติงแฮมเล่ามาครับ ผมสนใจรถตั้งแต่2541 แต่ก็ถือว่ายุคหลังๆแล้ว เก็บรถแต่ไม่ได้ศึกษา รู้จากการที่ได้ฟังคนรุ่นเก่าๆเค้านั่งคุยกัน สนุกดี โดยเฉพาะเรื่องรถในเมืองไทย อยากให้เล่าเรื่องร้านเก่า การหารถสมัยก่อนว่าเป็นอย่างไร ฯลฯ อาจจะตั้งกระทู้ขึ้นมาอีกสักกระทู้ก็ดีครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

**255289** · 15-08-2012, 12:48

ติดตามด้วยคนครับ ว่ากันด้วยเรื่อง จานโรงงาน "ราเล่ย์"
Name: 1900.jpg
Views: 850
Size: 82.7 KB

**T13** · 15-08-2012, 12:54

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nottingham

ยินดีเช่นกันครับ และนี่คงไม่เป็นกระทู้ดราม่าแต่เป็นการแลกเปลี่ยนเชิ งวิชาการของสิ่งที่เรารัก
ซึ่งแน่นอนว่าพวกเราๆที่เล่นจักรยานกันอยู่นี้ไม่มีใ ครอยู่ทันยุคอันรุ่งเรืองของมันได้แน่นอน
และต่างก็รับรู้ข้อมูลต่างแหล่งที่มา ต่างทัศนะคติของสิ่งที่เป็นอดีต
ในความต่างมันจะไม่เป็นปัญหา ถ้าเรารู้จักการเปิดใจกว้าง เมื่อสักสิบกว่าปีมาแล้วถ้ายังมีคนพอจำได้สมัยยังมีเ วปใหม่ ผมก็ใช้ชื่อนี้แหละเข้ามาตอบข้อมูลเกี่ยวกับจักรยานอ ยู่บ่อยๆพักหลังๆคนที่เข้ามาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บางท่านก็เป็นน้ำเต็มแก้ว บางท่านก็เข้ามาต้องการดิสเครดิตก็ยังมี ก็เลยเริ่มเบื่อๆไป
หวังว่าเจ้าของกระทู้คงเข้าใจเจตนาของผมนะครับ

ไม่มีปัญหาครับ ยินดีใช้กระทู้นี้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนความคิ ดเห็นกัน กับเพื่อนสมาชิกทุกๆท่านครับ

**bum686@gmail.com** · 15-08-2012, 13:08

ขอแจมด้วยคน.. ผมคิดว่าการออกแบบจานปั่นในยุคแรก..ออกแบบมาเพื่อควา มแข็งแรง..ไม่เน้นรูปลักษณ์ เป็นเหมือนพวงมาลัยรถ ที่เราเรียกกันซึ่งพวงมาลัยรถเหมือนจานมากกว่า (พวงมาลัยมีมาที่หลัง) ซึ่งยุคก่อนๆคิดกันไปหลายแบบ เช่นจานรูปไข่ไม่ต้องกลมก็ยังได้ หลังจากนั้นงานศิลป์เริ่มคืบคลานเข้ามาบวกกับความแข็ งแรง แล้วแต่รถถีแต่ละค่ายว่ากันไป ส่วนจานรถผู้หญิง 28 ฟันแค่สี่สิบซี่ เล็กมาจะใส่รายละเอียดงานศิลป์ลงไป ความแข็งแรงก็ไม่ดีแน่ ...และบางทีตอนระยะหลังก็มีจานพวงมาลัยเป็นอะหลั่ยเพ ื่อใช้ได้กับรถหลายชนิด โดยเฉพาะรถถีบญี่ปุ่นมีความสามารถเอาเอาเอกลักษณ์ของ รถถีบฝรั่งแต่ละค่ายมารวมกันอยู่ในคันเดียวกัน เช่นรถไปรษณ๊ย์ กลายเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง..ว่ากันไป

**nong&saab** · 15-08-2012, 14:07

ผมว่า แผ่นพับ spare part บ่งบอกแหล่งที่มาหรือองค์ประกอบของรถแต่ละรุ้นที่ถูก ต้อง แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อถึงผู้จำหน่ายหรือตัวแทน มันจะเปลียนแปลงอะไหล่ ในเรื่องราคา

