Gartner ได้เผยบทวิเคราะห์เกี่ยวกับการพัฒนาโปรแกรมบนแพลตฟอร ์มของไมโครซอฟท์ว่า Windows 8 จะเป็นจุดเริ่มต้นของยุคการโปรแกรมบนแพลตฟอร์ม WinRT (Windows Runtime) และเป็นจุดเริ่มต้นของการสิ้นสุดของยุคการโปรแกรมบนแ พลตฟอร์ม WinNT (Windows NT) โดย WinRT ได้รับการออกแบบมาให้ไมโครซอฟท์มุ่งไปสู่อนาคตที่ได้ รับอิทธิพลจากอุปกรณ์แบบพกพาได้ แต่บริษัทก็จะสนับสนุน WinNT ต่อไป เพื่อให้แอพแบบเดสก์ท็อปเดิมที่ได้รับการพัฒนาบนชุด Win32 API สามารถรันต่อไปได้ (เพื่อความสะดวก ต่อไปขอเรียกมันว่าแอพแบบ Win32 ครับ)
Gartner กล่าวว่า Windows 8 เป็นการเริ่มต้นความพยายามของไมโครซอฟท์ที่จะจัดการก ับความต้องการของตลาดและคู่แข่ง เนื่องจากมันมีชุด API สำหรับการโปรแกรมตั้งแต่โทรศัพท์ไปถึงเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งนับได้ว่าเป็นการก้าวกระโดดในเชิงเทคโนโลยีที่พว กเราไม่ได้ค่อยได้เห็นกันนัก โดยครั้งแรกของการก้าวกระโดดของไมโครซอฟท์นั้นคือการ เปลี่ยนจาก DOS ไปเป็น Windows NT ในปี 1993 และครั้งที่สองคือ Windows NT เป็น Windows XP ในปี 2001
ในบทวิเคราะห์นี้ Gartner ยังได้คาดการณ์ไว้หลายประการ สรุปได้ดังนี้

  • แอพเก่า (legacy application) และแอพแบบเดสก์ท็อปจะถูกลดความสำคัญลงใน Windows เวอร์ชันไคลเอนท์รุ่นถัดไป (เข้าใจว่า Windows เวอร์ชันไคลเอนท์ในที่นี้รวม Windows 8 และ Windows ในอนาคต)
  • ผู้ใช้ส่วนมากจะยังคงใช้แอพแบบเดสก์ท็อปนี้ไปอีก 10 ปีหรือมากกว่านั้น
  • องค์กรจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปีในการปรับใช้แอพแบบ Metro เข้ากับทุกแอพขององค์กรที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้
  • ในปี 2020 องค์กรจะใช้เวลาอยู่กับแอพแบบ Win32 เพียงร้อยละ 10 โดยแอพเกือบทั้งหมดและเบราว์เซอร์นั้นจะอยู่ในรูปของ Metro และในที่สุดแอพแบบ Win32 น่าจะไปถูกรันบนเซิร์ฟเวอร์หรือบนเดสก์ท็อปแบบเสมือน (virtual desktop) แทน

Gartner แนะนำว่าตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นไป องค์กรที่มีแผนจะพัฒนาแอพแบบ Win32 ที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ควรย้ายไปพัฒนาแอพแบบ Metro
ใครสนใจรายละเอียดเกี่ยวกับ WinRT เชิญศึกษาเพิ่มเติมได้จากข่าวเก่าครับ
ที่มา: Gartner


อ่านต่อ...