หลายครั้งเมื่อขับขี่รถบนท้องถนน อาจพบ รถพยาบาล รถฉุกเฉิน หรือรถดับเพลิง เปิดสัญญาณไฟและเสียง เพื่อขอทางเพื่อจะเดินทางไปให้ถึงที่หมายเร็วที่สุดเ พื่อช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วยจากอุบัติเหตุ หรือเพื่อช่วยระงับเหตุร้าย ทำให้หลายคนอาจจะตกใจจนไม่มีสติ ปฏิบัติตัวไม่ถูกต้อง วันนี้มีวิธีการปฏิบัติมาแนะนำกันดังนี้


1. เมื่อเห็นสัญญาณไฟและได้ยินเสียงสัญญาณไซเรนก็มักจะต กใจและทำอะไรไม่ถูก ดังนั้นก่อนอื่นเราควรตั้งสติ



2. พยายามมองกระจกหลังเพื่อดูระยะของรถพยาบาลที่วิ่งมา



3. เมื่อพิจารณารถรอบข้าง ทั้งซ้ายและขวาที่อยู่ใกล้แล้วพบว่าไม่มีอันตราย และสามารถเบี่ยงชิดซ้ายได้ ให้ผู้ขับขี่ลดความเร็วรถและเบี่ยงซ้ายเพื่อหลีกทางใ ห้รถพยาบาลทันที



4. หากไม่สามารถหลีกทางได้ เนื่องจากรถที่ติดหนาแน่นให้หยุดหรือชะลอรถเพื่อให้ร ถพยาบาลผ่านเราไปให้ได้



5. กรณีรถติดและรถพยาบาลอยู่ด้านหลังพอดีให้เลือกว่าควร ชิดซ้ายหรือชิดขวาดี หลังจากเลือกว่าจะหลบทางไหนและเปิดไฟเลี้ยว เพื่อให้สัญญาณให้รถพยาบาล ได้แซงผ่านไปได้สะดวก



6. เมื่อรถพยาบาลวิ่งผ่านไปแล้วห้ามขับตามเด็ดขาด



จากการเก็บสถิติของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ พบว่าที่ผ่านมาผู้ป่วยฉุกเฉินต้องเสียชีวิต ก่อนถึงโรงพยาบาลมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ เพราะการจราจรติดขัด และการไม่รู้วิธีหลบให้รถฉุกเฉินที่ถูกต้อง ซึ่งการไม่หลบรถที่มีสัญญาณไฟสีแดงและเสียงสัญญาณ ตาม มาตรา 76 พ.ร.บ.จราจร ทางบก พ.ศ. 2522 และตามมาตรา 75 มีความผิดปรับไม่เกิน 500 บาท ทั้งนี้รถฉุกเฉินที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ หากเปิดไฟและสัญญาณแล้วเมื่อไปชนใครหรือใครมาชนรถฉุก เฉินไม่มีความผิด ฉะนั้นหากเห็นรถฉุกเฉินขอทางควรรีบหลีกทาง

การทำประกันรถยนต์ เป็นอีกหนึ่งทางที่จะช่วยลดความเสี่ยง และให้ความคุ้มครองในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันข ึ้น