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nottingham

ชอบๆครับ การถกเถียงด้วยเหตุผลและไม่ใช้อารมณ์มันทำให้องค์ควา มรู้ของเราได้ออกกำลังขยับตัวบ้างครับ ดีๆครับ ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้าย การเป็นคนกลางเก่ากลางใหม่ทำให้ข้อมูลจักรยานเมื่อเก ือบยี่สิบปีก่อนของผมมีแค่เพียงแคตตาล็อกแผ่นพับ และหนังสือคู่มือ ( maintenance book ) ที่ห้อยมากับตัวถัง ( แบบเดียวกับรูปด้านบนกระทู้ ) ผมหาแต่ตัวถังnos และจะยิ่งดีใจถ้ามีคู่มือเหล่านี้แขวนอยู่ ทำให้รู้สึกว่าการสะสมมันสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
นอกนั้นข้อมูลทั้งหมดมาจากช่างที่ผมอยากเรียกว่าศิลป ินจักรยานมากกว่า , นักสะสมรุ่นกรุแตกทั้งหลาย ( จากร้านคิดถึง สมุทรปราการ,ร้านป้านงค์ ลำพูน,ร้าน ช.ชุมพร นครสวรรค์ ,ร้านถิระพานิชย์ นครปฐม ฯลฯ ) ที่ทันเห็นความอลังการของnosบนเหลาเต๊งของแต่ละร้าน และที่สำคัญคือเซลของเซ่ง ง่วน ฮง หลายท่านที่ปลดระวางแต่ยังเก็บอะไรดีๆไว้เยอะ ( และไอ้เรื่อง spare part ก็มาจากเขาเหล่านี้แหละครับ )ทั้งหมดคือครูของผมโดยมีร้านเก่าๆทั่วประเทศเป็นห้อ งเรียน
ในยุคแห่งข้อมูลข่าวสาร สิ่งที่นักสะสมพึงระวังก็คือทุกวันนี้เรามีข้อมูลที่ เป็นเปลือกหรือกากมากเกินไป อย่ายึดติดกับสิ่งที่เห็น ไม่ว่าจะเป็นแผ่นกระดาษที่ซีร็อกต่อๆกันมาหรือหน้าจอ คอมพ์ อย่าเพิ่งรีบสรุปว่าความรู้ของเรานั้นถูกต้องและจริง แท้ ทั้งที่ข้อมูลนั้นทั้งแบนและแคบ
องค์ความรู้ควรถูกบูรณาการจากรอบด้านครับ โดยเฉพาะการสะสมของโบราณซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกอุปโลกมาก ที่สุด เพราะความพร่าเลือนของแหล่งที่มานั่นเอง

**Maxbike** · 15-08-2012, 14:12

ได้ความรู้เยอะมากจากระทู้นี้และชอบฟังเรื่องเก่าๆ ที่น้า nottingham เล่ามากอยากให้น้า not มาเล่าเรื่องเก่าๆอีกครับฟังดีมากเลยครับ ขอบคุณครับ

**paiboon** · 15-08-2012, 14:27

ข้อเท็จจริง ที่มีหลักฐาน โดยเฉพาะเอกสารที่ใช้เผยแพร่ของแต่ละบริษัทน่าเชื่อถ ือที่สุด
ส่วนประสบการณ์ก็ไม่ใช่ว่าผิด ขึ้นอยู่กับประเด็นที่หาข้อยุติ แต่ก็ดีครับ ที่แสดงความเห็นกันเยอะๆ
ในกรณีนี้ผมเห็นด้วยคุณt13

**YUT MCOT** · 15-08-2012, 16:57

เข้ามากระทู้นี้ ข้อมูลแน่นกันดีครับ^^

**nottingham** · 15-08-2012, 17:04

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ wasant

ชอบอ่านเรื่องเก่าๆที่คนเล่นรถรุ่นเก่าๆอย่างคุณน็อต ติงแฮมเล่ามาครับ ผมสนใจรถตั้งแต่2541 แต่ก็ถือว่ายุคหลังๆแล้ว เก็บรถแต่ไม่ได้ศึกษา รู้จากการที่ได้ฟังคนรุ่นเก่าๆเค้านั่งคุยกัน สนุกดี โดยเฉพาะเรื่องรถในเมืองไทย อยากให้เล่าเรื่องร้านเก่า การหารถสมัยก่อนว่าเป็นอย่างไร ฯลฯ อาจจะตั้งกระทู้ขึ้นมาอีกสักกระทู้ก็ดีครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ปี 41นี่วงการจักรยานกำลังเริ่มบูมเลยนะครับ และสื่อก็ให้ความสนใจมากจนปั่นกระแสขึ้นมาได้
แต่ผลกระทบที่ตามมาก็คือการเกิดกลไกการตลาด ที่ปั่นราคาจักรยานอย่างหยุดไม่อยู่
ยกตัวอย่างก่อนหน้านี้ผมซื้อไฟ Miller ใหม่แกะกล่องในราคาเพื่อนโขกสับที่ 500 บาท เผลอแวบเดียวยังไม่ทันเอาติดรถราคาทั่วไปขายกันที่ 1500 บาท
วกกลับมาที่เรื่องของจานปั่น กระแสการปั่นราคาทำให้จานnos หายไปอย่างรวดเร็ว ผมใช้เวลาขลุกอยู่กับร้านประกอบจักรยานทุกวัน เป็นเวลา 3 ปีมีลูกค้าเข้ามาไม่ต่ำกว่าวันละ 3 ราย คงนึกภาพออกนะครับว่าในหนึ่งปีจำนวนรถจะมหาศาลแค่ไหน แทบทุกคนอยากได้จานอังกฤษใหม่ๆ ฟันเต็มๆและที่สำคัญต้องแสดง logo ของยี่ห้อนั้นๆด้วย! วิกฤตการณ์ที่บรรดาเซียนรุ่นทลายกรุอมของไว้เก็งราคา �ส่งผลให้้จานที่มีลวดลายสวยงามของแต่ละยี่ห้อแทบจะห ายสาบสูญ เหลือแต่จานพวงมาลัยที่เป็นสินค้าอะไหล่เหลืออยู่บาน เบอะ
ในปี 42 ผมต้องซื้อจาน Rudge ในราคา 2200 บาท ขณะที่จานพวงมาลัยสภาพนางฟ้ากริ๊บๆ ราคาแค่ 6-700 บาท นั่นเป็นเหตุผลของการแห่ประกอบจานพวงมาลัยกับรถอังกฤ ษอย่างจำยอม เพราะยังไงก็เป็นอังกฤษแท้ๆเหมือนกัน แต่ท้ายสุดแล้วเจ้าของรถคนไหนสามารถหาจานที่แสดงlogo ของรถยี่ห้อนั้นได้ ก็รีบกลับมาใส่แทนที่จานพวงมาลัยทันที
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผมรู้สึกว่าจานพวงมาลัยมันเกร่อ ก็ด้วยเหตุนี้และยังผลไปยังความรู้สึกที่ว่า มันไม่มีค่าคู่ควรกับจักรยานราคาระดับ 2-3หมื่นอีกด้วย ซึ่งอันนี้มันเป็นความคิดเฉพาะกลุ่ม ( บางคนรังเกียจอะไรก็ตามที่ไม่ใช่อังกฤษเข้ามาปะปนในร ถก็มี)

**Maxbike** · 15-08-2012, 18:05

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nottingham

ปี 41นี่วงการจักรยานกำลังเริ่มบูมเลยนะครับ และสื่อก็ให้ความสนใจมากจนปั่นกระแสขึ้นมาได้
แต่ผลกระทบที่ตามมาก็คือการเกิดกลไกการตลาด ที่ปั่นราคาจักรยานอย่างหยุดไม่อยู่
ยกตัวอย่างก่อนหน้านี้ผมซื้อไฟ Miller ใหม่แกะกล่องในราคาเพื่อนโขกสับที่ 500 บาท เผลอแวบเดียวยังไม่ทันเอาติดรถราคาทั่วไปขายกันที่ 1500 บาท
วกกลับมาที่เรื่องของจานปั่น กระแสการปั่นราคาทำให้จานnos หายไปอย่างรวดเร็ว ผมใช้เวลาขลุกอยู่กับร้านประกอบจักรยานทุกวัน เป็นเวลา 3 ปีมีลูกค้าเข้ามาไม่ต่ำกว่าวันละ 3 ราย คงนึกภาพออกนะครับว่าในหนึ่งปีจำนวนรถจะมหาศาลแค่ไหน แทบทุกคนอยากได้จานอังกฤษใหม่ๆ ฟันเต็มๆและที่สำคัญต้องแสดง logo ของยี่ห้อนั้นๆด้วย! วิกฤตการณ์ที่บรรดาเซียนรุ่นทลายกรุอมของไว้เก็งราคา �ส่งผลให้้จานที่มีลวดลายสวยงามของแต่ละยี่ห้อแทบจะห ายสาบสูญ เหลือแต่จานพวงมาลัยที่เป็นสินค้าอะไหล่เหลืออยู่บาน เบอะ
ในปี 42 ผมต้องซื้อจาน Rudge ในราคา 2200 บาท ขณะที่จานพวงมาลัยสภาพนางฟ้ากริ๊บๆ ราคาแค่ 6-700 บาท นั่นเป็นเหตุผลของการแห่ประกอบจานพวงมาลัยกับรถอังกฤ ษอย่างจำยอม เพราะยังไงก็เป็นอังกฤษแท้ๆเหมือนกัน แต่ท้ายสุดแล้วเจ้าของรถคนไหนสามารถหาจานที่แสดงlogo ของรถยี่ห้อนั้นได้ ก็รีบกลับมาใส่แทนที่จานพวงมาลัยทันที
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผมรู้สึกว่าจานพวงมาลัยมันเกร่อ ก็ด้วยเหตุนี้และยังผลไปยังความรู้สึกที่ว่า มันไม่มีค่าคู่ควรกับจักรยานราคาระดับ 2-3หมื่นอีกด้วย ซึ่งอันนี้มันเป็นความคิดเฉพาะกลุ่ม ( บางคนรังเกียจอะไรก็ตามที่ไม่ใช่อังกฤษเข้ามาปะปนในร ถก็มี)

สุดยอดครับ น้า not เอามาเล่าอีกชอบอ่านจะได้รู้ว่าเขาปั่นราคากันแบบนี้ นี้เอง ... น้ำตาตกเลยาเจอแบบนี้ิ

ชื่อกระทู้: ว่าด้วยจานปั่นรถโรงงานราเล่ห์ (รัดจ์ ฮัมเบอร์ ไทรอัมท์ บีเอสเอฯลฯ)

คำสั่งเพิ่มเติม

..

Bookmarks

Bookmarks

กฎการส่งข้อความ