เอ.พี. ฮอนด้า วางกลยุทธ์พลิกวงการรถจักรยานยนต์ไทยสู่ยุคใหม่ ส่งมอบ 3 ประสบการณ์ใหม่สู่ไลฟ์สไตล์การขับขี่แห่งอนาคต ประเดิมด้วย Honda MSX125SF สปอร์ตมินิไบค์สุดโฉบเฉี่ยว

Name:  ap  (2).jpg
Views: 1716
Size:  42.4 KB

เอ.พี. ฮอนด้า ตอกย้ำความเป็นผู้นำแห่งวงการรถจักรยานยนต์ไทยเป็นปี ที่ 27 ติดต่อกันด้วยยอดจำหน่าย 1.35 ล้านคัน จากตลาดรวมทั้งสิ้น 1.68 ล้านคัน วางกลยุทธ์ใหม่เตรียมส่งมอบคุณค่าที่ไม่เคยเกิดขึ้นม าก่อนให้กับผู้บริโภคด้วยผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ของก ารขับขี่ที่ครบครัน นำเสนอโมเดลใหม่ถึง 10 รุ่นภายใน 2 ปี เพื่อรับมือกับตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคแห่งไลฟ์สไ ตล์ พร้อมกับวางเป้าหมายปี 2016 ไว้ที่ 1.35 ล้านคันจากตลาดรวม 1.7 ล้านคัน ประเดิมเปิดตัวรุ่นแรก Honda MSX125SF สปอร์ตมินิไบค์ที่มาพร้อมกับดีไซน์อันโฉบเฉี่ยว

Name:  Honda MSX_Catalog_B_9RGB_Low 02 (Large).jpg
Views: 1802
Size:  30.4 KB

มร.โนบุฮิเดะ นางาตะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทยเปิดเผย ว่า “ในปี 2015 ที่ผ่านมา ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยยังอยู่ในสภาวะทรงตัว มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 1.68 ล้านคัน ปรับตัวลดลงเล็กน้อยราว 1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในขณะที่ฮอนด้ามียอดจำหน่ายอยู่ที่ 1.35 ล้านคัน ครองความเป็นผู้นำตลาดเป็นปีที่ 27 ติดต่อกัน โดยสาเหตุหนึ่งที่ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไปไม่มากนักเป ็นเพราะอัตราการถือครองรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยนั้น ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว และในทางเศรษฐกิจก็ยังไม่มีปัจจัยบวกที่ก่อให้เกิดกา รซื้อขายมากไปกว่าเดิม ในขณะที่ตลาดรถบิ๊กไบค์นั้นมีฐานผู้ซื้อเป็นคนเมืองท ี่มีรายได้สูงจึงยังคงมีอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่องโ ดยในปี 2015 มียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 19,000 คัน เติบโตขึ้น 20% ในขณะที่ฮอนด้ามียอดจำหน่ายโดยประมาณอยู่ที่ 6,900 คันเติบโตขึ้นราว 26%”

Name:  MSX_0250 (Large).jpg
Views: 1758
Size:  34.8 KB

Name:  MSX_0192 (Large).jpg
Views: 1674
Size:  28.7 KB

Name:  MSX_0117 (Large).jpg
Views: 1700
Size:  20.2 KB

Name:  MSX_0055 (Large).jpg
Views: 1745
Size:  37.4 KB

“การเติบโตไม่ได้เกิดขึ้นกับรถบิ๊กไบค์เท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นกับรถราคาสูงประเภทอื่นๆ และรถประเภท Hobby ที่มีคุณค่าทางจิตใจและอารมณ์ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าผู้บริโภคชาวไทยยุคใหม่ไม่ได้ซื ้อรถเพียงเพื่อใช้สำหรับเดินทางเท่านั้น แต่ยังต้องการรถที่ให้ความสนุกในการขับขี่ หรือเพื่อแสดงความเป็นตัวตนทางสังคม กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ในที่สุด ดังนั้นแม้ฮอนด้าจะเป็นผู้นำตลาดก็ไม่อาจจะหยุดพัฒนา ได้ เราจะก้าวนำการเปลี่ยนแปลงเพื่อพลิกโฉมวงการรถจักรยา นยนต์ไทยสู่ยุคแห่งอนาคต ด้วย 3 ประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”

“ประสบการณ์แรกที่เราจะนำเสนอคือผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่ าใหม่ (New Valued Products) และผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม (Value-Added products) เพื่อส่งมอบความรู้สึกที่อยู่เหนือความคาดหวังของลูก ค้าถึง 10 รุ่นภายใน 2 ปี โดยในจำนวนนี้จะมี 5 รุ่นที่เป็นโมเดลใหม่ไม่เคยมีมาก่อนในเมืองไทยหรือที ่เรียกว่า Brand New และอีก 5 รุ่นที่เป็นการปรับโฉมแบบทั้งคันหรือ All New”

