ของผมก็มีดังนี้ครับ
1.ทับทิม 521 พลาสติก 1 คู่
2.ทับทิม 521 เหล็ก 1 คู่
3.ไฟเลี้ยวข้างแก้ม 1 คู่ (แบบไม่มีน๊อตยึดนะครับ)
4.ของอย่างว่าครับ . . . . . แบ่งกันไปใช้ซักชิ้นหนึ่งนะครับ
086 - 8485 - 668 ขอบคุณครับ![]()
ของผมก็มีดังนี้ครับ
1.ทับทิม 521 พลาสติก 1 คู่
2.ทับทิม 521 เหล็ก 1 คู่
3.ไฟเลี้ยวข้างแก้ม 1 คู่ (แบบไม่มีน๊อตยึดนะครับ)
4.ของอย่างว่าครับ . . . . . แบ่งกันไปใช้ซักชิ้นหนึ่งนะครับ
086 - 8485 - 668 ขอบคุณครับ![]()
เรื่องราคานั้นคุยกันได้ ผมพูดไทยได้ชัดเจนและฟังภาษาไทยรู้เรื่องครับ
อะไรตรงไหน ดีอย่างไร ไม่ดีอย่างไร ก็ว่ากันไปตามนั้น
ซื้อ - ขาย กันแล้วก็อยากให้สบายอกใจสบายใจกันทั้งผู้ซื้อและผู้ขายครับ
americanbrahmankbn@yahoo.co.th
http://datsun.212cafe.com
up up
http://www.thaiscooter.com/forums/sh...=161187&page=4
ลองดูนะพี่ (เพื่อยังไม่ได้ดู)
ผมขอเมลพี่ทีดิ โพสทิ้งไว้ละกันพี่
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Arm_Ska : 09-10-2009 เมื่อ 00:26
คิดว่า j.13 นะครับ
ลองอ่านจากบทความนี้
1.เปิดตำนาน กระบะ นิสสัน ในประเทศไทย รุ่นแรกที่ได้รับการนำเข้า โดย บริษัท สยามกลการ จำกัด อย่างเป็นทางการออกมาตั้งแต่เมื่อประมาณ พศ.2507 โดยใช้ชื่อว่า DATSUN “ Bluebird 320 “ ซึ่งรถรุ่นดังกล่าวนั้นจะเกิดจากการนำรถเก๋ง DATSUN Bluebird รุ่นแรกมาตัดตรงด้านท้ายให้อยู่ในลักษณะของ “กระบะ” เพียงเท่านั้น และใช้ เครื่องบล็อคเดียวกัน คือ “E-1” ที่เป็นเครื่องยนต์ขนาด 1,200 ซีซี ใช้เกียร์มือ ที่มีลักษณะเป็นก้านโยกเกาะอยู่ที่คอพวงมาลัย เครื่องยนต์ “E-1 “
แบบเครื่องยนต์: เบ็นซิน 4 สูบเรียง OHV
ปริมาณกระบอกสูบ : 1,200 ซีซี
กระบอกสูบ X ช่วงชัก : ไม่มีข้อมูล
แรงม้าสูงสุด : 60 แรงม้า /4800 rpm
แรงบิดสูงสุด : ไม่มีข้อมูล
พศ. 2509 DATSUN “L 520”
พศ. 2511 DATSUN “L 520”ไมเนอร์เชนจ์
พศ. 2513 รถกระบะ DATSUN ไมเนอร์เชนจ์ครั้งใหญ่ กลายเป็น“L 521”
และเมื่อล่วงเลยมาถึงในปี พศ. 2509 DATSUN ก็ทำการนำเข้ารถโฉมใหม่
ซึ่งจะเป็นแบบ Model Changeเผยโฉมออกมาเป็นรุ่นที่2 นามว่า “L 520” โดยที่โฉมใหม่นี้จะยังยึดแนวเดียวกับ รถเก๋ง หรือโฉมเดียวกับ Bluebird รุ่นใหม่อยู่เหมือนเดิม
ซึ่งในส่วนของ รถเก๋ง Bluebird รุ่นนี้สำหรับในสมัยนั้นจะได้รับความนิยมนำมาทำเป็น “รถแท็กซี่” มากที่สุดจนสามารถเบียด แชมป์เก่า อย่าง AUSTIN A35 VAN ตกขอบไปและกลายเป็นตัวหลัก ในวงการแท็กซี่ต่อมา อีกหลายปี
สำหรับหน้าตาของตัวรถรุ่นดังกล่าวจะมีจุดสังเกตุอยู่ ที่เป็นแบบ “ตาเดียว” ข้างละดวง และเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ใหม่ ในรหัส “J 13” ที่เป็นเครื่องเบ็นซินที่ใหญ่ขึ้นมาเป็นขนาด 1,300 ซีซี พ่วงด้วย เกียร์มือ แบบ 3 เกียร์ ระบบเบรค แบบ ดรัมเบรค ทั้งหน้า/หลัง
เครื่องยนต์ “J 13 “
แบบเครื่องยนต์: : เบ็นซิน 4 สูบเรียง OHV
ปริมาณกระบอกสูบ : 1,299 ซีซี
กระบอกสูบ X ช่วงชัก : 73.0 x 77.6 มม.
แรงม้าสูงสุด : 62 แรงม้า ที่ 5,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด : 9.7 กก.-ม. ที่ 2,800 รอบต่อนาที
ในเวลาอีกไม่กี่ปีถัดมา พศ. 2511 ทาง DATSUN ก็ทำการไมเนอร์เชนจ์ “L 520” ที่ปรับปรุงหน้าตากันนิดหน่อยตามออกมา ซึ่งจะเปลี่ยนโคมไฟใหญ่ให้เป็น แบบ ไฟหน้าคู่ ฟากละสองดวงตามความนิยม และมีไฟเลี้ยว ติดอยู่ใต้โคมใหญ่เหนือกับมุมกันชนเล็กน้อย โดยเรียกรุ่นนี้ว่า“L 520 Minor Change” โดยรายละเอีดในส่วนอื่นๆตลอดจนแหล่งพลังในระดับ 1,300 ซีซี ก็ยังคงเป็นไปตามเดิม
ปี พศ. 2513 ทางDATSUNก็ได้มีนโยบายที่จะประกอบรถกระบะขึ้นในประเ ทศไทย(ซึ่งถือเป็นการประกอบรถกระบะยี่ห้อญี่ปุ่นขึ้น ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก)และบังเอิญในช่วงนั้น ในตลาดโลกได้มีการไมเนอร์เชนจ์ “L 520”กันอยู่ด้วย ทางสยามกลการจึงได้นำรุ่นเดิมมาไมเนอร์เชนจ์มาประกอบ เสียเลย พร้อมเปลี่ยนรหัสการเรียกขานใหม่เป็น “L 521” โดยเริ่มต้นที่ ลายหน้ากระจัง และกรอบโคมไฟใหญ่ที่ยังเป็นแบบ ไฟหน้าคู่ กันใหม่ แต่ก็ยังคงไว้ด้วย กันชนหน้า ที่ทำจากอลูมิเนียม ในรูปทรงเช่นเดิม แล้วเพิ่มไฟหรี่/ไฟเลี้ยวขนาดใหญ่พอสมควรเข้าไปที่ด้านใต้โคมใหญ่หรือ เหนือกันชน และยังมี ไฟเลี้ยว ดวงเล็กรูปทรงหัวลูกศรติดอยู่ตรงหัวร่องข้างสะเอว หรือที่ตรงแก้มหน้าอีกดวงหนึ่งด้วย โดยในส่วนของเครื่องยนต์ตลอด จนระบบอื่นๆ จะยังคงเป็นเช่นเดิมก็คือ “J 13 “ 1,300 ซีซี นั่นเอง
อ้างอิง บทความจาก นิสสันปิคอัพดอทเน็ต
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย GOD DAMN : 09-10-2009 เมื่อ 09:53
ปี พศ. 2513 ทางDATSUNก็ได้มีนโยบายที่จะประกอบรถกระบะขึ้นในประเ ทศไทย(ซึ่งถือเป็นการประกอบรถกระบะยี่ห้อญี่ปุ่นขึ้น ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก)และบังเอิญในช่วงนั้น ในตลาดโลกได้มีการไมเนอร์เชนจ์ “L 520”กันอยู่ด้วย ทางสยามกลการจึงได้นำรุ่นเดิมมาไมเนอร์เชนจ์มาประกอบ เสียเลย พร้อมเปลี่ยนรหัสการเรียกขานใหม่เป็น “L 521” โดยเริ่มต้นที่ ลายหน้ากระจัง และกรอบโคมไฟใหญ่ที่ยังเป็นแบบ ไฟหน้าคู่ กันใหม่ แต่ก็ยังคงไว้ด้วย กันชนหน้า ที่ทำจากอลูมิเนียม ในรูปทรงเช่นเดิม แล้วเพิ่มไฟหรี่/ไฟเลี้ยวขนาดใหญ่พอสมควรเข้าไปที่ด้านใต้โคมใหญ่หรือ เหนือกันชน และยังมี ไฟเลี้ยว ดวงเล็กรูปทรงหัวลูกศรติดอยู่ตรงหัวร่องข้างสะเอว หรือที่ตรงแก้มหน้าอีกดวงหนึ่งด้วย โดยในส่วนของเครื่องยนต์ตลอด จนระบบอื่นๆ จะยังคงเป็นเช่นเดิมก็คือ “J 13 “ 1,300 ซีซี นั่นเอง
อ้างอิง บทความจาก นิสสันปิคอัพดอทเน็ต[/quote]
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆด้วยครับ .................. ผมก็เป็น J 13 ครับผม
![]()
ขอรูปกระจกติดแก้มทรง สี่เหลี่ยม สวย ๆ หน่อยครับ
เอาแบบปรับมุม กระจกได้ดี และมีน๊อตยึดครบ ไม่ต้องแปลง มีไหมครับ ที่ผมมีติดรถมามันฝืดมากจนปรับไม่ได้นะครับ
ส่งมาที่เมลล์ นี้เลยนะครับ wuttichai_ler@hotmail.com
ขอบคุณครับ
Bookmarks