~รายการ สนิมคำราม วาไรตี้~ - หน้า 3
                                
หน้าที่ 3 จากทั้งหมด 7 หน้า แรกแรก 1 2 3 4 5 6 7 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 31 ถึง 45 จากทั้งหมด 99

ชื่อกระทู้: ~รายการ สนิมคำราม วาไรตี้~

  1. #31
    ต้นตำหรับ kenzai's Avatar
    วันที่สมัคร
    Sep 2008
    สถานที่
    สุรินทร์
    ข้อความ
    535
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    0

    มาตรฐาน



    [quote=ตาลีบัน;2571768]
    อ้างอิง ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ kenzai อ่านข้อความ

    ขอบคุณครับ

    เรียกชื่อผมก็ได้ครับ ไม่ต้องเรียกว่านิ้งหน่องหลอกครับ

    มันไม่เหมือน em84
    ชื่ออะไรหละครับ ผมชื่อ หนุ่ม
    << ปกตินะค๊ะ ไม่ดัดจริตนะค๊ะ >>

    em86

    ชมรม พันธมิตรรถโบราณศีขรภูมิ
    อ.ศีขรภูมิ
    จ.สุรินทร์

  2. #32
    พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว ตาลีบัน's Avatar
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    สถานที่
    สนิมคำราม
    ข้อความ
    1,014
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    19

    Red face

    [quote=kenzai;2576379]
    อ้างอิง ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ตาลีบัน อ่านข้อความ
    ชื่ออะไรหละครับ ผมชื่อ หนุ่ม
    ผมชื่อ หนึ่ง ยินดีที่ได้รู้จักครับ
    "ชีวิตนั้นสั้น ศิลปะยืนยาว"

    "มีข้าวกินเพราะควาย มีแผ่นดินไทยก็เพราะช้าง"



    นึ่นิคำ
    มื

  3. #33
    พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว ตาลีบัน's Avatar
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    สถานที่
    สนิมคำราม
    ข้อความ
    1,014
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    19

    Arrow พระธาตุอินทร์แขวน

    เห็นสวยดีเลยเอามาให้ดูกัน รูปพระธาตุอินทร์แขวน





    "ชีวิตนั้นสั้น ศิลปะยืนยาว"

    "มีข้าวกินเพราะควาย มีแผ่นดินไทยก็เพราะช้าง"



    นึ่นิคำ
    มื

  4. #34
    พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว ตาลีบัน's Avatar
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    สถานที่
    สนิมคำราม
    ข้อความ
    1,014
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    19

    Exclamation มาดู7 สิ่งอัศจรรย์(ใจ) ของโลก (ยุคใหม่)กัน

    มาดู 7 สิ่งอัศจรรย์(ใจ) ของโลก(ยุคใหม่) กัน

    ดูไว้ก็ดีนะครับ

    7/07/2007 เป็นวันที่หน้าประวัติศาสตร์ถูกเปิดขึ้น เพื่อบันทึกลงไปว่า ณ วันนี้มีการประกาศ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ในยุคใหม่ แต่เดิมคนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่า สิ่งมหัศจรรย์ทั้ง 7ของโลก ได้แก่ นครวัด(กัมพูชา) เรือควีนแมรี่ (อเมริกา)ตึกเอ็มไพร์สเตต(อเมริกา) สะพานโกลเด้นเกต(อเมริกา) เขื่อนยักษ์ฮูเวอร์ (อเมริกา)พระราชวังแวร์ซายส์(ฝรั่งเศส) ทัชมาฮาล(อินเดีย) ทว่ายังไม่มีรับรองอย่างเป็นทางการ จึงต้องมีการประกาศขึ้นใหม่ โดยเกณฑ์การคัดเลือกนั้นจะตัดสินจากผลโหวต ซึ่งมีผู้สนใจเข้าร่วมโหวตถึง100ล้านคนจากประเทศทั่ว โลก และ7 สถานที่ที่ได้รับเลือกนั้นประกอบไปด้วย

    วิหาร ชิเชน อิตซา อนุสรณ์เทพพระเจ้า

    วิหาร ชิเชน อิตซา (เม็กซิโก)
    รูปปั้นพระเยซู (บราซิล)
    กำแพงเมืองจีน(จีน)
    มาชู ปิชู(เปรู)
    นครเปตรา(จอร์แดน)
    สนามกีฬาโคลอสเซียม (อิตาลี)
    ทัชมาฮาล(อินเดีย)

