พอเห็นภาพครับคุณทีม แต่พอนาฬิกาดิจิตอลออกมาขาย
ก็เลยน่าจะทำให้นาฬิกาแบบนี้ล้มหายตายจากไปในท้องตลา ด แต่ผมว่ามันเท่ห์ดีอ่ะ
ตอนนี้ผมกำลังอยากได้ Vintage Military Watch
ก็คงเป็น Hamilton เรือนที่ผมว่า แต่เค้าเปิดราคาหมื่นสอง ราคามันแรงไปอ่ะ![]()
แนวนี้ผมก็ชอบเหมือนกัน ผมใส่เป็นของ WEST END WATCH หลักคลาสิค + เข็มลูกอ๊อด นึกภาพเข็ม ROLEX or เข็ม TAG HEUER ก้างปลา + ใส่สายนาโต้เช่นกัน
ผมชอบตัวนี้มากเพราะ ส่วนตัวเห็นว่า เค้าทำงานละเอียดดี เครื่องก็มีกระดองเล็กครอบอีกชั้น เครื่องก็สีทองสวยงาม แถม ที่ตัวเรือน ตำแหน่ง 6 นาฬิกาก็มีเลขสลักไว้คล้าย ROLEX /// ซึ่งทุกครั้งเวลาผมใส่ ผมรู้สึกว่า มันคือ ROLEX MILITARY สำหรับ คนงบน้อยอย่างผมเลยครับ :) ///
Hamilton นี่แบรนด์ HI-SO มากกกกกกกกกกกก MR.TUM :)
Hamilton ถ้าเป็นตัว Vintage Military ผมว่าไม่น่าจะไฮโซนะครับ
เครื่องมันก็ไม่ได้ดิบดีอะไรนักหนา ถ้าจะเทียบก็น่าจะเทียบได้กับพวก Marathon หรือ Timex ซะด้วยซ้ำ
แต่ที่มันนิยม หรือผมนิยม ก็เพราะของเล่นส่วนใหญ่ผมเน้นแนว American Classic น่ะครับ
คือจะบอกว่า ทั้งหลายทั้งปวงถ้าเกี่ยวข้องกับทหาร ยังไงก็นิยมตลอดกาล
(พูดถึงทหารก็คงต้องพูดถึงเมกาแหละครับ ตอนเปิดประเทศก็รบกันแล้ว
ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจ ทำไมเมกาถึงได้มีอาวุธหรืออุปกรณ์ภาคสนามเยอะมาก)![]()
ของที่ถูกปลอม ส่วนใหญ่คือได้รับความนิยมไงครับ
เหมือนแว่น James Dean นี่แหละ เมื่อก่อนไม่เห็นมีปลอม
แต่เดี๋ยวนี้ของปลอมเยอะกว่าของจริง บ้างก็ว่าเป็น Re-Product
ซึ่งผมเองก็ไม่รู้นะ ว่ามัน Re จริงหรือเปล่า เพราะบริษัทมันหยุดผลิตไปตั้งแต่โดนฟ้องเรื่องชื่อยี ่ห้อนี่แหละ![]()
ใครที่มีมดแดง หน้า Chrohnograph เท่านั้นน่ะครับ เน้น ถึงจะสายตรงรุ่น ลายนี้ + มดดำ ก็สายตรงรุ่นลายนี้เช่นกัน "FISH BONE"
มดแดงหน้า speedtimer + 5 sport speedtimer สายจะเป็นอีกลายนึงน่ะครับ
FISH BONE เส้นนี้ลายจะเหมือนกันเป๊ะ กับ สายหอยโข่ง แต่มีจุดต่างกันเล็กน้อยดังนี้
1. สายแท้ มดดำ ที่ผมลงไว้ ปลายข้างนึงจะใหญ่ (ไว้ใส่ด้านเม็ดมะยม ) ปลายอีกด้านนึงจะเล็กกว่า
แต่สายหอยโข่ง บ่าจะเท่ากันทั้ง 2 ด้าน
2. ที่ปลายบ่า สายแท้ มดดำ จะตี Z040 แต่ สายหอยโข่งจะไม่ตีน่ะครับ
