เคล็ดลับขับรถประหยัดน้ำมัน ในวันที่น้ำมันราคาแพง
-
Member
- ผลการให้คะแนน
- 6
เคล็ดลับขับรถประหยัดน้ำมัน ในวันที่น้ำมันราคาแพง
แม้ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะเริ่มมีแนวโน้มลดลงแต่ประเท ศไทยก็ยังจำเป็นจะต้องตรึงราคาน้ำมันไว้ เพื่อนำเงินส่วนเกินไปอุดหนุนกองทุนน้ำมันที่ขาดทุนจ ากการนำไปอุ้มราคาน้ำมันดีเซล (ทำไมราคาน้ำมันตลาดโลกลดลง แล้วของไทยไม่ลดลง https://www.ryt9.com/s/prg/3307823) ทำให้ราคาน้ำมันยังไม่สามารถลดลงไปต่ำกว่าที่ควรจะเป ็นได้ จึงเกิดกระแสโปรโมตอุปกรณ์ประหยัดน้ำมันออกมามากมาย แต่กลับไม่มีงานวิจัยยืนยันผลของอุปกรณ์ที่ชัดเจน (นวัตกรรมลวงโลก สายรัดประหยัดน้ำมัน https://hilight.kapook.com/view/225236) ทำให้ผู้เชี่ยวชาญต้องออกมาให้ข้อมูลเรื่องแนวทางการ ประหยัดน้ำมันที่ถูกวิธี เพราะนอกจากจะช่วยลดรายจ่ายเรื่องการเดินทางแล้ว ยังเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมไม่ให้เกิดการใช้ทรัพ ย์กรธรรมชาติแบบสิ้นเปลืองอีกด้วย (น้ำมันแพงเพราะอะไร? เปิดสาเหตุน้ำมันแพง 2565 https://www.smk.co.th/newsdetail/2876) มีวิธีขับรถที่จะช่วยประหยัดน้ำมัน มาแนะนำดังนี้ค่ะ
1. เลือกรถยนต์ให้เหมาะกับการใช้งาน
ควรเลือกรถยนต์ให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งานในชีวิตประ จำวันและพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละบุคคล จะทำให้ได้ทั้งประสิทธิภาพในการขับและประหยัดน้ำมันม ากขึ้น
2. ไม่จำเป็นต้องสตาร์ตรถทิ้งไว้เพื่ออุ่นเครื่องยนต์
การติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ 2 นาที จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากถึง 40 ซีซี. จึงไม่จำเป็นต้องอุ่นเครื่องยนต์ขณะที่รถจอดอยู่กับท ี่ เพียงแค่ขับรถเคลื่อนออกไปเบาๆ 1-2 กิโลเมตร เครื่องยนต์จะอุ่นเองโดยไม่จำเป็นต้องสตาร์ตทิ้งไว้ และหลังไฟเตือนต่าง ๆ บนหน้าปัดดับลงแล้ว ก็สามารถเคลื่อนรถออกไปได้อย่างช้าๆ แล้วค่อยๆ เร่งเครื่องยนต์ทีละน้อยโดยไม่ใช้รอบสูง จะทำให้เครื่องยนต์อุ่นตัวได้เร็วขึ้น
3. ไม่เหยียบเบรกกะทันหัน
การเหยียบเบรกกะทันหันหรือบ่อยเกินความจำเป็น จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันสูงถึง 40% และยังส่งผลเสียต่อตัวเครื่องยนต์อีกด้วย เบรกมีผลต่อการกินน้ำมันเชื้อเพลิง เพราะทุกครั้งที่เหยียบเบรก ความเร็วจะลด หากต้องการไปต่อก็จำเป็นจะต้องเพิ่มความเร็วหรือเร่ง เครื่องขึ้น จึงควรประเมินสถานการณ์ข้างหน้าก่อนเหยียบเบรกทุกครั ้ง
4. หลีกเลี่ยงการเร่งคันเร่งทันที หรือ การเร่งเครื่องยนต์บ่อยๆ
การเร่งเครื่องยนต์ขณะเกียร์ว่าง 10 ครั้งจะส่งผลให้รถสิ้นเปลืองน้ำมัน 100 ซีซี. การย่ำคันเร่ง หรือการเหยียบคันเร่งแล้วปล่อย จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมาก และพบว่าการเร่งเครื่องยนต์กะทันหันและการเบรกอย่างร ุนแรง จะเพิ่มอัตราการบริโภคน้ำมันถึง 40 เปอร์เซ็นต์ และเพิ่มปริมาณการปล่อยสารพิษถึง 5 เท่า
5. ขับรถด้วยความเร็วคงที่ ไม่ช้าเกินไปหรือเร็วมากเกิน
การรักษาความเร็วให้คงที่และไม่เกินป้ายจำกัดความเร็ ว หรือใช้ความเร็วที่สม่ำเสมอ 60 - 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะช่วยให้รถประหยัดน้ำมัน และลดความเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายบนท้องถนน ซึ่งการขับรถที่ความเร็ว 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะทำให้รถกินน้ำมันน้อยลงถึง 1015 เปอร์เซ็นต์
6. หลีกเลี่ยงการขับขี่รถยนต์บนท้องถนนในช่วงเวลาฝนตก เนื่องจากสภาพการจราจรมักติดขัดมากกว่าปกติในช่วงฝนต ก
7. ลดการใช้เครื่องปรับอากาศในรถยนต์ในช่วงที่มีอากาศเย ็น ซึ่งหากปิดแอร์ในรถเป็นเวลา 30 นาที ก็จะสามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้ถึง 10-15 %
8. วางแผนเส้นทางเสมอก่อนการเดินทาง
