ผู้ผลิตจีนที่แข่งขันกับโครงการ Raspberry Pi ที่ได้ยินชื่อกันก่อนหน้านี้ เช่น Cubieboard หรือ Banana Pi ล้วนใช้ซีพียู Allwinner A20 เป็นส่วนใหญ่ ตอนนี้ค่าย Orange Pi หนีไปใช้ Allwinner H3 ที่มีจุดเด่น คือ เป็นคอร์ดแบบ Cortex-A7 ทำงานที่ 1.6GHz ทำให้ประสิทธิภาพการประมวลผลน่าจะสูงกว่าบอร์ดรุ่นอื ่นๆ
Orange Pi มีบอร์ดที่ใช้ซีพียู Allwinner H3 สองรุ่นใหญ่ คือ Orange Pi Plus และ Orange Pi 2 และมีรุ่นที่ใช้ซีพียู Allwinner A20 อีกสองรุ่น คือ Orange Pi และ Orange Pi Mini

Orange Pi Plus เป็นรุ่นบอร์ดขนาดใหญ่ มีพอร์ต SATA ในตัว พร้อมหน่วยความจำแฟลชขนาด 8GB พอร์ตอื่นๆ คล้ายกับ Banana Pi ได้แก่ HDMI, USB OTG, USB 2.0 4 พอร์ต, อีเธอร์เน็ตกิกะบิต, Wi-Fi ในตัว, ช่องหูฟัง, ไมโครโฟน, เซ็นเซอร์อินฟราเรด, และพอร์ตต่อบอร์ดเสริม 40 ขา

Orange Pi Mini 2 ตัด SATA และหน่วยความจำแบบแฟลชออกไป แต่ขนาดบอร์ดและน็อตยึดบอร์ดเสริมจะคล้าย Raspberry Pi มากกว่า แต่ผมยังหาข้อมูลไม่ได้ว่าระยะห่างรูต่างๆ ตรงกับมาตรฐานของ Raspberry Pi จริงหรือไม่
Orange Pi Plus ราคา 59 ดอลลาร์เท่ากับ Banana Pi M2 ส่วน Orange Pi Mini 2 ราคา35 ดอลลาร์ไม่รวมค่าส่ง นอกจากนี้ยังมีรุ่นตัด Wi-Fi ออกไป ลดราคาลงเหลือ 30 ดอลลาร์ด้วย
ทาง Orange Pi ระบุว่าจะรองรับระบบปฎิบัติการ ทั้ง Lubuntu, Raspbian, Debian, Bananian, และ Android แต่ตอนนี้บอร์ดที่ใช้ Allwinner H3 ยังมีเฉพาะ Android ให้ดาวน์โหลด
การแข่งขันเป็นผลดีต่อผู้บริโภคครับ
ที่มา - Orange Pi
China, micropc, Embedded




อ่านต่อ...