3. ตามเกล็ดสาย สายแท้ จะมีลูกศรชี้ ไปในทางเดียวกันอย่างเป็นระเบียบ แต่ สายหอยโข่งก็จะไม่มีครับ
ปล. ดูแค่ 3 จุดหลักนี้ก็พอได้แล้วครับ
ปล. งบไม่ถึงแต่อยากได้สาย SEIKO แท้ใส่ ลายตรงรุ่น แนะนำ สายหอยโข่งครับ "แต่ถ้างบพอไหว แนะนำใส่สายแท้ตรงรุ่นจะได้ครบๆกันไปเลยครับ"
แท้ เดิม ไม่เคยใช้ " สอบถาข้อมูลเพิ่มเติมได้ครับ "
2850 ส่ง ems ฟรีครับ
ทีม 081-8161962
เส้นสุดท้ายแล้วครับ
![]()
Orient ปฏิทิน เรือนใหญ่เป้ง ขายแล้ว ขอบคุณครับ
ทีม 081-8161962
วิธีการใช้ คือ เคยเห็นปฏิทินที่มันออกแบบมาให้ เลื่อนวัน เลื่อนเดือนแล้วใช้ได้ต่ลอดกาลกันมั๊ยครับ ผมว่าน่าจะเคยเห็นกัน หลักการเดียวกันเลยครับ คือ เราใช้เม็ดมะยมที่หลัก 4 นาฬิกาในการปรับตั้ง คือ จะตั้งให้วันด้านบนตรงก่อน หรือ มาเล็งเดือนด้านล่างก่อนก็ได้ เพราะสุดท้ายแ้ล้ว พอเดือนตรง วันมันก็จะหาตรงได้เองอัตโนมัติ ดูเหมือนจะยาก แต่มันถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่ายๆ หมุนปรับไปมาสักพัก จะรู้ได้เลยว่า การออกแบบแผงแบบนี้มันแทบจะใช้ได้ตลอดกาล มั๊ง
สุดที่ปีไหนผมไม่ค่อยแน่ใจน่ะครับ เพราะ เพื่อนบอกมาว่ามันเป็นฟังก์ชั่น 100 ปี แต่ผมหาปรับให้ตรง มันก็มีวันและเดือนตรงครับ แต่เลขปีจะไม่ตรงแค่นั้นเอง ผมเลยซื้อมาเพราะมันยังใช้งานได้จริงไม่ใช่แค่สวยงาม :)
www.crossthetime.com
ปล. ขอบคุณภาพประกอบโดย MR.Tum เรือนนี้ได้ลงในหนังสือนาฬิกา ภาษาญี่ปุ่น 1970
![]()
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย CrossTheTime : 03-07-2012 เมื่อ 17:35
![]()
เคลือบทอง 10 ไมครอน ( สวิสเมดน่ะครับ กรรมวิธีดีกว่า ติดทนทานกว่าครับ )
www.crossthetime.com
Gold filled และ Gold plated คืออะไรและเเตกต่างกันอย่างไร
Gold filled แปลตรงตัวก็คือ"การหุ้มทอง" หรือการนำทองมารีดให้เป็นแผ่นบางๆ แล้วน้ำมาหุ้มกับโลหะที่ต้องการ(เช่นทำทองคำมาหุ้มกั บทองเหลือง)
โดยช่างจะมีเทคนิคในการทำให้ทองที่หุ้มนั้น แนบชิดสนิทกับตัวเรือนครับ
การใช้งานก็จะคงทน เพราะว่าผิวที่หุ้มนั้น เปรียบได้กับเป็นเนื้อทองคำจริงๆครับ
Gold plated แปลตรงตัวก็คือ"การชุบทอง" วิธีนี้จะนิยมใช้ในวงการจิวเวลรี่ในปัจจุบัน โดยหลักการคือจะใช้ประจุไฟฟ้าเป็นสื่อกลางในการทำให้ โมเลกุลของทองมาหุ้มสิ่งที่เราต้องการจะชุบ
