ข่าวความเคลื่อนไหวของกรมการประกันภัย
แนวทางปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจา กรถ (ฉบับที่4) พ.ศ. 2550 24 เมษายน 2550
พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ได้ถูกแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประ สบภัยจากรถ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2550 ยกเลิกเครื่องหมายแสดงว่ามีการประกันความเสียหายสำหร ับผู้ประสบภัยจากรถ (Sticker) โดยมีผลใช้บังคับแล้วตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2550 ที่ผ่านมา และให้กรมการขนส่งทางบก มีอำนาจหน้าที่ต้องตรวจสอบให้มีการทำประกันภัยรถตามพ ระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ก่อน จึงรับจดทะเบียนรถยนต์หรือชำระภาษีรถยนต์ประจำปีได้
นางจันทรา บูรณฤกษ์ อธิบดีกรมการประกันภัย เปิดเผยว่า เนื่องจากในขณะนี้ ยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการแก้ไขพระร าชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2550 โดยเฉพาะเรื่องการยกเลิกเครื่องหมายแสดงว่ามีการประก ันความเสียหายสำหรับผู้ประสบภัยจากรถ กรมการประกันภัย จึงได้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการขนส่งทางบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการตำรวจจราจร และสมาคมประกันวินาศภัย หารือเพื่อกำหนดวิธีการปฏิบัติให้เป็นไปในแนวทางเดีย วกัน ซึ่งผลการประชุมสรุปได้ ดังนี้
1. สำหรับประชาชน เมื่อเอาประกันภัย ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถฯกับบริษัทประกันภัย บริษัทฯ ยังคงมีหน้าที่ออกหลักฐานแห่งสัญญาเรียกว่า กรมธรรม์ประกันภัย ให้แก่ผู้เอาประกันภัย และเพื่อใช้เป็นหลักฐานว่าได้มีการทำประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถฯ ประชาชนผู้เอาประกันภัยก็ควรจะเก็บกรมธรรม์ประกันภัย นี้ไว้ในรถ หากมีการขอตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็สามารถแสดงได้
2. ในส่วนของกรมการขนส่งทางบก เมื่อกฎหมายฉบับดังกล่าวกำหนดให้มีหน้าที่ต้องตรวจสอ บรถทุกคันที่มาขอจดทะเบียนหรือต่อทะเบียนจากกรมการขน ส่งทางบกว่าได้จัดทำประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถฯ แล้วหรือไม่ จึงมีหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบการทำประกันภัย โดยดูจากเอกสารของบริษัทประกันภัย ซึ่งในปัจจุบันมี 3 รูปแบบ คือ
- รูปแบบเดิมที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน จัดพิมพ์โดยบริษัทประกันภัยแต่ละบริษัทเอง
- รูปแบบใหม่ที่ใช้กระดาษในการจัดพิมพ์ให้ยากต่อการปลอ มแปลง และมีการจัดลำดับเลขที่กรมธรรม์ประกันภัยเพื่อให้สาม ารถตรวจสอบได้ และควบคุมการสั่งพิมพ์และจัดส่งโดยสมาคมประกันวินาศภ ัย
- รูปแบบใหม่ที่ออกโดยเครื่อง PVR Machine (Policy Vender Register Machine) ซึ่งเป็นอุปกรณ์คล้ายคลึงกับเครื่องรูดบัตรเครดิต
ทั้งนี้ โดยบทสันนิษฐานของกฎหมายฉบับดังกล่าว เมื่อรถมีแผ่นป้ายทะเบียนที่แสดงว่าได้จดทะเบียนหรือ ต่อทะเบียนจากกรมการขนส่งทางบกแล้ว ถือได้ว่ารถคันนั้นมีประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถฯ แล้ว
3. กรมการประกันภัย สร้างระบบการรับส่งข้อมูลการรับประกันภัยรถตาม พ.ร.บ.ฯ รูปแบบ Real Time คือ บริษัทประกันภัยต้องส่งข้อมูลการประกันภัยรถตาม พ.ร.บ.ฯ ทันทีหลังจากที่มีการรับประกันภัย เพื่อให้ระบบการนำส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส ์สำหรับประโยชน์ในการตรวจสอบข้อมูลการทำประกันภัยรถข องกรมการขนส่งทางบกหรือหน่วยงานอื่นๆ โดยได้รับความร่วมมือจากกรมการขนส่งทางบกและสมาคมประ กันวินาศภัย ทั้งนี้ รูปแบบการตรวจสอบการทำประกันภัยรถตาม พ.ร.บ.ฯ ของกรมการขนส่งทางบก จะเป็นการตรวจสอบผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมโยง ข้อมูล Real Time กับกรมการประกันภัย ซึ่งคาดว่าระบบจะพัฒนาแล้วเสร็จในอีก 90 วัน
เมื่อกฎหมายมีผลใช้บังคับ จึงไม่มีการใช้เครื่องหมายแสดงว่ามีการประกันความเสี ยหายสำหรับผู้ประสบภัยจากรถ ((Sticker) เจ้าของรถจึงไม่ต้องนำเครื่องหมายฯ ไปติดแสดงที่หน้ารถ ความผิดเกี่ยวกับเครื่องหมายฯ จึงไม่มีต่อไปเช่นกัน
อธิบดีกรมการประกันภัย กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการประกันภัย ยังได้ร่วมกับโรงพยาบาล/สถานพยาบาล สมาคมประกันวินาศภัย และ บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด พัฒนาระบบการจ่ายค่าสินไหมทดแทนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิก ส์ (E-Claim System) เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้ประสบภัยจากรถให ้ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ และได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ เรื่อง การใช้ระบบการจ่ายค่าสินไหมทดแทนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิ กส์ ร่วมกับ โรงพยาบาล จำนวน 1,353 แห่ง สมาคมประกันวินาศภัย และบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ไปแล้วเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2550 นอกจากนี้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน กรมการประกันภัย ได้นำกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยเข้าสู่ระบบ E-Claim ด้วย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการในรายละเอียด และโรงพยาบาล/สถานพยาบาลส่วนใหญ่ได้เริ่มดำเนินการใช้ระบบดังกล่าว แล้ว
ที่มา http://www.mocyc.com/board/view.php?board=4&topic=13957
http://www.doi.go.th/script/asp/news...ail.asp?no=674
Bookmarks