การวางแผนเส้นทางการเดินทางด้วยระบบแผนที่นำทาง (Navigation System) เช่น Google Map เป็นตัวช่วยอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะเวล าขับรถระยะทางไกล การมีระบบนำทางที่วางใจได้เป็นวิธีหนึ่งในการช่วยให้ ไปถึงที่หมายได้ โดยไม่ขับรถออกนอกเส้นทางหรือหลงทาง
9. ตรวจเช็กความดันลมยางอย่างสม่ำเสมอ
ยางที่มีลมอ่อนเกินไป ทำให้ผู้ขับขี่บังคับรถได้ยากขึ้น รถยนต์กินน้ำมันมากขึ้น และยางมีอายุการใช้งานสั้นลง การเติมแรงดันลมยางที่เหมาะสมจะช่วยลดความต้านทานการ หมุนของล้อ เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ และยังช่วยประหยัดน้ำมันได้มากกว่า ในขณะเดียวกันหากลมยางแข็งเกินไป รถอาจเกาะถนนไม่ดี และยางก็อาจมีอายุการใช้งานสั้นด้วยเช่นกัน
10. ตรวจเช็กเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ
เช่น ปริมาณน้ำยาทำความเย็น ความสกปรกของคอยล์ร้อนคอยล์เย็น และไส้กรอง เพื่อให้ระบบทำงานมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งปรับอุณหภูมิให้พอเหมาะกับสภาพอากาศ ซึ่งหากปรับอุณหภูมิต่ำจนเกินไป อาจทำให้คอมเพรสเซอร์ก็จะทำงานหนักมากขึ้น เป็นภาระให้เครื่องยนต์ ส่งผลต่ออัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นไปด้วย
11. ดูแลรักษาเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ
เครื่องยนต์ที่มีปัญหา นอกจากจะส่งผลให้เครื่องยนต์มีอายุการใช้งานสั้นลงแล ้ว ก็อาจจะเป็นผลให้เครื่องยนต์กินน้ำมันมากขึ้นด้วย ควรหมั่นนำรถไปตรวจเช็กสภาพที่ศูนย์บริการที่ไว้วางใ จได้อย่างสม่ำเสมอ (ตรวจเช็คสภาพรถให้พร้อมก่อนเดินทาง https://www.smk.co.th/newsdetail/149)
12. บรรทุกสัมภาระเท่าที่จำเป็น
เพราะน้ำหนักของตัวรถมีผลต่อการกินน้ำมันเชื้อเพลิง หากบรรทุกมากเกินความจำเป็นก็จะทำให้สิ้นเปลืองการใช ้พลังงานเชื้อเพลิงไปด้วย โดยน้ำหนักของสิ่งของในรถที่เพิ่มขึ้นทุก 48 กิโลกรัม จะเพิ่มอัตราการกินน้ำมันถึง 2 เปอร์เซ็นต์ ยิ่งทำให้รถต้องใช้พละกำลังในการขับเคลื่อนมากขึ้นไป ด้วย ก็ยิ่งกินน้ำมันมากขึ้น และควรจัดวางสิ่งของที่จะบรรทุกให้สมดุล ไม่อยู่ด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไป
13. ดับเครื่องยนต์ขณะจอดรถคอย
การติดเครื่องยนต์ขณะจอดรถเป็นเวลา 5 นาที จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันถึง 100 ซีซี. และถ้าติดเครื่องยนต์จอดรอนานกว่านั้นก็อาจจะยิ่งสิ้ นเปลืองน้ำมันยิ่งขึ้นอีก และไม่ควรสตาร์ตรถทิ้งไว้เกินกว่า 30 วินาที
14. เลือกใช้น้ำมันเครื่องตามที่ระบุในคู่มือรถ
การเลือกใช้น้ำมันเครื่องตามเกรดที่ผู้ผลิตระบุไว้ใน คู่มือจะช่วยให้ระบบหล่อลื่นของเครื่องยนต์ทำงานได้อ ย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด หากใช้น้ำมันผิดเกรดจะทำให้ลดประสิทธิภาพการใช้น้ำมั นลงไปถึง 2 เปอร์เซ็นต์ และควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและตรวจเช็กเครื่องยน ต์ตามระยะทาง การตรวจเช็กสภาพรถเป็นประจำตามคำแนะนำของศูนย์บริการ จะช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ 3 - 9% เลยทีเดียว
เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้รถก็จะช่วยทำให้ปร ะหยัดค่าใช้จ่าย และช่วยลดการสิ้นเปลืองพลังงานน้ำมันได้เป็นอย่างดี เพิ่มความคุ้มครองให้กับรถยนต์ของท่าน จากเหตุการณ์ไม่คาดคิด เลือกประกันตามไมล์2 คืนไมล์ คืนเงิน ประกันชั้น 1 เบี้ยเริ่มต้น 11,600 บาท ประกันรถยนต์สำหรับคนขับน้อย มีความเสี่ยง พร้อมรับเบี้ยประกันคืนสูงสุดได้ถึง 15% เมื่อขับได้ตามระยะทางที่ลดลงตามเงื่อนไขที่กำหนด สนใจรายละเอียด คลิก https://www.smk.co.th/productmotordetail/2 หรือ https://smkinsurance.blogspot.com/ โทร.1596 Line : @smkinsurance
-
-
กฎการส่งข้อความ
- You may not post new threads
- You may not post replies
- You may not post attachments
- You may not edit your posts
-
Forum Rules
Bookmarks