แม้ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูฝน แต่หลายวันก็พบว่า สภาพอากาศร้อนอบอ้าวกว่าแต่ก่อน อันเกิดจาก “ภาวะโลกร้อน” หรือการที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นจากภาวะเรือ นกระจก (Greenhouse effect) แต่ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา องค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ออกมาประกาศว่า “ยุคภาวะโลกร้อนสิ้นสุดลงแล้ว พวกเรากำลังอยู่ในยุคภาวะโลกเดือด” แล้ว “ภาวะโลกเดือด” ที่ UN และนักวิชาการทั่วโลกออกมาเตือนคืออะไร ส่งผลอย่างไรกับรถยนต์ได้บ้าง (ขับรถหน้าร้อนให้ปลอดภัย ต้องระวัง ! https://www.smk.co.th/newsdetail/3023)

[size=large]ภาวะโลกเดือด คืออะไร?[/size]
ภาวะโลกเดือด คือภาวะที่โลกกำลังเผชิญกับปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงส ภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรง หรือมนุษย์กำลังเข้าสู่ช่วงของยุคที่ร้อนขึ้น ซึ่งหมายความว่าโลกกำลังร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา เป็นเดือนที่ “ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์” ในรอบ 120,000 ปี ขณะที่องค์กร NASA ที่ติดตามตรวจวัดอุณหภูมิจากสถานีตรวจอากาศนับหมื่นแ ห่ง ก็พบว่าอุณหภูมิเฉลี่ยในเดือนกรกฎาคม 2566 ถือเป็นเดือนที่ “ซีกโลกเหนือ” ร้อนที่สุดในรอบ 170 ปี และน้ำแข็งก็จะละลายไวขึ้น 6 - 7 เท่า เมื่อเทียบกับ 25 ปีก่อน

ภาวะโลกเดือดสะท้อนผ่านความเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศแ ละภัยธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ไล่ตั้งแต่เรื่องความผันผวนทางสภาพอากาศ ความเปลี่ยนแปลงทางสภาพแวดล้อม น้ำท่วมฉับพลัน ภัยแล้งจากเอลนิโญ ไปจนถึงคลื่นความร้อนที่นำไปสู่ปัญหาไฟป่า และการเสียชีวิตของผู้คนหลายร้อยคนทั่วโลกจากโรคฮีตส โตรก (รับมืออากาศร้อนทะลุ 40 องศา https://www.smk.co.th/newsdetail/401)

[size=large]สาเหตุของโลกเดือด[/size]

รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ปัจจุบันมีอุณหภูมิสูงกว่าอดีต 1,000 - 10,000 ปี มาจาก 4 ปัจจัยหลัก ดังต่อไปนี้

1. การกระทำของมนุษย์จากการปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจกสูงขึ ้นต่อเนื่อง ทำให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 1.2 องศาเซลเซียส
2. ปรากฏการณ์เอลนีโญที่รุนแรง ทำให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นอีก 0.2 - 0.3 องศาเซลเซียส
3. ช่วงเวลาการปลดปล่อยพลังงานสูงจากดวงอาทิตย์ ทำให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 0.05 องศาเซลเซียส
4. การระเบิดของภูเขาไฟ Tonga-Hunga ทำให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 0.035 องศาเซลเซียส

การกระทำของมนุษย์อาจจะเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญ ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและโลก ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลังงานจากฟอสซิล อุตสาหกรรม โรงงานขนาดใหญ่ต่าง ๆ การตัดไม้ทำลายป่า การทำปศุสัตว์ การขนส่ง การคมนาคม และอีกมากมายหลายปัจจัยที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของมนุษย์

[size=large]ทางรอดจากภาวะโลกเดือด[/size]

ภาวะโลกเดือดย่อมส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโ ลก รัฐบาลจึงมีส่วนสำคัญในการจัดการและรับมือกับความเปล ี่ยนแปลงทางสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหาเอลนีโญที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็ นอยู่ของประชาชน ซึ่งในแต่ละประเทศก็ได้ออกกฎหมายและข้อตกลงมาจัดการก ับปัญหา เช่นเดียวกับประเทศไทยที่ก็มีการเตรียมพร้อมรับมือกั บสถานการณ์ปัญหานี้

[size=large]อากาศร้อนส่งผลอะไรกับอุปกรณ์รถยนต์บ้าง[/size]

1. ยางรถยนต์
ยางกับความร้อนมักเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยถูกกัน เพราะเมื่อยางเจออากาศที่ร้อนจัดก็จะทำให้ความดันภาย ในยางเพิ่มมากขึ้นอาจทำให้แก้มยางปูด ซึ่งหากยางเสื่อมสภาพ แก้มยางปูดก็จะส่งผลต่อการขับขี่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ได้

2. น้ำมันเครื่อง
หากน้ำมันเจอความร้อนที่สูงขึ้นนั่นมีผลต่อเครื่องยน ต์ด้วยเช่นกัน เพราะน้ำมันจะทำการปกป้องเครื่องยนต์ไม่ได้ดีเท่าที่ ควรจะเป็น หรือการปกป้องเครื่องยนต์ไม่ได้ประสิทธิภาพ

3. เครื่องปรับอากาศหรือแอร์รถยนต์
แอร์รถยนต์ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนใช้รถเลย ยิ่งอากาศร้อยจัดยิ่งทำให้แอร์หรือเครื่องปรับอากาศม ีการทำงานหนักมากขึ้นอาจทำให้แอร์รถยนต์ไม่เย็น เมื่อไม่มีแอร์ในรถจะทำให้รถยนต์สะสมความร้อนและอบอ้ าวราวกับอยู่อยู่ในเตาอบ

4. ระบบหล่อเย็น
น้ำหล่อเย็นนั้นมีหน้าที่หล่อเลี้ยงอุณหภูมิของเครื่ องยนต์ให้อยู่ในสภาวะที่เหมาะสมกับการทำงาน แต่ถ้าอากาศร้อนจัดก็จะทำให้การทำอุณหภูมิในห้องเครื ่องให้อยู่สภาวะที่เหมาะสมได้ยาก ซึ่งมีโอกาสที่จะทำให้เครื่องยนต์มีความร้อนเกิน

5. แบตเตอรี่
ไม่ใช่เพียงแค่อากาศเย็นที่มีผลต่อแบตเตอรี่ แต่อากาศร้อนก็ส่งผลต่อแบตเตอรี่รถยนต์ด้วยเช่นกัน ซึ่งหากอากาศร้อนจัดก็จะยิ่งทำให้แบตเตอรี่มีความร้อ นสูงขึ้นไปอีก ส่งผลในเรื่องของการจ่ายไฟไม่ทัน ทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ไฟด้วยเช่นกัน

6. เครื่องยนต์
เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดยิ่งทำให้รถมีการทำงานห นักมากขึ้น ทำให้เครื่องยนต์นั้นมีความร้อนสูงส่งผลต่ออุปกรณ์ต่ างด้วยเช่นกัน เช่นหม้อน้ำแห้ง หรือแอร์ไม่ค่อยเย็น หากมีไฟสัญลักษณ์เตือนอุณหภูมิ ก็ไม่ควรฝืนขับต่อไปเพราะจะส่งผลให้รถเกิดอาการโอเวอ ร์ฮีตได้

อากาศร้อนถือว่าเป็นอันตรายต่อรถยนต์อย่างมาก จึงควรดูแลรักษารถยนต์ให้ปลอดภัยจากความร้อนให้ได้มา กที่สุด ด้วยประกันรถยนต์ตามเวลา เลือกได้ตามใจ ให้ความคุ้มครอง 3, 6, 12 เดือน จ่ายสบาย ช่วยแบ่งเบาภาระในยามวิกฤต เพื่อความอุ่นใจเมื่อออกเดินทาง สามารถแบ่งซื้อครั้งละ 3 หรือ 6 เดือนได้ ไม่ต้องจ่ายเป็นเงินก้อน เมื่อครบกำหนด คลิกเลือกต่อประกันและชำระเงินออนไลน์ รับกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ได้ทันที ไม่ต้องกังวลว่า จะลืมต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัย บริษัทฯ จะแจ้งเตือนการต่อประกันผ่าน SMS และโทรศัพท์จากพนักงาน ก่อนประกันหมดอายุ สนใจรายละเอียด คลิก https://www.smk.co.th/productmotordetail/1020 หรือ โทร. 1596 ตลอด 24 ชั่วโมง Line : smkinsurance และสามารถติดตามเนื้อหาสาระดีๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://smkinsurance.blogspot.com