เรื่องเก่ามาเล่าใหม่ ก้านกระทุ้งพิชิตภูทับเบิก 2009

ก็ไปมาปีแระ นั่งดูรูปแล้วฟิวมันขึ้น ทริปนี้ไปมันส์กันสองคัน-สองคน คิดถึงวันวานจริงๆ แต่ทริปนี้คงจะมีเรื่องเล่าไม่เยอะ ตั้งปีมาแล้ววว ลืม 555+ เอาเป็นว่าครั้งหนึ่งเคยมันส์ล่ะกัน พี่-น้องครับ ไปชมภาพกันโลดดดด
**ติดตามชมกันเรื่อยๆน่ะ จะค่อยๆลงรูปจนครบ ขอบคุณครับ

**สำหรับการขี่รถเที่ยวหน้าหนาววว หาถุงมือหนาๆน่ะครับ มันเย็นจี๊ดไปถึงข้างใน ส่วนเส้นทางขึ้นเหนือสาย 11 แยกจากสาย 1 แถวอินทรบุรี กลางคืนเปลี่ยวมากๆ ยังดีที่มีปั๊มเปิด 24 ชม. อยู่ปั๊มเดียวตลอดเส้นทางเลยครับ เกือบซวย 555 ก็ไปแบบไม่วางแผนอีกแล้วว





ไม่ได้เลยน่ะคนนี้ หามุมแหวกๆตลอดอ่ะ





ปรับสมดุล กันหน่อย ก็มันหนาววววววโครตตตๆ



ที่นั่งเนี่ย ไม่ได้เท่น่ะ ตะคริวหม่ำไปครึ่งขาแล้ววววว



นั้นล่ะเค้าอ่ะ



เต๊ะท่าเท่ๆ ก่อนไปต่อ ทางอีกยาวไกล

ก็ล้อหมุนจากอ่างทองกันตั้งแต่ห้าทุ่ม หลังจากผ่านเส้นทางวัดใจ จากสาย 11 เกือบได้กลิ้งกัน เพระาความชุ่ยของกรมทางหลวงที่กำลังซ่อมถนน แต่ดันไม่มีรั่วกั้นหรือสัญญานไฟเตือน พี่ท่านแกเล่นเอาหินมาวางเรียงขวางไว้ แม่เจ้าาากรูหลบแทบไม่ทัน
และเราก็มาถึง อำเภออะไรซักอย่าง ใกล้พิจิตรแระ หนาววววุ้ยยหนาววว











หม้อโว้ยยยหม้อ หิวๆๆๆๆ





สี่ล้อรุ่นเก๋าๆ กับ 2 ล้อรุ่นเก่าๆ 555+



เมิงไปทำไรฟร่ะ มามอไซค์น่ะเฟ้ยยย



มีแอบเนียนนน



หัวกระทู้ก็บอกแล้วว่าหนาวววมากกก ฟวันออกปากเลยยยย 555+

จัด รูป ให้ ครบ นะ คับ เด่ว จะ รออ ชม ต่อ..

Sr5xx
เสร็จแล้วหรอคับ
เอามาให้ชมหน่อยเด้ออย่าลืมนา

มาลุยกันต่อ งานเยอะจริงวุ้ย



หลังจากออกจากทานข้าวเช้าเสร็จ ก็มุ่งหน้าต่อ จากการสอบถามทาง จะต้องข้ามเขาเพื่อที่จะไปยัง จ. เพชรบูรณ์ โอ้ววว มันส์



จอดถ่ายรูปเนี่ยไม่ได้มีวิวสวยๆ อะไรน่ะ ก็แค่ ปวดฉี่ 555+









พ้นโค้งข้างหน้านี่ล่ะ เขาล้วนๆ





เอากันซักภาพ-สองภาพ พักรถไปในตัว อิอิ







โค้งงงงงงงงงงง หร๋อยๆ



ภาพสุดท้ายนี้มันสะท้อน ความอิสระภายใต้แสงแดดอุ่นๆ ยามเช้า ได้ดีจริงๆ

วิวสวยๆ ริมทาง





ป๊อบ say : เราบ้ากันเปล่าว่ะเพื่อน



เจมส์ say :เห้อ.. ไม่รู้ว่ะป๊อบ รถกรูยังดีอยู่ 555+(ดัดเสียงหล่อ)