    รูปปั้นพระเยซูโปรดให้พ้นบาป

    และดูเหมือนทุกอย่างจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ หลังพิธีการประกาศอันยิ่งใหญ่สิ้นสุดลง แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ เมื่อยูเนสโกออกมาตะโกนร้องป่าวประกาศไม่ยอมรับคำตัด สิน เพราะเชื่อว่าสถานที่อีก 14แห่ง ที่ไม่ได้รับการโหวต เช่น “วิหารอโครโปลิส”(กรีซ) “ปราสาทหินนครวัด”(กัมพูชา) หรือ “สุเหร่าเซนต์โซเฟีย”(ตุรกี) ต่างก็เป็นมรดกอันล้ำค่าและมีคุณค่าพอที่จะเป็นสิ่งม หัศจรรย์ของโลกในยุคใหม่เช่นกัน พูดง่ายๆ ก็คือทำไมต้องจำกัดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกไว้แค่7สิ่ง

    กำแพงเมืองจีน กำแพงหมื่นลี้

    ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการเ กณฑ์การตัดสิน ที่อิงจากผลโหวต ว่าวิธีนี้ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะมาใช้ตัดสิน เพราะไม่สามารถบอกได้ว่าผู้ที่โหวตมีความเป็นกลางมาก น้อยแค่ไหน และอาจเป็นไปได้ว่าประเทศที่มีเอี่ยวกับการแข่งขัน อาจจะรณรงค์ให้ประชาชนลงคะแนนให้กับสถานที่ในประเทศต ัวเอง เพื่อท้ายที่สุดแล้วจะได้รับการบรรจุเป็นสิ่งมหัศจรร ย์ของโลก

    นครเปตรา เมืองโบราณ

    นาย”เบอร์นาร์ด เวเบอร์” ชาวสวิส โต้โผการจัดงานพยายามชี้แจงเหตุผลว่าที่เลือกวิธีนี้ ก็เพื่อให้ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วม แต่ดูเหมือนน้ำหนักของเหตุผลจะน้อยเกินไป เพราะตอนแรกสถานที่ที่เข้าร่วมในบัญชีโหวต มีชื่อของพีระมิดแห่งกิซา(อียิปต์)รวมอยู่ด้วย

    สนามกีฬาโคลอสเซียม สังเวียนความตาย


    แต่ภัณฑารักษ์ที่มีชื่อเสียงของอียิปต์ได้ออกประณามก ารกระทำดังกล่าว โดยระบุว่าการทำเช่นนั้น “เป็นการหยามกันเกินไป”
    เจ้าหน้าที่ดังกล่าวระบุว่า ไม่จำเป็นต้องมาพิสูจน์อะไรอีก ในปัจจุบันยังไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆ ในโลกนี้ ที่จะมีความเกรียงไกรเท่ากับมหาพีระมิด และการจัดอันดับใหม่ดังกล่าวก็เป็นเพียง “การประชาสัมพันธ์ครั้งใหญ่” ของผู้จัดเท่านั้น

    การตอบโต้ครั้งนี้ทำให้ผู้จัดแทบหน้าหงาย รีบแก้เก้อด้วยการถอนพีระมิดแห่งกิซาออกจากบัญชีโหวต พร้อมทั้งมอบตำแหน่งกิตติมศักดิ์ โบราณสถานให้ไปแทนที่

    มาชู ปิคชู อาณาจักรอินคา

    กลายเป็นว่าการประกาศ 7สิ่งมหัศจรรย์ กลับสร้างความประหลาดใจให้กับชาวโลก ทั้งในเรื่องของการใช้ผลโหวตตัดสินราวกับเป็นรายการเ รียลลิตี้ และเหตุผลในการจำกัดสิ่งมหัศจรรย์ให้มีชื่อเพียงแค่7 สิ่ง ก็ไม่มีความชัดเจน หนำซ้ำหนึ่งในคณะผู้จัดก็เคยออกมายอมรับว่า “ไม่มีทางพิสูจน์ได้ว่า คนๆ หนึ่งจะโหวตกี่ครั้ง เพราะไม่มีข้อจำกัด”
    พิธีการอันยิ่งใหญ่อลังการอาจเป็นแค่มวยล้มต้มคนดู ออกมาแหกตาชาวโลก ช่างเป็น 7สิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจจริงๆ

    ทัชมาฮาล อนุสาวรีย์แห่งความรัก
    "ชีวิตนั้นสั้น ศิลปะยืนยาว"

    "มีข้าวกินเพราะควาย มีแผ่นดินไทยก็เพราะช้าง"



    นึ่นิคำ
    มื

  5. #35
    Senior Member sill's Avatar
    วันที่สมัคร
    Nov 2006
    สถานที่
    MC..LOEI
    ข้อความ
    400
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    19

    มาตรฐาน

    อ้างอิง ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ตาลีบัน อ่านข้อความ
    6 วิธีจีบหญิง
    เรามีวิธีการจีบหญิงสาวให้อยู่หมัด มาฝากชายหนุ่ม ที่กำลังหว้าเหว่ อยากหาคนรู้ใจ มาไว้ข้างกาย มาดูกันเถอะว่ามีธีไหนที่ทำให้สาวเจ้าที่คุณหมายปอง หันมามองคุณซักครั้ง


    1. อย่าคบเธอเหมือนเพื่อน เดี๋ยวเธอจะเข้าใจผิดคิดว่าคุณเป็นแค่เพื่อน หรือไม่ก็เป็นกิ๊กคนหนึ่งของเธอเท่านั้น ถ้าคุณพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเธอก่อนความรักจะก่อตัว ขึ้น เธอก็จะคิดว่าคุณเป็นเหมือนเพื่อนคนหนึ่งทันที ยิ่งนานวันไป ความสัมพันธ์ควรจะเบ่งบาน แต่มันก็บานได้แค่ความเป็นเพื่อน ไม่ก้าวถึงความเป็นแฟนสักที ดีไม่ดีโดนคนอื่นคว้าไปอีก ฉะนั้น ถ้าคิดจะคบเธอเป็นแฟน ก็จงคบแบบแฟนตั้งแต่เริ่มแรกเลย


    2. ทำเซอร์ไพรส์เธอบ้าง ผู้หญิงน่ะชอบเรื่องเซอร์ไพรส์ ต่อให้เธอปากแข็งแค่ไหน เชื่อเถอะว่าเธอชอบความตื่นเต้นเร้าใจ และลึกลับ มากกว่าที่จะรู้จักคุณหมดไส้หมดพุง เพราะอย่างนั้น มันก็เหมือนหมดความน่าตื่นเต้นในตัวเองน่ะซิ ให้ข้อมูลตัวคุณกับเธอบ้างบางครั้ง กระตุ้นให้เธออยากรู้อยากเห็น อย่าให้เธอรู้เชียวว่าคุณกำลังเดินหมากอย่างไร สร้างความประทับใจและยวนใจเธอเข้าไว้ แล้วเธอจะเดินเข้ามาหาคุณเอง


    3. เป็นฝ่ายอยู่นิ่งๆ ไม่ใช่ฝ่ายไล่ตาม อย่าเคลื่อนไหวก่อน ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว การที่คุณจะรุกหญิงสาวสักคนหนึ่งก่อน พึงตระหนักไว้ว่า มันอาจทำให้เธอรำคาญได้ง่ายๆ อยู่นิ่งๆ แล้วหยั่งเชิงก่อนว่าเธอสนใจคุณหรือเปล่า หรือคุณสนใจเธอจริงหรือเปล่า ถ้าใช่ ค่อยๆ เผยให้เธอรู้ทีละน้อย แต่อย่าอ่อยนานนักล่ะ เดี๋ยวเธอจะหลุดหายไปจากวงโคจรเสียก่อน


    4. หันมาสนใจตัวเองบ้าง เพิ่มเสน่ห์ให้ตัวเอง ด้วยกลิ่นกายที่หอมกรุ่น ผิวพรรณที่ชวนมอง อ้าว! ว่าไม่ได้ เดี๋ยวนี้ผู้หญิงเขาดูผู้ชายที่ผิวพรรณด้วยนะ ประเภทผิวหยาบกร้าน ยอมรับว่ามีบางกลุ่มที่ชอบ แต่ส่วนใหญ่ถ้าเป็นหนุ่มผิวดี มักเข้าตากรรมการสาวมากกว่า ที่สำคัญคือลมหายใจและกลิ่นปากต้องสดชื่น แต่งตัวสะอาดชวนมอง ประเภทเฮฟวี่น่าจะหมดยุคไปแล้ว แต่งให้ดูแล้วน่าคบหาสมาคมและดูสุภาพไว้ก่อน น่าจะเรียกคะแนนความนิยมได้ง่ายกว่า


    5. มีอารมณ์ขัน ผู้หญิงน้อยคนจะชอบผู้ชายที่เต็มไปด้วยความเครียด ยิ่งเครียดเธอก็ยิ่งเบื่อหน่าย พวกเธอชอบผู้ชายที่มีอารมณ์ขัน เพราะจะทำให้ชีวิตเธอสนุกสนาน ไม่ซีเรียส ยิ้มเข้าไว้ ยิ่งถ้าคุณเป็นหนุ่มยิ้มเก่ง มารยาทสุภาพ รู้จักกาลเทศะ อย่าว่าแต่จะชนะใจเธอเลย ชนะใจไปถึงครอบครัวเธอได้ง่ายๆ ด้วย เรื่องนี้เขาสำรวจกันอย่างจริงจังมาแล้วพบว่า ผู้หญิง 9 ใน 10 คนจะคำนึงถึงความสำคัญของอารมณ์ขันของชายหนุ่มเป็นเร ื่องแรก ฉะนั้นทิ้งมาดเก๊กหล่อไว้ แล้วเอาอารมณ์ขันมาสร้างสีสันให้กับคนที่คุณอยากได้เ ป็นแฟนแทนได้แล้ว