“ประสบการณ์ที่สองคือการพัฒนาเครือข่ายใหม่เพื่อส่งเ สริมไลฟ์สไตล์การขับขี่ที่แตกต่าง เริ่มจากการขยายสาขา Honda BigWing เพิ่มอีก 8 แห่ง รวมเป็น 21 แห่ง ครอบคลุมทุกหัวเมืองสำคัญทั่วประเทศภายในปีนี้เพื่อร องรับความต้องการของกลุ่มผู้ขับขี่บิ๊กไบค์ที่กำลังเ ติบโตขึ้น นอกจากนั้น เราจะพัฒนาเครือข่ายร้านคอนเซปต์ยุคใหม่ที่เรียกว่า New Valued Network ซึ่งจะเป็นร้านที่ได้รับการออกแบบให้ตอบโจทย์ผู้ใช้ร ถที่มีความเป็นตัวของตัวเองและต้องการความแตกต่าง โดยฮอนด้าจะเริ่มโครงการนี้ในปี 2017”

“ประสบการณ์ที่สาม คือการนำเสนอความสนุกสนานใหม่ๆในการขับขี่ที่หลากหลา ยผ่านศูนย์ Active Riding Center ซึ่งได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจากศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัย สู่การเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมการขับขี่ยุคใหม่ที่มีทั ้งการขับขี่เพื่อท่องเที่ยว การขับขี่แบบสปอร์ตเพื่อท้าทายสมรรถนะของรถและความสา มารถของผู้ขับขี่ หรือการขับขี่แบบออฟโรด นอกจากนี้ ที่แห่งนี้ยังจะเป็นศูนย์กลางในการเติมเต็มความต้องก ารทางอารมณ์ของผู้ที่ชอบแต่งรถอีกด้วย เพราะจะเป็นแห่งแรกที่รวบรวมอุปกรณ์แต่งรถและคอลเลคช ั่นจากฮอนด้าอย่างสมบูรณ์แบบ โดยศูนย์ Active Riding Center จะเปิดอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้น ไปที่จังหวัดเชียงใหม่ และภูเก็ต”

“สำหรับตลาดรถจักรยานยนต์ไทยในปี 2016 เราคาดว่าปัจจัยเสี่ยงเรื่องน้ำอาจส่งผลต่อภาคเกษตรก รรม แต่ด้วยมาตรการรับมือของรัฐที่ค่อนข้างรวดเร็ว และการเติบโตในภาคธุรกิจท่องเที่ยว จะยังช่วยผลักดันให้ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยเติบโตขึ้นเ ล็กน้อย และน่าจะมียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 1.7 ล้านคัน โดยฮอนด้าตั้งเป้าหมายการจำหน่ายในปีนี้ไว้ที่ 1.35 ล้านคัน ในส่วนของตลาดรถบิ๊กไบค์น่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจน แตะระดับ 25,000 คัน โดยฮอนด้าตั้งเป้าหมายไว้ที่ 10,000 คัน”

พร้อมกันนี้ เอ.พี. ฮอนด้า ยังได้ประเดิมเปิดตัวรถประเภทมูลค่าเพิ่มหรือ Value-Added Product เป็นครั้งแรกของปีด้วย Honda MSX125SF ที่ได้รับการออกแบบภายใต้คอนเซปต์ “Endorphine Clutcher” ให้เป็นสปอร์ตมินิไบค์ที่มีดีไซน์โฉบเฉี่ยวล้ำสมัย ให้อารมณ์ที่ดุดัน มีความคล่องตัวในการใช้งาน เจาะตลาดคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาสิ่งที่เหนือกว่าสำห รับการขับขี่ในเมือง

Honda MSX125SF ล้ำสมัยด้วย Sporty Dynamic Design ถ่ายทอดอารมณ์จากรถบิ๊กไบค์แนวเนคเก็ด มาพร้อมกับไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟสูงแยกดวง และไฟบอกตำแหน่งสีฟ้าในแบบ LED Line, แผงหน้าปัดแบบฟูลดิจิตอลสีฟ้า, ท่อไอเสียดีไซน์ใหม่สไตล์รถบิ๊กไบค์, ฝาถังน้ำมันแบบติดกับตัวถัง, กุญแจแบบพับได้เพื่อความสะดวกสบายในการเก็บและใช้งาน และโช้คหน้าแบบหัวกลับ

ในด้านระบบขับเคลื่อน Honda MSX125SF มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 จังหวะขนาด 125cc ระบบหัวฉีด PGM-FI ระบายความร้อนด้วยอากาศ พร้อมสวิทช์สำหรับเปิด-ปิดเครื่องยนต์เพื่อความปลอดภัย ดิสก์เบรกหน้า-หลัง พร้อมคาลิปเปอร์สีแดงเข้าชุดกับล้อแม็กสีดำและยางหน้ ากว้างพิเศษ

เอ.พี.ฮอนด้าพร้อมวางจำหน่าย MSX125SF ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศตั้งแต่วันทึ่ 26 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป ด้วยราคาแนะนำที่ 70,500 บาท โดยมีให้เลือกทั้งสิ้น 4 สี ได้แก่สีแดงเบิร์นนิ่งเรด, สีเหลืองไฮเปอร์เยลโลว์, สีขาวบูสเตอร์ไวท์, สีดำอีคลิปส์แบล็ค

ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.aphonda.co.th และติดตามกิจกรรมต่างๆของเอ.พี. ฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊ค www.facebook.com/hondamotorcyclethailand.com