วิวเยอะแยะไม่ถ่าย อะไรกะต้นสนกันว่ะ อิอิ ก็อ่างทองไม่มีนี่วุ้ย



ไอ้สามต้นตรงกลางมันขัดใจจริงๆ









เห้ยยย ป๊อบ เมิงแพ้แดดป่ะว่ะ 55 หน้ายู่เลย



ก็คนมันเยอะ คิวยาววววว ขอลัดคิวกันเลยล่ะกัน 555

ออกจากพระตำหนัก ลุยกันต่อ เป้าหมายคือ "เขาค้อ"



555+ ท่าเดิมเลยวุ้ย





อ่า จุดหมายของเรา



มาถึงอนุสรณ์สงครามอะไรซักอย่างเนี่ย มีคนสนใจรถเสียงน่ารำคาญอย่างพวกเรา อิอิ ว่ากันไม่ได้น่ะ ผมหนีมาขี่บนเขา ก็อย่าดอดมาฟัง 555+



ฐานยิงสนับสนุน





เห้ย ไอ้สองคนนี้ใช่เลย หนีทหารมาเปล่าว่ะ เอิ๊กๆๆ





น่ามันส์เนอะ ว่าม่ะ



"ก็เกิดมาเป็นแค่หมาที่เห่าเครื่องบิน....บลาๆๆๆ " เห้ยย อู้งานเรอะฟร่ะ ไอ้ตูบ เห่าๆๆๆดิเฟ้ย





เห่อๆๆ ถึงซีนตรูบ้าง หล่อสาดดด





ไอ้เด่ๆ นี่เค้าเรียกอะไรหว่า จำไม่ได้้วุ้ย

รอ ต่ อไป..อิอิ เจ๋.ง

มาม่ะ ไปลุยต่อ อู้งานเลยน่ะเนี่ย 555 วันหยุดอ่ะน่ะ



ตรงนี่น่าจะราวๆบ่ายสามโมง แวะทานข้าวกลางวัน ก่อนจะไปลุยต่อ คร่าวๆ ก็พักดื่มกาแฟเย็นที่ คอฟฟี่ฮิล แล้วไปกางเต้นนอนที่ "ภูืทับเบิก" เป้าหมายของทริปนี้



ถึงแล้ว Coffee Hill





พี่บิลครับ คนใส่หมวกไหมพรม ประทับใจมากๆครับ อัธยาศัยดีมากๆ ให้เกียรติเรา ขอถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกของทางร้านครับ















บรรยากาศเล็กน้อย จากทาง coffee Hill



ซื้อของฝากกกันหน่อย





ขอบันทึกภาพ ความทรงจำกันหน่อย

** เสียดายน่ะครับ ร้านสวยๆ บรรยากาศดีๆแบบนี้ต้องมาปิดลง เราไปทริปกันช่วงวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งก็คือวันพ่อนั้นเอง หลังจากนั้นปลายๆเดือน ร้านก็ประกาศปิดอย่างไม่มีกำหนดครับ เรื่องสาเหตุอะไรผมก็ไม่ทราบ แต่ตอนไม่ได้ข่าวว่า ย้ายที่ไปเปิดใหม่แล้ว จริงเท็จยังไง ผมก็ยังไม่ได้เช็คดู ไว้มีโอกาสได้ไปเยือนอีก จะกลับมาเล่าสู่กันฟังครับ

จาก Coffee Hill ถ้าจำไม่ผิด ก็ราวๆ 60 กม. ก็ถึงภูทับเบิก 555+ ชิวๆ CG ระดับเทพ แรงอยู่แล้ววว เดี๋ยวก็ถึง




จากทางขึ้นยอดภูทับเบิกมาไม่กี่กิโล อะจ๊ากกกก ทางกำลังทำ ชันก็ชัน หินลูกลังลอยอีก ตรูดปัดพรื่ดๆๆๆๆ Camry คันเป็นล้าน ยอมแพ้ครับ ก้านกระทุ้ง ราคาเศษเหล็กอย่างเรา กลัวที่ไหนล่ัะ เห่อๆๆ ใครลองได้ไปจะรู้ว่าทางมันชันได้ใจจริงๆ





ใกล้ถึงยอดภูแระ เก็บบรรยากาศหน่อย อุอุ





เฮ้ยยย ท่านี้เหมือนเคยเห็น ที่ไหนฟร่ะ





ภาพรถเท่ห์ๆ



ภาพคนหล่อๆ



รถ + คน หล่อขั้นเทพ 555+



นั้นล่ะ ทางขึ้นทับเบิกที่เราวิ่งผ่านกันมา ชันไม่ชันไม่รู้อ่ะ วิ่งมา เกียร์ 1 ตลอด เกียร์ 2 มัน บ่ ไป เอิ๊กๆๆ
แสงเริ่มน้อย ภาพเบลอๆ ไม่ชัดเลยวุ้ย





