ช่วงปลายปีเป็นช่วงฤดูหนาว สภาพอากาศหลายพื้นที่มีอุณหภูมิลดลง อากาศที่เปลี่ยนแปลงจะส่งผลต่อรถยนต์ เมื่ออากาศเย็นระบบการทำงานต่างๆจะทำงานไม่เต็มที่ โดยเฉพาะหากอยู่ในบริเวณที่สูงทางภาคเหนือที่มีอุณหภ ูมิต่ำ เช่น บนภูเขา บนดอย มีข้อมูลและคำแนะนำ การดูแลรถในฤดูหนาวมาแนะนำกันดังนี้

1. ความชื้น

สิ่งที่ต้องรับมือกับอากาศเย็น อันดับแรกคือความชื้นที่มากับความเย็น ควรใช้น้ำมัน Sonax ไล่ความชื้น ที่มีขายตามร้านเครื่องมือช่าง พ่นในห้องเครื่องบริเวณขั้วไฟหรือ สายไฟให้ทั่ว เพื่อป้องกันความชื้น และหนูจะเข้าไปกัดสายไฟได้ เนื่องจากห้องเครื่องยนต์มีอุณหภูมิที่อุ่นสบายกว่าภ ายนอก การพ่นน้ำมัน Sonax จะช่วยไล่หนูได้ เพราะหนูจะไม่ชอบกลิ่น เหม็นของน้ำมัน Sonax


2. ควรเปิดสวิตซ์กุญแจให้นานหน่อย

ตอนเช้าในฤดูหนาวที่อากาศหนาวจัดต่ำกว่า 5 องศาลงไปควรเปิดสวิตซ์กุญแจหัวเผาให้นานหน่อยก่อนจะส ตาร์ทเครื่องยนต์ ควรจะเหยียบคลัทช์ช่วยในการสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยเมื ่อเครื่องยนต์ติดแล้วควรปล่อยให้เครื่องยนต์เดินเครื ่องไว้ประมาณ 15 นาทีเป็นอย่างน้อย (ให้เครื่องร้อน) เนื่องจากอากาศหนาวจัดทำให้น้ำมันเครื่องเกิดอุดตันไ ด้


3. แบตเตอรี่

ในสภาพอากาศที่เย็นมากๆ จะลดความสามารถในการสตาร์ทขณะเครื่องเย็นของแบตเตอรี ่ ควรตรวจสอบแบตเตอรี่และเปลี่ยนเมื่อกำลังไฟในการสตาร ์ท พร้อมตรวจเช็คขั้วแบตเตอรี่ว่าหลวมหรือมีขี้เกลือหรื อเปล่า



4. อุ่นเครื่อง

พอสตาร์ทเครื่องติดแล้ว ไม่ควรเร่งเครื่องแรงๆ ให้ค่อยๆ เร่งเพื่อเป็นการวอร์มแบตเตอรี่ สัก 15 นาทีเป็นอย่างน้อย เนื่องจากเวลาอากาศเย็น น้ำมันหล่อลื่นจะจับตัวกัน มีความหนืด ทำให้การขับเคลื่อนของเครื่องยนต์ช้าลง สตาร์ทเครื่องติดแล้วควรปล่อยทิ้งไว้ (อุ่นเครื่อง) สักพัก เพื่อให้น้ำมันเครื่องได้ไหลเวียนกระจายไปหล่อลื่นชิ ้นส่วนต่างๆได้ทั่วถึง จากนั้นก็ออกรถได้แล้ว เพื่อให้ตอนออกรถ น้ำมันเครื่องไม่หนืดจนเกินไป


5. ที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้า

ตรวจเช็คใบปัดน้ำฝน อุณหภูมิที่เย็นลงอาจทำให้ใบปัดน้ำฝนมีสภาพแข็งเปราะ บวกกับพวกสิ่งสกปรกทำให้เวลามีหมอก ทำให้การปัดไล่ความเย็นที่ติดกระจกลดลงควรเปลี่ยนใหม ่หรือใช้น้ำอุ่นเช็ดให้สะอาด

5. ยางรถยนต์
อุณหภูมิที่เย็นอาจทำให้ความดันลมยางลดลง ดังนั้นต้องมั่นใจว่ายางมีการเติมลมอย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น และช่วยยืดอายุการใช้งานของยางได้ และอย่าลืมตรวจเช็คการสึกหรอของดอกยางด้วย



6. สายพานและท่อ

อุณหภูมิที่เย็นจัดอาจส่งผลให้สายพานฉีกขาดหรือแตกใช ้งานไม่ได้ ในช่วงของการเปลี่ยนฤดูจึงควรมีการตรวจสอบและเปลี่ยน สายพานหากจำเป็น



7. ระบบไล่ฝ้า

ฝ้าที่กระจกรถด้านนอก เกิดจากอุณหภูมิภายนอกสูงกว่าภายใน และฝ้าที่กระจกด้านในเกิดจากอุณหภูมิภายในรถสูงกว่าภ ายนอก สำหรับการตรวจเช็คระบบไล่ฝ้าก็ทำด้วยการทดลองเปิดใช้ งานระบบทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ตรวจดูว่าระบบทำงานปกติหรือไม่ ถ้ามีจุดใดเสียก็ให้รีบซ่อมแซมเสียแต่เนิ่นๆ เพื่อความปลอดภัย



8. ระบบเบรก

ก่อนขับรถทุกครั้งการตรวจเช็คผ้าเบรกกับน้ำมันเบรกคื อสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เริ่มด้วยการดูผ้าเบรกว่าเหลือมากน้อยขนาดไหน ต่อมาคือการดูจานเบรกว่าสึกลึกลงไปเท่าใดแล้ว รวมถึงสังเกตลักษณะของจานเบรกว่ามีความคดหรือไม่ สิ่งสุดท้ายคือดูน้ำมันเบรกว่าเหลือเท่าไหร่ถ้าน้อยก ็ให้เติมลงไป และหากเป็นไปได้ก็ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกปีละครั้ง เพื่อเป็นการไล่ความชื้น และทำให้การเบรกมีประสิทธิภาพสูงสุดตลอดเวลา



9. สัญญาณไฟ

ระบบไฟทั้ง ไฟเลี้ยว ไฟเบรก และไฟตัดหมอก เพราะในช่วงฤดูหนาวที่อาจมีหมอกลงจัดในบางช่วงทัศนวิ สัยการมองเห็นจะลดน้อยลงอย่างมาก ซึ่งถ้าไฟต่างๆ ที่กล่าวมาเกิดชำรุดใช้งานไม่ได้ นั่นอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นอย่างไม่คาดค ิด ดังนั้นผู้ขับขี่จึงควรตรวจสอบและเปลี่ยนหลอดไฟให้สว ่างและใช้งานได้ตามปกติอยู่เสมอ


การใช้รถในการเดินทางไม่ว่าจะสภาพอากาศแบบไหน ไม่ควรประมาทและระมัดระวังทุกครั้ง เพิ่มความคุ้มครองรถจากทุกภัย ด้วยประกันรถยนต์ https://www.smk.co.th/premotor.aspx