ต้องบอกเลยว่าหน้าฝนนั้นมาถึงอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ดังนั้น สิ่งสำคัญที่เราควรทำก็คือการเลือกยางรถที่เหมาะสมกั บฤดูกาลนั่นเอง ยางรถแบบไหนกันนะคะ ที่เป็นยางรถดีๆ ใช้ในหน้าฝนแบบปลอดภัยไร้กังวล โอโห อยากรู้กันแล้วล่ะสิ ขอบอกเลยค่ะว่านาทีนี้ต้องเป็นยางรีดน้ำเท่านั้นเนอะ ยางรีดน้ำ เป็นยางอะไร แล้วมีคุณสมบัติแบบไหนกันแน่ พร้อมแล้วมาส่องกันค่ะ

ยางรีดน้ำ
ยางที่มากับรถยนต์ เป็นยางที่มีร่องระหว่างดอกยาง โดยเป็นเส้นตรง ยางเหล่านี้สามารถใช้งานได้ บนถนนที่เปียกฝนและถนนที่แห้งได้ไม่แพ้กันเลยทีเดียว ยางที่เหมาะสมกับการรีดน้ำจะมี ลวดลายเป็นร่องๆ เหมาะสมกับการรีดน้ำยางออกไป โดยตอนที่เราขับรถบนพื้นที่เปียกนั่นเอง บอกได้คำเดียวว่าง่ายอย่างมาก
เคล็ดลับของการใช้ยางรีดน้ำ
สำหรับใครที่ใช้ยางรีดน้ำ ควรเลือกยางที่ขอบสูงราวๆ 65 เปอร์เซ็นต์ หน้ายางจะทำให้การทรงตัวของรถนั้นยอดเยี่ยมกว่าเดิม รถยนต์และรถเก๋งบ้านจะไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไร เพรยางค์ซีรีส์ไม่ค่อยจะสูงสักเท่าไร แต่ในขณะที่รถปิ๊กอัพหรือว่ารถเก๋งมักจะเกิดปัญหามาก ทีเดียว ยางรีดน้ำเป็นยางที่ดีและเหมาะสมกับการใช้ช่วงหน้าฝน เอามาก ๆเลยทีเดียว โดยสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการใช้ยางก็คือการที่เราน ั้นไม่ใช้ยางที่หมดสภาพนั่นเอง ยางที่ผ่านการปะ ก็ไม่ต้องเอามาใช้กับล้อหน้าจะดีที่สุด หากว่ายิ่งเราเอามาใช้ก็ยิ่งเกิดความเสี่ยงที่สูงมาก ในการก่อให้เกิดปัญหาในขณะที่เรานั้นขับรถนั่นเอง

เคล็ดลับของการขี่รถ ขับรถหน้าฝน
สำหรับเคล็ดลับง่ายๆ ก็คือการที่เรานั้นพยายามที่จะเช็คสภาพของล้อยางให้ด ี พร้อมกันนั้นเรื่องของที่ปัดน้ำฝน ที่ฉีดน้ำหน้ากระจกก็ต้องพยายามตรวจสอบให้บ่อยที่สุด เพราะว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากนะคะ การที่เรานั้นละเลยเรื่องของยาง นอกจากจะทำให้เราเกิดปัญหาต่างๆ มากมาย ทำให้รถไถลได้ เสียการทรงตัวได้เลยทีเดียวค่ะทุกคน อย่าให้คนที่นั่งมากับเราต้องเสี่ยงกับเราเลยดีที่สุ ด บางคนคิดว่าเรื่องของบางไม่จำเป็น ใครล่ะ จะสามารถขี่รถขับรถตากฝนบ่อยๆ ได้ ฝนไม่ได้ตกทุกวันเสียหน่อย จะไปเปลี่ยนยางให้เปลืองทำไม แต่หากว่าคุณ เป็นคนที่ใช้รถประจำทุกวัน ต้องขับตอนเช้าและตอนเย็น เรื่องแบบนี้อย่ามองข้ามไปเลยจะดีกว่านะคะ เพราะบางทีอาจจะส่งผลร้ายกับรถของเราได้มากเลยค่ะ

ปัญหารถสตาร์ทไม่ติด หน้าฝนส่วนมากจะเกิดตอนที่เครื่องเย็นนั่นเองค่ะ ซึ่งเราจะต้องวอร์มเครื่องก่อนจะดีที่สุด อย่าปล่อยให้เครื่องเย็นนาน อ้อ แล้วอย่าลืมเช็คหัวเทียนด้วยค่ะ ถ้ารถไม่ติด แบบนี้มีความเป็นไปได้สูงมากเลยนะคะ ว่ารถของเราเนี่ย เกิดปัญหาหัวเทียน ยิ่งใครที่ขับรถมาได้ประมาณ 40000 – 60000 กิโลเมตรยิ่งต้องให้ความสำคัญมากกว่าเดิมเลยนะคะ ก็ต้องลาไปก่อนค่ะ ขอให้การขับรถราบรื่นนะคะ