และแล้ว ก็ถึงยอดภูซักที จัดแจงกางเต้น ซดน้ำเย็นๆ ดับความเหนื่อยที่ผ่านมาทั้งวัน





555 ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ ที่นี่ไม่มีตู้เย็น ไม่มีเบียร์อุ่น เพียงเอามันไปตั้งไว้นอกเต้น ซักครึ่งชั่วโมง รับรอง "หายยยย" 555 ล้อเล่นครับ เย็นเชี๊ยบ ยังกะเพิ่งออกมาจากตู้เย็น เรื่องสภาพอากาศคงไม่ต้องบอกเนอะ

**ฝากถึงผู้ที่จะนำรถเล็ก แบบพวกผมไปภูทับเบิกนี้น่ะครับ เนื่องจากตามที่บอก ทางขึ้นนั้นชันมาก ผมวิ่งกันได้ที่ เกียร์ 1-2 บางช่วงเกียร์ 1 ยังไม่ไหว มีดับ ถ้าเกิดเครื่องดับ ให้รีบทำให้รถขวางลำทันที ไม่งั้นไหลถอยหลัง จะเสียหลักได้น่ะครับ มันอันตรายจริงๆ ช่องเสียบข้างทางแทบไม่มี มีก็ไหลยาวลงมาตีนภูเลยมั้ง อุอุ น่ากลัวครับ ระมัดระวังกันนิดนึง

เช้าแล้ววว เจ้าสองคันนี้คงหนาวน่าดู



เห้ยยย มันเยอะขนาดนี้เลยเนอะ





คันนี้สุดยอดครับ ตอนกลับเจอกัน โชว์ลีลาเจ้าถิ่น มีดริ๊ฟ เข้าโค้งด้วย เยี่ยมมากครับ ฝีมือล้วนๆ











ทะเลหมอก ของตรูไปไหนฟร่ะ คราวหน้า ของช่วงปลายฝนน่ะ ฮื่อๆๆๆๆ





อ่าาาา จุดหมายใหม่ เห็นป้ายขาวๆ อ่านไม่ออก ไปดุมันเลยดีกว่า



พร้อมเว้ยยยยย



กรูก็พร้อมมม ขอจิบกาแฟก่อน อิิอิ

เออ มันก็สวยดีเนอะ แต่ว่าไอ้ที่เค้าบอกว่ามันเหมือนสวิตเวอร์แลนด์นี่มั นยังไงอ่ะ ผมก็ไม่เคยไปประเทศเค้าเนอะ มันต้องมีจิงโจ้ รึเปล่า ไหนๆๆๆหว่าจิงโจ้คุง



ป๊อบ Say : เออ เจมส์ กรูว่ามันแหม่งๆน่ะ จิงโจ้ มันอยู่ออสเตเรีย ไม่ใช้หร๋อว่ะ



วู้ววววววว วิวสุดหูสุดตาาา ไว้มีเงินซื้อกล้องใหม่ก่อน จะได้มีภาพแบบ 360 ํ









เหมือน ยืนพิงกำแพงเลยว่าม่ะ



The Tracker เฟ้ยยยยยย







ไปลุยในหมู่บ้าน มีของขายเล็กๆน้อย



สายตรวจบนภูครับ

ชักภาพก่อนเดินทางกลับ อ่างทอง





เราขึ้นกันมาได้ไงว่ะเนี่ย



ไม่รู้ว่ะเพื่อน แต่ขาลงคงมันส์น่าดู



นิดนึงวุ้ย


** จบแล้วววครับ พวกเรากลับถึงบ้าน ได้โดยไม่ต้องเข็นรถ 555+ จริงๆแล้วไม่ใช่จะไม่มีปัญหาซะทีเดียว รถผมเอง ท่อหลุดครับ เอาลวดผูกมา แต่ของเพื่อนป๊อบ ครัชหมดครับ ดีน่ะมาหมดตอนลงภูมาแล้ววว เกียร์ 1-2 ต้องช่วยยันครับ แล้วก็วิ่งไหลกันมายาวๆ ถึงอ่างทอง เลย

**พบกับทริปของพวกเราได้ใหม่ในเร็วๆนี้ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาติดตามอ่านกันครับ ขอบคุณมากครับ

ดี