ว่างๆ ก็เลยหาข้อมูล สำหรับทริปขึ้นเหนือ ต้นปี'55 คิดกันว่าน่าจะเป็น อุทยานแห่งชาติภูเรือและต่อด้วยเชียงคาน ลองดูกันเลยจ้า ขออนุญาตินำข้อมูลจากเวปฯ "ไปด้วยกัน" ด้วยนะคับ
อุทยานแห่งชาติภูเรือ
อุทยานแห่งชาติภูเรือ หนาวสุดในแดนสยาม มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอภูเรือและอำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย อาณาเขตด้านทิศเหนืออยู่ติดกับประเทศลาว รูปพรรณสันฐานของภูเรือ มีรูปร่างลักษณะเหมือน เรือใหญ่บน ยอดดอยสูง เป็นภูผาสีสันสะดุดตา หินบางก้อนมีลักษณะเหมือนถูกปั้นแต่งไว้ ชาวบ้านเรียกว่า กว้านสมอ โดยรอบๆ จะเห็นยอดดอยเป็นขุนเขาน้อยใหญ่ใกล้เคียงเป็นฝ้าขาวด ้วยละอองน้ำ หมอก ปกคลุมไว้ท่ามกลางป่า อันอุดมสมบูรณ์ มีเนื้อที่ประมาณ 120.84 ตารางกิโลเมตร
พื้นที่ป่าภูเรือประกอบด้วยทิวเขาสูง สลับซับซ้อนเรียงรายเป็นรูปต่างๆ น่าพิศวงสลับกับที่ราบเป็นบางส่วน สาเหตุที่ ขนานนามว่า ภูเรือ เพราะมีภูเขาลูกหนึ่งมีชะโงกผายื่นออกมาดูคล้ายสำเภา ใหญ่ และที่ราบบนยอดเขา มีลักษณะคล้ายท้องเรือตลอดจนมีธรรมชาติและทิวทัศน์ที ่สวยงาม เหมาะสมที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ
ลักษณะภูมิประเทศ
อุทยานแห่งชาติภูเรือ มีลักษณะภูมิประเทศเป็นทิวเขาสูงสลับซับซ้อนประกอบด้ วย เขาหินทรายเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนั้นเป็นหินแกรนิตสลับกันไป ลักษณะเช่นนี้จึงทำให้มีที่ราบสูงสลับกับ ยอดเขาสูงทั่วไป มียอดเขาสูง ที่สุดคือ ยอดภูเรือ มีความสูงถึง 1,365 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ยังมียอดเขาที่สำคัญ คือ ยอดเขาภูสัน มีความสูง 1,035 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และยอดภูกุ มีความสูง 1,000 เมตรจากระดับ น้ำทะเล ปานกลาง ลักษณะเช่นนี้เองจึงเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญก่อ ให้เกิดลำธารหลายสาย เช่น ห้วยน้ำด่าน ห้วยบง ห้วยเกียงนา ห้วยทรายขาว ห้วยติ้ว และห้วยไผ่ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของน้ำตกห้วยไผ่ที่สวยงามแห่งหนึ่ง
ลักษณะภูมิอากาศ
ด้วยอุทยานแห่งชาติภูเรืออยู่ที่จังหวัดเลย ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดของประเทศไท ย และอยู่บน ยอดเขาสูง จึงทำให้มีอากาศเย็นตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะหนาวเย็นมาก จนกระทั่งน้ำค้างบนยอดหญ้า จะแข็งตัวกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ซึ่งมีภาษาพื้นเมืองเรียกว่า แม่คะนิ้ง ผู้ที่จะไปพักผ่อนควร เตรียมตัวให้พร้อม ที่จะผจญกับความหนาวเย็น
พรรณไม้และสัตว์ป่า
ภูเรือ มีสภาพป่าหลายชนิดปะปนกันอย่างสวยงาม ทั้งป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าดงดิบ ป่าสนเขา โดยเฉพาะ ยอดภูเรือ ประกอบด้วยป่าสนเขา สลับกับสวนหินธรรมชาติแซมด้วยพุ่มไม้เตี้ย สลับด้วยทุ่งหญ้าเป็นระยะ ที่พบ โดยทั่วไป ได้แก่ กุหลาบป่า มอส เฟิน และกล้วยไม้ที่สวยงาม เช่น ม้าวิ่ง สามปอย ไอยเรศ เอื้องคำ เอื้องผึ้ง เอื้องเงิน ซึ่งขึ้นตามต้นไม้และโขดหิน กล้วยไม้เหล่านี้จะออกดอกบานสะพรั่งให้ชมสลับกันไปตล อดทั้งปี นอกจากนี้ ป่าภูเรือยังมีสัตว์ป่าที่ชุกชุมพอสมควร ที่พบบ่อย เช่น หมี เก้ง กวางป่า หมูป่า หมาไน ลิง พญากระรอกดำ ไก่ฟ้าพญาลอ ไก่ป่า และชุกชุมไปด้วยกระต่ายป่า เต่าเดือย เต่าปูลูและนกชนิดต่างๆ ที่สวยงาม อีกมากมาย โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะอพยพมาจากประเทศจีนเป็นจำนวนมาก
แหล่งท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูเรือ
1.ผาโหล่นน้อย
เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม สามารถมองเห็นภูหลวง ภูผาสาด ภูครั่งและทะเลภูเขา อยู่ห่างจากที่ทำการ อุทยานแห่งชาติ ประมาณ 3 กิโลเมตร
2.ยอดภูเรือ
เป็นจุดที่สูงที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติ อยู่สูงประมาณ 1,365 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นหน้าผาสูงชัน พื้นที่โดยรอบปกคลุมด้วยป่าสนเขา ทั้งสนสองใบและสนสามใบ สลับกับลานหินธรรมชาติ ต้องเดินขึ้นเขาจาก ผาโหล่นน้อยมาประมาณ 700 เมตร จากจุดนี้สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามได้รอบด้าน กระทั่งเห็น แม่น้ำเหือง และแม่น้ำโขง ซึ่งกั้นพรมแดนไทย ลาวบนยอดเรือยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปนาวาบรรพต ซึ่งชาวภูเรืออัญเชิญมาจากอยุธยาด้วย จากยอดภูเรือมีเส้นทางเดินป่าผ่านบริเวณที่มีดอกไม้เ ล็กๆ เช่น กระดุมเงิน ดาวเรืองภู เปราะภู ซึ่งออกดอกสวยงามในช่วงหน้าหนาว ที่ป่าสนบริเวณ ทุ่งกวางตาย มีดอกกระเจียวบานในช่วง ต้นฤดูฝนราวเดือนพฤษภาคม นอกจากนั้นยังมี ลานหินพานขันหมาก เป็นลานหินแตกเป็นรอยตื้นๆ ที่จะพบดอกไม้ ที่ชอบขึ้นตามลานหิน เช่น เอื้องม้าวิ่ง อยู่ทั่วไป เส้นทางเดินป่าจะวกกลับไปลานกางเต็นท์ใน บริเวณที่ทำการ อุทยานแห่งชาติ
3.ผาซำทองหรือผากุหลาบขาว
เป็นหน้าผาสูงชันและเป็นแหล่งน้ำซับ ประกอบกับมีไลเคนที่มีสีเหลืองคล้ายสีทอง ซึ่งเรียกว่า ผาซำทอง เป็นจุดชมทิวทัศน์อีกจุดหนึ่ง อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ตามเส้นทางที่จะไปผาโหล่นน้อยประมาณ 2.5 กิโลเมตร
4.น้ำตกห้วยไผ่
เป็นน้ำตกสูงชัน สูงประมาณ 30 เมตร สายน้ำพุ่งแรงใสสะอาด อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นแหล่งน้ำที่สำคัญในการใช้ทำน้ำประปาในอำเภอภูเรื อ
5.สวนหินพาลี
เป็นลานหินกว้างใหญ่ เต็มไปด้วยก้อนหินรูปทรงแปลกตาตั้งอยู่เรียงราย บางก้อนคล้ายเสาหินสูง บางก้อนคล้ายดอกเห็ด สวนหินพาลีอยู่ใกล้บริเวณลานกางเต็นท์
