จากความคิดของตัวเองมีความเห็นว่า เมื่อได้จักรยานโบราณมาอย่างแรกคือจูงไปซ่อมที่ร้านใ กล้บ้านที่พอที่จะมีอะไหล่ซ่อมให้พอวิ่งได้ เอาแค่พอหลักๆก็คือเปลี่ยนยาง ใส่ยางเบรค ตั้งเบรค อย่าถอดอะไหล่เดิมออก ถ้าจำเป็นต้องเปลี่ยนก็อย่าทิ้งให้ร้านเก็บใส่ถุงรวม กันไว้ ส่วนล้อนั้น ถ้าไม่จำเป็นจริงๆอย่าเพิ่งไปเปลี่ยน ถ้าพอใช้ได้ก็ใช้ไปก่อน
การซ่อมจักรยาน ถ้าพอให้วิ่งได้ งบไม่น่าจะเกิน 500 บาท ราคาจะขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนยางนอก-ในมากกว่า เพราะถ้าเปลี่ยนทั้งหน้า-หลัง ราคาน่าจะประมาณเกือบๆ400 เข้าไปแล้ว อะไหล่ที่เหลือน่าจะประมาณร้อยกว่าบาท ในกรณีที่เป็นอะไหล่รถ28"ที่หาตามร้านจักรยานทั่วไป
ทีนี้ เมื่อเรามีจักรยานโบราณหนึ่งคันที่สามารถขี่ไปไหนมาไ หนได้แล้ว อยากจะทราบข้อมูลหรือรายละเอียดเพิ่มเติม ก็ต้องไปหาแหล่งที่มีจักรยานโบราณให้ดู เพื่อไปเทียบเคียงกับรถของตัวเอง
ในกรุงเทพฯ แนะนำว่าน่าจะไปดูที่บ้านจักรยาน เพราะจะมีจักรยานหลากหลายคันให้ไปดู แต่การไปครั้งแรกควรจะไปดูเพื่อที่จะศึกษาอย่างเดียว อย่าเพิ่งซื้อของ เพราะยังไม่รู้ว่าเราจะทำอะไรกับรถบ้าง ส่วนการเข้ากลุ่มต่างๆในกรุงเทพฯ จักรยานมันไม่เหมือนรถมอเตอร์ไซค์ที่สามารถขี่ไปไหนม าไหนไกลๆ รวมตัวได้สะดวก จะไปไหนมาไหนไกลๆก็ต้องอาศัยรถบรรทุกไปทั้งนั้น ยกเว้นคนที่ขยันปั่นจริงๆ ทำให้ยังไม่เห็นว่าในกรุงเทพฯขณะนี้จะมีที่ไหนจะไปดู จักรยานได้สะดวกเท่าที่บ้านจักรยาน
การรวมกลุ่มหรือรวมตัว ถ้าเราไปพบกับคนที่เล่นรถเนี๊ยบๆ เล่นแต่ของแท้ เค้าก็จะแนะนำให้ใช้แต่ของแท้ สภาพดีๆ หรืออาจจะแนะนำในสิ่งที่ตัวเองชอบและทำ
ถ้าไปพบกับคนที่ชอบแต่งแบบของเดิมๆเอาสภาพแค่พอดูได้ ก็คงจะแนะนำให้ ซื้ออะไหล่ตามที่ผู้แนะนำชอบและทำเช่นกัน
แต่แนะนำว่าจักรยาน ร้านจักรยานไหนๆก็ซ่อมได้ สำคัญที่หาอะไหล่มาให้เค้าให้ได้เท่านั้นเอง การที่จะนำจักรยานไปให้ร้านที่ทำเกี่ยวกับจักรยานโบร าณโดยตรงทำให้ เค้าก็จะแนะนำให้แต่ของแท้และของดีๆซึ่งราคามันก็คงจ ะแพงไปตามจำนวนของที่ใส่ไป และมันจะแพงในที่สุดเมื่อซ่อมเสร็จแล้ว
เจ้าของรถจักรยานแต่ละคนมีความชอบไม่เหมือนกัน ทั้งนี้การทำรถก็คงจะขึ้นอยู่กับงบประมาณตัวเองและใจ ที่คิด ว่าอยากจะทำแบบไหน....เป็นพื้นฐานที่ดีครับ
Bookmarks