เราอาจจะเคยได้ยินคำว่าชุบไมค่อน จริงๆแล้วหมายถึงความหนาของการชุบ เช่น ชุบ1ไมค่อน ก็คือชุบ1ชั้น หรือ ชุบ10ไมค่อน ก็คือชุบ10ชั้น
ยิ่งหนามาก ความหนาของทองก็จะยิ่งมาก ความคงทนก็จะยิ่งสูงครับ
ความคิดเห็นส่วนตัวจากประสปการณ์
ความแตกต่างระหว่างGold filled และ Gold plated
จริงแล้วทั้ง2อย่างคือการนำทองมาหุ้มโลหะที่ต้องการค รับ อาจจะต่างกันที่กรรมวิธี
แต่วิธีGold platedอาจจะสามารถควบคุมความหนาของเนื้อทองได้ง่ายกว ่าGold filled
นั้นแปลว่าถ้าเราชุบใช้ไมค่อนน้อยๆ ก็จะใช้ปริมาณทองน้อย ต้นทุนก็จะต่ำกว่า
แต่ในบางครั้งถ้าเราชุบหลายๆไมค่อน ก็อาจจะจะทำให้ความหนาของเนื้อทองทั้ง2วิธีเท่ากันคร ั้ง
ความแตกต่างอีกอย่าง คือ ความซับซ้อนของกรรมวิธี
ในความคิดของผมคิดว่าวิธีGold filled น่าจะยุ่งยากกว่า เพราะการนำทองมาหุ้มกับโลหะที่ต้องการ และต้องทำให้เรียบเนียน น่าจะต้องใช้ช่างที่มีความชำนานพอสมควรถึงจะทำได้
สำหรับเรื่องK
การเรียกทองที่เป็นK เช่น18k, 14k ก็เหมือนเป็นหน่วยของทองที่เมืองนอกใช้กันครับ
เช่น
24k = 99.99%
21.5k = 90%
18k = 75%
14k = 58.5%
9k = 37.5%
คนไทยส่วนมากจะเข้าใจผิดเรื่องที่ว่า ทองK คือ ทองปลอม หรือทองที่มีเปอร์เซ็นต์น้อย
เเต่จริงๆแล้วทองK เป็นเพียงหน่วยที่ทางเมืองนอกนิยมเรียกเท่านั้นครับ
เช่น แหวนทอง90 ที่เราคุ้นหูกันเวลาเข้าไปซื้อเครื่องประดับในร้านทอ ง จริงๆแล้ว ก็สามารถเรียกได้ว่าแหวนทอง21.5K
แถมเพิ่มเติมเรื่องจิวเวลรี่ครับและเรื่องความนิยมใน ทองK
ปัจจุบัน เครื่องประดับสมัยใหม่ในเมืองไทย จะนิยมทำเป็นทอง18K (อาจจะมี14Kและ9K ในงานส่งออก)
เพราะว่าเครื่องประดับสมัยใหม่จะนิยมประดับเพชรพลอยบ นตัวเรือน
คุณเทพและเพื่อนๆอาจจะเคยได้ยินเรื่องที่ว่าทองยิ่งเ ปอร์เซ็นต์สูงจะยิ่งมีความอ่อนนุ่ม
ดังนั้นการที่จะยึดเกาะเพชรให้ได้แข็งแรง ความจะใช้ทองที่มีความแข็งแรง ซึ่งก็คือตั้งแต่18Kลงไป
ยกตัวอย่างแบรนด์ชั้นน้ำของโลก เช่น Cartier , bulgari , Tiffany & Co ส่วนมากก็จะใช้ที่18Kครับ
พิมพ์มันมือไปนิดนึงนะครับ
ผิดพลาดประการณ์ใดเรื่องข้อมูล ต้องขออภัยด้วยครับ ( ข้อมูล โดยน้องบอมม์ )
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย CrossTheTime : 13-01-2013 เมื่อ 22:08
Bookmarks