ห้ามดื้อสัญจร "สวิตเซอร์แลนด์แดนสยาม"

[My Lam.]

ณ.....เขาค้อ พรสวรรค์รีสอร์ตครับ

[My Lam.]

"อร่อยใครอร่อยมันครับ"

[My Lam.]

[My Lam.]

[My Lam.]

[My Lam.]

เวลาประมาณ 10 โมงเช้า หลังจากเช็คข่าวอาการเจ้าอาชาของเพื่อนเอ้ที่เสร็จสม บูรณ์
พร้อมที่จะลุยกันต่อ เราจึงออกจากที่พักเพื่อไปยังจุดนัดหมายไว้
แต่ระหว่างทางจากเขาค้อสู่หล่มสักเกิดอุบัติเหตุขึ้น นิดหน่อยครับ
จุดเกิดเหตุตรงโค้งนี้เลยครับ สอบถามแล้วเกิดจากรถยนต์คันที่นำหน้ามาเกิดอาการตกใจ โค้ง
ทำให้ต้องเบรกกะทันหัน ตัวเองหลุดจากรถกระแทกกับGuard lain หมวกกันน็อคกระแทกกับเหล็กป้ายเตือนทางโค้ง
แล้วหลุดไปเช็คความนุ่มของหญ้าข้างทาง(เมิงจะเลียนแบ บR1ทริปเขาใหญ่ก็ไม่บอก)
เป็นความโชคดีที่มาพร้อมกับบทเรียนครับ นี่ถ้าไม่ใส่หมวกกันน็อคมีหวังต้องได้เป็นเจ้าภาพร่ว มเลี้ยงข้าวต้มเป็นแน่


รถไม่เป็นอะไรมากครับ แค่สีถังถลอก มือครัชหัก ไฟแล้วหูแหว่ง เกียร์บิด..................พอเถอะแค่นี้ก็แย่แล้ว


ส่วนคนขับก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากครับมีแผลถลอกที่ท้องแล ะใช้เข่าไม่ได้ไป 7 วัน........ยังยิ้มได้ครับ

[My Lam.]

ระหว่างรออะไหล่ที่อยู่ในรถStaff พวกเราก็ได้รับข่าวดีจากอาจารย์หน่อยว่า “คงต้องนอนที่นี่กันอีกคืนหว่ะพวก”
BROS เจ้ากรรม แก้ไม่ตกครับ
บรรยากาศเริ่มเครียดครับ ไม่เหมือนกันตอนแรกที่ตั้งใจไว้ว่ามันจะง่าย
ดูจากสีหน้าอาจารย์กับลูกศิษย์แล้วจะเห็นว่าเริ่มไม่ มีรอยยิ้มแล้วครับ
ถอดเข้าถอดออกจนน็อตแทบหวาน พลิกดูอยู่นาน สรุปแล้วเกิดปัญหาจากแผ่นครัชที่ส่งมาไม่ตรงรุ่นครับ ........
งานเข้าสิครับพี่น้อง.........ได้นอนเขาค้อกันอีกคืน

[My Lam.]

เวลา 16:30 น. กับบรรยากาศที่จุดนัดหมาย
หลังจากที่ได้ข้อสรุปว่าวันนี้คงต้องนอนกันอีกคืน เพราะถ้าจะฝืนกลับกันตอนนี้คงถึงชลบุรีกันสว่าง
คงต้องยึดเอาความปลอดภัยในชีวิตของทุกคนไว้ก่อนครับ

[My Lam.]

ปิดโปรแกรมของวันที่ 1 มกราคม 2551 ไว้ที่นี่ครับ
ร้านลาบเหนือ หน้ากุหลาบดอยรีสอร์ต
อาหารที่นี่อร่อยและราคาไม่แพงครับ ใครมีโอกาสได้ไปเขาค้อต้องลองไปชิมกันครับ “ห้ามดื้อท้าชิม”

[My Lam.]

เช้าวันที่ 2 มกราคม 2551 ณ กุหลาบดอยรีสอร์ต
หลังจากที่ได้พักผ่อนกันแบบสบายอย่างเต็มที่ เพื่อที่วันนี้เราจะต้องเดินทางกลับกันจริงๆซะที
เป็นคืนแรกที่ได้นอนห้องพักพร้อมอาบน้ำอุ่นอย่างดี.. ..เลยทำให้ที่นี่ไม่มีเต็นท์กระพือครับ em86

[My Lam.]

ไม่รู้ว่าเมื่อคืนนี้อุณหภูมิที่นี่เท่าไหร่นะครับ รู้แต่ว่าขณะที่ที่เวลา 7:30 น. มันขึ้นมาแค่สองหน่อยองศา


หนาวจนหายใจออกมาเป็นไอเลยครับ
คำเตือน! การสูบบุหรี่ทำให้ “จู๋หด”


“ไม่กลัวครับพี่ เพราะผมหล่อ!!!!!”


แต่ทริปนี้เองแพ้เพื่อนพี่หว่ะ

[My Lam.]

วันสุดท้ายในการการท่องเที่ยวที่เขาค้อ มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้เราแวะชม ตามนี้เลยครับ..........
พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเขาค้อไปทางทิศเหนือประมาณ 2 กิโลเมตร จะเห็นพระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก อยู่ติดถนนด้านขวามือ เป็นเจดีย์ที่มีสถาปัตยกรรมผสมผสานทั้งแบบสุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปให้ประชาชนได้สักการะบูชา ยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระอัฐธาตุของพระพุทธเจ้า ที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานให้กับประชาชนในพื้นที่ หลังจากยุติการสู้รบกับคอมมิวนิสต์ในประเทศไทย


ภายในพระบรมธาตุฯ พวกเราเข้าไปขอพรให้เดินทางกลับกันด้วยความปลอดภัย.. ....

[My Lam.]

พระตำหนักเขาค้อ
พระตำหนักเขาค้อเป็นพระตำหนักที่ประทับของพระบาทสมเด ็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ตั้งอยู่บนเขาย่า ซึ่งเป็นเขาที่สูงที่สุดในบริเวณเขาค้อ ทางขึ้นที่นี่ค่อนข้างลาดชันครับ แต่เส้นทางดี

[My Lam.]

ที่นี่สามารถชมวิวมุมสูงได้จากบริวณจุดชมวิว ด้านข้างพระตำหนักครับ

[My Lam.]

พิพิธภัณฑ์อาวุธ (ฐานอิทธิ)
พิพิธภัณฑ์อาวุธ (ฐานอิทธิ) ตั้งชื่อตาม พันเอก อิทธิ สิมารักษ์ ผู้มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้ยึดพื้นที่เขาค้อคืนจากผู ้ก่อการร้ายคอมมิวนิส ในปี พ.ศ.2524 บริเวณนี้เคยเป็นฐานปืนใหญ่ ยิงสนับสนุนการ สู้รบ ปัจจุบันจัดให้ เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง มีอาวุธยุทโธปกรณ์ ที่ใช้ในการสู้รบตั้งอยู่มากมาย เช่น เครื่องบินขับไล่ เอฟ 5 รถสายพานลำเลียงพล ปืนใหญ่ ปืนใหญ่ขนาด 105 มม. จำนวน 2 กระบอก ปืนใหญ่ ขนาด 155 มม. ยิงได้ไกล 11 กิโลเมตร 1 กระบอก ฯลฯ
ภายในอาคารมีห้องบรรยายสรุปเกี่ยวกับเหตุการณ์ ในยุทธภูมิเลือดเขาค้อ มีห้องจัดนิทรรศการ เกี่ยวกับอุปกรณ์ เครื่องใช้ เสื้อผ้า อาวุธของคอมมิวนิสต์ ส่วนด้านนอกอาคารยังมีฐานอาวุธ จัดแสดงอาวุธยุทโธปากรณ์ เช่น ปืนใหญ่ รถถัง รถแทรกเตอร์ บังเกอร์หลบภัย แต่ละจุดมีป้ายประวัติพร้อมคำอธิบายประกอบ
เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 07.00 – 17.00 น. และมีค่าเข้าชมเพื่อบำรุงสถานที่คนละ 10 บาทครับ


รถสายพานลำเลียงพล.........สงสัยจะโดนRPGครับ


“เราตาย เพื่อชาติอยู่”