    6. คิดให้ดีและถี่ถ้วนก่อน อย่าเพิ่งคิดว่าเธอคือคนที่ใช่แน่ๆ จากที่ออกเดทด้วยกันเพียงไม่กี่ครั้ง อาจเป็นได้ว่าคุณแค่เพ้อไปช่วงหนึ่งเท่านั้น ช่วงเพ้อนี่แหละที่จะทำให้คุณตามัวหมอง อะไรก็ดีไปหมด นึกว่าเธอใช่แน่นอน ขอย้ำเตือนว่า ใช้เวลาสักนิด ตอบคำถามกับตัวเองให้แน่ใจก่อนว่า เธอคนนี้...ใช่คนที่คุณรักมากที่สุดแล้วหรือเปล่า, เธอคนนี้...ใช่คนที่จะมาเป็นคู่ชีวิตของคุณหรือเปล่า และเธอคนนี้...ใช่คนที่จะมาเป็นแม่ของลูกคุณหรือเปล่ า ใช้เวลาในการตัดสินใจสักพัก อย่าด่วนได้ใจเร็ว



    คนโพสเอาไปใช้มั่งยัง
    กระเหรี่ยงเมืองเลย

    "ขวัญน้อย"

  6. #36
    พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว ตาลีบัน's Avatar
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    สถานที่
    สนิมคำราม
    ข้อความ
    1,014
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    19

    Cool

    อ้างอิง ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sill อ่านข้อความ
    คนโพสเอาไปใช้มั่งยัง
    ยังว่ะ

    ตอนนี้ไม่ได้จีบใครเลย
    "ชีวิตนั้นสั้น ศิลปะยืนยาว"

    "มีข้าวกินเพราะควาย มีแผ่นดินไทยก็เพราะช้าง"



    นึ่นิคำ
    มื

  7. #37
    พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว ตาลีบัน's Avatar
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    สถานที่
    สนิมคำราม
    ข้อความ
    1,014
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    19

    Exclamation สำหรับผู้หญิง ภัยอันตรายที่ผู้หญิงควรรู้ ผู้ชายอยากอ่านก็ไม่ว่ากันนะ

    ภัยอันตรายที่ผู้หญิงควรรู้
    สมัยนี้วิวัฒนาการต่างๆ เริ่มเปลี่ยนไป พร้อมๆ กับความเจริญอย่างไม่หยุดยั้งของเทคโนโลยี ความทันสมัยที่เกิดขึ้นในสังคมจึงถูกนำไปใช้ ในทิศทางที่ผิดจำนวนไม่น้อย

    ที่แน่ๆ รูปแบบของภัยอันตรายที่ปรากฏกับผู้หญิงยุคนี้ เริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จากที่เคยใช้วิธีการเก่าๆ อาทิ ฉุดกระชาก โปะยาสลบ ล่อลวง เดี๋ยวนี้เขาเลิกใช้กันแล้ว

    ความแนบเนียนของการล่อลวงผู้หญิงมีมากขึ้น วิธีและลักษณะ รูปแบบการเผด็จศึกของฝ่ายที่เจตนาล่อลวงบางทีก็สังเก ตกันได้ยาก หรือแทบ จะสังเกตด้วยตาเปล่าไม่ได้ด้วยซ้ำไป

    สัปดาห์นี้จึงถือโอกาสมาแนะนำถึงภัยอันตรายที่ผู้หญิ งยุคใหม่ ควรรู้ไว้บ้างว่า สมัยนี้พิษภัยที่เกิดขึ้นมานั้นอาจเกิดได้จากหลายทิศ ทางที่แม้ แต่ตัวคุณเองก็คาดไม่ถึงว่า ... เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น

    # ยานอนหลับ ที่นำมาใช้สมัยนี้ กล่าวได้ว่า เป็นยานอนหลับที่บรรจุขายกันเป็นชุด โดย 1 ชุดประกอบไปด้วย ยานอน หลับ 3 หลอด สามารถออกฤทธิ์เห็นผลได้ทันใจภายใน 5 นาที ซึ่ง สนนราคาซื้อขายยานอนหลับสูตรพิเศษนี้ ว่ากันว่า คิดแค่ 500 บาท

    ลักษณะเฉพาะของยานอนหลับประเภทนี้ จะเป็นเกล็ดใส ไม่มีรสและไม่มีสี สามารถใช้ละลายน้ำได้ทุกระดับทุกประเภท ไม่ว่าจะ เป็น ชา กาแฟ นม เหล้า เบียร์ สำหรับผลของยาตัวนี้ สรรพคุณการันตีว่า จะออกฤทธิ์ได้ยาวนานถึงประมาณ 5 ชั่วโมงเลยทีเดียว

    # ยาปลุก sex จะประกอบด้วย 3 หลอดใน 1 ชุดเช่นเดียวกัน และจำหน่ายในราคา 500 บาท ออกฤทธิ์ภายใน 5 นาที และมีผลของยานานถึง 4 ชั่วโมง

    ลักษณะของยาปลุกเซ็กซ์ จะเป็นเกล็ดใส ไม่มีรสและสี สามารถใช้ละลายน้ำได้ทุกประเภท เช่นเดียวกับยานอนหลับทุกประการ เพียงแต่คุณสมบัติพิเศษที่เพิ่มเติมไปนั้น ได้แก่ ผู้ที่ใช้จะมีอาการหน้า แดงอย่างเห็นได้ชัด อารมณ์เคลิ้มและอ่อนไหวง่าย จนไม่สามารถจำได้ว่า คุณเคยทำอะไรกับเขา

    # ยาสลบชนิดวาสลีน จำหน่ายกันแค่ 400 บาทนี้ ว่ากันว่าเป็นวิธีการล่อลวงที่แยบยลวิธีหนึ่ง เพราะเพียงแค่ทาวาสลีนลงบนผ้า ที่ต้องการ และใช้ในปริมาณที่แนบไปก่อนจะใช้วิธีการโปะกับคนเป้า หมายที่ ต้องการ เชื่อหรือไม่ว่า ระยะเวลาในการออกฤทธิ์นั้นรวดเร็วภายใน 5 วินาทีเท่านั้น ซึ่งผู้ที่โดนจะมีอากหารเคลิ้ม ตาห้อย และสลบไปในที่สุด

    แต่อย่างไรก็ตาม ลักษณะของยาสลบชนิดนี้ไม่มีผลข้างเคียง ใดๆ อีกทั้งไม่ใช่ยาที่ในวงการแพทย์ใช้ จึงอยู่ได้ไม่นาน เพียงแค่ประมาณ 4 ชั่วโมงเท่านั้น

    พิษภัยที่อาจโดนเข้ากับตนเองโดยที่ไม่รู้ตัว กับ ยาสลบ ยาปลุกเซ็กซ์ ยานอนหลับ ที่กลายเป็นสินค้าซึ่งมีขายกันดาษดื่นตามเว็บไซต์ ใต้ดินในขณะนี้ เชื่อหรือไม่ว่า ซื้อหากันได้ง่ายดายอย่างที่เราคาดไม่ถึง

    ฉะนั้นผู้หญิงทุกคนจึงควรที่จะต้องระวังตัวเองไว้ให้ มาก เพราะแม้แต่คนรอบข้างคุณก็ไม่อาจแน่ใจได้ว่าจะไว้ใจไ ด้ ยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่ ชอบเที่ยวกลางคืนด้วยแล้ว ยิ่งมีสิทธิ์ที่คุณจะโดนมอมยาได้โดยไม่รู้ตัว เผลอๆ มารู้สึกตัวอีกทีคุณอาจจะตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่ใ นม่านรูด หรืออยู่ในห้องพักของเพื่อนชายที่ไปเที่ยวด้วยก็ได้.


    ที่มา : ไทยโพสต์ แทบลอยด์
    "ชีวิตนั้นสั้น ศิลปะยืนยาว"

    "มีข้าวกินเพราะควาย มีแผ่นดินไทยก็เพราะช้าง"



    นึ่นิคำ
    มื

  8. #38
    พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว ตาลีบัน's Avatar
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    สถานที่
    สนิมคำราม
    ข้อความ
    1,014
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    19

    Red face ประวัติวง kai-jo brothers (ไค-โจ บราเธอร์ส)

    ไคโจ บราเธอร์ส

    Kai-Jo Brothers


    KAI-JO BROTHERS (ไค-โจ บราเธอร์ส) คือ 10 คนดนตรีที่มีสไตล์ พร้อมสร้างสรรค์ผลงานในแบบของตนเอง ด้วยส่วนผสมดนตรีในแบบเร็กเก้, สกา, ร็อกสเตดี้, โซล เมื่อบวกกับความเป็นไทยแล้ว ทั้งหมดจึงกลายเป็นเอกลักษณ์ ที่เรียกกันว่า “New Root Reggae” ที่ทำเอาโดนใจเด็กรุ่นใหม่ไปเต็มๆ...



    KAI-JO BROTHERS เป็นวงดนตรีเร็กเก้ อันดับต้นๆของประเทศไทย ด้วยเสียงร้อง และการแร๊พแบบ regga muffin พร้อมเนื้อหาเพลงที่สนุก, ประหลาด, กวนประสาท แถมมีปรัชญาชีวิตครบถ้วน รวมทั้งการแสดงสดอันสนุกสนาน เร้าใจ ทำให้คนฟังสนุกสนานกันแบบเต็มที่ เรียกว่า ‘ไค-โจ บราเธอร์ส’ เป็นวงหนึ่งที่ทำให้เด็กรุ่นใหม่ หันมาสนใจดนตรีสไตล์เร็กเก้กันเป็นแถว ซึ่งเขาทั้ง 10 คือคนดนตรีตัวจริงที่ผลิตงานผลเองทุกขั้นตอน ทั้ง ภาพ และ เสียง

    ‘ไค-โจ บราเธอร์ส’ เคยมีผลงานออกมาแล้วมากมาย อาทิ ปี 2002 อัลบั้มเต็มชุดแรก PARADISE, ปี 2005 กับซิงเกิ้ล ‘Took Took Breakdown’, ปี 2006 อัลบั้มเต็มชุดที่ 2 Reggae Passion, ปี 2007 กับ Special Album ‘Kai-Jo Brothers DUB’ และในปีนี้ 2008 พวกเขาพร้อมแล้วกับอัลบั้มชุดที่ 3 ‘Born to be free’ ภายใต้ Concept โดนใจ “อิสระของดนตรี จะปลดปล่อยอิสระของหัวใจ และร่วมสนุกสนานไปกับเสียงเพลงของไคโจ”




    "ชีวิตนั้นสั้น ศิลปะยืนยาว"

    "มีข้าวกินเพราะควาย มีแผ่นดินไทยก็เพราะช้าง"



    นึ่นิคำ
    มื

  9. #39
    พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว ตาลีบัน's Avatar
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    สถานที่
    สนิมคำราม
    ข้อความ
    1,014
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    19

    Talking

    เอาจักรยานสวยๆมาให้ดูกัน
















    "ชีวิตนั้นสั้น ศิลปะยืนยาว"

    "มีข้าวกินเพราะควาย มีแผ่นดินไทยก็เพราะช้าง"



    นึ่นิคำ
    มื

  10. #40
    พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว ตาลีบัน's Avatar
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    สถานที่
    สนิมคำราม
    ข้อความ
    1,014
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    19

    Lightbulb นาฏยศาลา หุ่นละครเล็ก ครับ

    นาฏยศาลา หุ่นละครเล็ก

    โจหลุยส์ หรือ นาฏยศาลาหุ่นละครเล็ก เป็นคณะการแสดงละครเล็ก หรือหุ่นกระบอก ของอาจารย์สาคร ยังเขียวสด หรือ "โจหลุยส์" และครอบครัว ได้จัดให้มีการแสดงต่อสาธารณะ ครั้งแรกเมื่อ ปี พ.ศ. 2528 เพื่อเป็นการอนุรักษ์ศิลปะการแสดงและการทำหุ่นของไทย สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระราชทานชื่อโรงละครโจหลุยส์ว่า “นาฏยศาลา หุ่นละครเล็ก” และได้ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ "มูลนิธินาฏยศาลา หุ่นละครเล็ก"[1]
    ครูสาคร เกิดเมื่อพ.ศ. 2465 ที่มาของชื่อ โจหลุยส์ นั้นเพราะสมัยเด็ก ครูสาครป่วยหนักบิดามารดาจึงยกให้เป็นลูกพระ ตั้งชื่ให้ว่า หลิว เป็นการแก้เคล็ด เมื่อโตขึ้นได้ฝึกหัดโขน ละคร และลิเก จนเติบโตได้ออกแสดงตระเวนไปกับบิดา ซึ่งครูสาครนิยมแสดงเป็นตัวตลก และมีการเรียกชื่อเพียนจาก "หลิว" เป็น "หลุยส์" ต่อมามีผู้มาเติมเป็น "โจหลุยส์" เหมือนชื่อนักมวยแชมป์โลกขณะนั้น ต่อมานำชื่อ "จหลุยส์ มาตั้งเป็นชื่อโรงละคร ที่เป็นคณะแสดงหุ่นละครกับสมาชิกครอบครัวว่า "โจหลุยส์เธียเตอร์"
    ปัจจุบันโรงละครของคณะโจหลุยส์ (โจหลุยส์เธียเตอร์)นั้นมีที่ตั้งอยู่ในบริเวณสวนลุมไนท์บาซาร์ ประสบปัญหาด้านการเงินอยู่หลายครั้ง แต่ก็ได้รับการอนุเคราะห์จากชาวไทยที่มีจิตใจอนุรักษ ์ บริจาคเงินช่วยเหลือ และเข้าชมการแสดง จนสามารถรอดพ้นวิกฤตมาได้ทุก ๆ ครั้ง ล่าสุดหุ่นละครเล็กได้รับรางวัลชนะเลิศการแสดงชุดประ กวดหุ่นโลก เมื่อวันที่ 26-28 พฤษภาคม 2549

    "ชีวิตนั้นสั้น ศิลปะยืนยาว"

    "มีข้าวกินเพราะควาย มีแผ่นดินไทยก็เพราะช้าง"



    นึ่นิคำ
    มื

  11. #41
    Junior Member SK♥tangMo's Avatar
    วันที่สมัคร
    Jul 2009
    ข้อความ
    19
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    0

    Red face ครุ่นคิด...

