Up xs250sp
div>
ห่างหายไปนานจากกระทู้นี้ไปนาน ไปทำนู่นทำนี่ งานบ่าง หญิงบ้าง
รถเล็ก รถคลาสิค อะไรต่อมิอะไรหลายยอ่าง ก็นึกถึงโปรเจคเดิมที่ค้างคาไว้เป็นปี (หน้าที่6-7 ไม่แน่ใจ)
สำหรับน้องดำด้านของผม(YAMAHA XS250 SP)
ว่าแล้วก็หันกลับมาทำเมื่อเดือนที่แล้ว
ก่อนอื่น ต้องขออภัยสำหรับ คอเดิมๆ เพราะรถที่ทำขึ้นมาใหม่นี้อาจจะทำให้กลุ่มคนที่นิยมช มชอบในแนวทางการบิ้วให้เดิมๆ รู้สึกขัดใจขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย(ผมผิดไปแล้วคร๊าบ )
ว่ากันด้วยเรื่อง XS250 ตัวSP (สเปเชี่ยล) นั้นเป็นรุ่นสุดท้ายของตัว250cc. (1982-84โดยประมาณ) โดยความรู้สึกส่วนตัวนะ ผมค่อนข้างขัดใจในทรงและรูปร่างของที่ กล้ำกึ่ง
จะทันสมัยก็ไม่ทันสมัย จะคลาสสิคก็ไม่คลาสสิค(ย้ำอีกครั้ง ความคิดเห็นส่วนนะครับอาจจะไม่จริงก็ได้) ไม่มีเปลหน้า ก็ดูเปรี้ยวดีแต่ไม่ยักกะเปรี้ยวจี๊ดแบบรุ่นพี่มันอย ่าง xv750
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย arty_oh : 14-10-2010 เมื่อ 04:29
จริงๆ ผมไม่ได้พูดหลายๆขั้นตอน เพราะ ลืมถ่ายรูป
เพราะมันละเอียดยิบย่อย เอาเป็นว่าผมเล่นจุกใหญ่ๆหรือจุดที่น่าสนใจละกัน เด๋วผมจะเล่าสู่กันฟังเป็นข้อๆไป
หวังว่า ข้อความเล่านี้คงเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับน้อง ๆที่มองหาอะไรทำยามว่าง ดีกว่าไปเสเพล เดินทางผิดๆ
หรืออย่างน้อยที่สุดดดดดดดดดดด ก็คือ ทุกคนได้อ่านหนังสือมากขึ้นกว่าเดิม คือ 8 บรรทัดต่อปี
ดูอะไรกันก่อนดี
เอาเป็นเรื่องล้อละกัน
จริงๆเลยนะ เราต้องยอมรับว่า ในสายตาท่านหลายๆคน รวมผมด้วย1คน ที่มีความรู้สึกว่า แม๊คลายนี้มันไม่สวยเอาซะเลย ทำไมนะ
หรือาจจะเป็นเพราะว่ามันอยู่ไม่ถูกที่ ถูกทาง เพราะ เวลามันไปอยู่กับรุ่นอื่น มันดูสวย และ เข้ากันเป็นอย่างดี แล้วจะทำยังงัยดี
เปลี่ยนเป็น ซี่ลวดมั๊ย ก็ดีนะ แต่ ค่าวงล้อ ค่าซี่ลวด ค่า ดุม ค่าขึ้น และที่สำคัญ มันก็เข้าอีหรอบเดิมของการหาทางออก
ไม่ซิ มันต้องมีวิธีทำให้มันด้วย ได้ในแบบของเรา
ผมคิดว่า มันต้องมีอะไรที่สะดุดตา เพื่อช่วยดึงความเด่นของล้อขึ้นมา
ผมจึงใช้วิธี สร้างเทคเจอร์ให้มัน โดยการใช้ สีบอดีชู๊ต
เมื่อเราพ่นสีลองพื้นเสร็จ
ก็เอาเจ้าบอดี้ชูตนี่แหละมาพ่นทับ คุณสมบัติการยึดเกาะของมันจะมีลักษณะ เหนียว เกือบคล้ายกาว
และทนต่อ น้ำมัน และเศษหินที่กระเด็นใส่(เม็ดไม่ใหญ่จนเกินไปนะ) เขาจึงมักนิยมเอาไปพ่นรองพื้นใต้ท้องรถยนตร์
โดยใช้ปืนยิงบอดี้ชูตโดยเฉพาะ มันจะเป็นเม็ดๆ แต่ผมเลือกใช้เป็นแปรงทา เพราะต้องการ พื้นผิวที่ต่างออกไป เพื่อสร้างความต่างจากพื้นผิวเดิมๆ
งานนี้ล่อ ของนกแก้วด้วย กระเป๋าแบน ทันตาเห็นเหมือนเล่นกล
และจะสังเกตุเห็นว่า มันมีรูตรงครีบกลางล้อ
คือผมเจาะรูเพื่อร้อยน๊อตเบอร์8
คือ อยากทำให้มันมีความรู้สึกว่า เหมือนล้อประกอบ
แบบว่า แอบเปรี้ยวนิสนึง
ส่วนล้อหน้า ก็16 เท่ากัน แต่รัดด้วยยาง130/90 งานนี้มีกลิ่น bobนิดหน่อย
แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ยัดใส่เพราะรอแผงคอถ่างอยู่ คาดว่า พรุ่งนี้น่าจะได้ ที่เห็นในรูปเป็นของเดิม และก็ล้อขอบ19
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย arty_oh : 07-10-2010 เมื่อ 22:06
ต่อไปเป็นไรดี
อืมมมม
เรื่องของช่วงท้ายก็ไม่มีอะไรมาก ตัดทิ้งให้หมด รกหูรกตา แถมทำให้ ไม่สามารโหลดท้ายได้ด้วย
เลย ตัดทิ้งและดัดเฟรมท้ายขึ้นไหม่ ทำเบาะเดี่ยว (งกที่นั่งจังเลย ใจด๊ำ ใจดำ)
จากนั้นก็ย้ายตำแหน่งโช๊คลงมา และก็เปลี่ยนทรงของโช๊ค ให้เล็กลงด้วย โดยไปหยิบยืมมาจากรถเล็กบ้านเรานั่นคือ honda nowa sonic
คราวนี้ ก็โหลดลงไปเยอะเลย แต่?
ในโลคแห่งความเป็นจริง ทางเดินมันไม่ราบลื่นเหมือนในจินตนาการ
แน่นอนมีปัญหาตามมาแน่นอน เพราะว่า เมื่อเปลี่ยนโช๊คเรียบร้อย และลองนั่งดูเพื่อเช๊คระยะเด้ง
ตอนนั้นมันพอดี เพราะยังไม่ได้ยกเครื่องขึ้น พอถึงเวลายกเครื่องขึ้น และบวกน้ำหนักคนขับ ซึ้งหนัก80กิโล(หุ่นเพรียว - -) ผลที่ได้คือ จุดต่ำสุดของโครง ห่างจากพื้น แค่ 1กล่องไม่ขีด หมายความว่า จุดต่ำสุดของเครื่อง จะห่างจากพื้น แค่2เซ็น
เจ๊......แม่ มันจะขี่ได้ยังงัยว้า
ช่างมีเเซว ก็อยากโหลดไม่ใช่เหรอ แหม มันก็เกินไปอะนะ
เลยไปซื้อ ตัวลองโช๊คมาต่อ ก็สูงมานิส ทำงัยดี ๆ
ท้ายที่สุดก็........ ฟู่ๆๆๆๆๆๆๆ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย arty_oh : 07-10-2010 เมื่อ 22:37
ตัดแป้นยึดขาตั้งทิ้งแม่มเลย สูงขึ้นมา1ซองบุหรี่แนวนอน
เอาวะ เด๋วก็ทำหน้าสูงอยู่ดีโช๊คหน้าที่ไปต่ออยู่ คงช่วยได้บ้างหล่ะ ถ้ายังสูงไม่พ้นลูกระนาด หน้าร้าน ก็ค่อยซื้อตัวรองโช๊คอีกตัวมาเพิ่ม
แต่ในอนาคตถ้าเพิ่มแล้วยังไม่พ้น(ใส่นู่น ใส่นี้ จนเต็มลำ + กำบ นำมัน) ก็ ......
.. ..
.. ..
ไม่ยากจะคิดเลย บรึ๋ยยย
Bookmarks