เทคนิคการอัพเกรดระบบเบรค และอาการของเบรคแบบต่างๆ
                                
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 1 2 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 1 ถึง 15 จากทั้งหมด 18

ชื่อกระทู้: เทคนิคการอัพเกรดระบบเบรค และอาการของเบรคแบบต่างๆ

  1. #1
    Vivify's Avatar
    วันที่สมัคร
    May 2007
    สถานที่
    ISUZU FASTER & CHEVY LUV KB-KBD THAILAND
    ข้อความ
    458
    ขอบคุณ
    2
    ได้รับขอบคุณ 6 ครั้ง ใน 6 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    17

    Lightbulb เทคนิคการอัพเกรดระบบเบรค และอาการของเบรคแบบต่างๆ



    ก่อนอื่นมารู้จักระบบเบรคกันก่อนครับ
    ระบบเบรค (Braking System)
    เบรก (Brake) ทำหน้าที่ชลอความเร็วของรถ หรือทำให้รถหยุด ตามความต้องการของผู้ขับรถ รถส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ใช้การถ่ายทอดแรงเหยียบ ที่แป้นเบรค ไปถึงตัวอุปกรณ์หยุดล้อ ด้วยระบบไฮดรอลิกซ์ (Hydraulic)

    กล่าวคือ ในขณะที่เราเหยียบเบรคลงที่แป้นเบรค แรงเหยียบนี้ จะถูกส่งไปที่แม่ปั้มน้ำมันเบรค (Master Cylinder) เพื่อทำหน้าที่อัดแรงดันน้ำมันเบรค ออกไปตามท่อน้ำมันเบรค ผ่านวาล์วแยก ส่วนน้ำมันเบรค ไปจนถึงตัวเบรค ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณดุมล้อ และที่ตัวเบรค ก็จะมีลูกปั้มน้ำมันเบรค เมื่อได้รับแรงดันมา ลูกปั้มน้ำมันเบรคจะดันให้ผ้าเบรค ไปเสียดทานกับชุดจานเบรคที่อยู่ใกล้ กับจานดิสก์เบรค หรือ ดรัมเบรค เมื่อเกิดความฝืดขึ้น ล้อก็เริ่มหมุนช้าลง เมื่อเพิ่มน้ำหนัก เหยียบเบรคเข้าไปอีก แรงดันน้ำมันเบรคเพิ่มมากขึ้น ก็ยิ่งมีความฝืดที่ล้อเพิ่มขึ้น รถก็จะชลอความเร็วลง จนรถหยุดในที่สุด













    รูป รูป  
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Vivify : 15-12-2011 เมื่อ 17:08
    Ik-Q
    E-mail: [email protected]
    Board: ISUZU FASTER & CHEVY LUV KB-KBD THAILAND http://www.thaiscooter.com/isuzuclub

    Chevrolet LUV Pickup Short Bed (Isuzu KB20/Model Year 1977)
    Engine: Swap from Isuzu G161z Gasser to Isuzu C190 Diesel from ELF KA Series W/Flywheel, Clutch Disc, Pressure Plate & 5-Speed Manual Transmission from P'up
    Additional Upgrade
    - P'up Front Dise Breaks
    - Rodeo 96 Rear End 9/43 Limited Slip
    - TFR Rear Drum Breaks
    - C223 BOSCH VE Type Injection Pump W/Boost Compensation from WLT Engine
    - C223T Crankcase
    - C223T Turbocharge

  2. #2
    Vivify's Avatar
    วันที่สมัคร
    May 2007
    สถานที่
    ISUZU FASTER & CHEVY LUV KB-KBD THAILAND
    ข้อความ
    458
    ขอบคุณ
    2
    ได้รับขอบคุณ 6 ครั้ง ใน 6 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    17

    Exclamation ดรัมเบรค (Drum Brake)

    ดรัมเบรค (Drum Brake)
    ในชุดเบรคแบบดรัม ประกอบด้วยตัวดรัม (Drum) เป็นโลหะวงกลมยึดติดกับดุมล้อ หมุนไปพร้อมล้อ และชุดฝักเบรค ซึ่งประกอบด้วยผ้าเบรค กลไกปรับตั้งเบรค สปริงดึงกลับ และลูกสูบปั้มเบรค ซึ่งสายน้ำมันเบรค ก็จะมาเชื่อมต่อกับตัวลูกสูบนี่แหละ ในการดันผ้าเบรคให้ไปเสียดทานกับดรัม เพื่อให้เกิดความฝืด













    รูป รูป  

  3. #3
    Vivify's Avatar
    วันที่สมัคร
    May 2007
    สถานที่
    ISUZU FASTER & CHEVY LUV KB-KBD THAILAND
    ข้อความ
    458
    ขอบคุณ
    2
    ได้รับขอบคุณ 6 ครั้ง ใน 6 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    17

    มาตรฐาน ดิสก์เบรค (Disc Brake)