6.ถ้ำไทร
อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ 2 (ภูสน) ประมาณ 500 เมตร ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ถ้ำไทรเป็นถ้ำหิน ทราย ปากทางเข้าถ้ำจะแคบมากต้องลงในทางดิ่งประมาณ 30 เมตร เมื่อถึงที่ราบภายในถ้ำจะเป็น ห้องโถง ขนาดใหญ่ กว้างประมาณ 30 เมตร ยาวประมาณ 150 เมตร ภายในถ้ำประกอบด้วยหินทรายเป็นแผ่นๆ ซึ่งจะอยู่ ตาม เพดานถ้ำ ส่วนพื้นล่างจะเป็นลักษณะเม็ดทรายที่ไหลมากับน้ำ และในบริเวณปลายสุดของถ้ำจะมี สายธารน้ำ ไหลตลอดเวลา บางช่วงจะมีลักษณะเป็นน้ำตกที่เกิดภายในถ้ำ และเมื่อสายน้ำกระทบแสงไฟจะเกิดเป็นประกาย ที่สวยงาม ภายในถ้ำจะมีค้างคาวอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
7.สวนหินพาลี
เป็นลานหินกว้างใหญ่ เต็มไปด้วยก้อนหินรูปทรงแปลกตาตั้งอยู่เรียงราย บางก้อนคล้ายเสาหินสูง บางก้อนคล้าย ดอกเห็ด สวนหินพาลีอยู่ใกล้บริเวณลานกางเต็นท์
8.แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ
อุทยานแห่งชาติยังมีจุดเด่นที่สวยงามอีกหลายแห่ง เช่น ลาดหินแตก หินค้างหม้อ หินวัวนอน หินพระศิวะ สวนหินเต่า ศาลารับเสด็จ ลาดเหมือนแอ ลานสาวเอ้ ทุ่งหินเหล็กไฟ น้ำตกแก่งสุข และสระสวรรค์ ตามตำนานรักภูทุ่ง (ภูเรือ) และภูครั่ง เป็นต้น
สิ่งอำนวยความสะดวก
ที่พักแรม มีบ้านพักอุทยานแห่งชาติได้จัดเตรียมบ้านพักไว้ให้บร ิการในบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติสถานที่ กางเต็นท์/เต็นท์ อุทยานแห่งชาติจัดเตรียมสถานที่กางเต็นท์และเต็นท์ไว ้ให้บริการนักท่องเที่ยว บริเวณที่ทำการ อุทยานแห่งชาติ 2 จุด (กำลังจัดทำใหม่ 1 จุด) บริเวณภูสน 1 จุด การสำรองที่พักเต็นท์ มีห้องสุขาและ ห้อง อาบน้ำให้บริการ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด และสำรองที่พักเต็นท์ได้กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง
ที่จอดรถ อุทยานแห่งชาติได้จัดเตรียมลานจอดรถไว้ให้บริการ 2 แห่ง บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติและลานกางเต็นท์
บริการอาหาร อุทยานแห่งชาติได้จัดเตรียมร้านอาหาร ไว้บริการนักท่องเที่ยว ตามสถานที่ท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติ ดังนี้
1) บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ
2) บริเวณลานกางเต็นท์ภูสน
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เพื่อศึกษาหาข้อมูลเบื้องต้นก่อนไปท่องเที่ยว ในบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ และบริเวณสถานที่กางเต็นท์ภูสน
อุทยานแห่งชาติภูเรือ
ต.หนองบัว อ. ภูเรือ จ. เลย 42160
โทรศัพท์ : 0 4288 1716, 0 4288 4144โทรสาร : 0 4285 3333
การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติภูเรือ
1.โดยรถยนต์ส่วนตัว
