ว่างๆ ก็เลยวางแผนไปพิชิตทุ่งใหญ่นเรศวรด้วยเวสป้า ไปคันเดียว ซ้อนสอง สนุกแบบลุยๆ และมีการแวะซ่อมไปตลอดทางเลยครับ
ว่างๆ ก็เลยวางแผนไปพิชิตทุ่งใหญ่นเรศวรด้วยเวสป้า ไปคันเดียว ซ้อนสอง สนุกแบบลุยๆ และมีการแวะซ่อมไปตลอดทางเลยครับ
เราเริ่มออกจากเมืองกาญจน์ตอนเช้ามืดของวันที่ 28 มีนา ตั้งใจไปให้ถึงน้ำตกแม่ขมิ้นให้ได้ภายในวันเดียว
แวะจุดแรกที่ สุสานสัมพันธมิตร คนขวาเป็นคนขับ คนซ้ายเป็นเนวิเกเตอร์
มุมสวยๆ ยามเช้าที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว สัมภาระเต็มรถ รวมน้ำหนักทั้งคนทั้งของประมาณเกือบสองร้อยกิโลกรัม
เราใช้เส้นทาง เอราวัณ-ถ้ำพระธาตุ เพื่อเข้าสู่น้ำตกแม่ขมิ้น ซึ่งเป็นจุดแรกที่เราคิดจะไปให้ถึงในวันนี้
มุมสวยระหว่างทาง
พอเข้าทางลูกรังไม่นาน รถกระแทกมากๆ สายหัวเทียนหลุดจากขั้ว ต้องจอดซ่อม โดยการเอาเทปพันแผลพันไว้
อากาศร้อนมาก ยังไม่ถึงสิบโมงเช้าก็ร้อนแล้ว เราเอารถมาจอดซ่อมตรงร่มไม้ข้างทาง
เราแวะพักไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน และจอดดูสายหัวเทียนที่พันไว้เป็นระยะๆ และตั้งใจว่าจะไปซื้อเทปพันสายไฟหมู่บ้านข้างหน้า แต่เทปพันแผลทำงานได้ดีมาก
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย aong : 23-04-2007 เมื่อ 11:49
ไปต่ออีกไม่นาน คราวนี้รถตกหลุม กระแทกท่อไอเสีย คอท่อที่ออกจากเครื่องหัก ท่อไอเสียห้อยร่องแร่ง เรื่องใหญ่ ต้องหาที่ร่มจอดข้างทาง เอาหินทุบให้ท่อเข้าที่ และขโมยลวดพันธงชาติที่อยู่หน้ารั้วไร่แห่งหนึ่งมามั ดท่อ แล้วเอาเชือกที่ทำเองจากต้นกล้วยมัดธงไว้แทน
ขับลากท่อรั่วๆ ไปจนถึงปากด่านเข้าอุทยานฯ ศรีนครินทร์ เลยด่านนี้มีร้านซ่อมรถทุกชนิด แต่พอไปถึงร้าน ช่างซ่อมไม่อยู่ ก็เลยตัดสินใจและซื้อแผ่นปะหม้อจากร้านขายของชำ และตั้งใจว่าจะบุกไปให้ถึงน้ำตกแม่ขมิ้นก่อน แล้วค่อยคิดกันอีกที
บ่ายสอง มาถึงน้ำตกแม่ขมิ้นจนได้ ท่อแค่เสียงดัง แต่กำลังเครื่องไม่ตก เราเลยได้ใจ พักกินข้าวที่แม่ขมิ้นราวๆ ชั่วโมงเดียว จากตั้งใจว่าจะมาพักนอนที่นี่ ก็เปลี่ยนใจลุยต่อ วางแผนว่าค่ำไหนก็นอนนั่น เพราะมีหน่วยพิทักษ์ป่าระหว่างทางหลายแห่ง
ออกจากแม่ขมิ้นบ่ายสาม แวะดูไฟป่าข้างทาง และเดินทางต่อไปท่ามกลางฝุ่นและความร้อนแล้ง
แม่ขมิ้น > ดงเล็ก > ดงใหญ่ > เขาพระอินทร์ > ลำคลองงู > ทุ่งเสือโทน แล้วก็ถึงจะถึงทุ่งใหญ่ เหลือแค่ไม่กี่สิบกิโลเมตร เราจะถึงทุ่งใหญ่นเรศวร เครื่องรถไม่ร้อน กำลังเครื่องไม่ตก ข้ามเขางูที่สูงชันและเปียกลื่นจากฝนตกมาได้ด้วยการเ ข็นแค่ครั้งเดียว และเมื่อเข้าสู่ช่วงสุดท้าย ถนนก็เรียบขึ้นเพราะผ่านการเกรดมาใหม่ๆ เราไม่มีอุปสรรคใดๆ จนรู้สึกว่าทุ่งใหญ่อยู่แค่เอื้อมแล้ว แต่อีกใจหนึ่งก็หวั่นๆ ว่ามันง่ายเกินไปสำหรับการไปให้ถึงทุ่งใหญ่โดยขี่เวส ป้าแค่วันเดียวแบบนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย aong : 24-04-2007 เมื่อ 13:42
อีกนิดเดียวก็จะถึงทุ่งเสือโทนแล้ว รถของเราตกหลุม คราวนี้ท่อหลุดห้อยร่องแร่ง ฟ้ามืดครึ้มเนื่องจากฝนกำลังจะตก เราไม่มีเครื่องมือใดๆที่จะซ่อมเวสป้าของเราได้ ก็เลยตัดสินใจวิ่งไปแบบท่อห้อยร่องแร่ง เสียงดังเหมือนเครื่องเรือ มุ่งเข้าทุ่งเสือโทน
เป็นความผิดของผมเองซึ่งเป็นเนวิเกเตอร์ที่แอบคิดไว้ ในใจว่า เราจะถึงทุ่งใหญ่ได้ภายในวันเดียวและดึงดันที่จะเดิน ทางต่อไปเรื่อยๆ แทนที่จะนอนเล่นที่ห้วยขมิ้นให้สบายๆ สักคืน
ในแสงสุดท้ายของวัน เรามาถึงหมู่บ้านทุ่งเสือโทน ผมจำได้ว่า อีกแค่นิดเดียวก็จะถึงทุ่งใหญ่แล้ว ก็เลยสั่งให้คนขับลุยต่อไป แล้วผมก็ผิดซ้ำอีกด้วยการนำทางผิด เราก็หลงทาง เสียเวลาไปอีกราวเกือบชั่วโมงกว่าจะย้อนมาแยกเดิมเพื ่อที่จะพบว่า ทุ่งใหญ่อยู่ในป่าทึบท่ามกลางความมืดที่เราจะต้องขี่ เวสป้าไปอีก 6.5 กิโลเมตร ฟ้ามืดสนิท ฝนกำลังจะตก ฟ้าแลบแปรบปราบ กระเป๋าของเรามีกล้องและสิ่งที่เปียกฝนไม่ได้หลายอย่ าง
ผมอยากไปต่อ และคิดอยู่ในใจว่า ถ้าแค่ 6.5 กิโลเมตรสุดท้ายเราผ่านไปไม่ได้ สิ่งที่เราทำมาทั้งหมดก็ล้มเหลว
เมื่อถามคนขับว่าจะไปต่อหรือจะนอนที่โรงเรียนทุ่งเสื อโทนเสียก่อน แล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยไปต่อหรือจะลุยเลย คนขับซึ่งเป็นเจ้าของรถตอบมาได้ใจมากคือ "มาถึงนี่แล้วพี่ ก็ลุยเลย"
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย aong : 23-04-2007 เมื่อ 14:01