    SK * T ang Mo

    /\7

    tangmo-alon.hi5.com

  12. #42
    พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว ตาลีบัน's Avatar
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    สถานที่
    สนิมคำราม
    ข้อความ
    1,014
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    19

    Lightbulb

    อ้างอิง ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ SK♥tangMo อ่านข้อความ

    คิด อะไรแตงโม
    "ชีวิตนั้นสั้น ศิลปะยืนยาว"

    "มีข้าวกินเพราะควาย มีแผ่นดินไทยก็เพราะช้าง"



    นึ่นิคำ
    มื

  13. #43
    Junior Member SK♥tangMo's Avatar
    วันที่สมัคร
    Jul 2009
    ข้อความ
    19
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    0

    Smile !

    บ่ได้คิดอะรัย อ่านที่พี่โพสนี้แหล่ะ ยังมิจบเร๊ย
    SK * T ang Mo

    /\7

    tangmo-alon.hi5.com

  14. #44
    พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว ตาลีบัน's Avatar
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    สถานที่
    สนิมคำราม
    ข้อความ
    1,014
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    19

    Exclamation

    อ้างอิง ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ SK♥tangMo อ่านข้อความ
    บ่ได้คิดอะรัย อ่านที่พี่โพสนี้แหล่ะ ยังมิจบเร๊ย
    มีอะไรดีดีก็ เอามาโพสได้นะ แตงโม

    เดี๋ยวพี่เดเครื่องก่อน ในเมืองฝนตก ฟ้าร้องแรงมากem21
    "ชีวิตนั้นสั้น ศิลปะยืนยาว"

    "มีข้าวกินเพราะควาย มีแผ่นดินไทยก็เพราะช้าง"



    นึ่นิคำ
    มื

  15. #45
    พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว ตาลีบัน's Avatar
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    สถานที่
    สนิมคำราม
    ข้อความ
    1,014
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    19

    Arrow ประวัติประเพณีผีตาโขน


    ประวัติประเพณีผีตาโขน
    ประเพณีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย

    ประเพณีแห่ผีตาโขน
    ประเพณีแห่ผีตาโขน จัดเป็นส่วนหนึ่งในงานบุญประเพณีใหญ่หรือที่เรียกว่า "งานบุญหลวง" หรือ "บุญผะเหวด" ซึ่งตรงกับเดือน 7 มีขึ้นที่อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย และจัดเป็นการละเล่นที่ถือเป็นประเพณีทุกปี เกี่ยวโยงกับงานบุญพระเวสหรือเทศน์มหาชาติประจำปีกับ พระธาตุเจดีย์สองรัก ปูชนียสถานสำคัญของชาวด่านซ้าย
    ต้นกำเนิดผีตาโขน
    กล่าวกันว่า การแห่ผีตาโขนเกิดขึ้นเมื่อครั้งที่พระเวสสันดรและนา งมัทรีจะเดินทางออกจากป่า กลับสู่เมืองบรรดาผีป่าหลายตนและสัตว์นานาชนิดอาลัยร ักจึงพาแห่แหนแฝงตัวแฝงตน มากับชาวบ้านเพื่อมาส่งทั้งสองพระองค์กลับเมือง เรียกกันว่า "ผีตามคน" หรือ "ผีตาขน" จนกลายมาเป็น "ผีตาโขน" อย่างในปัจจุบัน
    ชนิดของผีตาโขน
    ผีตาโขน ในขบวนแห่จะแยกเป็น 2 ชนิดคือ ผีตาโขนใหญ่และผีตาโขนเล็ก
    ผีตาโขนใหญทำเป็นหุ่นรูปผีทำจากไม้ไผ่สานมีขนาดใหญ่กว่าคนธรรมด าประมาณ 2 เท่าประดับตกแต่งรูปร่างหน้าตาด้วยเศษวัสดุที่หาได้ใ นท้องถิ่น เวลาแห่ คนเล่นจะต้องเข้าไปอยู่ข้างในตัวหุ่น แต่ละปีจะทำผีตาโขนใหญ่เพียง 2 ตัว คือผีตาโขนชาย1ตัวและหญิง1ตัว สังเกตจากเครื่องเพศปรากฏชัดเจนที่ตัวหุ่น ผู้มีหน้าที่ทำผีตาโขนใหญ่จะมีเฉพาะกลุ่มเท่านั้น เพราะคนอื่นไม่มีสิทธิ์ทำ การทำก็ต้องได้รับอนุญาตจากผีหรือเจ้าก่อน ถ้าได้รับอนุญาตแล้วต้องทำทุกปีหรือทำติดต่อกันอย่าง น้อย 3 ปี
    ผีตาโขนเล็ก ผีตาโขนเล็กเป็นการละเล่นของเด็ก ไม่ว่าเด็กเล็ก เด็กวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ ทั้งผู้หญิงชาย มีสิทธิ์ทำและเข้าร่วมสนุกได้ทุกคน แต่ผู้หญิงไม่ค่อยเข้าร่วมเพราะเป็นการเล่นค่อนข้างผ าดโผนและซุกซน