    ดิสก์เบรค (Disc Brake)
    ชุดดิสก์เบรค ประกอบด้วย แผ่นจานดิสก์ ติดตั้งลงบนแกนเพลาล้อ เมื่อรถเคลื่อนที่ แผ่นจานดิสก์ จะหมุนไปพร้อมล้อ จากนั้นจะมีอุปกรณ์ที่เราเรียกว่า คาลิปเปอร์ (Caliper) ที่เรียกกันทั่วไปว่า "ก้ามปูเบรค" สำหรับตัวคาลิปเปอร์ จะติดตั้งโดย ครอบลงไปบนจานดิสก์ (ไม่หมุนไปพร้อมล้อ) ภายในคาลิปเปอร์ มีการติดตั้งผ้าเบรคประกอบอยู่ทางด้านซ้าย และขวาของจานดิสก์ และจะมีลูกปั้มน้ำมันเบรคติดตั้งอยู่ด้วย ซึ่งท่อน้ำมันเบรค ก็จะติดตั้งเชื่อมต่อกับลูกปั้มเบรคนี้ เมื่อใดที่มีการเหยียบเบรค ลูกปั้มเบรค ก็จะดันให้ผ้าเบรค เลื่อนเข้าไปเสียดทาน กับเแผ่นจานดิสก์ เพื่อให้เกิดความฝืด













    รูป รูป  

  4. #4
    Vivify's Avatar
    วันที่สมัคร
    May 2007
    สถานที่
    ISUZU FASTER & CHEVY LUV KB-KBD THAILAND
    ข้อความ
    458
    ขอบคุณ
    2
    ได้รับขอบคุณ 6 ครั้ง ใน 6 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    17

    มาตรฐาน หม้อลมเบรค (Brake Booster)

    ดรัมเบรค เป็นอุปกรณ์เบรคมาตรฐาน สำหรับรถยนต์ รุ่นเก่าหน่อย ต่อมาเมื่อมีการใช้ดิสก์เบรคกันมากขึ้น ก็จะเห็น ระบบดิสก์เบรคสำหรับล้อคู่หน้า และดรัมเบรคสำหรับล้อคู่หลัง และในปัจจุบัน ก็สามารถเห็นรถยนต์ที่ ติดตั้งดิสก์เบรคมาทั้ง 4 ล้อ แต่อย่างไรก็ตาม การจะใช้ระบบเบรคแบบดิสก์ หรือดรัมนั้น ขึ้นอยู่กับการ ออกแบบ ระบบของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์แต่ละรุ่นอยู่แล้ว เพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ดี

    ระบบช่วยผ่อนแรงการเหยีบเบรค
    อุปกรณ์ช่วยผ่อนแรงในการเหยียบเบรคคือ หม้อลมเบรค (Brake Booster) ซึ่งทำงานด้วยสูญญากาศ (Vacuum) ภายในหม้อลมเบรค จะมีแผ่นไดอะเฟรมอยู่ และที่ตัวหม้อลมเบรคนี้เอง จะมีท่อต่อออกไป เชื่อมต่อกับท่อไอดี เมื่อเครื่องยนต์ทำงาน ก็จะดูดเอาอากาศที่ท่อไอดีเข้าไปเผาไหม้ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ หม้อลมเบรค ถูกดูดอากาศไปใช้งานด้วย ความดันอากาศในหม้อลมเบรค จึงต่ำลงเข้าใกล้ระดับสูญญากาศ













    รูป รูป  

  5. #5
    Vivify's Avatar
    วันที่สมัคร
    May 2007
    สถานที่
    ISUZU FASTER & CHEVY LUV KB-KBD THAILAND
    ข้อความ
    458
    ขอบคุณ
    2
    ได้รับขอบคุณ 6 ครั้ง ใน 6 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    17

    มาตรฐาน

    ในกรณีที่เครื่องยนต์ดับ ภายในหม้อลมเบรค ก็ยังคงมีสภาพเป็สูญญากาศอยู่ ดังนั้น หลังจากที่เครื่องยนต์ไม่ทำงาน เรายังคงเหยียบเบรคได้อย่างนุ่มนวล อีกเพียงแค่ 2-3 ครั้ง เพราะอากาศด้านนอกหม้อลมเบรค ก็จะเข้าไปอยู่ในหม้อลมเบรค ในขณะที่ไม่มีการดูดเอาอากาศภายในหม้อลมเบรคไปใช้งาน (เพราะเครื่องยนต์ ไม่ทำงาน ไม่มีการดูดไอดีไปใช้งาน) เมื่ออากาศเข้าไปบรรจุดอยู่ในหม้อลมเบรค จนเต็ม ก็ไม่มีแรง จากหม้อลมเบรค มาช่วยดันลูกสูบในแม่ปั้มเบรค ทำให้ผู้ขับจะต้องออกแรงเหยียบแบรคมากขึ้นไปด้วย

    ระบบเบรค 1 วงจร และ 2 วงจร
    ระบบเบรคแบบ 1 วงจร จะทำการจ่ายน้ำมันเบรค จากแม่ปั้มเบรค กระจายไปให้กับเบรค ทั้ง 4 ล้อ ซึ่งมีข้อเสียคือ เมื่อน้ำมันเบรค เกิดรั่วไหล ณ จุดใดจุดหนึ่ง ของระบบเบรค เมื่อเหยียบเบรค แรงดันน้ำมันเบรค ก็ไม่สามารถ ไปดันลูกสูบเบรคให้ขยายตัวได้เต็มประสิทธิภาพ เพราะน้ำมันเบรคไหลออกไปที่จุดรั่ว ทำให้ผู้ขับไม่สามารถควบคุม การหยุดรถได้ อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจเกิดอันตรายได้ในที่สุด

    รถยนต์ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน จะใช้ระบบเบรค 2 วงจร กล่าวคือ ตัวแม่ปั้มเบรค จำทำการปั้มน้ำมันเบรคออกไป 2 ท่อ เพื่อไปเบรคล้อ 2 คู่ เพราะเมื่อเกิดเหตุรั่วใหลของน้ำมันเบรค ตามท่อส่งน้ำมันเบรค หรือบริเวณจุดรั่วที่ใดที่หนึ่ง ระบบเบรคของล้อคู่นั้นก็ไม่สามารถทำงานได้ แต่ล้อที่เหลืออีกคู่หนึ่งก็ยังคงใช้งานได้ (ซึ่งอาจจะทำได้ไม่ดีนัก สำหรับ การหยุดรถทั้งคัน) แต่อย่างน้อยที่สุด ผู้ขับขี่ก็ยังรู้ว่า มีบางอย่างผิดปกติ เกิดขึ้นกับระบบเบรค และยังพอ มีเวลาที่จะควบคุมรถไปซ่อมแซมได้













    รูป รูป  

  6. #6
    Vivify's Avatar
    วันที่สมัคร
    May 2007
    สถานที่
    ISUZU FASTER & CHEVY LUV KB-KBD THAILAND
    ข้อความ
    458
    ขอบคุณ
    2
    ได้รับขอบคุณ 6 ครั้ง ใน 6 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    17

    มาตรฐาน

    หมายเหตุ :
    รถขับเคลื่อนล้อหน้า ใช้ระบบเบรค 2 วงจรแบบไขว้ เนื่องจากน้ำหนักเครื่องยนต์ เกียร์ เฟืองท้าย เพลาขับ ทำให้ช่วงหน้ารถมีน้ำหนักมาก เมื่อเหยียบเบรค จุดศูนย์ถ่วง จะไปรวมอยู่ที่ล้อหน้ามาก ในกรณีที่ระบบเบรคของวงจรใดวงจรหนึ่งชำรุด ประสิทธิภาพของการเบรค จะลดลงครึ่งหนึ่งจากปกติ แต่การหยุดรถ จะยังคงมีเสียรภาพอยู่













    รูป รูป  

  7. #7
    Vivify's Avatar
    วันที่สมัคร
    May 2007
    สถานที่
    ISUZU FASTER & CHEVY LUV KB-KBD THAILAND
    ข้อความ
    458
    ขอบคุณ
    2
    ได้รับขอบคุณ 6 ครั้ง ใน 6 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    17

    มาตรฐาน

    เมื่อพอรู้จักระบบเบรคกันแล้ว ก็มาเริ่มกันเลย
    พระเอกของเราในวันนี้ คือ Chevy LUV KB20 เก่าๆ ของผมเอง
    รูปเเรก คือดรัมเบรค ติดรถเดิมๆ
    รูปที่สอง คือ ดุมดิสก์ KBZ เทียบกับ ดุมดรัมเดิม













    รูป รูป  

  8. #8
    Vivify's Avatar
    วันที่สมัคร
    May 2007
    สถานที่
    ISUZU FASTER & CHEVY LUV KB-KBD THAILAND
    ข้อความ
    458
    ขอบคุณ
    2
    ได้รับขอบคุณ 6 ครั้ง ใน 6 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    17

    Lightbulb ดิสก์เบรคหน้า Front Disc Brake

    ขั้นตอนการทำ
    1. ถอดดุมดรัมเดิมออก
    2. ตรวจเช็คสภาพ ลูกหมากปีกนก บน-ล่าง ,สกรูกันโคลง ลูกยางกันโคลงดู ถ้าสภาพไม่สมบูรณ์ ก็จัดการเปลี่ยนใหม่ซะให้หมด
    3. หลังจากตรวจสภาพ-เปลี่ยน อุปกรณ์ที่กล่าวมาในข้อ 2 เเล้ว ก็จัดการยกเจ้าดุมดิสก์อันใหม่ใส่เข้าที่เลย หลังจากนั้นก็ต่อสายอ่อนเบรค และไล่ลมเบรค เป็นอันจบครับ

    *ข้อควรปฎิบัติก่อนจะยกดุมดิสก์ใส่
    3.1 ตรวจสภาพลูกยางต่างๆ ในคาลิปเบอร์ให้ดีก่อน ทางที่ดีเปลี่ยนใหม่เลย
    3.2 ตรวจสภาพจานเบรค และผ้าเบรคดูความเรียบร้อยต่างๆ เช่น จานเบรคเป็นรอยไหม, ผ้าเบรคยังหนาอยู่รึปล่าว ถ้าบางแล้วก็ควรเปลี่ยน แต่ถ้ายังหนาอยู่ ก็เอากระดาษทรายหยาบขัดหน่อยแล้วค่อยใส่กลับเข้าที่
    3.3 ตรวจสภาพลูกปืนล้อดู มีเสียงดังไหม ถ้าสภาพไม่ดีแล้วให้เปลี่ยน แต่ถ้ายังดีอยู่ก็ล้างแล้วอัดจารบีใหม่ และซีลล้อ รั่วไหม

    อุปกรณ์ที่ใช้
    ดุมดิสก์เบรค kbz2200 1 คู่
    สายอ่อนเบรค kbz2200 2 เส้น
    ชุดซ่อมดิสก์เบรค kbz2200 1 ชุด
    ผ้าเบรค kbz2200 1 ชุด
    ลูกหมากปีกนก บน-ล่าง อย่างละ 2 ตัว
    สกรูกันโคลง 2 ชุด
    ลูกยางกันโคลง 2 ตัว













    รูป รูป  
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Vivify : 08-12-2011 เมื่อ 18:03

  9. #9
    Vivify's Avatar
    วันที่สมัคร
    May 2007
    สถานที่
    ISUZU FASTER & CHEVY LUV KB-KBD THAILAND
    ข้อความ
    458
    ขอบคุณ
    2
    ได้รับขอบคุณ 6 ครั้ง ใน 6 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    17

    Lightbulb ดรัมเบรคหลัง Rear Drum Brake

    ขั้นตอนการทำ
    1. ยกรถขึ้นขาหยั่ง ถอดล้อออก ขันน็อตยึดจานดรัมออก แล้วถอดจานดรัมออก ปลดสายเบรคมือ ถอดท่อนำมันเบรคออก
    2. ขันน็อตยึดเพลาข้างออก แล้วถอดเพลาข้างออกมา
    3. ถอดแผงเบรคเดิมออก เช็คสภาพลูกปืนล้อ และซีลล้อ แล้วใส่แผงเบรคใหม่เข้าไปแทน
    4. ใส่เพลาข้างเข้าที่ แล้วขันน็อตยึดเพลาข้างให้เรียบร้อย
    5. ต่อท่อนำมันเบรค คล้องสายเบรคมือเข้าที่ ไล่ลมเบรค ตั้งผ้าเบรคให้เรียบร้อย ใส่จานเบรค แล้วขันน็อตให้เรียบร้อย ใส่ล้อ และยกรถลง เป็นอันจบ

    *ข้อควรปฎิบัติก่อนที่จะใส่เสร็จแผงดรัมใหม่
    3.1 ตรวจสภาพลูกยางกระบอกเบรค และตัวกระบอกเบรคให้เรียบร้อย
    3.2 ตรวจสภาพสปริง และผ้าเบรคให้เรียบร้อย
    3.3 ตรวจสภาพลูกปืนล้อดู มีเสียงดังไหม ถ้าสภาพไม่ดีแล้วให้เปลี่ยน แต่ถ้ายังดีอยู่ก็ล้างแล้วอัดจารบีใหม่ และซีลล้อ รั่วไหม
    3.4 อันนี้บางคนมองข้าม มันคือสายอ่อนเบรคหลัง ต่อจากท่อนำมันเบรคที่แชสซี มาเข้าที่ Splitter ตรงเพลาหลัง ลองเช็คดูว่ายังดีอยู่ไหม ถ้าสภาพไม่ดีแล้วควรเปลี่ยน ใช้ของ ELF250 ใส่ได้เลย

    อุปกรณ์ที่ใช้
    แผงดรัมหลัง และจานเบรคของ tfr 1 คู่
    สายอ่อนเบรคหลัง ELF250 1 เส้น
    ชุดซ่อมกระบอกเบรค 1 ชุด
    ผ้าเบรค tfr 1 ชุด

    ข้อดีของการอัพเกรดระบบเบรคหลัง
    1. ระบบเบรคดีขึ้น
    2. ตั้งผ้าเบรคอัตโนมัติ
    3. อะไหล่แท้หาง่าย













    รูป รูป  
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Vivify : 08-12-2011 เมื่อ 18:10

  10. #10
    Senior Member tanawinwu's Avatar
    วันที่สมัคร
    Nov 2009
    สถานที่
    Krabi vespa club
    ข้อความ
    829
    ขอบคุณ
    1
    ได้รับขอบคุณ 2 ครั้ง ใน 2 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    15

    มาตรฐาน

    เก็บๆความรู้

  11. #11
    Vivify's Avatar
    วันที่สมัคร
    May 2007
    สถานที่
    ISUZU FASTER & CHEVY LUV KB-KBD THAILAND
    ข้อความ
    458
    ขอบคุณ
    2
    ได้รับขอบคุณ 6 ครั้ง ใน 6 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    17

    Lightbulb หม้อลมเบรค (Brake Booster)

    ทำกันมาถึงขนาดนี้ แล้วยังจะใช้หม้อลมเบรคเดิมๆ ได้ไง
    โปรดติดตามชมต่อไปครับ...

  12. #12
    Junior Member topzzz's Avatar
    วันที่สมัคร
    May 2009
    ข้อความ
    72
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    15

    มาตรฐาน

    ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ

  13. #13
    Vivify's Avatar
    วันที่สมัคร
    May 2007
    สถานที่
    ISUZU FASTER & CHEVY LUV KB-KBD THAILAND
    ข้อความ
    458
    ขอบคุณ
    2
    ได้รับขอบคุณ 6 ครั้ง ใน 6 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    17

    Lightbulb อาการเบรคแบบต่างๆ

    อาการเบรคแบบต่างๆ

    เบรคตื้อ

    เป็นอาการที่เวลาเหยียบเบรค แล้วรู้สึกว่า เบรคมันไม่ค่อยอยู่ เบรกแข็งๆ ต้องออกแรงเหยียบเบรคมากๆ อาการเบรคตื้อ เกิดมาจากหลายสาเหตุ เช่น แรงดูดสุญญากาศของหม้อลมน้อย เพราะปั้มตูดไดชาร์จเสีย หรือผ้าในหม้อลมรั่ว วาล์ว PVC หรือ Combo Vale เสีย สายลมรั่ว


    เบรคต่ำ

    เวลาเหยียบเบรคแล้วรู้สึกว่า แป้นเบรคจมลงต่ำกว่าปรกติ เหยียบค้างไว้เบรคค่อยๆจมลงๆ เป็นอาการของเบรคต่ำ ส่วนมากเกิดมาจาก ลูกยางแม่ปั้มเบรคบน มีอาการสึกหรอ หรือบวม ทำให้แรงดันเบรคลดลง ต้องออกแรงเบรคมากขึ้น หรือต้องเหยียบเบรคซ้ำๆกัน หลายๆครั้ง

    เบรคติด

    อาการเหมือนรถมีอาการเบรคทำงานอยู่ตลอดเวลา รถจะตื้อ เบรกร้อนมีกลิ่นเหม็นไหม้ เบรกปัดซ้าย-ขวา รถวิ่งไม่ออก จอดแล้วเข็นรถไม่ได้ เป็นอาการของเบรกติด ส่วนมากเกิดจาก การลูกยางกันฝุ่นของแม่ปั้มเบรกเสีย ทำให้มีน้ำซึมเข้าไปในกระบอกเบรก จนเกิดสนิมติดขัด ลูกสูบเบรกไม่สามารถเคลื่อนตัวเข้าออกได้
    การแก้ไข เปลี่ยนชุดซ่อมแม่ปั้มเบรกล่าง ถอดมาขัดสนิมออก ทั้งแม่ปั้ม และกระบอกเบรก หรือถ้ามีสนิมมากจนเกิดตามด จะทำให้น้ำมันเบรกรั่วซึมได้ ต้องเปลี่ยนลูกสูบเบรก หรือแม่ปั้มทั้งชุด

    เบรกแตก

    คืออาการ เหยียบเบรกแล้ว แป้นเบรกที่ขาเบรกจม จนแป้นเบรกกระทบกับพื้นรถ หรือนิ่มหยุ่นๆก่อนแล้วจมลงติดพื้น เมื่อเหยียบเบรกแล้วรถยังคงวิ่งที่ความเร็วเท่าเดิม เหมือนไม่มีเบรก
    สาเหตุ


    1. เกิดจากรั่วของน้ำมันเบรค เช่นสายอ่อนเบรคแตก ท่อแป๊ปเบรคแตก หรือน้ำมันเบรครั่วซึมมาเป็นเวลานาน ลูกยางแม่ปั้มเบรค และแม่ปั้มเบรคเก่า เสียหายจนน้ำมันเบรครั่วไหลออกจนหมด

    2. ผ้าเบรคหมด จนหลุดออก เป็นไปได้บ่อยครั้งที่ เวลาที่ผ้าเบรคหมดนานๆ และยังปล่อยไว้ไม่ได้รับการเปลี่ยน ผ้าเบรคจะบางมากจนหลุดออกจากฝักก้ามปูเบรค จะทำให้ลูกสูบเบรคหลุด เบรคจะแตกทันที

    3. ส่วนประกอบในระบบเกิดการหลุดหลวม เกิดได้หลายสาเหตุ เช่นสากแป้นเบรค (ที่ตั้งได้ไขไม่แน่นหลุดเกลียว หรือไม่ได้ใส่สลักล็อค) น็อตยึดขาเบรคหลุด ฝักเบรค หรือคาริบเปอร์เบรคยึดไม่แน่น และส่วนประกอบต่างๆในระบบเบรคประกอบไม่แน่นหลุดออก

    4. สายอ่อนเบรคแตก สายอ่อนที่เก่ามากๆ จะเกิดอาการบวม เวลาปกติก็ดูดี แต่พอเหยียบเบรคกลับ พองตัวเหมือนลูกโป่ง พวกนี้อันตรายมาก เวลาเหยียบเบรคเบาๆแรงดันน้ำมันเบรคต่ำก็รู้สึกดี แต่พอเวลาคับขัน เหยียบเบรคกะทันหันอย่างแรง สายอ่อนเบรคก็เกิดการรับแรงดันไม่ไหวแตกออก และการติดตั้งสายอ่อนเบรคไม่ดี เสียดสีกับล้อ และยาง หรือเสียดสีกับระบบช่วงล่างของรถ


    เบรคหมด

    คืออาการ เบรคแล้วเกิดเสียงดัง เหมือนเหล็กสีกับเหล็ก เบรคลื่นๆ เป็นอาการของเวลาที่ผ้าเบรคหมด ผ้าเบรคบางรุ่นจะมีส่วนที่เป็นตุ่มโลหะมาแตะกับจานเบ รคเพื่อให้เกิดเสียงดัง เป็นอาการส่งสัญญาณเตือน หรือติดตั้ง สวิทซ์ไฟโชว์ไว้ที่แผงหน้าปัด ต้องรีบเปลี่ยนโดยทันที เพราะจะทำให้ผ้าเบรคสีกับจนเบรคเสียหาย จนต้อเปลี่ยนจานเบรคใหม่ เสียเงินเพิ่มอีก



    เบรคสั่น

    คืออาการที่เหยียบแล้ว แป้นเบรคเกิดอากาสั่นขึ้นๆลงๆ รู้สึกได้ด้วยเท้า รถที่เบรคสั่นมากๆจะรู้สึกสั่นถึงพวงมาลัย หรือเวลาเหยียบเบรค เกิดอาการสั่นสะท้านไปทั้งคัน

    สาเหตุเกิดจาก จานเบรคเกิดการคดบิดตัว เพราะการใช้งานที่รุนแรงกินไป การลุยน้ำ (จานเบรคที่ร้อนจัด เวลาเจอน้ำมักจะบิดตัวได้ง่าย) ลูกปืนล้อหลวม น็อตล้อหลวม ผ้าเบรคสึกหรอไม่เท่ากัน อาการนี้เกิดได้ทั้งระบบดิสเบรค และดรัมเบรค

    เบรคเสียงดัง

    อาการ มีเสียงดังที่เกิดขึ้นในขณะเบรค ส่วนมากเกิดมาจาก ผ้าเบรค และจานเบรค เช่นผ้าเบรคหมด จนเหล็กผ้าสีกับจาน จานเบรคเป็นรอยมากๆเนื่องจากฝุ่น และหินที่หลุดเข้าไปเสียดสี ต้องเจียรจานเบรคใหม่ แต่ถ้าผ้าเบรคก็ใหม่ จานเบรคก็เรียบดี เสียงที่ดังมักเกิดจาก เสียงของผ้าเบรคเอง ผ้าเบรคที่ผลิตไม่ได้มาตราฐาน อัดขึ้นรูปผิดพลาด จะเกิดรอยร้าว เป็นช่องว่างให้อากาศเข้าได้จะเกิดเสียงดัง แล้วอย่าหวังเลยครับว่าใช้ไปเรื่อยๆ แล้วเสียงจะหายเอง ถือว่าน้อยมาก การเปลี่ยนผ้าเบรคใหม่ถือว่าเป็นวิธีการที่ดีที่สุดค รับ

    เบรคเฟด

    คืออาการเบรคลื่นๆ เบรคไม่อยู่ในขณะที่ใช้ความเร็วสูง หรือติดต่อกันหลายๆครั้ง หรือใช้เบรคแบบหักโหม อาการนี้เกิดขึ้นเช่น เวลาที่ขับรถมาด้วยความเร็วสูงมากๆ พอแตะเบรคครั้งแรกก็เบรกอยู่ดี พอแตะเบรคอีกหลายๆทีกลับเกินอาการลื่นเหมือนยังไม่เห ยียบเบรคเลย ถือว่าน่ากลัวมาก

    สาเหตุเกิดจาก ความร้อนของจานเบรคที่สูงเกินไป จานเบรคที่ใช้งานหนักอาจจะเกิดความร้อนสูงกว่า 1,000 องศา จานเบรกอาจเกิดการไหม้แดง เหมือนเหล็กถูกเผาไฟ และเกิดการขยายตัวมาก การระบายความร้อนของจานเบรคไม่ดี ผ้าเบรกที่มีคุณสมบัติในการทนความร้อนต่ำ จะเกิดการลุกไหม้เสียหาย ไม่สามารถจับจานเบรคให้อยู่ได้ รวมถึงน้ำมันเบรคที่คุณสมบัติในการทนความร้อนต่ำ จะทำให้น้ำมันเบรคเดือด เกิดการขยายตัวเป็นฟองอากาศ ทำให้แรงดันไฮโดลิคลดต่ำลง
    อาการเบรคเฟดนี้ ถือเป็นปัญหาของนักซิ่ง ที่ชอบใช้เบรคแบบรุนแรง เบรกบ่อยๆติดต่อกัน และ รถที่ขับด้วย ความเร็วสูง

    การดูแลรักษาระบบเบรค และข้อควรระวัง

    การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรค

    แม้ว่าจะไม่มีการรั่วหรือลดระดับลงอย่างใดก็ตาม น้ำมันเบรคควรได้รับการเปลี่ยนถ่ายปีอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพราะน้ำมันเบรคมีส่วนประกอบมาจากน้ำมันแร่ จึงมีการรวมตัวกับไอน้ำได้ง่าย ทำให้ระบบเบรคเกิดสนิม ความร้อนที่สูงเกินไปทำให้เกิดฟองอากาศในท่อน้ำมัน ฝุ่นผงที่สึกหรอของลูกยางเบรคจะเสียดสี กับแม่ปั้มเบรก ทำให้กระบอกเบรคเสียหายเร็วขึ้น น้ำมันเบรคต้องเลือกใช้ให้ตรงกับมารตราฐานที่ผู้ผลิต กำหนด เช่น DOT3 จะไม่สามารถนำน้ำมันเบรค DOT อื่นผสม หรือนำน้ำมันอื่นๆเติมแทน เพราะจะทำให้ลูกยางเบรคบวมได้

    การเช็คระยะห่างผ้าเบรค

    ในระบบดรั้มเบรค ระยะห่างระหว่างผ้า และจานเบรคที่มากขึ้น จะสังเกตได้จากการเหยียบเบรคจะต่ำลง และการดึงเบรคมือที่สูงขึ้น ระดับน้ำมันเบรคลดต่ำลง ควรต้องทำการถอดจานเบรคมาทำความสะอาด เป่าฝุ่นทิ้ง และตั้งระยะผ้าเบรคให้ชิดขึ้น การตั้งจะใช้ไขควงเขี่ยเฟืองตั้งให้หมุนตามฟันตั้ง ด้านหลังจานเบรค ใส่ล้อไขให้แน่นแล้วหมุนสังเกตถ้าล้อเริ่มหมุนฝืดขึ้ น ถือว่าใช้ได้ ทำทั้ง 2 ล้อ หรือสังเกตจากเสียงแกรกๆ เวลาดึงเบรคมือควรจะอยู่ที่ 5 – 7 แกรก

    การตรวจสอบผ้าเบรค

    ผ้าเบรคเป็นส่วนที่สึกหรอเร็วกว่าส่วนอื่น เพราะมีการเสียสีทั้งจานเบรค และฝุ่นต่างๆ ควรถอดเช็คเป็นประจำ สังเกตเปรียบเทียบกับผ้าเบรคของใหม่แกะกล่อง จะมีความหนาเป็น 100 % ผ้าเบรคที่ใช้แล้วความหนาจะลดลงเรื่อยๆ ในจุดที่ต่ำกว่า 40 – 30 % นั้นถือว่าไม่ปลอดภัย เพราะผ้าเบรคในช่วงที่เหลือน้อย การสึกหรอจะรวดเร็วกว่าหลายเท่าตัว จนถึงระดับบางมาก เนื้อผ้าเบรคอาจหลุดร่อนได้อย่างกะทันหัน เป็นผลให้แผ่นเหล็กสีกับจานเบรคจนเสียหาย เสียเงินเพิ่ม หรือถ้าผ้าเบรคหลุดออกจากฝักเบรค ลูกสูบปั้มเบรค และน้ำมันเบรคจะหลุดออก ที่เรียกกันว่าเบรคแตกนั้นเอง

    การเปลี่ยนจานเบรค

    และการเจียรจานเบรค การใช้ผ้าเบรคที่มีโลหะผสมอยู่มาก ฝุ่น หิน และการปล่อยให้ผ้าเบรคหมด จะทำให้จานเบรคเป็นรอย การขับรถลุยน้ำขณะที่จานเบรคร้อน จะทำให้จานเบรคคด หรือบิดตัว ต้องทำการเจียรจาน ด้วยเครื่องมือเจียรจานเบรก ทำได้ 2 วิธี การถอดจานเบรคมาเจียรด้วยเครื่องเจียรจาน แบบนี้ต้องใช้ค่าแรงสูงและอาจต้องมีการเปลี่ยนจารบีล ูกปืนล้อใหม่ เสี่ยงต่อเศษฝุ่นผงเหล็กปะปนกับการประกอบจานเบรคคืน และการใช้เครื่องเจียรจานแบบประชิดล้อ แบบนี้ไม่ต้องเสียเวลาถอดจานเบรค และลูกปืนล้อ แต่ความเที่ยงตรงไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับสภาพดุมล้อ และลูกปืนล้อ ว่าหลวมหรือคดหรือไม่ การเจียรจะทำให้จานเบรคบางลง จานเบรคที่บางจะทำให้เกิดการแตกร้าว และคดได้ง่าย ควรเปลี่ยนจานเบรคใหม่ถือเป็นการดีที่สุด

    การทำความสะอาดจานเบรค

    ถ้ามีจารบี หรือสิ่งแปดเปื้อน ติดอยู่ที่จานเบรค ควรใช้น้ำยาล้างจานเบรกโดยเฉพาะ ไม่ควรใช้น้ำมันอื่นๆมาทำความสะอาด หรือถ้าไมมีจริงๆ ควรใช้ทินเนอร์ 100% หรือ แอลกอลฮอลบริสุทธิเท่านั้น

    การตรวจสอบสายอ่อนเบรค

    ควรตรวจสอบเป็นประจำสม่ำเสมอ ถ้าเห็นว่ามีอาการบวม บิดคดเสียรูป ปลอกหุ้มภายนอกฉีกขาด หรือมีการเสียดสี ควรรีบเปลี่ยนทันที เพราะอาจจะเกิดการแตกได้ง่ายๆ

    การล้างและเปลี่ยนชุดซ่อมเบรค

    เบรคที่ได้รับการใช้งานอยู่เป็นประจำ ควรได้รับการเปลี่ยนชุดซ่อม จำพวกลูกยางแม่ปั้มเบรค ลูกยางลูกสูบเบรค และยางกันฝุ่น อย่างน้อย 2 – 4 ปีครั้ง หรือถ้ามีมีการลุยน้ำ ต้องรีบตรวจเช็คทันที เพระลูกยางกันฝุ่นที่เก่าหมดสภาพ จะไม่สามารถกันน้ำและฝุ่นได้ น้ำที่ซึมผ่านเข้าไปในกระบอกเบรค และแม่ปั้มเบรค จะทำลายลูกสูบเบรคให้เกิดสนิม เป็นตามด ในกระบอกเบรค ทำให้เกิดอาการเบรคติด หรือน้ำมันเบรครั่วซึม

    Credit: samrongbrakepad.com
    Ik-Q
    E-mail: [email protected]
    Board: ISUZU FASTER & CHEVY LUV KB-KBD THAILAND http://www.thaiscooter.com/isuzuclub

    Chevrolet LUV Pickup Short Bed (Isuzu KB20/Model Year 1977)
    Engine: Swap from Isuzu G161z Gasser to Isuzu C190 Diesel from ELF KA Series W/Flywheel, Clutch Disc, Pressure Plate & 5-Speed Manual Transmission from P'up
    Additional Upgrade
    - P'up Front Dise Breaks
    - Rodeo 96 Rear End 9/43 Limited Slip
    - TFR Rear Drum Breaks
    - C223 BOSCH VE Type Injection Pump W/Boost Compensation from WLT Engine
    - C223T Crankcase
    - C223T Turbocharge

  14. #14
    Senior Member
    วันที่สมัคร
    Dec 2005
    ข้อความ
    506
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 4 ครั้ง ใน 4 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    19

    มาตรฐาน

    ผมจัดการเปลี่ยนชุดหน้าเป็นดิสเรียบร้อยแล้ว ใช้ของ kbz แต่หม้อลมเบรคผมเอาของ kbz มาวางดูแล้วมันลงไม่ได้ติดซุ้มล้อ อยากอัพเกรดครับทำไงดี?
    I hate my self and want to die

  15. #15
    Vivify's Avatar
    วันที่สมัคร
    May 2007
    สถานที่
    ISUZU FASTER & CHEVY LUV KB-KBD THAILAND
    ข้อความ
    458
    ขอบคุณ
    2
    ได้รับขอบคุณ 6 ครั้ง ใน 6 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    17

    มาตรฐาน


    อ้างอิง ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ aj_lovely อ่านข้อความ
    ผมจัดการเปลี่ยนชุดหน้าเป็นดิสเรียบร้อยแล้ว ใช้ของ kbz แต่หม้อลมเบรคผมเอาของ kbz มาวางดูแล้วมันลงไม่ได้ติดซุ้มล้อ อยากอัพเกรดครับทำไงดี?
    ต้องทุบซุ้มล้อลงนิดนึงครับ ประมาณ เซนกว่าก็ใส่ได้แล้ว ของผมใส่หม้อล้อเบรค 2 ชั้น แม่ปั๊มสกายไลน์ ยังได้เลย
    Ik-Q
    E-mail: [email protected]
    Board: ISUZU FASTER & CHEVY LUV KB-KBD THAILAND http://www.thaiscooter.com/isuzuclub

    Chevrolet LUV Pickup Short Bed (Isuzu KB20/Model Year 1977)
    Engine: Swap from Isuzu G161z Gasser to Isuzu C190 Diesel from ELF KA Series W/Flywheel, Clutch Disc, Pressure Plate & 5-Speed Manual Transmission from P'up
    Additional Upgrade
    - P'up Front Dise Breaks
    - Rodeo 96 Rear End 9/43 Limited Slip
    - TFR Rear Drum Breaks
    - C223 BOSCH VE Type Injection Pump W/Boost Compensation from WLT Engine
    - C223T Crankcase
    - C223T Turbocharge

หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 1 2 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย

Bookmarks

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •