แม้สภาวะเศรษฐกิจของประเทศจะเริ่มฟื้นตัว แต่ภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนรวมถึงภาระหนี้ที่สะสมไ ว้ก่อนหน้า ก็ยังสร้างความเดือดร้อนให้กับกลุ่มบุคคลหลายกลุ่ม ส่งผลให้หลายคนที่หาทางออกไม่ได้จนตัดสินใจผิดพลาด และก่อเหตุลักขโมยสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ที่ยัง มีทรัพย์สินไว้ในครอบครอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์ที่เป็นทรัพย์สินมีค่าและราค าสูงเป็นที่ล่อตาล่อใจเหล่ามิจฉาชีพสามารถนำไปขายต่อ ยังประเทศเพื่อนบ้านแบบผิดกฎหมายและไม่สามารถติดตามค ืนกลับมาได้ และหากรถยนต์หายขึ้นมาจริงๆ แล้ว เจ้าของรถยนต์จะต้องทำอย่างไร สามารถแจ้งความได้ทันทีเลยหรือไม่

[size=large]รถหาย รถโดนขโมย ควรทำอย่างไร[/size]

1. ตั้งสติ
หากกลับมายังจุดจอดรถแล้วไม่เจอรถ อย่างแรก คือ การตั้งสติให้มั่น นึกให้ดีว่าจอดรถไว้ยังจุดไหน อาจจำผิด อาจเป็นญาติ หรือคนในครอบครัวขับรถออกไป ถ้ามั่นใจแล้วว่ารถหายแน่ ๆ ให้พยายามนึกถึงรายละเอียดของรถ รวมถึงทรัพย์สินที่อาจอยู่ภายในรถ เวลาที่นำรถมาจอด เพื่อเตรียมข้อมูลไว้แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่

2. แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
โทรแจ้งสายด่วนรถหาย 1192 จะมีเจ้าหน้าที่รับเรื่อง สอบถามรายละเอียดเบื้องต้น เช่น ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชนของเจ้าของรถ เลขทะเบียน ยี่ห้อ รุ่นรถ และสถานที่เกิดเหตุ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ในท้องที่ได้เร่งออกตามหา และสกัดจับได้ทันถ่วงที ควรจะต้องแจ้งทันทีเพราะยิ่งแจ้งความช้า ก็ยิ่งตามหารถได้ยาก หรือแจ้งความกับสถานีตำรวจที่อยู่ในพื้นที่ พร้อมระบุรายละเอียดต่างๆให้ครบถ้วน เพื่อลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน

3. โทรแจ้งกระจายข่าวเพิ่มเติม
เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้รถทั่วไปได้รับทราบถึง รูปพรรณสันฐาน ลักษณะรถที่หายเพิ่มเติม เพื่อที่จะช่วยนำมาเป็นเบาะแสในการตามหารถได้ด้วย เช่น
– ส.ว.พ91 1644
– จ.ส. 100 1137, 02-711-9451-8
– ตำรวจทางหลวง 1193
– ร่วมด้วยช่วยกัน 1677, 1678

4. แจ้งเคลมบริษัทประกันภัยรถยนต์
เมื่อแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือ โทรแจ้งกับบริษัทประกันรถเพื่อแจ้งรายละเอียดเกี่ยวก ับรถที่หาย ทางบริษัทประกันจะดำเนินการตรวจสอบไปจนถึงการติดตามร ถที่สูญหายเบื้องต้น เมื่อพิสูจน์ได้ว่ารถยนต์ที่สูญหายไปไม่สามารถนำกลับ คืนมาได้ ทางบริษัทประกันจะดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามที่ ระบุไว้ในกรมธรรม์

5. ตรวจสอบพยานหลักฐานที่อยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ
หากบริเวณรอบๆ ที่รถหาย มีคนหรือกล้องวงจรปิดอยู่ ให้สอบถามคนที่อยู่แถวนั้นเพิ่มเติม และติดต่อเจ้าของกล้องวงจรปิดเพื่อขอภาพในกล้อง และตรวจสอบดูว่ารถหายไปเมื่อใด และคนที่มาขับออกไปนั้นมีรูปพรรณสัณฐานอย่างไร เพื่อใช้ประกอบการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

6. ประกาศตามหาในโซเชียลมีเดีย
สื่อโซเชียลในปัจจุบันเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพมา ก ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ค อินสตาแกรม เอ็กซ์ หรือติ้กต้อก ผ่านแท็ก #รถหาย รวมถึงติดแท็กหา จส.100 (www.js100.com) ให้ช่วยกระจายข่าว จะทำให้มีโอกาสเจอรถได้เร็วมากขึ้น แต่ก็ต้องตรวจสอบให้ดีว่า เพจหรือกลุ่มนั้นๆเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน

7. แจ้งบริษัทไฟแนนซ์
หากรถยังผ่อนไม่หมด ควรโทรแจ้งกับบริษัทไฟแนนซ์เพื่อให้ไฟแนนซ์ติดต่อกับ บริษัทประกันทำเรื่องเคลมและคำนวณว่า เงินชดเชยที่จะได้รับเพียงพอกับจำนวนเงินที่ต้องจ่าย ให้กับไฟแนนซ์หรือไม่ หากเท่ากันก็ไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หากน้อยกว่าอาจจะต้องจ่ายต่อไปจนครบตามสัญญา แต่ถ้าหากไม่แจ้งไฟแนนซ์ว่ารถหาย เมื่อไฟแนนซ์ขอตรวจสอบรถแล้วไม่พบ อาจถูกไฟแนนซ์แจ้งความในข้อหายักยอกทรัพย์ได้

[size=large]รถหาย ป้องกันได้ด้วยวิธีง่ายๆ
[/size]

– จอดรถในที่มีแสงไฟส่องถึง สามารถมองเห็นได้ง่าย มีคนดูแล หรือมีคนพลุกพล่าน
– ดับรถและล็อกรถทุกครั้งที่ลงจากรถเพื่อไปทำธุระ
– ตรวจเช็กทุกครั้งหลังลงจากรถว่า ล็อกรถเรียบร้อยแล้ว
– ใช้อุปกรณ์ล็อกเพิ่ม เช่น ล็อกเกียร์ ล็อกล้อ ล็อกเบรก คลัทช์ และพวงมาลัย อย่างน้อยก็ช่วยถ่วงเวลาไว้ได้ ทำให้โจรขโมยรถได้ยากขึ้น
– ไม่ควรทิ้งของมีค่าไว้ในรถ
– อาจเลือกติดตั้งกล่องสัญญาณ GPS กับตัวรถ เพื่อให้สามารถติดตามรถได้ผ่าน application
– ทำประกันรถยนต์ที่ครอบคลุมกรณีรถหาย คือ ประกันชั้น 1, ชั้น 2 และ 2+ โดยเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้วจะได้รับเงินชดเชยคืนต ามจำนวนทุนประกันที่ระบุเอาไว้ในกรมธรรม์

[size=large]ประกันรถยนต์ประเภทไหน คุ้มครองรถหายบ้าง[/size]

1. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 : ซ่อมรถคู่กรณี ซ่อมรถเรา กรณีรถชน กรณีรถหาย กรณีรถไฟไหม้
คนส่วนใหญ่นิยมซื้อประกันภัยชั้น 1 เพราะคุ้มครองอุบัติเหตุ ทั้งที่มีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี รวมถึงคุ้มครองกรณีรถหาย รถถูกขโมย รถไฟไหม้อีกด้วย โดยทางบริษัทประกันจะให้ความคุ้มครองตามทุนประกันเดิ มที่ได้เลือกไว้ ซึ่งจะต้องมีเอกสารประกอบเพื่อเป็นหลักฐานเจ้าของรถค ันที่ถูกขโมย ส่วนค่าเสียหายทางประกันจะจ่ายคืนให้ตามทุนประกันเดิ มที่เลือกไว้ก่อนหน้านี้

2. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ : ซ่อมรถคู่กรณี ซ่อมรถเรา กรณีรถชน (เฉพาะรถชนรถเท่านั้น) กรณีรถหาย กรณีรถไฟไหม้
สำหรับประกันชั้น 2+ ถือว่าให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 แต่เบี้ยประกันจะถูกกว่า ซึ่งประกันชั้น 2+ นอกจากจะดูแลเรื่องการซ่อมรถให้รถเราและคู่กรณีเมื่อ เกิดเหตุรถชนกันแล้ว ก็ยังให้ความคุ้มครองกรณีรถหายด้วย ซึ่งจะให้ตามทุนประกันที่ระบุเอาไว้ในกรมธรรม์เช่นกั น

3. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 : ซ่อมรถคู่กรณี + กรณีรถหาย+ กรณีรถไฟไหม้
กรณีซื้อกรมธรรม์ชั้น 2 ก็ยังได้รับความคุ้มครองรถหายด้วยเช่นกัน เพราะสิ่งที่แตกต่างกันคือการซ่อมรถให้เฉพาะคู่กรณีเ ท่านั้น แต่หากเป็นกรณีรถหาย ทางบริษัทประกันภัยให้ความคุ้มครองเต็มที่ไม่ต่างจาก ประกันรถชั้น 1 และชั้น 2+ แต่ถ้าใครทำประกันชั้น 3 หรือชั้น 3+ จะไม่มีความคุ้มครองกรณีรถหายและรถไฟไหม้แต่อย่างใด ซึ่งหากรถโดนขโมยขึ้นมาก็อาจจะต้องแบกรับภาระต่าง ๆ เองด้วย ในกรณีที่รถยังผ่อนชำระค่างวดไม่หมด

ประกันรถยนต์ตามเวลา ชั้น 1-3+ เลือกได้ตามใจ ให้ความคุ้มครอง 3, 6, 12 เดือน จ่ายสบาย ช่วยแบ่งเบาภาระในยามวิกฤต เพื่อความอุ่นใจเมื่อออกเดินทาง สามารถแบ่งซื้อครั้งละ 3 หรือ 6 เดือนได้ ไม่ต้องจ่ายเป็นเงินก้อน เมื่อครบกำหนด คลิกเลือกต่อประกันและชำระเงินออนไลน์ รับกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ได้ทันที สนใจรายละเอียด คลิก https://www.smk.co.th/productmotordetail/1020 หรือ โทร. 1596 ตลอด 24 ชั่วโมง Line : smkinsurance และสามารถติดตามเนื้อหาสาระดีๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://smkinsurance.blogspot.com