อุทยานแห่งชาติภูเรือ อยู่ห่างจากจังหวัดเลย ประมาณ 48 กิโลเมตร โดยเดินทางไปโดยทางหลวงแผ่นดิน หมาย เลข 203 ถึงอำเภอภูเรือ จะมีป้ายอุทยานแห่งชาติอยู่ปากทางเข้าซึ่งอยู่ข้างที ่ว่าการอำเภอภูเรือ (มาจากจังหวัดเลย ป้ายจะอยู่ทางด้านขวามือ มาจากจังหวัดเพชรบูรณ์ ป้ายจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ) จากปากทางเข้าเดินทางต่อไปอีก ประมาณ 4 กิโลเมตร ก็ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ถนนภายในอุทยานแห่งชาติเป็นถนนลาดยาง เป็นถนนบน ภูเขาบางช่วงมีความลาดชัน นักท่องท่องเที่ยวควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ใช้เกียร์ต่ำ มิฉะนั้นจะทำให้เบรค ไหม้ได้
2.โดยรถสาธารณะ
จากกรงุเทพสามารถนั่งรถทัวร์จากสถานีขนส่งหมอชิต ซึ่งมีรถทัวร์ให้บริการหลาย บริษัท มาลงหน้าตลาดเช้า ใกล้ภูเรือ ติดต่อเหมารถสองแถวขึ้นไปได้จากตรงนี้
เชียงคาน
เมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำโขงสุดชายแดนไทย เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดเลย ที่คงยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ขนบประเพณี การใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย พอเพียง วิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ซึ่งหาดูยากในปัจจุบัน เมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบ แห่งนี้ กำลังเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ภาพบ้านเก่าๆที่เรียงรายติดกันอยู่ริมถนนชายโขง ดึงดูดใจ ให้นักท่องเที่ยวหลายต่อหลายรุ่นต่างหลั่งไหลเดินทาง กันมาที่นี่ บ้านเรือนที่เมืองเชียงคานจะแบ่งออกเป็นซอย เล็กๆ เรียกว่า ถนนศรีเชียงคาน ขนานคู่กันไปไปกับถนนใหญ่ซึ่งเป็นถนนสายหลัก เริ่มตั้งแต่ถนนศรีเชียงคาน ซอยที่ 1- 24 แบ่งเป็นถนนศรีเชียงคานฝั่งบนกับฝั่งล่างซึ่งชื่อซอย เหมือนกัน
ถนนศรีเชียงคานฝั่งล่าง คือ ถนนเส้นที่เต็มไปด้วยบ้านไม้เก่าแก่ ที่พัก โฮมสเตย์ ร้านอาหาร และร้านค้าเก๋ มากมายซึ่งถนนในเส้นนี้จะเรียกว่า "ถนนชายโขง" ซึ่ง ระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร เป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยว นิยมมาปั่นจักรยานชมบรรยากาศถ่ายรูปเล่น ชมบ้านไม้สมัยเก่า แต่ก็มีบางส่วนเป็นตึกแถวสร้างใหม่ ซึ่งทาง เทศบาลไม่อนุญาตให้ปลูกสร้าง เพราะต้องการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมบริเวณถนนสายนี้ให้เ ป็นบ้านไม้ทั้งหมดเป็น การรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวเชียงคาน แต่ถึงแม้บ้านไม้เก่าๆ ถึงแม้ถูกดัดแปลงให้เป็นร้านขายของ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ บ้านพักโฮมสเตย์ไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่ถึงอย่างไรความ สงบเรียบง่ายของวิถีชีวิต รอยยิ้มที่ แสนจะจริง ของผู้คนในเมืองนี้ ยังคงเป็นเสน่ห์ที่ทำให้เมืองเชียงคานแตกต่างจากเมือ งท่องเที่ยวอื่นๆ
![]()
ดังนั้นเมื่อเดินทางเข้าไปในย่านนี้จึงเป็นเสน่ห์ของ เชียงคานที่ให้บรรยากาศแบบสมัยก่อน นักท่องเที่ยวที่ขี่ จักรยานเลียบริมโขง ก็ได้ยินเสียงเพลงลาวดังมาแว่วๆ เป็นความสุข สงบ ชนิดหาที่ไหนได้ยากมาก หลายคนมอง ว่าซักวันหนึ่งเชียงคานจะเหมือนกับปาย แต่ถึงกระนั้น มีสิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นเสน่ห์ของเมืองเชียงคานที่ไม ่เหมือน กับที่ไหน นั่นคือ รอยยิ้ม และความจริงใจของเจ้าของบ้าน มาอยู่ที่นี่ไม่มีเหงา เหมือนรู้สึกว่าเราเป็นลูกเป็นหลาน ของผู้คนที่นี่ มาที่นี่ทุกคนจะได้รุ้จักกับคำว่า สุข สงบ และมิตรภาพ อย่างแท้จริง โดยที่ไม่ต้องมีการเสริมแต่ง
ทริปขึ้นเหนือต้นปี วันเดินทางคร่าวๆก็ 5-8 ม.ค. 2555 ปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมอีกที
และเอาระยะทางมาให้ดูกัน
ขาขึ้น
ประชาอุทิศ 69-วังน้อย-สระบุรี-ลพบุรี-เพชรบูรณ์-อช.ภูเรือ 507 กม.
อช.ภูเรือ - เชียงคาน 106 กม.
สีขรภูมิ - อช.ภูเรือ 493 กม.
สลกบาตร -อช.ภูเรือ 367 กม. เจอกับคุณเก่งที่ บึงสามพัน
ขาล่อง
เชียงคาน -ประชาอุทิศ 69 608 กม.
เชียงคาน-สีขรภูมิ 488 กม.
เชียงคาน-สลกบาตร 481 กม.
ออกเดินทางคืนวันพฤหัสฯ ถึง อ.บึงสามพัน เช้าวันศุกร์ ระยะทาง กทม.-อ.บึงสามพัน 282 กม. ใช้เวลาประมาณ 6 ชม.(รวมพักรถ)
จาก อ.บึงสามพัน-อช.ภูเรือ ระยะทาง 220 กม. ใช้เวลาประมาณ 5 ชม.(รวมพักรถ) ถึง อช.ภูเรือ ประมาณ บ่าย![]()
โครงการจากมือพี่ถึงมือน้อง ปี ๕
26-27 พฤศจิกายน ๒๕๕๔
ณ โรงเรียนสหกรณ์กสิกรรมชายทะเล ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร
แผนที่จ้า
CB-77 Superhawk `นาย อานพ เนคมานุรักษ์ 38/3 หมู่ 1
ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร 74000
บัญชีเลขที่ 050-0-07227-2
ธนาคารกรุงไทย ประดิพัทธิ์ 16
after shock Gangsterโรงเรียนกรุงเทพวิจิตรศิลป์
กำหนดการ ทริปเที่ยวอิสานเหนือ ตอนนี้สรุปเป็นที่แน่นอนแล้วว่า เป็นวันที่ 5-8 ม.ค. 2555 ขอให้พี่-น้อง จัดการเคลียร์เรื่องวันหยุด หน้าที่การงานและทางบ้านให้พร้อม เหลือเวลาอีกเดือนกว่าๆ รถเซอร์วิสพร้อมแล้ว(รถผมเอง) ออกเดินทางกันคืนวันพฤหัสบดีที่ 5 ประมาณ 4 ทุ่ม คืบหน้ารายละเอียด จะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้ง หลังวันงาน " โครงการจากมือพี่ถึงมือน้อง ปี ๕ "
26-27 พฤศจิกายน ๒๕๕๔
ณ โรงเรียนสหกรณ์กสิกรรมชายทะเล ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร นี้เพราะวันนั้นเราจะพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง(ขา ดคนอยู่ไกลพี่เจมส์กับคุณเก่ง)และคุยเรื่องรายละเอีย ดอีกที
จบข่าว![]()
Bookmarks