    การแต่งกายผีตาโขน
    ผู้เข้าร่วมในพิธีนี้จะแต่งกายคล้ายผีและปีศาจใส่หน้ ากากขนาดใหญ่ ทำจากกาบมะพร้าวแกะสลักและ สวมศีรษะด้วยกระติ๊บข้าวเหนียว ในขบวนแห่จะประกอบไปด้วยการร้องรำทำเพลงอย่างสนุกสนา น
    การละเล่นผีตาโขน
    เนื่องจากงานประเพณีผีตาโขนเป็นงานบุญใหญ่ซึ่งเรียกก ันว่างานบุญหลวง จัดขึ้นที่วัดโพนชัย อ.ด่านซ้าย โดยมีการละเล่นผีตาโขน มีการเทศน์มหาชาติ มีการทำบุญพระธาตุศรีสองรักและงานบุญต่างๆเข้ามาผสมอ ยู่รวมๆกัน จึงมีการจัดงานกัน 3 วัน
    วันแรก เริ่มพิธีตอนเช้า 04.00-05.00 น. คณะแสนหรือข้าทาสบริวารของเจ้าพ่อกวนจะนำอุปกรณ์ มีด ดาบ หอก ฉัตร พานดอกไม้ ธูปเทียน ขันห้าขันแปด(พานดอกไม้ 5 คู่ หรือ 8 คู่) ถือเดินนำขบวนไปที่ริมแม่น้ำหมัน เพื่อนิมนต์พระอุปคุตต์ พระผู้มีฤทธานุภาพมาก และมักเนรมิตกายอยู่ในมหาสมุทร เพื่อป้องกันภัยอันตราย และให้เกิดความสุขสวัสดี เมื่อถึงแล้วผู้อันเชิญต้องกล่าวพระคาถาและให้อีกคนล งไปในน้ำ งมก้อนหินใต้น้ำขึ้นมา ถามว่า "ใช่พระอุปคุตต์หรือไม่" ผู้ที่ยืนอยู่บนฝั่งตอบว่า "ไม่ใช่" พอก้อนหินก้อนที่ 3 ให้ตอบว่า "ใช่ นั่นแหละพระอุปคุตต์ที่แท้จริง" เมื่อได้พระอุปคุตต์มาแล้ว ก็นำใส่พาน แล้วนำขบวนกลับที่หอพระอุปคุตต์ ทำการทักขิณาวัฏ 3 รอบ มีการยิงปืนและจุดประทัด ซึ่งช่วงเวลานั้นบรรดาผีตาโขนที่นอนหลับหรืออยู่ตามท ี่ต่างๆก็จะมาร่วมขบวนด้วยความยินดีปรีดา เต้นรำ เข้าจังหวะกับเสียงหมากกระแร่ง ซึ่งเป็นกระดิ่งผูกคอวัวหรือกระดิ่งให้ดังเสียงดัง
    วันที่สอง เป็นพิธีแห่พระเวส ในขบวนประกอบด้วย พระพุทธรูป 1 องค์ พระสงฆ์ 4 รูป นั่งบนแคร่หามตามด้วย เจ้าพ่อกวน นั่งอยู่บนกระบอกบั้งไฟ ท้ายขบวนเป็นเจ้าแม่นางเทียม กับบริวาร ชาวบ้าน และเหล่าผีตาโขน เดินตามเสด็จไปรอบเมือง ก่อนตะวันตกดิน สำหรับคนที่เล่นเป็นผีตาโขนใหญ่ ต้องถอดเครื่องแต่งกายผีตาโขนใหญ่ออกให้หมดและนำไปทิ ้งในแม่น้ำหมัน ห้ามนำเข้าบ้าน เป็นการทิ้งความทุกข์ยากและสิ่งเลวร้ายไป รอจนปีหน้าฟ้าใหม่แล้วค่อยทำเล่นกันใหม่
    วันที่สาม เป็นการรวมเอางานบุญประเพณีประจำเดือนต่างๆของปีมารว มกันจัดในงานบุญหลวง ประชาชนจะมานั่งฟังเทศน์มหาชาติ 13 กัณฑ์ ที่วัดโพนชัย เพื่อเป็นการสร้างกุศลและเป็นมงคลแก่ชีวิต
    แก่ชีวิต

    ที่มา:เว็ปไซต์เทศบาลตำบลด่านซ้าย


    "ชีวิตนั้นสั้น ศิลปะยืนยาว"

    "มีข้าวกินเพราะควาย มีแผ่นดินไทยก็เพราะช้าง"



    นึ่นิคำ
    มื

หน้าที่ 3 จากทั้งหมด 7 หน้า แรกแรก 1 2 3 4 5 6 7 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย

Bookmarks

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •